>> สวัสดีทุกคนนะคะ <<
เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสมารีวิวเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่ผ่านมาเคยแต่รีวิวเรื่องกินเที่ยวอย่างเดียว
แต่มาช่วง 3 ปีหลังหันมาออกกำลังกายใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพราะส่องกระจกแล้วมันไม่ได้แล้วค่ะ
แล้วเทรนด์ออกกำลังก็กำลังมา เลยคิดอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
เริ่มแรกเลย ลองทำ T25 ตามเทรนด์ตอนนั้น เปิดคลิปในยูทูปแล้วก็ฝึกตาม ยอมรับว่าเหงื่อออกเยอะมากก ฟิตขั้นสุดจัดทุกเช้าเย็น พอผ่านไปได้ราวๆ สามถึงสี่เดือน เปลี่ยนมาเหลือแค่สควอชกับซิทอัพแทน 555
เพราะเหนื่อยกระโดดค่ะ รู้สึกมันไม่ใช่สำหรับเรา (ข้ออ้างของเราเอง) แต่ช่วงที่สควอชหนักๆ จากก้นแบนเปลี่ยนเป็นก้นเด้งขึ้นซึ่งพอใจมาก แต่ถัดมาอีกสองเดือนก็ลดลงมาเหลือแค่ซิทอัพอย่างเดียว 555 ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
จนวันนึง ...เล่นเฟซเพลินๆ มาเห็นคลิปที่ผู้หญิงคนนึงอายุหกสิบแล้ว แต่ยังดูสาวมากๆ พิธีกรถามประมาณว่า เธอดูแลตัวเองยังไง
เธอบอก “เล่นโยคะ กินไวน์และเป็นโสด” คำว่า โยคะ เลยมาสะกิดต่อมไขมัน ต่อมรับรูปรสกลิ่นเสียง ต่อมความคิดให้ชักกะตุก
เฮ้ยยย... โยคะเหรอ ยังไงๆ โยคะมันเป็นยังไง เลยลองเสริ์ชดูหาท่าง่ายๆ ลองดูก่อน เห็นท่าก้มเอามือสัมผัสพื้น เฮ้ย ง่ายๆ นี่หว่า ง่ายกว่าซิทอัพอีก คือคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ทุกคนก็รู้ใช่เปล่าว่า “ความคิดกับความจริงมันสวนทางกันตลอด” พอลองก้มเท่านั้นละ
แม่เจ้า!! ตึงไปทุกอณู! ก้มยังไงให้ลงละเนี่ยะ เส้นจะตึงไปไหน หลังนี่ปวดร้าว หน้าเริ่มแดงขึ้นๆ
ไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียดเรื่องการหายใจ ก็กลั้นหายใจ ปวดตัวก็ปวด ขาก็ตึง ก้มก็ไม่ลง
เลิกกกก!!! พักนานไป 3 เดือน (แต่ช่วงพักก็ยังซิทอัพอยู่นะคะ 55)
จนมาเจอภาพผู้หญิงคนนี้
นางทำท่านี้ได้ คือเราทึ่งมาก น้ำหนักนางเยอะกว่าฉันอีก นางยังทำได้แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้
มีความฮึดขึ้นมาเลย ของขึ้นๆ จะบอกว่านางเป็นแรงผลักดันแรงบันดาลใจที่ทำให้เล่นโยคะมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ผิด
รุ่งเช้ามาเน้นเลยเน้น เปิดยูทูปโยคะสำหรับผู้เริ่มต้น เน้นก้มยืดเส้น บิดซ้ายทีขวาที ร้าวไปทั้งตัว ท่องในหัวหายใจเข้าหายใจออก อย่าเกร็งๆ ฝึกทุกวันเช้าเย็นๆ อาศัยใจสู้ อยากสวยต้องสู้ สู้โว้ยยย ..ที่ฝึกโยคะเอง เพราะเราอยู่บ้านนอกค่ะ จะถ่อสังขารไปเข้าคลาสเรียนก็ไม่สะดวกเพราะเรามีกิจการเล็กๆที่บ้านต้องเปิดร้านทุกวัน การฝึกเองเลยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา
เพราะฝึกเองความผิดพลาดที่เกิดจากการฝึกก็มีแน่นอนค่ะ
เพราะไม่มีพื้นฐานความรู้ การฝึกการหายใจก็ต้องมีผิดถูกอยู่แล้ว ท่าที่ฝึกมันก็ต้องมีผิดอยู่แล้ว เคยกล้ามเนื้ออักเสบแบบขยับตัวที่ร้าวไปหมด ร้าวลงขา ปวดหลัง เพราะฝึกแบบผิดๆ หรือไม่ก็ฝึกหนักจนเกินไปและไม่คลายกล้ามเนื้อหลังจากฝึกเสร็จ แต่ก็อดทนเอา
นอนแบบต้องใช้หมอนรองหลังเป็นสามสี่วัน กระดิกตัวยังยากก็ทนเอา พลาดล้มเท้าฟาดพื้นนิ้วบวมก็ทนเอา ปวดตึงขาเพราะท่าฉีกขาก็อดทนเอา
พอนานวันเข้านานวันเข้า จากวันเป็นเดือน ความสำเร็จเริ่มแสดงผลที่ละนิด เราสามารถก้มลงมือสัมผัสพื้นได้แล้ว
แบบดีใจมาก มาละๆ ของตูมาละของขึ้นกว่าเดิมอีก ลองท่าใหม่ไปเรื่อย เพราะจะได้รู้ว่าเราต้องยืดกล้ามเนื้อตรงไหนอีก
หลังๆ เล่นไอจี ก็เริ่มติดตามสาวๆ ที่เล่นโยคะแบบที่คนติดตามเยอะๆ เราตามพวกเธอเหล่านี้ค่ะ
เน้นคนที่เล่นท่าหลากหลาย มีคลิปสอนสม่ำเสมอ บางคนโยคะท่ายากมาก บางคนท่ายากยังไม่พอแต่ภาพยังอาร์ตไปด้วย บางคนมีพร๊อพประกอบ บางคนแดนซ์ไปด้วยโยคะผสมท่าไปด้วยคือเพลินมากๆ ..จนจิตวิญญาณเริ่มซึมซับ ร่างกายเริ่มปรับตัว กล้ามเนื้อค่อยๆยืด เพราะเราฝึกเกือบทุกวันจริงๆ ..เป็นประจำเดือนก็ไม่งด มีแต่ยิ่งอยากรู้ว่าอาการปวดท้องปวดหลังทำโยคะท่าไหนช่วยบรรเทาได้บ้าง
จนโยคะก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปโดยปริยาย
[แชร์ประสบการณ์ 1 ปีเศษ] : “โตแล้วจะฝึกโยคะเอง ด้วยท่าง่ายท่ายากแบบไหนยังไงก็ได้”
เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสมารีวิวเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่ผ่านมาเคยแต่รีวิวเรื่องกินเที่ยวอย่างเดียว
แต่มาช่วง 3 ปีหลังหันมาออกกำลังกายใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพราะส่องกระจกแล้วมันไม่ได้แล้วค่ะ
แล้วเทรนด์ออกกำลังก็กำลังมา เลยคิดอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
เริ่มแรกเลย ลองทำ T25 ตามเทรนด์ตอนนั้น เปิดคลิปในยูทูปแล้วก็ฝึกตาม ยอมรับว่าเหงื่อออกเยอะมากก ฟิตขั้นสุดจัดทุกเช้าเย็น พอผ่านไปได้ราวๆ สามถึงสี่เดือน เปลี่ยนมาเหลือแค่สควอชกับซิทอัพแทน 555
เพราะเหนื่อยกระโดดค่ะ รู้สึกมันไม่ใช่สำหรับเรา (ข้ออ้างของเราเอง) แต่ช่วงที่สควอชหนักๆ จากก้นแบนเปลี่ยนเป็นก้นเด้งขึ้นซึ่งพอใจมาก แต่ถัดมาอีกสองเดือนก็ลดลงมาเหลือแค่ซิทอัพอย่างเดียว 555 ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
จนวันนึง ...เล่นเฟซเพลินๆ มาเห็นคลิปที่ผู้หญิงคนนึงอายุหกสิบแล้ว แต่ยังดูสาวมากๆ พิธีกรถามประมาณว่า เธอดูแลตัวเองยังไง
เธอบอก “เล่นโยคะ กินไวน์และเป็นโสด” คำว่า โยคะ เลยมาสะกิดต่อมไขมัน ต่อมรับรูปรสกลิ่นเสียง ต่อมความคิดให้ชักกะตุก
เฮ้ยยย... โยคะเหรอ ยังไงๆ โยคะมันเป็นยังไง เลยลองเสริ์ชดูหาท่าง่ายๆ ลองดูก่อน เห็นท่าก้มเอามือสัมผัสพื้น เฮ้ย ง่ายๆ นี่หว่า ง่ายกว่าซิทอัพอีก คือคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ทุกคนก็รู้ใช่เปล่าว่า “ความคิดกับความจริงมันสวนทางกันตลอด” พอลองก้มเท่านั้นละ
แม่เจ้า!! ตึงไปทุกอณู! ก้มยังไงให้ลงละเนี่ยะ เส้นจะตึงไปไหน หลังนี่ปวดร้าว หน้าเริ่มแดงขึ้นๆ
ไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียดเรื่องการหายใจ ก็กลั้นหายใจ ปวดตัวก็ปวด ขาก็ตึง ก้มก็ไม่ลง
เลิกกกก!!! พักนานไป 3 เดือน (แต่ช่วงพักก็ยังซิทอัพอยู่นะคะ 55)
จนมาเจอภาพผู้หญิงคนนี้
นางทำท่านี้ได้ คือเราทึ่งมาก น้ำหนักนางเยอะกว่าฉันอีก นางยังทำได้แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้
มีความฮึดขึ้นมาเลย ของขึ้นๆ จะบอกว่านางเป็นแรงผลักดันแรงบันดาลใจที่ทำให้เล่นโยคะมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ผิด
รุ่งเช้ามาเน้นเลยเน้น เปิดยูทูปโยคะสำหรับผู้เริ่มต้น เน้นก้มยืดเส้น บิดซ้ายทีขวาที ร้าวไปทั้งตัว ท่องในหัวหายใจเข้าหายใจออก อย่าเกร็งๆ ฝึกทุกวันเช้าเย็นๆ อาศัยใจสู้ อยากสวยต้องสู้ สู้โว้ยยย ..ที่ฝึกโยคะเอง เพราะเราอยู่บ้านนอกค่ะ จะถ่อสังขารไปเข้าคลาสเรียนก็ไม่สะดวกเพราะเรามีกิจการเล็กๆที่บ้านต้องเปิดร้านทุกวัน การฝึกเองเลยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา
เพราะฝึกเองความผิดพลาดที่เกิดจากการฝึกก็มีแน่นอนค่ะ
เพราะไม่มีพื้นฐานความรู้ การฝึกการหายใจก็ต้องมีผิดถูกอยู่แล้ว ท่าที่ฝึกมันก็ต้องมีผิดอยู่แล้ว เคยกล้ามเนื้ออักเสบแบบขยับตัวที่ร้าวไปหมด ร้าวลงขา ปวดหลัง เพราะฝึกแบบผิดๆ หรือไม่ก็ฝึกหนักจนเกินไปและไม่คลายกล้ามเนื้อหลังจากฝึกเสร็จ แต่ก็อดทนเอา
นอนแบบต้องใช้หมอนรองหลังเป็นสามสี่วัน กระดิกตัวยังยากก็ทนเอา พลาดล้มเท้าฟาดพื้นนิ้วบวมก็ทนเอา ปวดตึงขาเพราะท่าฉีกขาก็อดทนเอา
พอนานวันเข้านานวันเข้า จากวันเป็นเดือน ความสำเร็จเริ่มแสดงผลที่ละนิด เราสามารถก้มลงมือสัมผัสพื้นได้แล้ว
แบบดีใจมาก มาละๆ ของตูมาละของขึ้นกว่าเดิมอีก ลองท่าใหม่ไปเรื่อย เพราะจะได้รู้ว่าเราต้องยืดกล้ามเนื้อตรงไหนอีก
หลังๆ เล่นไอจี ก็เริ่มติดตามสาวๆ ที่เล่นโยคะแบบที่คนติดตามเยอะๆ เราตามพวกเธอเหล่านี้ค่ะ
เน้นคนที่เล่นท่าหลากหลาย มีคลิปสอนสม่ำเสมอ บางคนโยคะท่ายากมาก บางคนท่ายากยังไม่พอแต่ภาพยังอาร์ตไปด้วย บางคนมีพร๊อพประกอบ บางคนแดนซ์ไปด้วยโยคะผสมท่าไปด้วยคือเพลินมากๆ ..จนจิตวิญญาณเริ่มซึมซับ ร่างกายเริ่มปรับตัว กล้ามเนื้อค่อยๆยืด เพราะเราฝึกเกือบทุกวันจริงๆ ..เป็นประจำเดือนก็ไม่งด มีแต่ยิ่งอยากรู้ว่าอาการปวดท้องปวดหลังทำโยคะท่าไหนช่วยบรรเทาได้บ้าง
จนโยคะก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปโดยปริยาย