"ทำไมถึงเลือกมาที่นี่ล่ะ ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวมาเลย" คือคำถามที่สองสาวอิตาเลียนถามผมขณะที่ขับรถพามาส่งในตัวเมืองเก่า
ผมเจอสองสาวหลังจากมาถึงที่สถานีรถไฟของเมืองนี้ ผมถามทางไปเมืองเก่า โดยคาดไม่ถึงเลยว่า ทั้งสองจะอาสาขับรถพาไปส่งถึงที่

"เห็นภาพสะพานหินเชื่อมระหว่างหุบเหวสวยดี เลยอยากมาเห็นกับตา" ผมตอบไป "ภูมิภาคนี้สวยมาก ครั้งนี้มาเป็นครั้งที่ ๒ เพราะครั้งแรกไม่มีเวลาพอไปเยี่ยมชมเมืองทุกเมืองที่อยากไป"

"งั้นเธอต้องหาเวลาไปเมือง Trani ให้ได้นะ แล้วเธอจะชอบแน่ ๆ"
(หึหึ และแล้วก็ได้ hidden gem เข้ามาในลิสต์อีกเมืองหนึ่งโดยไม่ทันตั้งตัว ผมคิดในใจ)

พอมาถึงจุดที่ใกล้สะพานที่สุด สองสาวก็ปล่อยให้ผมลง โดยผมไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณ

Gravina in Puglia (กราวีน่า อิน พูลเลีย) แปลตรงตัวว่า โกรกธารในพูลเลีย เป็นเมืองที่สร้างบนฝั่งของบริเวณที่ถูกแม่น้ำกัดเซาะจนเป็นหุบเขาลึก ที่นี่มีการตั้งถิ่นที่อยู่ตั้งแต่สมัยยุคหิน ผู้คนสร้างที่อยู่อาศัยโดยเจาะหินเข้าไปในภูเขา แต่นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ใครจำภาพพร้อมคำใบ้ที่ผมเคยลงไว้ เมืองนั้นทั้งเมืองเกิดจากการเจาะหินเข้าไปแทบทั้งหมด ไว้ผมเขียนปิดท้าย series "ณ ส้นรองเท้าบู๊ทในอิตาลี" ในภายหลัง  ;)

ผมเดินข้ามสะพานไปเพื่อเก็บวิวของตัวเมืองทั้งหมดพร้อมสะพาน จากรูปจะเห็นมหาวิหารเป็นจุดสูงสุดของเมือง จากนั้น ก็มีเวลาไปเดินเล่นในเมือง ผู้คนมองผมราวกับไม่เคยเห็นคนเอเชียมาที่นี่มาก่อน

ผมเห็นชาวบ้านเอาผลิตผลทางการเกษตรมาวางขายหน้าบ้าน ตั้งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่มีคนเฝ้า ใครจะหยิบไปก็วางเงินไว้ น่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีว่า ผู้คนในเมืองนี้ไว้เนื้อเชื่อใจกันอยู่ ผมเดินไปเรื่อย ๆ ก็ยังเห็นผู้คนใช้ชีวิตปกติโดย คุณลุงคุณป้าจับกลุ่มคุยกัน ไม่ก็เล่นหมากรุก บ้านเรือนมีผ้ามาตาก

นี่สิคือการท่องเที่ยวที่ผมใฝ่ฝัน

ผมเดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟตามทางที่สองสาวบอกก่อนที่จะปล่อยผมลง จากนั้นก็กลับไปเมืองที่ผมทิ้งเป็นปริศนาไว้

โปรดติดตามตอนต่อไป  ;)
-----------------------------------------------------
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ https://www.facebook.com/IRememberEurope/