สวัสดีคะ นี่เป็นการ review ใน pantip ครั้งแรกเลย review ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวที่ในฝัน ที่อยากไปมาก พอได้ไปแล้วพูดเลยว่าสวยกว่าที่คิดอีกคะ

การเดินทางครั้งนี้เริ่มตั้งแต่ 2 ปีก่อนก็ว่าได้ อยากไปนั่งศึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว จนมาเป็นรูปเป็นร่างเอาประมาณเมื่อปีที่แล้วคะ เริ่มจากติดต่อไปที่โรงแรมที่โน้น ว่านไป 2 โรงแรมคะ แต่ได้รับการติดต่อกลับมา 1 ที่ ก็เลยแจ้งเค้าไปว่าเราอยากไปไหนบ้าง และให้เค้าจัดตารางการท่องเที่ยวให้คะ จริงๆ ทัวร์ในไทยมีหลายที่นะคะ แต่เราชอบไปเองคะ เลยติดต่อเองไปที่นู้นเลย โชคดีคะโรงแรมที่เราติดต่อไปเค้ามีบริษัททัวร์ของเค้าเหมือนกัน เค้าก็เลยสามารถจัดทริปให้เราได้ตามที่เราต้องการคะ

การเดินทางในครั้งนี้เราแจ้งทาง agent ไปว่าจะไปช่วงไหน จริงๆ เรามี 2 ช่วงในใจนะคะ เป็นช่วง 25-3 May 15 กับ 30 -12 May 15 แต่เรามีข้อแม้ที่แจ้งทาง agent ไปนะคะ ว่าเราอยากเดินทางจาก Kashmir ไป Leh ทางรถยนต์ เพราะเราเคยอ่านมาว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดในโลก เราเลยเลือกช่วง 30 -12 May เพราะทั้งเราและทาง agent คิดว่าถนนน่าจะเปิดแล้ว เส้นทางที่เราเดินทางจะเป็นภูเขาหิมะนะคะ หรือที่ทุกคนรู้คือเทือกเขาหิมาลัยคะ (แต่ก็สามารถเกิดการผิดพลาดได้คะ ยังไงลองอ่านไปเรื่อยๆได้นะคะ กับธรรมชาติเราคาดการณ์อะไรไม่ได้เลยจริงๆ คะ)




หลังจากที่เราสรุปเรื่องวันและสถานที่กับทาง agent เรียบร้อยแล้วเค้าก็จะส่งสรุป program มาให้ตามด้านล่างนะคะ

29 Apr 15    Bangkok - Delhi                           
30 Apr 15    Agra (Taj Mahal)
1 May 15     Delhi – Srinagar
2 May 15     Srinagar   
3 May 15     Srinagar - Gulmarg - Srinagar
4 May 15     Srinagar - Pahalgam - Srinagar
5 May 15     Srinagar - Sonmarg - Kargil
6 May 15     Kargil - Leh
7 May 15     Leh : Leh (Excursion to Monasteries)
8 May 15   Leh to Nubra Valley (125 Kms / aprx. 06 hrs)
9 May 15    Nubra Valley to Leh
10 May 15  Leh to Pangong Lake (06 hours approx.)
11 May 15    Leh
12 May 15  Delhi - Bangkok

อันนี้เป็นทริปแบบย่อนะคะ ถ้าหากว่าใครอยากได้ทริปแบบเต็มบอกมาได้นะคะ เดี๋ยวส่งให้จ้า กล้วว่าใส่ลงมาในนี้แล้วจะยาวเกินไปจ้า    การเดินทางไป India มีสายการบินหลายสายการบินนะคะ เราเข้าไปเช็คราคาจากเว็บ http://www.cheaptickets.co.th ดูว่าช่วงเวลาที่ไปเครื่องบินสายการบินไหนให้ราคาดีที่สุดคะ

สายการบินระหว่างไทย –Delhi India
1.    Thai Airway
2.    Air India
3.    Jet Airway
4.    India Air

สายการบินภายในประเทศ ระหว่าง Delhi – Kashmir – Leh
1.    Jet Airway
2.    Air India

ลืมบอกไปเลยคะ ค่าเงินของอินเดียจะใช้เป็นเงินรูปีนะคะ ตีแล้วจะถูกว่าเราอยู่ประมาณครึ่งๆ เลยคะ อย่างสมมุติ เงินเรา 5000 บาท ก็จะประมาณ 10,000 รูปีนะคะ อันนี้คือตีให้แบบคราวๆคะ

-    มาถึงการเดินทางกันบ้างคะ เหยียบสนามบินอินเดียแล้ว อยากให้เพื่อนๆ ใจแข็งกะคนที่เข้ามาวุ่นวายกะเรานิดนึงนะคะ อย่าไปสนใจ say no อย่างเดียวเลยคะ ส่วนเราชินแล้ว เพราะอยู่โน้นมานาน แต่แฟนเราสิ ถึงกับงงไปเลย ให้เราเดินไปหาคนที่มารับเราอย่างเดียวเลยนะคะ ไม่ต้องไปสนใจคนที่จะมาทำเป็นช่วยโน้นนี่ เพราะพวกนี้จะเอาเงินจ้า ไปถึงอินเดียก็พักผ่อนกันก่อนเลยคะ เพราะไปถึงตี 1 แล้ว อีกวันกะลุยเที่ยวคะ

-     ที่แรกที่เราไปเลยคือ Taj Mahal จริงๆ จะบอกว่านี่เป็นการไป Taj Mahal ครั้งที่ 2 ของเราแล้ว แต่ไหนๆ รอบนี้ไปกับแฟน แล้วแฟนเราก็พึ่งไปอินเดียเป็นครั้งแรก ก็เลยต้องจัดคะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าไปยังไม่ถึงนะคะ เราออกจาก Delhi 8 โมงเช้า ใช้เวลานั่งรถไปประมาณ 3-4 ชม นะคะ ถนนดีคะ อันนี้นั่งไปแบบชิวๆ ได้เลย ถ้าถามจริงๆ ระยะทางไม่ได้ไกลนะคะ น่าจะเท่ากับไปหัวหิน ที่คนที่นั้นเค้าขับรถกันช้า เพราะว่ามีป้ายกำหนดห้าขับเกิน 70 กิโลจ้า ลืมบอกเรื่องอากาศกันไปเลย อากาศที่โน้นร้อนนะคะ แทบละลาย ยิ่งไปหน้าร้อนด้วย ส่วนถ้าใครอยากไปเที่ยว Taj Mahal หรือ Delhi ช่วงสิ้นปี อากาศจะหนาวมากกกก นะคะ เคยไปสัมพัสช่วงนั้นมาแล้ว











Agra Fort









-    วันที่สอง ตื่นแต่เช้าไปขึ้นเครื่องเลยจ้า ตื่นเต้นมากกกพูดเลย จะได้ไปที่ที่อยากไปแล้ว ได้นั่งเครื่องบินบินผ่านเส้นทางที่เค้าเรียกว่าเส้นทางที่สวยที่สุดในโลก การบินผ่านจาก Delhi ไป Kashmir จะบินขึ้นสู่เทือกเขาหิมาลัย ขอบอกว่าสวยมากๆๆ คะ Kashmir เป็นเมืองที่อยู่บนหุบเขาหิมาลัย จะมีชายแดนติดกับปากีสถานและจีนคะ คน Kashmir นับถือศาสนาอิสลามนะคะ เมือง Kashmir จะมีอากาศหนาวนะคะ ขนาดช่วงที่ไปอุณภูมิประมาณ 12 องศาคะ ถ้าไปหน้าหนาวคงมีหวังแข็งตายแน่เลย แต่ถ้าไปช้ากว่าช่วงที่เราไปก็อาจจะไป Gulmarg ไม่ได้นะคะ เพราะหิมะอาจจะละลายหมดแล้ว

เราถึง Kashmir ประมาณ ช่วงบ่ายได้คะ ถ้าใครไปถึงไม่ต้องตกใจกับสนามบินนะคะ เนื่องจากเมือง Kashmir เค้าเปิดมาได้ไม่นาน จึงยังคงอยู่ในการปกครองของทหาร ก็จะมีทหารยืนเต็มไปหมดเลยคะ ไม่ว่าจะเป็นในสนามบินหรือว่าที่อื่นๆ จึงมีการตรวจหลายขั้นตอนคะ ทางที่ดีนะคะอย่าลืมคอนเฟริมวันกับทาง agent ให้ไปรับด้วยนะคะ ไม่งั้นอาจจะออกจากสนามบินลำบากนิดนึงคะ เพราะเค้าจะเช็คว่าเรามาพักที่ไหน ใครเป็นคนดูแลคะ

พอเราไปถึงก็จะมี Mr. Veer เค้าจะเป็นคนดูแลเราตลอดการเดินทางที่ Kashmir เลยคะ ออกมาจากสนามบินได้ก็ตรงไปที่พักเลย ที่พักยอดฮิตของ Kashmir ก็คือ BoatHouse คะ ที่นี่มี Boathouse เยอะมากกกก มีประมาณ 6000 กว่าหลังคะ แต่ละหลังก็จะเป็นคนละโรงแรมนะคะ ของเราพักที่ Almost Heaven คะ วิวดี ที่พักสะอาด ดูแลดีคะ การเดินทางไป Boathouse ก็จะมีท่าต่างๆ หลายท่าคะ แต่ถ้าเราพักโรงแรมไหนก็จะไปขึ้นที่ท่าน้ำตรงนั้นคะ เข้าออกทางเรืออย่างเดียวเลย เรียกว่าได้นั่งเรือทุกวัน

เข้าที่พักเก็บของ agent ก็จะมาจัดโปรแกรมกับเราอีกทีนะคะ เนื่องจากว่าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและหลายๆ ผู้คน และหลายๆ อย่างด้วยคะ เอาเข้าจริง ตารางแทบไม่ได้เรียงลำดับตามโปรแกรมเลยคะ แต่ว่าได้ไปครบทุกที่นะคะ อย่างวันแรกเรียกว่านั่งเรือชิวชมบึงเลยคะ เค้าก็จะพาไปวนดู lake ที่มี boathouse คะ lake ที่ Kashmir ใหญ่มากคะ เห็นว่ามีประมาณ 3 lake ในที่เดียวกัน นั่งเรือเล่น เค้าก็จะพาไป Floating Marketing ในนั้นด้วยนะคะ ก็จะมีร้านค้าหลายร้าน จะขายพวกผ้า Kashmir และของอินเดียต่างๆคะ วันแห่งการพักผ่อนคะ พรุ่งนี้ค่อยลุยเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆรอบๆ Kashmir คะ

บินผ่านภูเขาหิมาลัย มันชั่งสวยจริงๆคะ









ถึงแบ้ววววว ที่ที่ใครๆ ก็อยากมาพัก ชิวมาก ชิวไปนะ























มาถึงวันแรกก็มีเรื่องให้ลุ้นแล้วคะ จากที่เราเล่าตั้งแต่แรก เราอยากเดินทางจาก Kashmir ไป Leh ทางรถยนต์เพราะเค้าบอกว่าเป็นเส้นทางรถยนต์ที่สวยที่สุดคะ แต่ agent ก็แจ้งเราว่า อาจจะไปไม่ได้ เนื่องจากว่าถนนยังปิดอยู่ เพราะทหารยังเคลียทางไม่เรียบร้อย เนื่องจากปีนี้หิมะตกหนักคะ มันก็เลยต้องเป็นเรื่องที่ลุ้นทุกวันเลยคะ ทาง agent เค้าก็เตรียมแผน 2 แผน 3 ไว้ให้นะคะ ถ้าหากไปรถยนต์ไม่ได้จริงๆ ก็อาจต้องไปทางเครื่องบินหรือไม่ก็ถ้าหากถนนเปิดเป็น one way ก็อาจต้องนอนที่ Kashmir เพิ่มอีก 1 วัน
การเดินทางแบบ one way คือ วันนี้เค้าอาจจะให้รถจาก Kashmir ไป Leh อย่างเดียว หรือ อาจจะจากฝั่ง Leh มา Kashmir คะ อันนี้ต้องแล้วแต่ทางทหารจริงๆ รอๆๆ ลุ้นๆๆ คะ

-    มาถึงวันที่ 3 กันบ้างนะคะ วันที่ 3 เราเปลี่ยนแผนอีกแล้วคะ วันนี้เราเปลี่ยนไป Pahalgam กันคะ การเดินทางไป Pahalgam ค่อนข้างนานนะคะ ประมาณ 3 ชม กว่าเนื่องจากว่าทางที่ไปไม่ค่อยดีคะ เค้ากำลังซ้อมถนนกัน เนื่องจากว่าเมื่อปีก่อนทาง Kashmir เจอน้ำท่วมใหญ่เข้าไปคะ Pahalgam เป็นเมืองเมืองนึงของ Kashmir นะคะ ตอนที่เราไปหิมะมีน้อยแล้วคะ แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะคะ เค้าบอกกันว่าถ้าได้ไป Pahalgam จะทำให้เรามีชีวิตยืนอีก 10 ปีคะ ^^ ถ้าไปช่วงหน้าหนาวภูเขาก็จะเต็มไปด้วยหิมะคะ อันนี้เราเลยได้เห็นภูเขาสีเขียว แม่น้ำที่น้ำแข็งละลายลงมาคะ บรรยากาศดี อากาศเย็น หายใจสดชื่นสุดๆ คะ Love เลย

การเดินทางขึ้นไปบนภูเขา เราต้องขี่ม้าแคระขึ้นไปนะคะ ก็จะมีค่าใช่จ่ายตกประมาณ 800 รูปีต่อคนคะ โดยจะมีคนลากม้าแคระไปกับเราด้วยนะคะ ขี่ม้าแคระ ตื่นเต้นดีคะ เรียกว่าเกร็งได้เลย 5555 เหงือออกเลยทีเดียว ยิ่งเวลาม้าเดินในที่ที่ไม่เรียบนะคะ ลุ้นคะ เวลาที่เดินลงจากเขาเสียวคะ กลัวมาก แต่สนุกคะ การไปเที่ยวที่โน้นเราจะไม่ได้เจอม้าแคระที่เดียวนะคะ ที่อื่นก็มีคะ