บันทึกการเดินทางของการลดน้ำหนัก โดย MrTaam

สวัสดีทุกท่านครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ลองมีโอกาสมาเขียนแชร์เรื่องราว เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ หรือได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้กับท่านอื่น ๆ นะครับ ถ้าหากในการเขียนมีความผิดพลาด หรือมีข้อมูลใดที่ไม่ถุกต้อง อาจจะต้องขออภัย และฝากเสนอแนะกันด้วยนะครับ

บทเริ่มต้น

เนื่องจากเกิดมาก็เป็นเด็กเจ้าเนื้อมาโดยตลอด และเป็นมนุษย์ที่ความสุข จากการกินซะด้วย และถ้าไปกันหลายคน และสั่งมาเยอะ กระผมก็จะกินให้หมดจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง ทำให้การลดน้ำหนักเป็นส่วนนึงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับผมตลอดเวลาครับ พอลดน้ำหนักได้อีกสักพักและเริ่มกับมากินปรกติ พอน้ำหนักดีดกลับไป  จนรอบเอวเริ่มเกินไปกว่า 38 นิ้ว ก็วนกลับมาเริ่มลดอีกรอบ เพราะไม่งั้นหากางเกงเริ่มยากแท้   รอบล่าสุดก่อนหน้า น้ำหนักเริ่มขึ้นมาที่ 86 กก ใช้เวลาลด 4 เดือน ลดลงได้ 6 กก จากนั้นอีก 4 เดือนต่อมา กลับคืนสู่น้ำหนักสู่เดิม และจากนั้นก็ทะลุน้ำหนักเดิมได้อย่างไม่ยากเย็น   ตูละเบื่อ เพี้ยนรมเสีย


สำหรับรอบนี้ครับ เริ่มหลังจากไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดได้สักสามเดือนที่เชียงใหม่ กิจกรรมยามเย็น ก็เป็นการไปลองกินโน่นนี้ นั้น แล้วก็กลับไปนอนที่ห้อง และก็เข้าสู่โหมดกางเกงเริ่มฟิตจัดอีกตามระเบียบ ด้วยพฤติกรรมมาตรฐานเช่นนี้  เริ่มปีใหม่มา 1 มกราคม 2017  น้ำหนักขึ้นไปที่ 88 กก และกางเกงไซร์ 38 นิ้ว ก็เริ่มฟิตอย่างเห็นได้ชัด ระดับ BMI อยู่ที่ 28 ก็ใช้วิธีลดแบบเดิม โดยการควบคุมแป้งกินโปรตีนและไขมันเป็นหลัก ตามแบบที่เคยฟังแบบงู ๆ ปลา ๆ ของ Atkins Diet  ก็สามารถลงมาได้ที่ 76 - 77 ใน ห้าเดือน และก็เริ่มค้างอยู่ที่ระดับนี้ได้ ไม่ลดลงอีกค้างอยู่สองเดือน โดยยังควบคุมแนวทางการกินในแบบเดิม

สำหรับเพื่อนที่อยากคำนวณ BMI สำหรับคนไทย   http://www.hooraygoodhealth.com/obese_calc.html อ้างอิงเกณฑ์ของ WHO ซึ่งเดิมผมจะใช้เกณฑ์ที่ 25 kg/m2 มาตลอดครับ แต่จากที่ลองค้นเพิ่มเติมเลยพึ่งเห็นว่าจะมีเกณฑ์ที่ต่างกันระหว่างชาติตะวันตกกับตะวันออก ซึ่งส่วนนึงเองอาจจะเกี่ยวข้องจาก %body fat ที่แตกต่างกัน ถ้าใครสนใจรายละเอียดลองดูได้ลิงค์ด้านล่างครับ

http://www.wpro.who.int/nutrition/documents/docs/Redefiningobesity.pdf


รอบนี้น้องที่ทำงานเริ่มแซวว่า กำลังพนันกันอยู่ว่ารอบนี้ พี่จะอ้วนกลับมาภายในกี่เดือน  ฮีฮีฮี  เพี้ยนไฟลุกเนื่องจาก โดนดูถูกเช่นนี้ รอบนี้กะสู้ตายครับ จะเอาให้ได้ BMI อยู่ที่ 22 เพื่อเป็นค่าน้ำหนักปรกติ ซึ่งยังไม่เคยสำเร็จมาก่อนตั้งแต่เริ่มอายุมีเลขสามนำหน้า  และต้องการปรับให้น้ำหนักอยู่อย่างคงที่ หรืออย่างน้อย BMI ไม่เกิน 24.   เนื่องจากรอบนี้ตั้งใจว่าจะไม่เป็นแบบอดีต (ไม่รู้จะรอดไหม) ​ฉะนั้นแล้วเริ่มต้องคิดตาม Eistien quote ที่ว่า

“ Insanity  :   doing the same thing over and over again and expecting different results”  Albert Einstein

ดังนั้นรอบนี้เลยทำการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้น และไม่ให้ซ้ำรอยให้ได้  เพราะเวลาลดนี้แสนทรมานกว่าจะลง อีทีขึ้นนี้ไม่แคร์สื่อเลยครับ  ทรมานแท้


หลังจากด้วยความตั้งใจรอบนี้ เลยลองหาหนังสือมาอ่านจริงจังมากกว่าที่เคยฟังหรืออ่านเอาผ่าน ๆ อย่างทุกครั้ง ผมเลยได้ลองมีโอกาส อ่านหนังสืออยุ่ประมาณ 3 - 4 เล่ม  อันได้แก่ FAT for Fuel,  Ketogenic Clarity, Diet Myth, Obesity code และเล่มปัจจุบัน กำลังลองอ่าน  The China Study.  ซึ่งในแต่ละเล่มก็จะมีเนื้อหาในประเด็นที่จะใช้ช่วยเรื่องของการลดน้ำหนักที่มีความคล้ายหรือแตกต่างกันไปครับ  และผมก็กำลังจะทดลองกับตัวเองในแต่ละเทคนิค ที่แตกต่างกันไป โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าหลักการในแต่ละแบบก็จะได้ผลในระยะสั้นแน่นอน ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำตามอย่างจริงจัง  แต่รอบนี้ต้องการมองยาว ๆ เลยจะลองศึกษาแต่ละรูปแบบที่เหมาะสมกับนิสัยของตัวเอง เพื่อให้ทั้งน้ำหนักอยู่ในระดับควบคุม และยังคงให้สุขภาพที่ดีด้วยครับ

จากข้อมูลในหนังสือ ที่อ่านถึงณ ตอนนี้ ยกเว้นในส่วนของ The china study ผมจะสรุปออกเป็นประมาณสี่กลุ่ม ตามความเข้าใจ

การควบคุมปริมาณแคลอรีเข้า และออก
การควบคุมอัตราส่วนของแป้ง, โปรตีนและไขมัน
การควบคุมอินซุลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากอาหารที่เราทาน
ปริมาณจุลินทรย์ที่อยู่ในร่างกายเรา ซึ่งมีมาจากประเภทอาหารที่เราทานเข้าไป

โดยบางวิธีการ ก็ได้มีการลองทำตามไปแล้วและได้เรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งจะมาแชร์กับเพื่อน เพื่อเป็นประโยชน์ หรือถ้ามีคำแนะนำ ว่าควรปรับปรุงอย่างไรเพิ่มเติมนะครับ แล้วเดียวจะมาพิมพ์ต่อนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่