สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
เกทับเลยค่ะ...เป็นเราจะบอกว่า เค้าก็มีเรื่องจะสารภาพเค้าหวังว่าตะเองจะรับได้เหมือนกันนะ
เอาให้มหัศจรรย์พันลึกกว่า ดูสิ จะทำหน้ายังไง ถ้ารับเรื่องของชั้นได้ชั้นก็จะรับเรื่องของเธอได้เหมือนกัน ขำๆ..นะคะ
ตอนที่เราบอกเลิกกับแฟนเพราะเรื่องนี้ แม่เราเฝ้าแต่ถามว่าทำไมถึงเลิกกันคบมาตั้งนาน คือแม่จะต้องรู้ให้ได้ถึงสบายใจ
เราก็ขี้เกียจเล่าเพราะเรื่องมันยาว เหมือนเปิดแผลเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราเลยกลั้นใจบอกไปคำเดียวว่า "..มันเป็นตุ๊ด "
แม่เราหน้าเหวอ แบบอึ้งมากไม่ถามอะไรอีกเลย นึกขึ้นมาทีไรเราก็ขำทุกทีขำหน้าแม่ตอนนั้นและขำตัวเราเองด้วยที่คิดได้ยังไงอ่ะ
แต่ปัจจุบันเราก็แต่งงานกับผู้ชายคนนี้แหละ ที่เราเคยบอกแม่ว่า..มันเป็นตุ๊ด น่ะ
เค้าอาจจะเหมือนสามีคุณที่มาสารภาพทุกอย่าง เสียใจอย่างสุดซึ้ง สำหรับเราตอนนั้นไม่ได้รักเค้าเหมือนเดิมแล้ว
เราก็แค่มองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น เรียกว่าตาสว่าง ..และเราให้อภัยค่ะ
หลังจากนั้นเราแต่งงานกับเค้าทั้งที่เรารักเค้าน้อยลง ซึ่งดีสำหรับเราค่ะ เพราะเราจะรักตัวเองมากขึ้น
และเค้าก็ดีกับเรามากขึ้นกว่าเดิมมากๆเลย (ก็คนมันเคยทำผิดไง)
สิ่งที่เราตัดสินใจไปต่อก็เพราะ นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเค้าก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยละ และหน้าที่การงานที่มีอนาคตอีกด้วย
เรายอมรับว่าเราดีดลูกคิดถึงหลักการคุ้มไม่คุ้มอยู่ในหัว เพราะในเมื่อความรักมันเคยทรยศเรา(แห๋ม..สำนวน)
ต่อไปนี้ ถ้าดิฉันจะแต่งกับไอ้นี่ ดิฉันจะต้องเซฟค่ะ ..ดิฉันเคยเจ็บมาแล้วแต่งไปยังจะให้มาลำบากอีกไม่เอาแล้วค่ะ
ยอมรับค่ะว่า เค้าซึ้งใจมากที่เราให้อภัยและรักเรามากกว่าเดิมอีก แต่ไม่รู้หรอกว่าเราน่ะได้เปลี่ยนไปแล้ว
ลองคิดดูให้ดีนะคะ บางสถานการณ์เราอาจต้องกลืนน้ำตาแล้วไปต่อค่ะ
สำหรับเรานะ เราแค่คิดว่าในเมื่อความรักมันอาจไม่เสถียณ มากขึ้นน้อยลงตามเรื่องราวที่มากระทบ
ก็คิดแค่ว่า มันคุ้มหรือเปล่าเท่านั้นเอง แต่ต้องให้อภัยและปล่อยวางด้วยสำคัญที่สุดเลยค่ะ
และให้ทำลืมๆไป อย่าไปพูดให้เจ็บช้ำใจกันอีก เค้าจะยิ่งรักคุณและนี่แหละค่ะ คือคุ้มกว่า
อีกอย่างคือ เราขี้เกียจไปเริ่มปีนเขาลูกใหม่ มันก็ไม่มีหลักประกันว่ากับคนอื่นเราจะไม่เจอเรื่องนี้อีก
เล่าเรื่องแม่ต่ออีกหน่อย พอบอกจะแต่งงานกัน แม่ก็ดีอกดีใจที่เราจะแต่งงานกับผู้ชายคนเดิม
โดยไม่ได้สนใจเรื่องที่เราเคยบอกว่า มันเป็นตุ๊ด เลยค่ะ
เอาให้มหัศจรรย์พันลึกกว่า ดูสิ จะทำหน้ายังไง ถ้ารับเรื่องของชั้นได้ชั้นก็จะรับเรื่องของเธอได้เหมือนกัน ขำๆ..นะคะ
ตอนที่เราบอกเลิกกับแฟนเพราะเรื่องนี้ แม่เราเฝ้าแต่ถามว่าทำไมถึงเลิกกันคบมาตั้งนาน คือแม่จะต้องรู้ให้ได้ถึงสบายใจ
เราก็ขี้เกียจเล่าเพราะเรื่องมันยาว เหมือนเปิดแผลเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราเลยกลั้นใจบอกไปคำเดียวว่า "..มันเป็นตุ๊ด "
แม่เราหน้าเหวอ แบบอึ้งมากไม่ถามอะไรอีกเลย นึกขึ้นมาทีไรเราก็ขำทุกทีขำหน้าแม่ตอนนั้นและขำตัวเราเองด้วยที่คิดได้ยังไงอ่ะ
แต่ปัจจุบันเราก็แต่งงานกับผู้ชายคนนี้แหละ ที่เราเคยบอกแม่ว่า..มันเป็นตุ๊ด น่ะ
เค้าอาจจะเหมือนสามีคุณที่มาสารภาพทุกอย่าง เสียใจอย่างสุดซึ้ง สำหรับเราตอนนั้นไม่ได้รักเค้าเหมือนเดิมแล้ว
เราก็แค่มองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น เรียกว่าตาสว่าง ..และเราให้อภัยค่ะ
หลังจากนั้นเราแต่งงานกับเค้าทั้งที่เรารักเค้าน้อยลง ซึ่งดีสำหรับเราค่ะ เพราะเราจะรักตัวเองมากขึ้น
และเค้าก็ดีกับเรามากขึ้นกว่าเดิมมากๆเลย (ก็คนมันเคยทำผิดไง)
สิ่งที่เราตัดสินใจไปต่อก็เพราะ นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเค้าก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยละ และหน้าที่การงานที่มีอนาคตอีกด้วย
เรายอมรับว่าเราดีดลูกคิดถึงหลักการคุ้มไม่คุ้มอยู่ในหัว เพราะในเมื่อความรักมันเคยทรยศเรา(แห๋ม..สำนวน)
ต่อไปนี้ ถ้าดิฉันจะแต่งกับไอ้นี่ ดิฉันจะต้องเซฟค่ะ ..ดิฉันเคยเจ็บมาแล้วแต่งไปยังจะให้มาลำบากอีกไม่เอาแล้วค่ะ
ยอมรับค่ะว่า เค้าซึ้งใจมากที่เราให้อภัยและรักเรามากกว่าเดิมอีก แต่ไม่รู้หรอกว่าเราน่ะได้เปลี่ยนไปแล้ว
ลองคิดดูให้ดีนะคะ บางสถานการณ์เราอาจต้องกลืนน้ำตาแล้วไปต่อค่ะ
สำหรับเรานะ เราแค่คิดว่าในเมื่อความรักมันอาจไม่เสถียณ มากขึ้นน้อยลงตามเรื่องราวที่มากระทบ
ก็คิดแค่ว่า มันคุ้มหรือเปล่าเท่านั้นเอง แต่ต้องให้อภัยและปล่อยวางด้วยสำคัญที่สุดเลยค่ะ
และให้ทำลืมๆไป อย่าไปพูดให้เจ็บช้ำใจกันอีก เค้าจะยิ่งรักคุณและนี่แหละค่ะ คือคุ้มกว่า
อีกอย่างคือ เราขี้เกียจไปเริ่มปีนเขาลูกใหม่ มันก็ไม่มีหลักประกันว่ากับคนอื่นเราจะไม่เจอเรื่องนี้อีก
เล่าเรื่องแม่ต่ออีกหน่อย พอบอกจะแต่งงานกัน แม่ก็ดีอกดีใจที่เราจะแต่งงานกับผู้ชายคนเดิม
โดยไม่ได้สนใจเรื่องที่เราเคยบอกว่า มันเป็นตุ๊ด เลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 81
เรื่องภายในครอบครัวนี่ละเอียดอ่อนมากๆ...เอาบรรทัดฐานชีวิตคู่คนอื่นมาใช้อ้างอิงนี่บางทีอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
ประสบการณ์ของผมที่เคยเจอ...พี่สาวผมเอง สามีมีเมียน้อย ติดผู้หญิง ทะเลาะกันบ้านแตก ญาติๆ พ่อแม่พี่น้องมีแต่คนบอกให้
เลิก ตัวผมเองก็ด้วย...มีแต่พี่สาวผมคนเดียวที่ยืนยันว่าไม่เลิก เพราะสงสารลูกและต้องการคงสภาพครอบครัวเอาไว้
อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าสามีต้องกลับตัวกลับใจได้ ใครบอกยังไงก็ไม่ฟัง เพราะเค้าบอกว่าคนที่รู้จักสามีเค้าดีที่สุดคือตัวเค้าเอง
สุดท้ายทุกวันนี้ พี่เขยผมกลับตัวได้จริงๆ กลายเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นที่รักของญาติๆ เป็นที่เพิ่งของลูกๆหลานๆ
พฤติกรรมส่วนตัวก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนชอบเรื่องพระและเรื่องการเกษตร ครอบครัวดูอบอุ่นมากกว่าตอนที่ยังไม่มีเรื่องเสียอีก
ถามผมตอนนี้ ผมบอกได้เต็มปากเลยว่าพี่สาวคิดถูกที่ให้อภัยและพยายามรักษาสภาพครอบครัวไว้ในตอนนั้น
แต่ก็นั่นแหละครับ หลายๆคู่การให้อภัยกลับให้ผลที่แตกต่างกัน ผลมันก็ขึ้นอยู่กับจิตใจและสันดานของคนๆนั้นด้วย คนที่รู้จัก
สามีคุณมากที่สุดคือตัวคุณเอง ไม่ใช่ใครๆในนี้
จำไว้ครับ หลายๆคนบนโลกออนไลน์ให้คำแนะนำในการตัดสินใจของคุณได้ ส่วนใหญ่ก็แนะนำตามสภาพที่ตัวเองเคยเจอเคยเห็น
นั่นแหละ แต่สุดท้าย เวลาคุณตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีสักคนเดียวที่ต้องมารับผลในการตัดสินใจของคุณ
ค่อยๆคิด และขอให้โชคดีในการตัดสินใจครับ
ประสบการณ์ของผมที่เคยเจอ...พี่สาวผมเอง สามีมีเมียน้อย ติดผู้หญิง ทะเลาะกันบ้านแตก ญาติๆ พ่อแม่พี่น้องมีแต่คนบอกให้
เลิก ตัวผมเองก็ด้วย...มีแต่พี่สาวผมคนเดียวที่ยืนยันว่าไม่เลิก เพราะสงสารลูกและต้องการคงสภาพครอบครัวเอาไว้
อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าสามีต้องกลับตัวกลับใจได้ ใครบอกยังไงก็ไม่ฟัง เพราะเค้าบอกว่าคนที่รู้จักสามีเค้าดีที่สุดคือตัวเค้าเอง
สุดท้ายทุกวันนี้ พี่เขยผมกลับตัวได้จริงๆ กลายเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นที่รักของญาติๆ เป็นที่เพิ่งของลูกๆหลานๆ
พฤติกรรมส่วนตัวก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนชอบเรื่องพระและเรื่องการเกษตร ครอบครัวดูอบอุ่นมากกว่าตอนที่ยังไม่มีเรื่องเสียอีก
ถามผมตอนนี้ ผมบอกได้เต็มปากเลยว่าพี่สาวคิดถูกที่ให้อภัยและพยายามรักษาสภาพครอบครัวไว้ในตอนนั้น
แต่ก็นั่นแหละครับ หลายๆคู่การให้อภัยกลับให้ผลที่แตกต่างกัน ผลมันก็ขึ้นอยู่กับจิตใจและสันดานของคนๆนั้นด้วย คนที่รู้จัก
สามีคุณมากที่สุดคือตัวคุณเอง ไม่ใช่ใครๆในนี้
จำไว้ครับ หลายๆคนบนโลกออนไลน์ให้คำแนะนำในการตัดสินใจของคุณได้ ส่วนใหญ่ก็แนะนำตามสภาพที่ตัวเองเคยเจอเคยเห็น
นั่นแหละ แต่สุดท้าย เวลาคุณตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีสักคนเดียวที่ต้องมารับผลในการตัดสินใจของคุณ
ค่อยๆคิด และขอให้โชคดีในการตัดสินใจครับ
ความคิดเห็นที่ 19
เป็นใครเจออย่างคุณก็คงช็อค อึ้ง ทำอะไรไม่ถูก
รวบรวมสติก่อนค่ะ
อย่าหัวเสียเพราะเดี๋ยวจะเสียหัวคิดดี ๆ ไป
คุณต้องประเมินก่อนว่า คุณยังรู้สึกอย่างไรกับสามี
ถ้าจะวาดเป็น decision tree มันเป็นการตัดสินใจว่าจะเลือก "go" หรือ "no-go"
หากเลือกจะอยู่ต่อไป หาเหตุผลมาสนับสนุนว่าทำไม
1. ยังรักอยู่ กล้ำกลืนให้อภัยได้
2. กลัวลูกมีปัญหา
3. คิดว่าอยู่กันไปแบบต่างคนต่างอยู่ได้อย่างสันติ โดยร่วมกันรับผิดชอบลูก
โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก
4. อาจจะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ที่พักอาศัย หรือ สวัสดิการบริษัทสามีที่คุ้มครองมาถึงคุณด้วย
หากเลือกจะไม่อยู่แล้ว หาปัญหาที่จะต้องเผชิญ
1. จะบอกลูก บอกเพื่อน บอกครอบครัวอย่างไร
2. รับผิดชอบดูแลตัวเอง ลูก และครอบครัวที่เหลืออย่างไร
ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็ตาม คุณควรไปตรวจโรค
และหากตัดสินใจที่จะไปต่อกับการแต่งงาน ควรจูงสามีไปตรวจโรคด้วย
พูดคุยเปิดใจกันเรื่องที่คุณและสามีอาจจะมองหาจากกันและกัน
อาจไปหาจิตแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาเรื่องครอบครัวเพื่อหาทางออกร่วมกัน
อย่าปล่อยให้ตัวเองทุกข์ใจโดยไม่พยายามหาทางออก
ผู้หญิงเรา เวลาถูกนอกใจ ถูกทรยศหักหลัง หากไม่ดูแลทะนุถนอมฟื้นฟูจิตใจตัวเองดี ๆ แล้ว
จะทำให้ความเคียดแค้นฝังลึกในอก แล้วเราจะกลายเป็นคนเย็นชา ปากจัด ประชดประชัน ช่างเยาะเย้ย มีทัศนคติด้านลบกับตัวเองและคนรอบข้างไปโดยเราไม่ทันรู้ตัว
ที่แย่กว่านั้นคือ อาการเหล่านี้จะทำให้เราห่างเหินกับลูกด้วย
ตัวคุณย่อมรู้ดีที่สุด ว่าสามีคุณยังมีความดีอะไรเหลืออีกบ้าง
และคุณยินดีจะแลกความดีที่เหลืออยู่นั้นกับความรู้สึกชอกช้ำจากการถูกทรยศหักหลังได้หรือไม่
ก็นับว่าการปฏิบัติธรรมยังช่วยสามีคุณได้บ้าง ให้เป็นผู้มี "หิริ" คือ ความละอายต่อบาป
เพราะที่ผ่านมา ถ้าเขาไม่สารภาพ คุณก็จะไม่มีวันรู้ แต่เขาก็เลือกที่จะสารภาพให้หมดเปลือก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตนเอง
เพื่อให้ตนเองสามารถสงบจิต สงบใจนั่งสมาธิได้
คิดให้ลึก ๆ รอบ ๆ ด้าน
และถ้าตัดสินใจแล้ว อย่าลืมดูแลความรู้สึกตัวเอง เยียวยาตัวเอง เตรียมตัวเองให้เข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและการเงินด้วย
เรารู้สึกเสียใจและสะเทือนใจไปกับคุณด้วยและขอภาวนาให้คุณหาทางออกให้กับปัญหานี้ได้อย่างดีที่สุดโดยไม่บอบช้ำมากไปกว่านี้ค่ะ
โชคดีนะคะ
รวบรวมสติก่อนค่ะ
อย่าหัวเสียเพราะเดี๋ยวจะเสียหัวคิดดี ๆ ไป
คุณต้องประเมินก่อนว่า คุณยังรู้สึกอย่างไรกับสามี
ถ้าจะวาดเป็น decision tree มันเป็นการตัดสินใจว่าจะเลือก "go" หรือ "no-go"
หากเลือกจะอยู่ต่อไป หาเหตุผลมาสนับสนุนว่าทำไม
1. ยังรักอยู่ กล้ำกลืนให้อภัยได้
2. กลัวลูกมีปัญหา
3. คิดว่าอยู่กันไปแบบต่างคนต่างอยู่ได้อย่างสันติ โดยร่วมกันรับผิดชอบลูก
โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก
4. อาจจะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ที่พักอาศัย หรือ สวัสดิการบริษัทสามีที่คุ้มครองมาถึงคุณด้วย
หากเลือกจะไม่อยู่แล้ว หาปัญหาที่จะต้องเผชิญ
1. จะบอกลูก บอกเพื่อน บอกครอบครัวอย่างไร
2. รับผิดชอบดูแลตัวเอง ลูก และครอบครัวที่เหลืออย่างไร
ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็ตาม คุณควรไปตรวจโรค
และหากตัดสินใจที่จะไปต่อกับการแต่งงาน ควรจูงสามีไปตรวจโรคด้วย
พูดคุยเปิดใจกันเรื่องที่คุณและสามีอาจจะมองหาจากกันและกัน
อาจไปหาจิตแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาเรื่องครอบครัวเพื่อหาทางออกร่วมกัน
อย่าปล่อยให้ตัวเองทุกข์ใจโดยไม่พยายามหาทางออก
ผู้หญิงเรา เวลาถูกนอกใจ ถูกทรยศหักหลัง หากไม่ดูแลทะนุถนอมฟื้นฟูจิตใจตัวเองดี ๆ แล้ว
จะทำให้ความเคียดแค้นฝังลึกในอก แล้วเราจะกลายเป็นคนเย็นชา ปากจัด ประชดประชัน ช่างเยาะเย้ย มีทัศนคติด้านลบกับตัวเองและคนรอบข้างไปโดยเราไม่ทันรู้ตัว
ที่แย่กว่านั้นคือ อาการเหล่านี้จะทำให้เราห่างเหินกับลูกด้วย
ตัวคุณย่อมรู้ดีที่สุด ว่าสามีคุณยังมีความดีอะไรเหลืออีกบ้าง
และคุณยินดีจะแลกความดีที่เหลืออยู่นั้นกับความรู้สึกชอกช้ำจากการถูกทรยศหักหลังได้หรือไม่
ก็นับว่าการปฏิบัติธรรมยังช่วยสามีคุณได้บ้าง ให้เป็นผู้มี "หิริ" คือ ความละอายต่อบาป
เพราะที่ผ่านมา ถ้าเขาไม่สารภาพ คุณก็จะไม่มีวันรู้ แต่เขาก็เลือกที่จะสารภาพให้หมดเปลือก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตนเอง
เพื่อให้ตนเองสามารถสงบจิต สงบใจนั่งสมาธิได้
คิดให้ลึก ๆ รอบ ๆ ด้าน
และถ้าตัดสินใจแล้ว อย่าลืมดูแลความรู้สึกตัวเอง เยียวยาตัวเอง เตรียมตัวเองให้เข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและการเงินด้วย
เรารู้สึกเสียใจและสะเทือนใจไปกับคุณด้วยและขอภาวนาให้คุณหาทางออกให้กับปัญหานี้ได้อย่างดีที่สุดโดยไม่บอบช้ำมากไปกว่านี้ค่ะ
โชคดีนะคะ
ความคิดเห็นที่ 31
สมัยหนุ่มๆ เด็กๆ นะ ผมจะไม่เที่ยว
เพราะผมกลัวจะติดใจ
ทีนี้พอมีเมียนะ ผมก็ไม่กลัวติดเลย เพราะไม่มีอะไรจะให้ติด
ถามว่าน่าไปเที่ยวไหม ก็ไม่ไปอีกแหละ เบื่อโลกไปแล้ว
เรื่องที่ว่า ทำกะเมียไม่ถึงใจ ไม่แปลก เพราะจริงๆ ที่ท่านสอนว่า ใหมีเมียเดียว มันก็เหมือนเรื่องทั่วๆไปนั่นแหละ คือ ไม่ให้สนุกสนานในกามมากเกินไป เมียคนเดียว จับฉลากได้อะไรมาก็ต้องไปตามนั้น อย่าเยอะ เหมือนเรื่องกิน เรื่องเล่นทุกเรื่อง คือให้ทำได้พอประมาณ แต่อย่าตกเป็นทาสมัน
ตอนนี้ผมก็ซวยๆ อยู่นะ เล่ามากไม่ได้ จะว่าไม่ให้เกียรติกันอีกเหอะๆ
ไอที่ว่า นวดปู๋ไรนั่นจริงๆ ก็น่าสนใจ เพราะสาวเองก็รู้สึกว่าทำงานไม่เปลืองตัวมาก ทำเป็นภายนอก เพราะงั้น โอกาสจะเจอเด็กสวยๆ ดีๆ เยอะกว่า
แต่ก็ไม่เอาอีกแหละ เปลืองเงิน
ก่อนนี้ก็รู้สึกสมเพชตัวเองเหมือนหลายๆคนที่เข้ามาตั้งกระทู้ในนี้ ว่าทำไม ตัวเรมันถึงต้องคิด ต้องเล็ง ต้องเพ่งรื่องกามนี้ขนาดนี้ ก็เพราะ ผช เพศชาย ตัวผู้ มันถูกสร้างมาแบบนี้แหละ ให้ต้องวิ่งวุ่นหารูลงแบบนี้แหละ เมื่อมีเมียก็หวังกับเมียแล้วเมื่อไม่ได้ มันก็ต้องวิ่งวนต่อไปนั่นแหละ
ก็ต้องเอาคนที่คิดได้ว่า ชีวิตจะพุ่งไปโดยมีคะรวยพุ่งนำหน้าไป มันก็ดูไม่เจ๋งเท่าไร ก็ต้องยอมอดเรื่องพวกนี้ไป อั้นไว้ จริงๆ ก็ถ้าไปทางธรรมได้ก็อย่ามาง้อ 555+ ถึงตอนนั้นมองเห็นเป็นซากศพ ซากผี กระดูกกันเลยทีเดียวแหละ
กับเรื่อง ของ จขกท ก็ดีนะ แสดงว่าเข้าวัดแล้วได้เรื่อง แต่ก็นะ บาปกรรมจริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ที่เที่ยว ที่ทำกะ เมียหรอก ไอที่ไปฟาดเขาไปได้ทั่วๆ นั่นแหละ ของจริงเลย
ก็อย่างที่บอก พุ่งทะยานไปตามคะรวย มัน.. ไม่รู้จะว่าไงดี เอาเป็นว่า ผมไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วกัน สาธุ
เพราะผมกลัวจะติดใจ
ทีนี้พอมีเมียนะ ผมก็ไม่กลัวติดเลย เพราะไม่มีอะไรจะให้ติด
ถามว่าน่าไปเที่ยวไหม ก็ไม่ไปอีกแหละ เบื่อโลกไปแล้ว
เรื่องที่ว่า ทำกะเมียไม่ถึงใจ ไม่แปลก เพราะจริงๆ ที่ท่านสอนว่า ใหมีเมียเดียว มันก็เหมือนเรื่องทั่วๆไปนั่นแหละ คือ ไม่ให้สนุกสนานในกามมากเกินไป เมียคนเดียว จับฉลากได้อะไรมาก็ต้องไปตามนั้น อย่าเยอะ เหมือนเรื่องกิน เรื่องเล่นทุกเรื่อง คือให้ทำได้พอประมาณ แต่อย่าตกเป็นทาสมัน
ตอนนี้ผมก็ซวยๆ อยู่นะ เล่ามากไม่ได้ จะว่าไม่ให้เกียรติกันอีกเหอะๆ
ไอที่ว่า นวดปู๋ไรนั่นจริงๆ ก็น่าสนใจ เพราะสาวเองก็รู้สึกว่าทำงานไม่เปลืองตัวมาก ทำเป็นภายนอก เพราะงั้น โอกาสจะเจอเด็กสวยๆ ดีๆ เยอะกว่า
แต่ก็ไม่เอาอีกแหละ เปลืองเงิน
ก่อนนี้ก็รู้สึกสมเพชตัวเองเหมือนหลายๆคนที่เข้ามาตั้งกระทู้ในนี้ ว่าทำไม ตัวเรมันถึงต้องคิด ต้องเล็ง ต้องเพ่งรื่องกามนี้ขนาดนี้ ก็เพราะ ผช เพศชาย ตัวผู้ มันถูกสร้างมาแบบนี้แหละ ให้ต้องวิ่งวุ่นหารูลงแบบนี้แหละ เมื่อมีเมียก็หวังกับเมียแล้วเมื่อไม่ได้ มันก็ต้องวิ่งวนต่อไปนั่นแหละ
ก็ต้องเอาคนที่คิดได้ว่า ชีวิตจะพุ่งไปโดยมีคะรวยพุ่งนำหน้าไป มันก็ดูไม่เจ๋งเท่าไร ก็ต้องยอมอดเรื่องพวกนี้ไป อั้นไว้ จริงๆ ก็ถ้าไปทางธรรมได้ก็อย่ามาง้อ 555+ ถึงตอนนั้นมองเห็นเป็นซากศพ ซากผี กระดูกกันเลยทีเดียวแหละ
กับเรื่อง ของ จขกท ก็ดีนะ แสดงว่าเข้าวัดแล้วได้เรื่อง แต่ก็นะ บาปกรรมจริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ที่เที่ยว ที่ทำกะ เมียหรอก ไอที่ไปฟาดเขาไปได้ทั่วๆ นั่นแหละ ของจริงเลย
ก็อย่างที่บอก พุ่งทะยานไปตามคะรวย มัน.. ไม่รู้จะว่าไงดี เอาเป็นว่า ผมไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วกัน สาธุ
แสดงความคิดเห็น
คำสารภาพของสามีที่แต่งงานกันมา 12 ปี
เราจัดเตรียมทริปของเราสองคนอย่างดี ฝากลูกไว้กับคุณแม่ ซึ่งปกติเราจะมีทริปครอบครัว1ครั้ง. และทริปสำหรับเรากับสามี 1ครั้งต่อปี
สามีเราเป็นพนักงานบริษัทค่ะ ลาพักร้อนได้ติดกันประมาณ 10 วัน เราก็จัดทริปนี้ 6วันแล้วก็กะว่ากลับมามีเวลาพักซักวันสองวันก่อนไปทำงาน จะได้ไม่เหนื่อยมาก สามีเราก็จะมีกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่ไม่มาก. ไปงานไหนก็จะเจอกับกลุ่มเดิมๆจนเราเองก็สนิทกับกลุ่มเพื่อนเค้าไปด้วยเพราะเจอกันมาตั้งแต่เราเป็นแฟนกัน
เท่าที่สังเกตุเราว่าเพื่อนสามีเราน่ารักทุกคนนะ กิน ดื่มตามสไตร์ผู้ชายแต่ก็มีความรับผิดชอบกันทุกคน ส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวมีลูกกันเกือบทั้งหมดทั้งแก็งค์ บ้ากันไปพักๆ บางทีก็ฮิตเล่นเครื่องเสียง ก็เฮโลกันไปคลองถม บางอารมณ์ก็บ้าแต่งรถตามเพื่อน 2-3ปีที่ผ่านมานี้ก็ตามกระแสไปวิ่งตามงานต่างๆซึ่งเราก็ไปกะเค้าด้วย แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมาเค้าได้ไปนั่งสมาธิและเริ่มปฏิบัติธรรมตามเพื่อนๆกลุ่มของเค้า ตอนแรกเราเองก็ไปด้วยแต่ไปมา 2-3 ทีก็ไม่ได้เกิดศรัทธาอะไรมากมาย พวกเพื่อนๆของเค้ายังบอกเลยว่าเฉยๆไม่ได้รู้สึกว่าจิตใจจะปลอดโปร่งอะไรมากมายก็เลิกๆกันไปตามแต่ใจแต่ละคน แต่สามีเราเหมือนว่าเค้ารู้สึกดี เค้าไปบ่อยมากๆงานวิ่งไม่ได้ไปเลย ไปวัดแล้วก็หาเวลาปฏิธรรมที่บ้าน นั่งสมาธิ เปิดยูทูปว่าคติธรรมจากพระโน้นพระนี้มาฟัง เราก็โอเคนะแต่ก็รู้สึกแปลกๆ. ที่เค้าเปลี่ยนไปมากๆ นอนกับเค้าก็ไม่เหมือนก่อน เค้าจะไม่ซุกซนเหมือนก่อน เหมือนมีสติอยู่ในทุกขณะแม้แต่ตอนจะนอน
วันที่เราไปเที่ยวกันเราสนุกกับทริปนี้มากเหมือนมาฮันนีมูนกันอีกทีนึง เค้าก็น่ารักกับเราเสมอ คืนก่อนกลับเราก็สนุกกันสุดเหวี่ยงหาร้านอาหารทานกันแล้วก็หอบไวน์มากินที่ห้องของโรงแรมเรากันต่อ เราทั้งสองเริ่มมึนๆตึงๆกันได้ที่ เราโอบกอดเค้าแค้าแล้วขอบคุณเค้า เราก็บอกว่าเราโชคดีจังเลยที่มีเค้าเป็นสามี อยู่กับเรานานๆนะ อย่าทิ้งกัน อยู่กันจนแก่ไปเลยนะ ซึ่งเราเองก็เป็นคนอย่างงี้อยู่แล้ว เราก็พูดบ่อยๆแล้วแต่โอกาศ แต่ครั้งนี้เรางงมาก เค้าน้ำตาไหลออกมา พร้อมกับฟูมฟายเหมือนเด็กๆแล้วก็บอกกับเราว่าเค้าไม่ใช่คนดีอย่างที่เราคิดหรอกนะ........
เราก็งงมากถึงมากที่สุด เราก็คิดว่าเค้าเมาแต่ทุกครั้งที่เค้าเมามันก็ไม่ได้เป็นอย่างงี้นิ. เราก็ลูบหัวเค้าช้าๆให้เค้าเย็นลงเค้าก็เหมือนมีสติกลับมายกมือเราออกจากหัวเค้าและก็บอกกับเราว่า อย่าทำให้เค้ารู้สึกผิดมากกว่านี้เลย............
สำหรับเราตอนนั้นเราเริ่มจะจิตตกแล้ว คิดว่ามันต้องมีไรที่มันแย่ๆแน่เลย แต่ก็พยายามใจเย็นๆเข้าไว้แล้วก็คุยกับสามีเรา....
ตะเองมีไรรึเปล่า...คุยกันได้นะ
ตะเองจะให้อภัยเค้ามั้ยหล่ะกับสิ่งที่ผ่านมาอ่ะ..สามีเราเริ่มบทสนทนา. ใจเราตอนนั้นบอกตามตรงเราคิดในเรื่องที่แย่ที่สุดไปแล้วแต่ก็ยังประคองบทสนทนานั้นไว้เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์มันไม่แย่ไปกว่านั้น
เค้าเงียบ...แกว่งแก้วไวน์ไปมา แล้วไม่พูดอะไรเป็น 10 นาที ห้องเงียบแล้วก็เย็นมากในความรู้สึกของเราตอนนั้น
ตะเองมีเมียน้อยหรอ……เราเริ่มกลั้นไม่อยู่ จึงถามออกไป
ก็ไม่ได้เรียกว่าอย่างงั้นหรอก…………สามีเราตอบ
เชี้ยแระ…แม่งง เราเริ่มกะวนกะวายอยากให้มันเล่าก็เอาแต่แกว่งแก้วไปมา ยอมรับว่าตอนนั้นก็เริ่มขึ้นเหมือนกัน แฟนเราก็คงสังเกตุท่าทางเรา เค้าเข้ามากอดเรา บอกเราว่าเค้าอยากจะบอกสิ่งที่มันเป็นความผิดของเค้าให้เราฟัง ให้เราให้อภัยเค้า เรากับเค้าจะได้ไม่ติดค้างกันในชาตินี้ พระอาจารย์บอกว่าเค้าไม่สามารถนั่งสมาธิได้เพราะมีเรื่องบาปกรรมที่ทำกับคู่ครอง หากเราเปิดใจเค้าเปิดใจให้อภัยกัน ไม่มีไรติดค้างกันจิตใจจะบริสุทธิ์และต้องเลิกทำบาป ชีวิตคู่ของเราถึงจะไปรอด
โห……ตอนนั้นนะหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งอยากถีบ ทั้งอยากฟัง ทั้งไม่อยากฟัง ทั้งสะอิดสะเอียนกับคำที่มันพูดเกี่ยวกับธรรมมะบ้าบอไรก็ไม่รู้
มันก็เริ่มบอกว่า………ความจริงต่างๆ…………ซึ่งเราจะสรุปให้ฟังว่า
มันไปตีหม้อบ่อยมาก ตะก่อนก็ลงอ่าง แต่ใส่ถุงทุกครั้ง มันบอกว่าพูดตามตรงเอากับเราไม่มันส์ ไม่ถึงใจ แต่มันรักเรานะ แต่เรื่องอย่างว่ามันขอกินนอกบ้านมันสุดกว่า เอากับเราไม่สุด
ต่อมามันบอกมันติดใจนวดกะปู๋ สบายใจกว่า ไม่ต้องเอา มี ผญ.มาชักให้มัน ซึ่ง เด็กๆสาวๆขาวๆทั้งนั้น ไม่รู้มันโกหกรึเปล่า มันบอกว่าเฉลี่ยไปเดือนละครั้งถ้าเลิกงานเร็วมันจะรีบไป
ยังไม่หมด…มันเคยเอากับลูกน้องมันตอนเมา ตอนไปหาลูกค้าต่างจังหวัดด้วยกัน ตอนนั้นเราน่าจะมีลูกแล้ว อีผู้หญิงที่มันสารภาพมาเราก็เสือกรู้จักด้วย แต่มันบอกว่ามีไรกันท่ี ตจว.ครั้งนั้นแล้วจบจริงๆ มันสารภาพว่าตอนกลับมาที่ กทม.มันก็กะจะเคลมต่อแต่อีผู้หญิงกลัวแฟนรู้เลยไมสานต่อ ก็ไม่รู้ว่ามันโกหกรึเปล่านะ
เราอึ้งไปหมดเลยกับสิ่งที่มันพูด โกรธมั้ย โกรธมากนะ แต่อีกอารมณ์นึงทำไมถึงรู้สึกว่าเรากับมันไม่ติดค้างกันยังไงก็ไม่รู้ เราไม่รู้จะพูดไรกับมันเลย น้ำตาก็ไหลออกมา มันก็นั่งซึมบนโซฟา
เราบินกลับเราขอแยกที่กับมันด้วยบอกมันว่าขอคิดไรเงียบๆคนเดียว
จนตอนนี้ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้ว เราว่าเราให้อภัยมันนะ แล้วเราว่ามันคงไม่ทำอีก เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี
เราว่ามันเห็นแก่ตัวนะ จะอ้างว่าเอากับเราไม่มันส์ ต้องไปเอากับเด็กข้างนอก อยากจะบอกว่ามีไรที่ไม่ยอมมันบ้างอ่ะ หนังกี่แผ่นที่มันเคยดูแล้วเห็นในหนังโป๊ทำไรแล้วมันอยากมาทำกับเรา มันไม่หนุกหรอกนะบางอย่างแต่เราก็ยอมเพราะเรารักมัน แต่ดูสิ่งที่มันให้กลับคืนกับเราซิ เศร้าว่ะ คิดเรื่องลูกไว้สบายใจที่สุด