ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมกับรุ่นน้องเป็นสายบุฟเฟต์ รับประทานบุฟเฟต์กันบ่อยๆ ตั้งแต่ระดับโรงแรมห้าดาวจนถึงหมูกะทะริมทาง เมื่อวานนี้ รุ่นน้องก็ชวนผมไปรับประทานที่โรงแรม N... ตรงสถานี BTS เพลินจิต ซึ่งมีโปรโมชัน โทรจองจะได้รับส่วนลด 50% เหลือสุทธิราคา 834 บาท (จาก 1,299++) โรงแรมนี้ผมเคยไปทานกับเพื่อนๆ หลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร คุณภาพอาหารก็ตามราคา สมเหตุสมผล จนกระทั่งเมื่อวานนี้
ผมกับรุ่นน้องจองไว้และไปถึงที่โรงแรมตอน 20.00 น. (ห้องอาหารเปิด 18.00 ปิด 22.00 น.) พบว่าอาหารบางรายการได้หมดลงก่อน อาทิ snow crab กุ้งอบวุ้นเส้น อาหารญี่ปุ่นบนซูชิบาร์ รุ่นน้องผมก็เริ่มบ่นว่าทำไมไม่เติมเพราะปกติ สำหรับห้องอาหารบุฟเฟต์ ถ้าเป็นเวลาใกล้ปิดแล้วไม่เติมอาหารยังเข้าใจได้ แต่เวลา 20.00 น.ยังไม่ใกล้เวลาปิดเลย ผมได้แต่บอกรุ่นน้องว่าอย่าไปคิดมาก มีอาหารอื่นๆ ให้เราเลือกตักได้ ต่อมา รุ่นน้องเห็นว่าไม่มีแซลมอนบนซูชิบาร์
จึงถามเชฟอาหารญี่ปุ่น ได้รับแจ้งว่าต้องรอ 15 นาที ซึ่งขณะนั้น ซูชิที่วางไว้ให้ตักเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เวลาผ่านไปราว 15 นาที เชฟก็นำแซลมอนใส่จานเดินมาเสิร์ฟที่โต๊ะ
ผมจะเข้าใจได้เรื่องอาหารหมดลงก่อน (แม้จะยังไม่ใกล้ได้เวลาปิด) ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ครับ ประมาณ 20.45 มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง พูดภาษาฝรั่งเศส (ที่ต้องระบุเพราะโรงแรมนี้บริหารโดยเครือจากฝรั่งเศส จึงเข้าใจว่าน่าจะมีส่วนสัมพันธ์กับเรื่องนี้ทางใดทางหนึ่ง ไม่ได้เจตนาจะเหยียดเชื้อชาติหรืออะไรนะครับ) มารับประทาน ทางห้องอาหารก็จัดอาหารใส่จานอย่างสวยงามไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ ทั้งอาหารญี่ปุ่น snow crab กุ้งอบวุ้นเส้น และอื่นๆ ผมกับรุ่นน้องก็เริ่มงงว่า ทำไมจึงมีอาหารที่หมดลงก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้าเฉพาะบางโต๊ะได้ โต๊ะนั้นได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งจริงๆ แล้ว อันนี้ก็เรื่องของเขา แต่เผอิญเชฟญี่ปุ่นไม่ประจำที่เลยอะครับ คือทั้งผู้จัดการ ทั้งเชฟญี่ปุ่น ไปดูแลแต่โต๊ะนั้น จนไม่ได้เติมอาหารบนซูชิบาร์ สุดท้าย พนักงานคงเริ่มเห็นว่าผมกับรุ่นน้องแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ จึงมาถามว่า ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และเชฟญี่ปุ่นนำ snow crab มาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ (มี 4 ก้าม) พร้อมบอกว่า "เห็นว่าตักไม่ทันใช่ไหมครับ"
ต่อมา มีการเติม snow crab ในบุฟเฟต์ไลน์ครั้งหนึ่ง (คุณภาพต่างจากที่เสิร์ฟโต๊ะนั้นมาก) และให้สั่งกุ้งอบวุ้นเส้นได้ (แต่เปลี่ยนเป็นปูอบวุ้นเส้น) ซึ่งก็เป็นวุ้นเส้นแบบก้นหม้อคือ เป็นเส้นหักๆ สั้นๆ
ตอนคิดเงิน พนักงานถามว่า "อาหารเป็นอย่างไรบ้างคะ" ผมเลยถามตรงๆ ว่า "ปกติ อาหารบางรายการหมดแล้วเติมหรือไม่ครับ" พนักงานแจ้งว่า "ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะ พอดี ปูหมดสต็อกเนื่องจากเป็นวันท้ายๆ ของสัปดาห์" ผมเลยถามว่า "แล้วทำไมบางโต๊ะได้อะครับ" พนักงานตอบว่า "ของโต๊ะนั้นคือ เอาที่สต็อกไว้สำหรับวันพรุ่งนี้มาเสิร์ฟค่ะ" ผมขี้เกียจจะต่อความให้วุ่นวาย เลยจ่ายเงินแล้วกลับบ้าน
จริงๆ ผมก็มานั่งทบทวนตัวเองว่า ผมคิดเล็กคิดน้อยไปไหมกับเรื่องแค่นี้ แต่คิดอีกที ผมก็จ่ายเงินเหมือนโต๊ะอื่นๆ (ได้ยินโต๊ะข้างๆ ก็บ่นแบบเดียวกับผมเหมือนกัน) อาหารหมดลงก่อน ผมเข้าใจได้ เพราะทางห้องอาหารอาจจะกะปริมาณไว้ไม่ถูก แต่จุดที่รับไม่ได้คือ มีบางโต๊ะได้และพนักงานให้บริการเฉพาะบางโต๊ะ จนเบียดบังสิทธิ์ของลูกค้าท่านอื่นและไม่ได้รับบริการตามสมควร ทางโรงแรมควรทบทวนตัวเองใหม่นะครับ
[CR] แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอกับบุฟเฟต์ ณ โรงแรมย่านเพลินจิต
ผมกับรุ่นน้องจองไว้และไปถึงที่โรงแรมตอน 20.00 น. (ห้องอาหารเปิด 18.00 ปิด 22.00 น.) พบว่าอาหารบางรายการได้หมดลงก่อน อาทิ snow crab กุ้งอบวุ้นเส้น อาหารญี่ปุ่นบนซูชิบาร์ รุ่นน้องผมก็เริ่มบ่นว่าทำไมไม่เติมเพราะปกติ สำหรับห้องอาหารบุฟเฟต์ ถ้าเป็นเวลาใกล้ปิดแล้วไม่เติมอาหารยังเข้าใจได้ แต่เวลา 20.00 น.ยังไม่ใกล้เวลาปิดเลย ผมได้แต่บอกรุ่นน้องว่าอย่าไปคิดมาก มีอาหารอื่นๆ ให้เราเลือกตักได้ ต่อมา รุ่นน้องเห็นว่าไม่มีแซลมอนบนซูชิบาร์
จึงถามเชฟอาหารญี่ปุ่น ได้รับแจ้งว่าต้องรอ 15 นาที ซึ่งขณะนั้น ซูชิที่วางไว้ให้ตักเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เวลาผ่านไปราว 15 นาที เชฟก็นำแซลมอนใส่จานเดินมาเสิร์ฟที่โต๊ะ
ผมจะเข้าใจได้เรื่องอาหารหมดลงก่อน (แม้จะยังไม่ใกล้ได้เวลาปิด) ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ครับ ประมาณ 20.45 มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง พูดภาษาฝรั่งเศส (ที่ต้องระบุเพราะโรงแรมนี้บริหารโดยเครือจากฝรั่งเศส จึงเข้าใจว่าน่าจะมีส่วนสัมพันธ์กับเรื่องนี้ทางใดทางหนึ่ง ไม่ได้เจตนาจะเหยียดเชื้อชาติหรืออะไรนะครับ) มารับประทาน ทางห้องอาหารก็จัดอาหารใส่จานอย่างสวยงามไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ ทั้งอาหารญี่ปุ่น snow crab กุ้งอบวุ้นเส้น และอื่นๆ ผมกับรุ่นน้องก็เริ่มงงว่า ทำไมจึงมีอาหารที่หมดลงก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้าเฉพาะบางโต๊ะได้ โต๊ะนั้นได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งจริงๆ แล้ว อันนี้ก็เรื่องของเขา แต่เผอิญเชฟญี่ปุ่นไม่ประจำที่เลยอะครับ คือทั้งผู้จัดการ ทั้งเชฟญี่ปุ่น ไปดูแลแต่โต๊ะนั้น จนไม่ได้เติมอาหารบนซูชิบาร์ สุดท้าย พนักงานคงเริ่มเห็นว่าผมกับรุ่นน้องแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ จึงมาถามว่า ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และเชฟญี่ปุ่นนำ snow crab มาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ (มี 4 ก้าม) พร้อมบอกว่า "เห็นว่าตักไม่ทันใช่ไหมครับ"
ต่อมา มีการเติม snow crab ในบุฟเฟต์ไลน์ครั้งหนึ่ง (คุณภาพต่างจากที่เสิร์ฟโต๊ะนั้นมาก) และให้สั่งกุ้งอบวุ้นเส้นได้ (แต่เปลี่ยนเป็นปูอบวุ้นเส้น) ซึ่งก็เป็นวุ้นเส้นแบบก้นหม้อคือ เป็นเส้นหักๆ สั้นๆ
ตอนคิดเงิน พนักงานถามว่า "อาหารเป็นอย่างไรบ้างคะ" ผมเลยถามตรงๆ ว่า "ปกติ อาหารบางรายการหมดแล้วเติมหรือไม่ครับ" พนักงานแจ้งว่า "ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะ พอดี ปูหมดสต็อกเนื่องจากเป็นวันท้ายๆ ของสัปดาห์" ผมเลยถามว่า "แล้วทำไมบางโต๊ะได้อะครับ" พนักงานตอบว่า "ของโต๊ะนั้นคือ เอาที่สต็อกไว้สำหรับวันพรุ่งนี้มาเสิร์ฟค่ะ" ผมขี้เกียจจะต่อความให้วุ่นวาย เลยจ่ายเงินแล้วกลับบ้าน
จริงๆ ผมก็มานั่งทบทวนตัวเองว่า ผมคิดเล็กคิดน้อยไปไหมกับเรื่องแค่นี้ แต่คิดอีกที ผมก็จ่ายเงินเหมือนโต๊ะอื่นๆ (ได้ยินโต๊ะข้างๆ ก็บ่นแบบเดียวกับผมเหมือนกัน) อาหารหมดลงก่อน ผมเข้าใจได้ เพราะทางห้องอาหารอาจจะกะปริมาณไว้ไม่ถูก แต่จุดที่รับไม่ได้คือ มีบางโต๊ะได้และพนักงานให้บริการเฉพาะบางโต๊ะ จนเบียดบังสิทธิ์ของลูกค้าท่านอื่นและไม่ได้รับบริการตามสมควร ทางโรงแรมควรทบทวนตัวเองใหม่นะครับ