สวัสดีค่ะ อาทิตย์ที่แล้วเขียนเล่าเรื่องราวที่ได้ไปฟังมาจากลาวไปแล้ว วันนี้พอจะมีเวลาว่าง เลยอยากเอาเรื่องราวที่ญาติเจอมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องราวสั้นๆ ที่อยากเล่าเรื่องนี้เพราะเรามีความสนใจเกี่ยวกับตำนานๆต่างในลุ่มน้ำโขง เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เป็นลูกหลานฝั่งแม่ประสบพบเจอ ถ้าใครได้อ่านกระทู้เรื่องที่แล้วไปเราค่อนข้างไปลาวบ่อยมากๆ การข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยส่วนมากจะใช้เรือหางยาวบ้านๆ ไม่ได้ข้ามสะพานไทย-ลาว
เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ช่วงปีใหม่ เราอยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานติดกับลาว เวลาที่ญาติฝั่งลาวมาจะมาพักที่บ้านเราก่อนแล้วถึงจะเดินทางต่อ ช่วงปีใหม่ มีผู้หญิงกับผู้ชาย เป็นหลานๆของตา ให้พี่ผู้หญิงชื่อเพ็ญละกันนะคะ ส่วนพี่ผู้ชายชื่อต้น เขากลับมาจากทำงานที่ภาคใต้จะกลับบ้านที่ลาวก็ได้มาพักอยู่บ้านเรา สองคนนี้เราไม่ได้รู้จักแต่ดูพวกเขาสนิทกับที่บ้านมาก ผู้หญิงหน้าตาดีค่ะ ผิวขาว พี่ผู้ชายก็ดูโอเค หลังจากมาอยู่บ้านเรา เช้าวันต่อมาเขาก็กลับบ้านที่ลาวตั้งแต่เช้า เห็นพ่อเล่าให้ฟังว่า พี่ที่เป็นผู้หญิง เมื่อก่อนไม่เอาไหนเลย คนพอโตขึ้นเริ่มคิดได้เดินทางมาไทย ไปทำงานที่ภาคใต้ก็เก็บเงินส่งให้พ่อกับแม่ที่อยู่ลาว ส่วนแฟนเขาพี่ผู้ชายเจอกันตอนทำงาน อยู่กินกันพ่อแม่รับรู้ ปีนี้เขาทำงานจนเหนื่อยคิดอยากจะกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับนาน ฟังดูแล้วก็สุขใจแบบบอกไม่ถูกค่ะ หลักจากนั้นประมาณ 4 วันญาติที่ลาวโทรมาบอกให้พ่อเราข้ามไปงานศพฝั่งลาว บอกว่าเพ็ญตายแล้ว พึ่งหาศพเจอเลยโทรมาบอก พ่อกะปู่เราตกใจมากเพราะพึ่งจะเจอกันไปแต่ยังไม่ทันได้ถามรายละเอียดอะไรมาก ก็ต้องเตรียมตัวข้ามประเทศตอนนั้นเราไม่ได้ไปค่ะรอที่บ้านเป็นเพื่อนแม่ เพราะไม่มีคนอยู่ แม่ก็พูดกะเรา คนจะดีเห็นหลายคนละพอดีได้ไม่นานก็ตาย พ่อไปงานศพแค่ 2 วันก็กลับ เพราะตายโหงคนในหมู่บ้านเขาให้ฝังห้ามเอาศพเข้าหมู่บ้าน ทำพิธีสองวันก็เสร็จแล้ว พ่อกะปู่มาถึงที่บ้านก็สีหน้าไม่ค่อยดีเลย ตกตอนเย็นผู้ใหญ่เขาก็คุยกันตอนกินข้าว บอกว่าจมน้ำตายตั้งแต่วันที่กลับจากบ้านเรา แต่พึ่งมาเจอศพก็วันที่ 3 ที่จม
ย้อนกลับไปวันที่พี่เพ็ญกับพี่ต้นจะกลับลาว สองคนต้องข้ามแม่น้ำโขงเพื่อกลับไปฝั่งลาว เลือกข้ามที่ท่าเรือหนึ่ง ที่มีวัดดังอยู่ติดลำน้ำโขง คนแถวนั้นจะรู้จักดีค่ะ การข้ามฝากต้องนั่งเรือหางยาวไป เรือไม้ลำเล็กไปกันหลายคนนะคะ ช่วงนั้นคนจะเยอะเพราะเป็นช่วงปีใหม่ พี่เพ็ญกับพี่ต้นนั่งเรือข้ามโขง นั่งไปเรื่อยๆ พอถึงช่วงกลางลำน้ำโขง กระแสน้ำไหลแปลกๆ คนขับเรือก็พยายามคุมเรือเพราะเรือโคลงเคลง ทุกคนบนเรือตกใจเรือเหมือนโดนจับโยกทั้งลำ สุดท้ายเรือล่ม คนที่อยู่บนฝั่งเห็นเหตุการณ์ก็พากันรีบขับเรือเข้าไปช่วย ระหว่างที่เรือล่มพี่ต้นพยายามมองหาพี่เพ็ญ แต่พี่เพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือที่สุด พี่ต้นพยายามว่ายน้ำไปช่วย แต่คนที่อยู่ใกล้ๆแกกับพวกที่ขับเรือมาสมทบทีหลังดึงแกไว้ ตอนนั้นพี่เพ็ญค่อยจมลงไปต่อหน้า พี่ต้นแกก็โมโหว่าจะห้ามทำไมเพราะถ้าว่ายไปยังไงก็ทัน มีคนเข้ามาช่วยเพิ่มขึ้นข้าวของเสียหายลอยไปตามน้ำ ชาวบ้านช่วยกันเอาพี่ต้นและคนอื่นๆขึ้นมาบนฝั่ง พี่ต้นแทบเสียสติเพราะตอนนั้นมีแค่พี่เพ็ญคนเดียวที่สูญหายทุกคนปลอดภัยหมด พอขึ้นมาถึงฝั่งก็มีการพูดคุยกัน คนที่เขาเห็นเหตุการณ์เขาบอกว่าตอนที่เรือล่มแล้วเพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือ จังหวะที่พี่ต้นกำลังจะว่ายเข้าไปช่วย แล้วที่ทุกคนต้องดึงไว้เพราะ ข้างๆตัวพี่เพ็ญมีลักษณะเป็นเหมือนผมคนค่อยๆผุดขึ้นมา แล้วพี่เพ็ญก็ค่อยๆจมลงไป คนที่เขาดึงพี่ต้นไว้เขายังบอกอีกว่า ถ้าเห็นลักษณะนี้ยังไงก็ไม่รอดถ้าปล่อยให้พี่ต้นว่ายเข้าไปอีกคนก็ตายด้วยกันเพราะเหตุการณ์นี้มันไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายคนที่เห็นคนที่นั่งบนเรือจะเห็นชัดสุดคือเป็นลักษณะเส้นผมดำๆขึ้นมาเหนือน้ำ.
หลังจากนั้นก็หาศพกัน ความหวังรอดไม่มีเลย ค้นหาศพอย่างเดียว ตายลักษณะนี้ก็ได้มีการเชิญหมอธรรมมาทำพิธี หมอบอกเป็นพราย เขาอยากได้พี่เพ็ญเขาเห็นตั้งแต่ข้ามฝั่งรอบแรกแล้ว(รอบแรกคือที่ข้ามมาฝั่งไทยครั้งแรกเลย) แล้วหมอยังบอกอีกว่าเขาจะคืนร่างให้ภายใน 3 วันนี้ ตอนนี้พี่เพ็ญเขาอยู่ในที่ดี มีบริวารดูแล แล้ววันที่ 3 ศพก็ผุดขึ้นมาจริง ศพอืดมากเขียวช้ำ ช่วงใบหน้าจะช้ำมาก ตอนที่เอาศพขึ้นจากน้ำแล้วต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องใช้กรรไก ตัดเพราะศพอืดไม่สามารถถอดออกจากศพได้ ก่อนหน้านั้นจะชอบมี วัว ควาย ไปกินน้ำในลำน้ำโขงบางวันวัวชาวบ้านหาย ใช้วิธีจุดธูปขอคืน วันถัดมาศพวัวก็จะลอยขึ้นเหนือน้ำ บางคนก็บอกว่าทรายดูด แต่บางคนก็เชื่อว่าเราใช้พื้นที่นี้ของเขาก็ต้องมีของตอบแทนบ้าง สำหรับเรา เราเชื่อนะตั้งแต่เล็กจนเราโตได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยครั้ง เรื่องราวใต้น้ำและแถบแม่น้ำโขงมีเรื่องลึกลับตลอด ที่ยกเรื่องนี้มาเพราะเกิดกับคนใกล้ตัว สำหรับใครที่มองว่าเป็นเรื่องงมงาย อ่านเอาสนุกก็ได้ค่ะ ถ้าท่านไหนมีโอกาสได้ไปมองแม่น้ำโขง ลองมองไกลๆแบบไม่โฟกัสจุด มันจะรู้สึกว่าขลังมาก ในหัวเราคิดตลอดว่าลึกลงไปในขณะที่เราดำรงชีวิตอยู่เหนือน้ำใต้น้ำมันมีอะไรอยู่ เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ ผิดพลาดยังไงขิโทษด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ.
*แนบรูปประกอบให้ดูกันนะคะ*
อาถรรพ์ในลุ่มน้ำโขง
เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ช่วงปีใหม่ เราอยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานติดกับลาว เวลาที่ญาติฝั่งลาวมาจะมาพักที่บ้านเราก่อนแล้วถึงจะเดินทางต่อ ช่วงปีใหม่ มีผู้หญิงกับผู้ชาย เป็นหลานๆของตา ให้พี่ผู้หญิงชื่อเพ็ญละกันนะคะ ส่วนพี่ผู้ชายชื่อต้น เขากลับมาจากทำงานที่ภาคใต้จะกลับบ้านที่ลาวก็ได้มาพักอยู่บ้านเรา สองคนนี้เราไม่ได้รู้จักแต่ดูพวกเขาสนิทกับที่บ้านมาก ผู้หญิงหน้าตาดีค่ะ ผิวขาว พี่ผู้ชายก็ดูโอเค หลังจากมาอยู่บ้านเรา เช้าวันต่อมาเขาก็กลับบ้านที่ลาวตั้งแต่เช้า เห็นพ่อเล่าให้ฟังว่า พี่ที่เป็นผู้หญิง เมื่อก่อนไม่เอาไหนเลย คนพอโตขึ้นเริ่มคิดได้เดินทางมาไทย ไปทำงานที่ภาคใต้ก็เก็บเงินส่งให้พ่อกับแม่ที่อยู่ลาว ส่วนแฟนเขาพี่ผู้ชายเจอกันตอนทำงาน อยู่กินกันพ่อแม่รับรู้ ปีนี้เขาทำงานจนเหนื่อยคิดอยากจะกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับนาน ฟังดูแล้วก็สุขใจแบบบอกไม่ถูกค่ะ หลักจากนั้นประมาณ 4 วันญาติที่ลาวโทรมาบอกให้พ่อเราข้ามไปงานศพฝั่งลาว บอกว่าเพ็ญตายแล้ว พึ่งหาศพเจอเลยโทรมาบอก พ่อกะปู่เราตกใจมากเพราะพึ่งจะเจอกันไปแต่ยังไม่ทันได้ถามรายละเอียดอะไรมาก ก็ต้องเตรียมตัวข้ามประเทศตอนนั้นเราไม่ได้ไปค่ะรอที่บ้านเป็นเพื่อนแม่ เพราะไม่มีคนอยู่ แม่ก็พูดกะเรา คนจะดีเห็นหลายคนละพอดีได้ไม่นานก็ตาย พ่อไปงานศพแค่ 2 วันก็กลับ เพราะตายโหงคนในหมู่บ้านเขาให้ฝังห้ามเอาศพเข้าหมู่บ้าน ทำพิธีสองวันก็เสร็จแล้ว พ่อกะปู่มาถึงที่บ้านก็สีหน้าไม่ค่อยดีเลย ตกตอนเย็นผู้ใหญ่เขาก็คุยกันตอนกินข้าว บอกว่าจมน้ำตายตั้งแต่วันที่กลับจากบ้านเรา แต่พึ่งมาเจอศพก็วันที่ 3 ที่จม
ย้อนกลับไปวันที่พี่เพ็ญกับพี่ต้นจะกลับลาว สองคนต้องข้ามแม่น้ำโขงเพื่อกลับไปฝั่งลาว เลือกข้ามที่ท่าเรือหนึ่ง ที่มีวัดดังอยู่ติดลำน้ำโขง คนแถวนั้นจะรู้จักดีค่ะ การข้ามฝากต้องนั่งเรือหางยาวไป เรือไม้ลำเล็กไปกันหลายคนนะคะ ช่วงนั้นคนจะเยอะเพราะเป็นช่วงปีใหม่ พี่เพ็ญกับพี่ต้นนั่งเรือข้ามโขง นั่งไปเรื่อยๆ พอถึงช่วงกลางลำน้ำโขง กระแสน้ำไหลแปลกๆ คนขับเรือก็พยายามคุมเรือเพราะเรือโคลงเคลง ทุกคนบนเรือตกใจเรือเหมือนโดนจับโยกทั้งลำ สุดท้ายเรือล่ม คนที่อยู่บนฝั่งเห็นเหตุการณ์ก็พากันรีบขับเรือเข้าไปช่วย ระหว่างที่เรือล่มพี่ต้นพยายามมองหาพี่เพ็ญ แต่พี่เพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือที่สุด พี่ต้นพยายามว่ายน้ำไปช่วย แต่คนที่อยู่ใกล้ๆแกกับพวกที่ขับเรือมาสมทบทีหลังดึงแกไว้ ตอนนั้นพี่เพ็ญค่อยจมลงไปต่อหน้า พี่ต้นแกก็โมโหว่าจะห้ามทำไมเพราะถ้าว่ายไปยังไงก็ทัน มีคนเข้ามาช่วยเพิ่มขึ้นข้าวของเสียหายลอยไปตามน้ำ ชาวบ้านช่วยกันเอาพี่ต้นและคนอื่นๆขึ้นมาบนฝั่ง พี่ต้นแทบเสียสติเพราะตอนนั้นมีแค่พี่เพ็ญคนเดียวที่สูญหายทุกคนปลอดภัยหมด พอขึ้นมาถึงฝั่งก็มีการพูดคุยกัน คนที่เขาเห็นเหตุการณ์เขาบอกว่าตอนที่เรือล่มแล้วเพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือ จังหวะที่พี่ต้นกำลังจะว่ายเข้าไปช่วย แล้วที่ทุกคนต้องดึงไว้เพราะ ข้างๆตัวพี่เพ็ญมีลักษณะเป็นเหมือนผมคนค่อยๆผุดขึ้นมา แล้วพี่เพ็ญก็ค่อยๆจมลงไป คนที่เขาดึงพี่ต้นไว้เขายังบอกอีกว่า ถ้าเห็นลักษณะนี้ยังไงก็ไม่รอดถ้าปล่อยให้พี่ต้นว่ายเข้าไปอีกคนก็ตายด้วยกันเพราะเหตุการณ์นี้มันไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายคนที่เห็นคนที่นั่งบนเรือจะเห็นชัดสุดคือเป็นลักษณะเส้นผมดำๆขึ้นมาเหนือน้ำ.
หลังจากนั้นก็หาศพกัน ความหวังรอดไม่มีเลย ค้นหาศพอย่างเดียว ตายลักษณะนี้ก็ได้มีการเชิญหมอธรรมมาทำพิธี หมอบอกเป็นพราย เขาอยากได้พี่เพ็ญเขาเห็นตั้งแต่ข้ามฝั่งรอบแรกแล้ว(รอบแรกคือที่ข้ามมาฝั่งไทยครั้งแรกเลย) แล้วหมอยังบอกอีกว่าเขาจะคืนร่างให้ภายใน 3 วันนี้ ตอนนี้พี่เพ็ญเขาอยู่ในที่ดี มีบริวารดูแล แล้ววันที่ 3 ศพก็ผุดขึ้นมาจริง ศพอืดมากเขียวช้ำ ช่วงใบหน้าจะช้ำมาก ตอนที่เอาศพขึ้นจากน้ำแล้วต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องใช้กรรไก ตัดเพราะศพอืดไม่สามารถถอดออกจากศพได้ ก่อนหน้านั้นจะชอบมี วัว ควาย ไปกินน้ำในลำน้ำโขงบางวันวัวชาวบ้านหาย ใช้วิธีจุดธูปขอคืน วันถัดมาศพวัวก็จะลอยขึ้นเหนือน้ำ บางคนก็บอกว่าทรายดูด แต่บางคนก็เชื่อว่าเราใช้พื้นที่นี้ของเขาก็ต้องมีของตอบแทนบ้าง สำหรับเรา เราเชื่อนะตั้งแต่เล็กจนเราโตได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยครั้ง เรื่องราวใต้น้ำและแถบแม่น้ำโขงมีเรื่องลึกลับตลอด ที่ยกเรื่องนี้มาเพราะเกิดกับคนใกล้ตัว สำหรับใครที่มองว่าเป็นเรื่องงมงาย อ่านเอาสนุกก็ได้ค่ะ ถ้าท่านไหนมีโอกาสได้ไปมองแม่น้ำโขง ลองมองไกลๆแบบไม่โฟกัสจุด มันจะรู้สึกว่าขลังมาก ในหัวเราคิดตลอดว่าลึกลงไปในขณะที่เราดำรงชีวิตอยู่เหนือน้ำใต้น้ำมันมีอะไรอยู่ เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ ผิดพลาดยังไงขิโทษด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ.
*แนบรูปประกอบให้ดูกันนะคะ*