ตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน โรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผ่านช่วงเวลาที่รุ่งเรืองของเศรษฐกิจ สู่ยุคซบเซา การฟื้นฟู ช่วงเวลาโรคระบาด และวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ไม่เคยมีการสร้างโรงแรมที่มีขนาดใหญ่โตเช่นนี้อีกเลยในประเทศไทย
ที่นี่เป็นโรงแรมที่ไปใช้บริการมาตั้งแต่จำความได้ ด้วยความที่พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ มีถนนอย่างดีไปได้หลายเส้นทาง มีสิ่งอำความสะดวก ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยวมากมาย และโรงแรมจำนวนมาก สวนสนุกของเล่นสำหรับเด็ก สวนน้ำและคาเฟ่สำหรับวัยรุ่น ถนนกลางคืนสำหรับชาวต่างชาติ ที่พักเงียบสงบสำหรับผู้สูงวัย พัทยาเลยเป็นตัวเลือกแรก ๆ เสมอมา
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แตกต่างจากที่ผ่านมา จขกท จองผ่าน agoda ซึ่งโดยปกติ เมื่อจองที่พักที่นี่ ถ้าไม่ใช้คูปอง ก็จะโทรไปจองโดยตรงกับโรงแรม แต่วันนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว
ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง ใครที่สนใจมักจะถูกแนะนำตรงกันข้ามอยู่เรื่อย ๆ ทั้งความเก่า เรื่องบางอย่างที่เกินเข้าใจ หรือตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า ใหม่กว่า ทันสมัยกว่า แต่ไม่มีอะไรจะจริงแท้ ไปกว่าการไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เมื่อไม่นานมานี้ บริเวณนี้ยังคงพลุกพล่าน ตอนนี้ว่างเปล่าร้างผู้คน แต่ทุกอย่างยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ต้นไม้ถูกตัดแต่งสวยงาม พื้นสะอาด ปราศจากใบไม้หรือขยะ
ปัจจุบัน (มกราคม 2568) เปิดให้บริการเพียงอาคาร Ocean Wing เท่านั้น [ข้อมูลจากเพจโรงแรมฯ อาคารอื่นสามารถเปิดใช้ได้หากจองแบบกรุ๊ปเหมา]
ขณะนี้ ทางโรงแรมได้มีการรีโนเวทห้องพักบนตึกนี้อย่างหนักที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งจะเห็นได้จากรูปที่ราวกั้นของชั้น 9 ถูกเปลี่ยนเป็นกระจกทั้งหมด ส่วนในชั้นอื่น ๆ ห้องผ่านการรีโนเวทแล้วเช่นกัน แต่ไม่ทั้งหมดเหมือนที่ชั้น 9
ห้องที่ จขกท ได้รับ ก็เช่นกัน มีการทาสีใหม่ทั้งหมด กระเบื้องปูใหม่แทนพรมสีแดง หลอดไฟติดทุกดวง แอร์เย็น สว่าง สะอาด แต่ยังมีกลิ่นอายของยุคสมัยที่รุ่งเรืองในอดีต ด้วยขนาดห้องมาตรฐานที่กว้างกว่าโรงแรมสมัยหลัง
ถ้าหากพบรีวิวใหม่ ๆ ของโรงแรมฯ ในช่วงปีหลังมา อาจพบรีวิวในแง่ลบมากจนน่าตกใจ โดยเฉพาะโรงแรมร้าง รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากของที่นี่ เนื่องจากไม่มีแขกมาเข้าพักมากเหมือนสมัยก่อนแล้ว หลาย ๆ อย่างถึงแตกต่างไปจากเดิมมาก ทุกอย่างที่ต่างออกไป มาจากการที่จำนวนแขกที่เข้าพักไม่เท่ากับในอดีต ทำให้ไม่สามารถเปิดบริการได้ครบทุกส่วน
บรรยากาศล็อบบี้ที่คุ้นเคย เปลี่ยนไปแค่พลูด่างสั้นลงไปทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นชุดที่ 2 ไม่เหมือนสมัยก่อนปี 2556 ที่จะเป็นชุดหวายที่เป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบัน (มกราคม 2568) ห้องอาหาร 24 ชั่วโมงประจำตึก Ocean Wing ชื่อ Atrium Café ไม่เปิดให้บริการ รวมไปถึงห้องอาหารญี่ปุ่น Tokugawa และห้องอาหารจีน Hong Teh โดยห้องอาหารที่เปิดให้บริการคือ ห้องอาหาร Pasta Pasta ที่เดิมเป็นห้องอาหารอิตาเลียน โดยขณะนี้ให้บริการอาหารทุกอย่างของโรงแรม ทั้งอาหารไทย จีน ยุโรป รวมไปถึงอาหารเช้าแบบ A La Carte รวมไปถึงร้านกาแฟประจำโรงแรม Espresso ยังคงเปิดให้บริการเครื่องดื่มตามปกติ
สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่ คงไม่พ้นสระว่ายน้ำขนาดมหึมา และจำนวนหลายสระกระจายอยู่ตามตึกต่าง ๆ โดยขณะนี้ เปิดให้บริการที่สระ Ocean pool เพียงสระเดียว น้ำยังคงใสสะอาด บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ
Ocean pool bar ที่อยู่กลางสระน้ำ ยังคงปิดให้บริการ แต่เพียงการได้เล่นน้ำ พลางชมอาทิตย์คล้อยต่ำลง เสียงลมพัดพร้อมคลื่นกระทบฝั่ง ทำให้ใจรู้สึกปลอดโปร่ง อย่างที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ เลย
ในส่วนของ Sport Centre รวมไปถึงศูนย์ประชุมยังคงเปิดให้บริการตามปกติ (แต่ไม่ได้เข้าไปเล่น) สามารถรองรับกรุ๊ปสัมมนาได้เช่นเดิม ซึ่งเท่าที่ทราบก็พึ่งมีบริษัทพาพนักงานมาจัดเลี้ยงปีใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้
แล้วค่ำคืนก็ผ่านเข้ามา ความเงียบสงัดคืบคลานมาช้า ๆ เว้นแต่เสียงเพลงที่โรงแรมเปิดไว้ตามทาง
แล้วคืนหนึ่งก็ผ่านไป ด้วยความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานแสงอาทิตย์ยามเช้าก็ปลุกขึ้นมาพบกับอีกวันหนึ่งที่เหมือนอยู่คนละโลกกับความวุ่นวาย และชีวิตแบบเดิม ๆ ก็ถึงเวลาไปรับอาหารเช้า ซึ่งขณะนี้ต้องไปที่ร้าน Pasta Pasta ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับตึก Ocean Wing
แม้จะไม่มีแขกคนอื่น แต่ทุกอย่างยังคงถูกจัดแจงอย่างพิถีพิถัน พร้อมให้บริการอยู่ทุกเมื่อ รอวันให้คนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
ในส่วนของอาหารที่ให้บริการ เป็นแบบย่อลงจากการให้บริการปกติ ไม่เต็มเมนู แต่ปริมาณและรสชาติยังอยู่ในเกณฑ์ดีเหมือนเก่า ให้ความรู้สึกโหยหาอดีต ในวันที่ชีวิตยังคงง่ายกว่าในปัจจุบัน
และอาหารเช้าสามารถเลือกได้ตามต้องการ ในเมนูที่มีทั้งอาหารแบบฝรั่ง ขนมปัง ซุป ไข่ สลัด ชา กาแฟ อาหารไทยตามสั่ง ข้าวต้ม ผลไม้ เพราะแขกที่เข้าพักยังไม่พอให้จัดบุฟเฟ่ต์ได้เหมือนแต่ก่อน
เมื่อเสร็จจากอาหารเช้า ก็เป็นเวลาเดินชมสิ่งต่าง ๆ
ตอนนี้อาคารทั้งหมด ปิดให้บริการปกติ
จนตอนนี้ Ambassador City Jomtien โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอดีตโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงหลับไหลรอวันที่จะตื่นขึ้นมาต้อนรับแขกผู้มาพักผ่อน กลุ่มคณะประชุมจัดเลี้ยง เช่นดังที่เคยเป็นมาในอดีตอีกครั้ง
เท่าที่ทราบ ตอนนี้ทางโรงแรมกำลังเร่งรัดการรีโนเวทใหญ่แบบปิดหลายชั้น รีโนเวทพร้อมกันอย่างมากในช่วงปีนี้
(รีวิวสิ้นสุดตรงนี้ ส่วนหลังจากนี้จะใส่ในคอมเม้นแทน เพื่อไม่ให้ออกนอกประเภทกระทู้)
[CR] [[แอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน]] อดีต ปัจจุบัน อนาคต? อาณาจักร 2531 ในปี 2568
ที่นี่เป็นโรงแรมที่ไปใช้บริการมาตั้งแต่จำความได้ ด้วยความที่พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ มีถนนอย่างดีไปได้หลายเส้นทาง มีสิ่งอำความสะดวก ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยวมากมาย และโรงแรมจำนวนมาก สวนสนุกของเล่นสำหรับเด็ก สวนน้ำและคาเฟ่สำหรับวัยรุ่น ถนนกลางคืนสำหรับชาวต่างชาติ ที่พักเงียบสงบสำหรับผู้สูงวัย พัทยาเลยเป็นตัวเลือกแรก ๆ เสมอมา
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แตกต่างจากที่ผ่านมา จขกท จองผ่าน agoda ซึ่งโดยปกติ เมื่อจองที่พักที่นี่ ถ้าไม่ใช้คูปอง ก็จะโทรไปจองโดยตรงกับโรงแรม แต่วันนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว
ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง ใครที่สนใจมักจะถูกแนะนำตรงกันข้ามอยู่เรื่อย ๆ ทั้งความเก่า เรื่องบางอย่างที่เกินเข้าใจ หรือตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า ใหม่กว่า ทันสมัยกว่า แต่ไม่มีอะไรจะจริงแท้ ไปกว่าการไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เมื่อไม่นานมานี้ บริเวณนี้ยังคงพลุกพล่าน ตอนนี้ว่างเปล่าร้างผู้คน แต่ทุกอย่างยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ต้นไม้ถูกตัดแต่งสวยงาม พื้นสะอาด ปราศจากใบไม้หรือขยะ
ปัจจุบัน (มกราคม 2568) เปิดให้บริการเพียงอาคาร Ocean Wing เท่านั้น [ข้อมูลจากเพจโรงแรมฯ อาคารอื่นสามารถเปิดใช้ได้หากจองแบบกรุ๊ปเหมา]
ขณะนี้ ทางโรงแรมได้มีการรีโนเวทห้องพักบนตึกนี้อย่างหนักที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งจะเห็นได้จากรูปที่ราวกั้นของชั้น 9 ถูกเปลี่ยนเป็นกระจกทั้งหมด ส่วนในชั้นอื่น ๆ ห้องผ่านการรีโนเวทแล้วเช่นกัน แต่ไม่ทั้งหมดเหมือนที่ชั้น 9
ห้องที่ จขกท ได้รับ ก็เช่นกัน มีการทาสีใหม่ทั้งหมด กระเบื้องปูใหม่แทนพรมสีแดง หลอดไฟติดทุกดวง แอร์เย็น สว่าง สะอาด แต่ยังมีกลิ่นอายของยุคสมัยที่รุ่งเรืองในอดีต ด้วยขนาดห้องมาตรฐานที่กว้างกว่าโรงแรมสมัยหลัง
ถ้าหากพบรีวิวใหม่ ๆ ของโรงแรมฯ ในช่วงปีหลังมา อาจพบรีวิวในแง่ลบมากจนน่าตกใจ โดยเฉพาะโรงแรมร้าง รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากของที่นี่ เนื่องจากไม่มีแขกมาเข้าพักมากเหมือนสมัยก่อนแล้ว หลาย ๆ อย่างถึงแตกต่างไปจากเดิมมาก ทุกอย่างที่ต่างออกไป มาจากการที่จำนวนแขกที่เข้าพักไม่เท่ากับในอดีต ทำให้ไม่สามารถเปิดบริการได้ครบทุกส่วน
บรรยากาศล็อบบี้ที่คุ้นเคย เปลี่ยนไปแค่พลูด่างสั้นลงไปทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นชุดที่ 2 ไม่เหมือนสมัยก่อนปี 2556 ที่จะเป็นชุดหวายที่เป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบัน (มกราคม 2568) ห้องอาหาร 24 ชั่วโมงประจำตึก Ocean Wing ชื่อ Atrium Café ไม่เปิดให้บริการ รวมไปถึงห้องอาหารญี่ปุ่น Tokugawa และห้องอาหารจีน Hong Teh โดยห้องอาหารที่เปิดให้บริการคือ ห้องอาหาร Pasta Pasta ที่เดิมเป็นห้องอาหารอิตาเลียน โดยขณะนี้ให้บริการอาหารทุกอย่างของโรงแรม ทั้งอาหารไทย จีน ยุโรป รวมไปถึงอาหารเช้าแบบ A La Carte รวมไปถึงร้านกาแฟประจำโรงแรม Espresso ยังคงเปิดให้บริการเครื่องดื่มตามปกติ
สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่ คงไม่พ้นสระว่ายน้ำขนาดมหึมา และจำนวนหลายสระกระจายอยู่ตามตึกต่าง ๆ โดยขณะนี้ เปิดให้บริการที่สระ Ocean pool เพียงสระเดียว น้ำยังคงใสสะอาด บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ
Ocean pool bar ที่อยู่กลางสระน้ำ ยังคงปิดให้บริการ แต่เพียงการได้เล่นน้ำ พลางชมอาทิตย์คล้อยต่ำลง เสียงลมพัดพร้อมคลื่นกระทบฝั่ง ทำให้ใจรู้สึกปลอดโปร่ง อย่างที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ เลย
ในส่วนของ Sport Centre รวมไปถึงศูนย์ประชุมยังคงเปิดให้บริการตามปกติ (แต่ไม่ได้เข้าไปเล่น) สามารถรองรับกรุ๊ปสัมมนาได้เช่นเดิม ซึ่งเท่าที่ทราบก็พึ่งมีบริษัทพาพนักงานมาจัดเลี้ยงปีใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้
แล้วค่ำคืนก็ผ่านเข้ามา ความเงียบสงัดคืบคลานมาช้า ๆ เว้นแต่เสียงเพลงที่โรงแรมเปิดไว้ตามทาง
แล้วคืนหนึ่งก็ผ่านไป ด้วยความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานแสงอาทิตย์ยามเช้าก็ปลุกขึ้นมาพบกับอีกวันหนึ่งที่เหมือนอยู่คนละโลกกับความวุ่นวาย และชีวิตแบบเดิม ๆ ก็ถึงเวลาไปรับอาหารเช้า ซึ่งขณะนี้ต้องไปที่ร้าน Pasta Pasta ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับตึก Ocean Wing
แม้จะไม่มีแขกคนอื่น แต่ทุกอย่างยังคงถูกจัดแจงอย่างพิถีพิถัน พร้อมให้บริการอยู่ทุกเมื่อ รอวันให้คนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
ในส่วนของอาหารที่ให้บริการ เป็นแบบย่อลงจากการให้บริการปกติ ไม่เต็มเมนู แต่ปริมาณและรสชาติยังอยู่ในเกณฑ์ดีเหมือนเก่า ให้ความรู้สึกโหยหาอดีต ในวันที่ชีวิตยังคงง่ายกว่าในปัจจุบัน
และอาหารเช้าสามารถเลือกได้ตามต้องการ ในเมนูที่มีทั้งอาหารแบบฝรั่ง ขนมปัง ซุป ไข่ สลัด ชา กาแฟ อาหารไทยตามสั่ง ข้าวต้ม ผลไม้ เพราะแขกที่เข้าพักยังไม่พอให้จัดบุฟเฟ่ต์ได้เหมือนแต่ก่อน
เมื่อเสร็จจากอาหารเช้า ก็เป็นเวลาเดินชมสิ่งต่าง ๆ
ตอนนี้อาคารทั้งหมด ปิดให้บริการปกติ
จนตอนนี้ Ambassador City Jomtien โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอดีตโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงหลับไหลรอวันที่จะตื่นขึ้นมาต้อนรับแขกผู้มาพักผ่อน กลุ่มคณะประชุมจัดเลี้ยง เช่นดังที่เคยเป็นมาในอดีตอีกครั้ง
เท่าที่ทราบ ตอนนี้ทางโรงแรมกำลังเร่งรัดการรีโนเวทใหญ่แบบปิดหลายชั้น รีโนเวทพร้อมกันอย่างมากในช่วงปีนี้
(รีวิวสิ้นสุดตรงนี้ ส่วนหลังจากนี้จะใส่ในคอมเม้นแทน เพื่อไม่ให้ออกนอกประเภทกระทู้)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้