
สโลวีเนียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผมมาเกิน ๑ ครั้ง เพราะมีสถานที่ที่น่าสนใจและทำให้อยากมาโดยไม่ลังเลอยู่เรื่อย ๆ ครั้งแรกที่ได้เห็นรูปแม่น้ำสีฟ้าใสแจ๋วไหลผ่านโกรกธารหินปูนของ Tolminska Korita ผมก็ตั้งมั่นว่า จะต้องมาเยือนสักครั้งให้จงได้ พร้อมแล้วก็ทำเรื่องขอลาและจองตั๋วโดยพลัน
ครั้งนี้คือการมาเยือนสโลวีเนียครั้งที่ ๓ พอมาถึงเมืองหลวง Ljubljana (ลยู-บลยา-นา) ด้วยเที่ยวบินจากบรัสเซลส์ ก็ต่อรถบัสอีก ๔ ชั่วโมง เพื่อมาพักที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อว่า Tolmin ชื่อเดียวกับแม่น้ำที่ไหลผ่าน Tolminska Korita (Tolminska เป็นคุณศัพท์ของคำว่า Tolmin ส่วน Korita แปลว่า โกรกธาร (gorge))
Tolmin อยู่ห่างจากทางเข้า Tolminska Korita ราว ๒ กิโลเมตร ผมตื่นแต่เช้าแล้วเดินเรียบทางแม่น้ำ ลัดเลาะผ่านหุบเขา และหมู่บ้านริมทาง จนมาถึงที่อุทยานราวเวลา ๘.๔๕ น. ก่อนเวลาเปิดอุทยาน ๑๕ นาที



แต่คุณป้าเจ้าหน้าที่ขายตั๋วใจดีมาก ขายตั๋วให้ผมเข้าไปก่อนได้เลย ตอนนั้นยังไม่มีใครมาถึงเลย เหมือนกับได้เป็นเจ้าของสถานที่ซะงั้น อิอิ
ก่อนที่จะลงไปดูแม่น้ำด้านล่าง ผมเลือกเส้นทางผ่านสะพานปีศาจ หรือ Devil’s Bridge (Hudičev most) ที่ทอดผ่านภูเขา ๒ ลูก เหนือโกรกธารด้านล่างถึง ๖๐ เมตร แต่ก่อนเป็นสะพานไม้ ก่อนที่รัฐบาลอิตาลีจะสร้างเป็นสะพานเหล็กมั่นคงปลอดภัยในเวลาต่อมา ตอนเดินผ่านสะพานเลยไม่ได้รู้สึกหวาดเสียวเท่าไหร่ ถ้าเป็นไม้ ใจคงหล่นไปที่แม่น้ำด้านล่างแน่ ๆ อ้อ! คำว่า Devil's Bridge ยังใช้เป็นชื่อเรียกสะพานที่ทอดข้ามโกรกธารที่แคบและลึกที่อื่นด้วย ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียวครับ

ข้ามสะพานมา เดินลัดเลาะป่าไปอีกสักหน่อยก็จะเจอ "หัวหมี" (Medvedova glava) เป็นสะพานที่เกิดจากหินก้อนหนึ่งหล่นลงมาเชื่อมผาสองด้านพอดี ที่ได้ชื่อว่า "หัวหมี" ก็เพราะมีมอสปกคลุมจนดูเหมือนหัวของหมีที่ขนรุงรังนั่นเอง ด้านล่างมีน้ำตกสูงไหลผ่าน กระทบกับแสงแดดทอประกาย สวยงามฟรุ้งฟริ้ง

ทีนี้ก็มาถึงสิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด
ผมเดินต่อลงไปข้างล่างจนเห็นแม่น้ำสีฟ้าใสอย่างในรูปโฆษณา ไม่ผิดหวังจริง ๆ ไม่มี photoshop ของจริงสวยงามเหมือนในรูปหรืออาจสวยกว่าด้วยซ้ำ ผมเดินลัดเลาะไปตามช่องโกรกธารเรื่อย ๆ จนไปถึงบริเวณตาน้ำ มองลอดเข้าไปผ่านช่องหินแคบที่ปกคลุมด้วยมอส พื้นหลังเป็นน้ำสีฟ้าใสไหลอ้อยอิ่ง ยังกับฉากในเกมแนว fantasy สมัยยุคกลางเลย


ตอนที่มาเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เริ่มเข้าหน้าร้อนแล้ว แม้อุณหภูมิเหนือดินจะเย็นสบายค่อนข้างร้อนนิดนึง แต่อุณหภูมิน้ำคนละเรื่องเลย เย็นเฉียบราวน้ำแข็ง แค่เอานิ้วจุ่มก็ชาแล้ววว


สักพักมีน้องหมาที่ไหนไม่รู้มาแจม เลยถ่ายรูปไว้ซะเลย

ผมเดินเล่นถ่ายรูปได้ราว ๑ ชั่วโมง ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวมา แต่เท่านี้ก็เต็มอิ่มแล้ว ผมเดินขึ้นเขากลับไปที่ทางเข้าและกล่าวขอบคุณคุณป้าที่เปิดให้เข้าก่อนจนได้ดื่มด่ำบรรยากาศคนเดียวจนจุใจ


ตอนต่อไปก็ยังเกี่ยวกับแม่น้ำ Tolmin อยู่นะครับ เพียงแต่มีแม่น้ำอีกสายมาแจมด้วย โปรดติดตามครับ
ปล. เกือบลืม วันนั้นถึงได้เข้าใจว่าทำไม gorgeous ถึงได้หมายความว่า งดงามตระการตา ผมทึกทักตั้งทฤษฎีเอาเองว่า คำว่า gorgeous น่าจะมาจากคำว่า gorge (โกรกธาร) ก็เพราะวันนั้น Tolminska Korita ช่างดูงดงามตระการตาเสียจริง ใครรู้ที่มาที่แท้จริงของ gorgeous ก็มาบอกเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
------------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ
https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/
สโลวีเนีย (๑): ถึงบางอ้อของคำว่า gorgeous ที่ Tolminska Korita
ครั้งนี้คือการมาเยือนสโลวีเนียครั้งที่ ๓ พอมาถึงเมืองหลวง Ljubljana (ลยู-บลยา-นา) ด้วยเที่ยวบินจากบรัสเซลส์ ก็ต่อรถบัสอีก ๔ ชั่วโมง เพื่อมาพักที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อว่า Tolmin ชื่อเดียวกับแม่น้ำที่ไหลผ่าน Tolminska Korita (Tolminska เป็นคุณศัพท์ของคำว่า Tolmin ส่วน Korita แปลว่า โกรกธาร (gorge))
Tolmin อยู่ห่างจากทางเข้า Tolminska Korita ราว ๒ กิโลเมตร ผมตื่นแต่เช้าแล้วเดินเรียบทางแม่น้ำ ลัดเลาะผ่านหุบเขา และหมู่บ้านริมทาง จนมาถึงที่อุทยานราวเวลา ๘.๔๕ น. ก่อนเวลาเปิดอุทยาน ๑๕ นาที
แต่คุณป้าเจ้าหน้าที่ขายตั๋วใจดีมาก ขายตั๋วให้ผมเข้าไปก่อนได้เลย ตอนนั้นยังไม่มีใครมาถึงเลย เหมือนกับได้เป็นเจ้าของสถานที่ซะงั้น อิอิ
ก่อนที่จะลงไปดูแม่น้ำด้านล่าง ผมเลือกเส้นทางผ่านสะพานปีศาจ หรือ Devil’s Bridge (Hudičev most) ที่ทอดผ่านภูเขา ๒ ลูก เหนือโกรกธารด้านล่างถึง ๖๐ เมตร แต่ก่อนเป็นสะพานไม้ ก่อนที่รัฐบาลอิตาลีจะสร้างเป็นสะพานเหล็กมั่นคงปลอดภัยในเวลาต่อมา ตอนเดินผ่านสะพานเลยไม่ได้รู้สึกหวาดเสียวเท่าไหร่ ถ้าเป็นไม้ ใจคงหล่นไปที่แม่น้ำด้านล่างแน่ ๆ อ้อ! คำว่า Devil's Bridge ยังใช้เป็นชื่อเรียกสะพานที่ทอดข้ามโกรกธารที่แคบและลึกที่อื่นด้วย ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียวครับ
ข้ามสะพานมา เดินลัดเลาะป่าไปอีกสักหน่อยก็จะเจอ "หัวหมี" (Medvedova glava) เป็นสะพานที่เกิดจากหินก้อนหนึ่งหล่นลงมาเชื่อมผาสองด้านพอดี ที่ได้ชื่อว่า "หัวหมี" ก็เพราะมีมอสปกคลุมจนดูเหมือนหัวของหมีที่ขนรุงรังนั่นเอง ด้านล่างมีน้ำตกสูงไหลผ่าน กระทบกับแสงแดดทอประกาย สวยงามฟรุ้งฟริ้ง
ทีนี้ก็มาถึงสิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด
ผมเดินต่อลงไปข้างล่างจนเห็นแม่น้ำสีฟ้าใสอย่างในรูปโฆษณา ไม่ผิดหวังจริง ๆ ไม่มี photoshop ของจริงสวยงามเหมือนในรูปหรืออาจสวยกว่าด้วยซ้ำ ผมเดินลัดเลาะไปตามช่องโกรกธารเรื่อย ๆ จนไปถึงบริเวณตาน้ำ มองลอดเข้าไปผ่านช่องหินแคบที่ปกคลุมด้วยมอส พื้นหลังเป็นน้ำสีฟ้าใสไหลอ้อยอิ่ง ยังกับฉากในเกมแนว fantasy สมัยยุคกลางเลย
ตอนที่มาเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เริ่มเข้าหน้าร้อนแล้ว แม้อุณหภูมิเหนือดินจะเย็นสบายค่อนข้างร้อนนิดนึง แต่อุณหภูมิน้ำคนละเรื่องเลย เย็นเฉียบราวน้ำแข็ง แค่เอานิ้วจุ่มก็ชาแล้ววว
สักพักมีน้องหมาที่ไหนไม่รู้มาแจม เลยถ่ายรูปไว้ซะเลย
ผมเดินเล่นถ่ายรูปได้ราว ๑ ชั่วโมง ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวมา แต่เท่านี้ก็เต็มอิ่มแล้ว ผมเดินขึ้นเขากลับไปที่ทางเข้าและกล่าวขอบคุณคุณป้าที่เปิดให้เข้าก่อนจนได้ดื่มด่ำบรรยากาศคนเดียวจนจุใจ
ตอนต่อไปก็ยังเกี่ยวกับแม่น้ำ Tolmin อยู่นะครับ เพียงแต่มีแม่น้ำอีกสายมาแจมด้วย โปรดติดตามครับ
ปล. เกือบลืม วันนั้นถึงได้เข้าใจว่าทำไม gorgeous ถึงได้หมายความว่า งดงามตระการตา ผมทึกทักตั้งทฤษฎีเอาเองว่า คำว่า gorgeous น่าจะมาจากคำว่า gorge (โกรกธาร) ก็เพราะวันนั้น Tolminska Korita ช่างดูงดงามตระการตาเสียจริง ใครรู้ที่มาที่แท้จริงของ gorgeous ก็มาบอกเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
------------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/