นอนไม่หลับถึงทุกวันนี้ เพราะซื้อบ้านโดยไม่คิด

ซื้อบ้านผิด คิดจนตัวตาย

บอกเล่าประสบการณ์ซื้อบ้านที่ทำให้ทุกข์ใจมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ เราทำงานธุรกิจส่วนตัว ค้าขายค่ะ มีเงินเข้าออกทุกวัน หักรายจ่ายและทุน เหลือกินใช้อยู่ประมาณ7หมื่น มีภาระบัตรเครดิต1ใบ รถยนต์1คันผ่อนเดือนละ12000

   จุดเริ่มต้นคือเราเลี้ยงแมวค่ะ แต่เช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่ เดือนละ11000 เลยเริ่มคิดอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองค่ะ เริ่มขับรถตะเวนดูแต่ละโครงการ ฝากเบอร์ไว้ตามเว็บ แฟนเพจFacebook มีอยู่วันนึง มีโครงการนึงโทรมา บอกว่าตอนนี้จัดโปรอยู่จอง5000 และยื่นเรื่องกู้ได้เลย เป็นบ้านแฝดนะคะ เราเห็นว่าโอเค วันรุ่งขึ้นก็ขับรถไปดู

   หมู่บ้านที่นี่ค่อนข้างไกลค่ะ และหน้าหมู่บ้านทำทางขยายถนนอยู่ ทำให้มีฝุ่นเยอะมาก และถนนมีหลุมบ่อเยอะมากๆ แต่ในตัวโครงการบ้านสวย เป็นบ้านแฝดที่คล้ายบ้านเดี่ยว บรรยากาศในหมู่บ้านโอเค แต่ที่ติดใจคือระยะทางค่อยข้างไกลมาก จนเกือบจะหลุดไปต่างจังหวัด แต่เซลล์ก็แนะนำว่าที่นี่รถไม่ติดนะ เข้าเมืองง่ายด้วย ตอนนี้มีโปรลด1แสน แถมของอีก10กว่าอย่าง อีกไม่นานพอถนนเสร็จตรงนี้จะราคาแพงขึ้น บลาๆๆๆ เราก็ขอกลับมาคิดก่อน อีก3วันจะให้คำตอบ

    ด้วยความที่เราอายุน้อยอยู่ค่ะ ยังไม่มีประสบการณ์ และก็อยากมีบ้านด้วย อีกไม่กี่เดือนก็หมดสัญญาที่เช่าอยู่ตอนนั้น ก็เลยตัดสินใจไปจอง คิดว่าไกลหน่อยแต่เดินทางสะดวกรถไม่ติดก็คงไม่เป็นไร

    วันที่ไปจอง เราถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ว่าต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกบ้าง วันโอนบ้านหรือเซ็นสัญญากับธนาคารมีอะไรไหม เซลล์บอกเราว่า ก็มีค่าโอนกับจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัยประมาณ5-6000 หลังอื่นจะเสียประมาณนี้ ส่วนค่าอย่างอื่น โครงการออกให้เป็นโปรเค้าในช่วงนั้น ให้ลองยื่นกู้ไป100% ถ้าได้ไม่ถึงหรือยังไง จะออกเพิ่มเท่าไหร่ค่อยว่ากัน โดยทางโครงการยื่นให้3ธนาคาร

      ธนาคารแรกที่โทรมา คือธนาคารเขียวค่ะ เซลล์ของธนาคารที่มาดูแลเคสเรา เค้าดีมาก แนะนำทุกอย่างที่ทำให้เรื่องผ่าน เอกสารมากมาย และรับปากเราว่าเค้าสามารถทำให้เคสเราผ่านได้แน่ๆ และผ่าน100%เต็มด้วย 3ปีแรกดอกเบี้ยต่ำ น่าจะผ่อนเดือนละไม่เกิน13000 แต่หลังจาก3ปีไป ถ้าเราประวัติดีก็ทำเรื่องขอลดดอกได้ด้วย

    เค้าใช้เวลาทั้งหมดไวมาก ในขณะที่ส่งเอกสารครบแล้ว อีก2ธนาคารเพิ่งจะเริ่มโทรมาสอบถามเอง ผ่านไปแค่3วัน ธนาคารเขียวโทรมาแจ้งผลอนุมัติ100%เต็มยอด ตอนนั้นเราดีใจมากค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำงานประจำด้วย ผ่านไวขนาดนี้คือโอเคมาก และเพราะเราคุยกับเซลล์จากธนาคารบ่อยมากจนวางใจเค้า อีก2ธนาคารผลบูโรยังไม่ออกด้วยซ้ำ เซลล์จากโครงการก็รีบให้เราเอาธนาคารนี้ และเราก็ไว้ใจธนาคารนี้เพราะใช้บริการบ่อย ทั้งแอพและสเตรทเม้นท์ เลยตัดสินใจเลือกธนาคารนี้โดยไม่รอดูผลอีก2ธนาคาร

    วันเซ็นสัญญา เซลล์จากธนาคารอธิบายค่าใช้จ่ายคร่าวๆเพื่อให้เราเตรียมเงินมา โดยมีค่าประกันอัคคีภัยประมาณเกือบๆ2หมื่น ตอนแรกเราตกใจค่ะ เพระเซลล์ขายบ้านบอกไม่เกิน6พัน แต่เค้าอธิบายว่าเป็นประกัน30ปี เลยจะแพงหน่อยแต่คุ้มนะ เราก็โอเค ส่วนรายละเอียดการผ่อนจะเป็น15000 เพิ่มมาจากที่บอกตอนแรกนิดหน่อย เราคงไม่เป็นไรใช่ไหม เราก็ค่ะๆ แค่2พันคงจะไม่เป็นไร

    สักพักก่อนเราออกจากบ้านเค้าโทรมาอีกรอบเรื่อง การทำประกันสินเชื่อ โดยเค้าบอกว่า เพราะเราทำอาชีพอิสระ ค้าขาย ไม่มั่นคง เพราะเซลล์อยากให้เราผ่านมากๆ เค้าเลยช่วยโดยการสมัครประกันตัวนี้ไป ซึ่งเราก็ผ่านจริงๆ โดยประกันนี้จะไม่สามารถ คือเบี้ยได้ก่อน3ปี คิดราคาผ่อนรวมกับบ้าน เป็นยอดประมาณ 390000 ผ่อน30ปี เป็นเดือนละ2800 รวมกับค่าบ้านก็ 17800 ต่อเดือนที่เราจะต้องผ่อนใน3ปีแรก ปีที่4ขึ้นเป็น 22800 บอกตรงๆค่ะ ตอนนั้นเราตกใจมากๆมันเป็นภาระที่หนักมากๆ แต่วันนั้นวันเซ็นสัญญาแล้ว เวลาให้คิดหรือตัดสินใจก็ไม่มีด้วย ใจนึงก็ไม่อยากได้แล้ว อีกใจก็เสียดาย อุตส่าห์ทำเรื่องไป แล้วก็เกรงใจเซลล์ด้วย

     พอถึงตอนเซ็นสัญญา เพิ่งจะรู้ว่า หมู่บ้านที่เราซื้อเป็นเขตความรับผิดชอบของต่างจังหวัด ไม่ใช่กรุงเทพ และไม่ใช่จังหวัดที่เป็นปริมณทลด้วย อันนี้ก็เป็นอีกจุดค่ะ ที่เราเพิ่งรู้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ๆเป็นกรุงเทพ แต่เขต และจังหวัดเป็นของอีกที่ นั่นหมายถึงเวลาเราจะทำอะไรเกี่ยวกับบ้าน บัตรปชช. เราต้องไปทำในจังหวัดนั้นๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหามาก เพราะตัวบ้านก็อยู่ใกล้กรุงเทพอยู่แล้ว ห่างจากจุดที่ยังเป็นเขตกรุงเทพไม่ถึง10โล แต่เราคิดผิดค่ะ

     หลังจากซื้อบ้าน เราพบว่าเวลาเราไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ตามพวกโฮมโปร อีเกีย หรืออินเด็กซ์ เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มอีกหลายเท่า เช่นในอีเกีย ถ้าเป็นกรุงเทพ จะส่งฟรี-300บาท ปริมณทล 500 และต่างจังหวัดเริ่มที่700 เรามารู้ตอนที่จะให้เค้าส่งของให้ว่าบ้านเราต้องเสียค่าส่งถึง800บาท เพราะถึงจะใกล้ แต่เค้าคิดจากที่อยู่ที่เขียนไว้ เมื่อเป็นเขตของต่างจังหวัด ค่าขนส่งก็ต้องแพงขึ้น และมันไม่ใช่แค่ที่เดียว เกือบทุกร้านเลยที่เราซื้อของเข้าบ้าน เป็นค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่เราไม่สบายใจเลยค่ะ กับคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรา

     หลังจากมาอยู่ได้ครึ่งปี พบว่าถนนก็สร้างไม่เสร็จสักทีค่ะ หลุมเยอะมากๆ ฝุ่นก็เยอะ แทบจะไม่ต้องล้างรถเลยค่ะ เพราะล้างแล้วไม่เกิน2วันก็เลอะเหมือนเดิม และไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จเลย เพราะมีแต่กั้นถนนติดไฟว่าก่อสร้าง แต่ไม่มีคนมาทำอะไรทั้งนั้น เหมือนทิ้งไว้แบบนั้น เส้นทางที่คิดว่าไม่ติดก็ติดเพราะทำถนน สรุปก็คือไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดเลยค่ะ บ้านไกลขึ้น ค่าน้ำมันก็ต้องเสียมากขึ้น จากเมื่อก่อนเติมน้ำมัน500วิ่งได้3-5วัน ตอนนี้เติมทุก2วันค่ะ

     เรามานั่งอ่านและหาข้อมูล และโทษตัวเองทุกวันค่ะ ที่ไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อและตัวบ้าน ตอนนี้เราผ่อนบ้านและสินเชื่อทุกเดือน เป็นภาระที่หนักมากๆ ไหนจะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลังจากย้ายมาอยู่บ้านใหม่อีก ใครจะซื้อบ้าน คิดให้ดีๆนะคะ ลองดูหลายๆธนาคาร เตรียมเงินสำรองไว้เยอะๆ จะได้ไม่ทุกข์แบบเราค่ะ ตอนนี้เราเหนื่อยมากๆค่ะ ต้องทำงานมากขึ้น และก็ขับรถวันนึงเป็น100โล จะออกจากบ้านก็ต้องเผื่อเวลา กว่าจะถึงบ้านก็นาน แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์เผื่อใครกำลังมีแพลน จะได้คิดทบทวนจะได้ไม่ตัดสินใจเร็วและพลาดแบบเราค่ะ ขอบคุณค่ะ


**เพิ่มข้อมูลค่ะ**
   
   อีกเหตุผลที่ไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย คือเพราะว่าที่นี่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบของต่างจังหวัด การปะปา การไฟฟ้าจะเป็นของภูมิภาคค่ะ ระบบอะไรหลายๆอย่างจะไม่เหมือนกรุงเทพ มีอยู่ครั้งนึง เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้เดือนเดียว มีพนักงานจากการปะปามากดกริ่ง ตะโกนว่า เราค้างค่าปะปา3เดือนแล้ว กำลังจะยกหม้อไป เราก็ตกใจค่ะ เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ เราก็ถามเค้าว่ามีใบอะไรไหม ค้างเท่าไหร่ เค้าก็ตะโกนว่าคุณต้องรุ้อยู่แล้วว่าค้างเท่าไหร่ ตกใจมากค่ะ อยู่ในกทม.มานานไม่เคยเจอ สักพักเค้าถามเราบ้านเลขที่เท่าไหร่ สรุปดูผิดบ้านค่ะ รีบขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับออกไป เราเลยโทรไปต่อว่าที่การปะปา ว่าทำไมถึงทวงค่าน้ำกันแบบนี้ ถึงจะไม่ใช่บ้านเราก็ไม่น่าทำนะคะ จะตัดก็ตัดแล้วติดใบบอกก็น่าจะโอเคกว่ามายืนตะโกนด่า

     อยู่มาได้3เดือน ความผิดเราเองค่ะ เราไปต่างจังหวัด ลืมจ่ายค่าไฟ และที่นี่พอตัดไฟ ต้องไปจ่ายที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่มีในกทม.ใกล้ๆ ใกล้สุดก็ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา กับข้ามไปฟากงามวงค์วานเลย เราลืมเองค่ะ รับผิดตรงนี้ ก็เลยถึงวันตัด คราวนี้คล้ายตอนค่าน้ำที่มาทวงผิดบ้านเลยค่ะ เค้าตัดไฟตอน9โมงเช่า ประมาณเที่ยง  มีพนักงานจากการไฟฟ้า มากดกริ่งตะโกนบอก ผมตัดไฟละนะ คุณไม่เดือดร้อนเลยเหรอ  เราก็งงๆค่ะ บอกว่าเดี๋ยวตอนบ่ายจะขับรถไปจ่าย เค้าบอกฝากผมไปจ่ายสิ และให้ค่าน้ำมันผมสักหน่อย เราเลยโทรไปหาการไฟฟ้า การไฟฟ้าบอกว่ายังไม่ถึงวันตัดเลยค่ะ ไปจ่ายเซเว่นใกล้บ้านก็ได้ วันนั้นเราเลยไปจ่ายที่เซเว่น ละตอนบ่ายเค้าก็เข้ามาต่อสาย

      อยากจะบอกว่า การซื้อบ้านในเขตกทม.กับต่างจังหวัดไม่เหมือนกันนะคะ เรื่องน้ำไฟก็ด้วย ตอนเราอยู่กทม.ไม่เคยเจอค่ะ มาเจอที่นี่แหละ ยังไงก็ทบทวนก่อนตัดสินใจนะคะ ตอนเราซื้อก็ไม่รู้ค่ะ ว่าคนละหน่วยงาน ดูแลไม่เหมือนกันค่ะ

     ขอขอบคุณทุกคำแนะนำ ข้อมูล แล้วก็กำลังใจค่ะ เพราะเราด่วนตัดสินใจ เวลาให้คิดน้อยเลยไม่รอบคอบ ฝากกระทู้นี้ไว้ให้คนที่คิดจะซื้อบ้าน เลือกทำเลได้ตัดสินใจ หาข้อมูลหลายๆด้าน จะได้ไม่เสียใจหลังจากซื้อมา เพราะการจะขายต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่