ออนเซ็นในบรรยากาศที่คุ้นเคยที่ยูโนะโมริออนเซ็นแอนด์สปาพัทยา
มีโอกาสได้ไปลองออนเซ็นที่พัทยามาจ้า เจ้าเดียวกับสาขาที่สุขุมวิท 26 นั่นแหละ ที่นี่เป็นสาขาใหม่ที่เขามาเปิดได้พักใหญ่แล้ว แม้จะบริการออนเซ็นและนวดเหมือนๆกันแต่ก็มีหลายอย่างที่แตกต่างเช่นกัน อาทิเช่น การตกแต่งภายในที่ไล่กันมาตั้งแต่รีเซฟชั่น คาเฟ่ และพื้นที่ออนเซ็น ที่พยายามใส่ความเป็นไทยเข้าไปได้อย่างเก๋ไก๋ โดยเฉพาะการใช้โอ่งแทนถังไม้สำหรับแช่น้ำในพื้นที่ออนเซ็น ถ้าคนญี่ปุ่นต้นตำรับมาเจอต้องร้องว้าวแน่ๆ ไอเดียครีเอทเหลือเกิน
สำหรับพื้นที่ออนเซ็นนั้นก็จะมีบ่อต่างๆคล้ายกับที่กรุงเทพแต่ในส่วนพื้นที่เอาท์ดอร์จะแตกต่างออกไปตรงที่มีความโปร่งโล่งกว่า และดูเหมือนพื้นที่ก็จะกว้างกว่าด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะแค่เห็นตัวอาคารจากด้านนอกก็รู้แล้วว่ามีความใหญ่โตแตกต่างจากที่กรุงเทพชัดเจน
อ้อ ที่นี่เนี่ย นอกจากจะมีบริการผ้าขนหนูผืนเล็ก+ผืนใหญ่+ชุดยูกาตะ แบบสาขาที่กรุงเทพแล้วยังมีกางเกงขาสั้นย้วยๆให้ใส่แช่ได้ด้วยนะ เผื่อใครไม่มั่นใจจะได้ไม่เขิน ก็ดีนะ
ในส่วนของคาเฟ่ซึ่งมีอาหารให้บริการ เราไม่หิวมากนักเลยจัดของหวานเป็นชิโรคุมะเชฟไอซ์ที่โปะด้วยถั่วแดงด้านบน พรั่งพร้อมด้วยผลไม้นานา อร่อยดีทีเดียว เสิร์ฟในขันสวยๆจ้า เพื่อนเราสั่งชาเขียวร้อนมา ให้มาทั้งกาเลย รสชาติชาเขียวเข้มข้น และเพื่อนอีกคนสั่งกาแฟมาดื่ม ถึงกับอวยว่ารสชาติกาแฟที่นี่ดีมากๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้นะว่ามันดีขนาดไหนเพราะปกติไม่ชอบดื่มกาแฟ แต่คอกาแฟเขาอวยมาแบบนี้ก็เลยเล่าสู่กันฟัง
ท้ายสุดในส่วนของห้องนอนเล่นนั้นกว้างขวางมาก เพดานโปร่งสูง น่านอนพักสักงีบก่อนกลับ ถือว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการมาผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
(ค่าบริการออนเซ็น 450 บาทต่อคน ราคาเท่ากับที่กรุงเทพเลย ส่วนค่าอาหารและเครื่องดื่มเราว่าก็ถือว่าเหมาะสมกับการบริการและสถานที่นะ ราคาประมาณห้างนั่นแหละ)
en vacance
#YunomoriOnsenandSpaPattaya #Yunomorionsen #รีวิวพัทยา #envacance
[CR] ออนเซ็นในบรรยากาศที่คุ้นเคยที่ยูโนะโมริออนเซ็นแอนด์สปาพัทยา
มีโอกาสได้ไปลองออนเซ็นที่พัทยามาจ้า เจ้าเดียวกับสาขาที่สุขุมวิท 26 นั่นแหละ ที่นี่เป็นสาขาใหม่ที่เขามาเปิดได้พักใหญ่แล้ว แม้จะบริการออนเซ็นและนวดเหมือนๆกันแต่ก็มีหลายอย่างที่แตกต่างเช่นกัน อาทิเช่น การตกแต่งภายในที่ไล่กันมาตั้งแต่รีเซฟชั่น คาเฟ่ และพื้นที่ออนเซ็น ที่พยายามใส่ความเป็นไทยเข้าไปได้อย่างเก๋ไก๋ โดยเฉพาะการใช้โอ่งแทนถังไม้สำหรับแช่น้ำในพื้นที่ออนเซ็น ถ้าคนญี่ปุ่นต้นตำรับมาเจอต้องร้องว้าวแน่ๆ ไอเดียครีเอทเหลือเกิน
สำหรับพื้นที่ออนเซ็นนั้นก็จะมีบ่อต่างๆคล้ายกับที่กรุงเทพแต่ในส่วนพื้นที่เอาท์ดอร์จะแตกต่างออกไปตรงที่มีความโปร่งโล่งกว่า และดูเหมือนพื้นที่ก็จะกว้างกว่าด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะแค่เห็นตัวอาคารจากด้านนอกก็รู้แล้วว่ามีความใหญ่โตแตกต่างจากที่กรุงเทพชัดเจน
อ้อ ที่นี่เนี่ย นอกจากจะมีบริการผ้าขนหนูผืนเล็ก+ผืนใหญ่+ชุดยูกาตะ แบบสาขาที่กรุงเทพแล้วยังมีกางเกงขาสั้นย้วยๆให้ใส่แช่ได้ด้วยนะ เผื่อใครไม่มั่นใจจะได้ไม่เขิน ก็ดีนะ
ในส่วนของคาเฟ่ซึ่งมีอาหารให้บริการ เราไม่หิวมากนักเลยจัดของหวานเป็นชิโรคุมะเชฟไอซ์ที่โปะด้วยถั่วแดงด้านบน พรั่งพร้อมด้วยผลไม้นานา อร่อยดีทีเดียว เสิร์ฟในขันสวยๆจ้า เพื่อนเราสั่งชาเขียวร้อนมา ให้มาทั้งกาเลย รสชาติชาเขียวเข้มข้น และเพื่อนอีกคนสั่งกาแฟมาดื่ม ถึงกับอวยว่ารสชาติกาแฟที่นี่ดีมากๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้นะว่ามันดีขนาดไหนเพราะปกติไม่ชอบดื่มกาแฟ แต่คอกาแฟเขาอวยมาแบบนี้ก็เลยเล่าสู่กันฟัง
ท้ายสุดในส่วนของห้องนอนเล่นนั้นกว้างขวางมาก เพดานโปร่งสูง น่านอนพักสักงีบก่อนกลับ ถือว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการมาผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
(ค่าบริการออนเซ็น 450 บาทต่อคน ราคาเท่ากับที่กรุงเทพเลย ส่วนค่าอาหารและเครื่องดื่มเราว่าก็ถือว่าเหมาะสมกับการบริการและสถานที่นะ ราคาประมาณห้างนั่นแหละ)
en vacance
#YunomoriOnsenandSpaPattaya #Yunomorionsen #รีวิวพัทยา #envacance