***Incredible India!*** รีวิว(เล่าเรื่อง) ประสบการณ์ครั้งแรกที่ดินแดนภารตะ (Delhi - Agra)
***Incredible India!*** รีวิว(เล่าเรื่อง) ประสบการณ์ครั้งแรกที่ดินแดนภารตะ (Leh) Part 3
ต่อจาก Part ที่แล้วหลังจากที่พวกเราเดินทางกันเป็นเวลาทั้งวัน เราก็มาถึงเมือง Kargil ซึ่งตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางเส้นทางระหว่างเมือง Srinagar และ เมือง Leh จุดหมายปลายทางของเราในวันพรุ่งนี้ กว่าจะใช้เวลามาถึงตัวเมืองนั้นก็กินเวลาไปเกือบทั้งวัน ทุกคนเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เราเลยขอมานอนพักกันที่โรงแรมที่เราจองไว้ก่อน ที่จะออกไปเดินเล่นกันข้างนอก
ภาพของห้องนอน ราคาไม่แพงมาก สามารถจองผ่านโรงแรมได้โดยตรงผ่านอีเมลล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.hotelsiachen.com/
ถนนหลักของตัวเมือง มีคนเดินไปมากันเต็มไปหมด หน้าคนของคนพื้นเมืองที่นี่จะไม่เหมือนกับแขกอินเดียเลย
ส่วนมาก จะมีความเป็นแขกขาวซะมากกว่า นั้นก็เพราะคนส่วนใหญ่นั้น นับถือศาสนาอิสลาม
ณ เวลาใกล้ค่ำ ก็จะได้ยินเสียงสวดมนตร์ ตามพิธีของชาวอิสลาม ณ ตอนนั้นที่ไป เป็นช่วงถือศีลอด ของพวกเค้าพอดีเลย
เช้าวันต่อมา พวกเราต้องเดินทางกันต่อเพื่อไปยังเมือง Leh
ระหว่างวิวทีมีภูเขาสีเขียวๆ มีต้นไม้ เริ่มเปลี่ยนเป็นภูเขาสีน้ำตาลๆ ที่ไม่หิมะปกคลุมอยู่บนยอด
ซึ่งจะสักเกตุได้ว่า เราเริ่มได้ระดับขึ้นมาสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว
นอกจากวิวที่ดูเปลี่ยนไป อีกอย่างหนึ่งที่สังเกตุอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การตกแต่งบ้านของผู้คนนั้น เริ่มเห็นการนำธงหลากสี หรือธงมนตร์มาประดับให้เราเห็นได้ทั่วๆไปตลอดเส้นทาง
หลังจากออกรถมาได้ซักแป๊ป คนขับรถของเราก็แวะจอดพัก ให้กินข้าวเช้ากันที่นี่ก่อน
ชนแก้วชานมกันก่อนเดินทางต่อ เส้นทางยังอีกยาวไกลลลลลล
กุ๊กชาวลาดั้ก นอกจากชาจะอร่อย ยังมีความเล่นกล้องอีกก
ระหว่างทางพวกเราเห็นคนจอดถ่ายรูปกัน ไหนๆก็ไหนๆ ขอถ่ายบ้างหน่อย ไม่รู้จะมาได้สัมผัสฟีลแบบนี้อีกสักกี่ครั้งกัน
ณ จุดสูงสุดของเส้นทาง Srinagar - Leh
อีกระยะทาง 97 กิโลเมตร..
ระหว่างทางก่อนที่จะถึงยังตัวเมือง Leh จะต้องผ่านจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันมากเลยก็คือ
Magnetic Hill เป็นที่ๆที่เมืองคุณยืนอยู่กลางถนน แล้วฉากหลังเป็นภูเขานั้น จะเหมือนกับว่า
ภูเขานั้นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีแรงดึงดูดตัวเราเข้าไป (เค้าว่าอย่างนั้นนะ)
ส่วนตัวพวกเราไม่ได้ถ่าย เพราะ รถสวนไปมา เยอะมากก อีกต้องแย่งกับพี่แขก กระโดดมาอยู่ในเฟรมอีกก
ได้รูปสวย แต่โดนสิบล้อทับ คงไม่คุ้ม555555
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงเมือง Leh แล้วววว หลังจากหลังขดหลังแข็งนั่งรถมา เจ็ดพันแปดร้อยสามสิบเอ็ดจุดหนึ่ง โค้ง
เราก็มาถึงงงงง ตัวเมืองนั้น มีร้านขายของเต็มไปหมด ใจกลางเมืองก็จะมีแต่นักท่องเที่ยวเดินกันเต็มไปหมดเช่นกัน
แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะเป็นคนอินเดียซะมากกว่า เห็นรีวีวคนไทยมากันเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ แทบไม่เจอเลยด้วยซ้ำ
ภายในร้านอาหารทิเบต จะมีรูปขององค์ดาไลลามะ ติดอยู่ทุกที่
อาหารมื้อแรก ผัดหมีรสชาติคล้ายกับมาม่าผัดซีอิ้ว พอกินได้ แต่ตอนนั้นคิดถึงอาหารไทยจะแย่ TT
สัญญาณมือถือก็ไม่มี อินเตอร์เนตก็ล่มทั้งเมือง
ร้านขายยาที่พวกเรามาซื้อยากันเป็นประจำ
กลับมาถึงที่พัก ไฟดับบบ! มาวันแรกก็โดนรับน้องเลย
แต่มันไม่ใช่ปัญหาหรอก เพราะไม่มีแอร์มันก็หนาวอยู่ละ แต่ปัญหาคือ จะอาบน้ำที แบบว่ามันโคตรจะหนาว
หนาวโคตรๆ เลยก็ว่าได้
แขกที่พัก Guest house เดียวกันต้องกินข้าวโดยใช้ตะเกียงเพื่อส่องสว่าง
ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิ้งค์
[CR] ***Incredible India!*** รีวิว(เล่าเรื่อง) ประสบการณ์ครั้งแรกที่ดินแดนภารตะ (Delhi - Agra, Srinagar - Leh) Part 3
https://ppantip.com/topic/36646278
ต่อจาก Part ที่แล้วหลังจากที่พวกเราเดินทางกันเป็นเวลาทั้งวัน เราก็มาถึงเมือง Kargil ซึ่งตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางเส้นทางระหว่างเมือง Srinagar และ เมือง Leh จุดหมายปลายทางของเราในวันพรุ่งนี้ กว่าจะใช้เวลามาถึงตัวเมืองนั้นก็กินเวลาไปเกือบทั้งวัน ทุกคนเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เราเลยขอมานอนพักกันที่โรงแรมที่เราจองไว้ก่อน ที่จะออกไปเดินเล่นกันข้างนอก
ภาพของห้องนอน ราคาไม่แพงมาก สามารถจองผ่านโรงแรมได้โดยตรงผ่านอีเมลล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถนนหลักของตัวเมือง มีคนเดินไปมากันเต็มไปหมด หน้าคนของคนพื้นเมืองที่นี่จะไม่เหมือนกับแขกอินเดียเลย
ส่วนมาก จะมีความเป็นแขกขาวซะมากกว่า นั้นก็เพราะคนส่วนใหญ่นั้น นับถือศาสนาอิสลาม
ณ เวลาใกล้ค่ำ ก็จะได้ยินเสียงสวดมนตร์ ตามพิธีของชาวอิสลาม ณ ตอนนั้นที่ไป เป็นช่วงถือศีลอด ของพวกเค้าพอดีเลย
เช้าวันต่อมา พวกเราต้องเดินทางกันต่อเพื่อไปยังเมือง Leh
ระหว่างวิวทีมีภูเขาสีเขียวๆ มีต้นไม้ เริ่มเปลี่ยนเป็นภูเขาสีน้ำตาลๆ ที่ไม่หิมะปกคลุมอยู่บนยอด
ซึ่งจะสักเกตุได้ว่า เราเริ่มได้ระดับขึ้นมาสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว
นอกจากวิวที่ดูเปลี่ยนไป อีกอย่างหนึ่งที่สังเกตุอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การตกแต่งบ้านของผู้คนนั้น เริ่มเห็นการนำธงหลากสี หรือธงมนตร์มาประดับให้เราเห็นได้ทั่วๆไปตลอดเส้นทาง
หลังจากออกรถมาได้ซักแป๊ป คนขับรถของเราก็แวะจอดพัก ให้กินข้าวเช้ากันที่นี่ก่อน
ชนแก้วชานมกันก่อนเดินทางต่อ เส้นทางยังอีกยาวไกลลลลลล
กุ๊กชาวลาดั้ก นอกจากชาจะอร่อย ยังมีความเล่นกล้องอีกก
ระหว่างทางพวกเราเห็นคนจอดถ่ายรูปกัน ไหนๆก็ไหนๆ ขอถ่ายบ้างหน่อย ไม่รู้จะมาได้สัมผัสฟีลแบบนี้อีกสักกี่ครั้งกัน
ระหว่างทางก่อนที่จะถึงยังตัวเมือง Leh จะต้องผ่านจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันมากเลยก็คือ
Magnetic Hill เป็นที่ๆที่เมืองคุณยืนอยู่กลางถนน แล้วฉากหลังเป็นภูเขานั้น จะเหมือนกับว่า
ภูเขานั้นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีแรงดึงดูดตัวเราเข้าไป (เค้าว่าอย่างนั้นนะ)
ส่วนตัวพวกเราไม่ได้ถ่าย เพราะ รถสวนไปมา เยอะมากก อีกต้องแย่งกับพี่แขก กระโดดมาอยู่ในเฟรมอีกก
ได้รูปสวย แต่โดนสิบล้อทับ คงไม่คุ้ม555555
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงเมือง Leh แล้วววว หลังจากหลังขดหลังแข็งนั่งรถมา เจ็ดพันแปดร้อยสามสิบเอ็ดจุดหนึ่ง โค้ง
เราก็มาถึงงงงง ตัวเมืองนั้น มีร้านขายของเต็มไปหมด ใจกลางเมืองก็จะมีแต่นักท่องเที่ยวเดินกันเต็มไปหมดเช่นกัน
แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะเป็นคนอินเดียซะมากกว่า เห็นรีวีวคนไทยมากันเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ แทบไม่เจอเลยด้วยซ้ำ
ภายในร้านอาหารทิเบต จะมีรูปขององค์ดาไลลามะ ติดอยู่ทุกที่
อาหารมื้อแรก ผัดหมีรสชาติคล้ายกับมาม่าผัดซีอิ้ว พอกินได้ แต่ตอนนั้นคิดถึงอาหารไทยจะแย่ TT
สัญญาณมือถือก็ไม่มี อินเตอร์เนตก็ล่มทั้งเมือง
ร้านขายยาที่พวกเรามาซื้อยากันเป็นประจำ
กลับมาถึงที่พัก ไฟดับบบ! มาวันแรกก็โดนรับน้องเลย
แต่มันไม่ใช่ปัญหาหรอก เพราะไม่มีแอร์มันก็หนาวอยู่ละ แต่ปัญหาคือ จะอาบน้ำที แบบว่ามันโคตรจะหนาว
หนาวโคตรๆ เลยก็ว่าได้
แขกที่พัก Guest house เดียวกันต้องกินข้าวโดยใช้ตะเกียงเพื่อส่องสว่าง
https://ppantip.com/topic/36610838
Part 2 : [CR]***Incredible India!*** รีวิว(เล่าเรื่อง) ประสบการณ์ครั้งแรกที่ดินแดนภารตะ (Delhi - Agra, Srinagar - Leh)
https://ppantip.com/topic/36646278
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น