คือส่วนตัวเองเพิ่งไปนอนโรงพยายาบาลมาจากอาการติดเชื้อชนิดนึง(ค่อนข้างร้ายแรง)เข้าไปในปอดจากการรับเชื้อมาจากการไอ จาม ของคนอื่น ซึ้งตอนนั้นมีอาการเกือบตายหากรักษาไม่ทัน ทำการรักษาในโรงพยาบาลใช้เวลาไปเกือบเดือน เสียค่าใช้จ่ายไปเยอะมาก เสียงานเสียรายได้ไปเยอะมากเช่นกัน แต่ส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นเรื่องปกติของการเจ็บป่วยที่ทุกคนต้องเจอจึงไม่อยากคิดมากอะไร เพียงแต่พอออกจากนอกจากจะต้องกินยาเพื่อฆ่าเชื้อไปอีกระยะ คุณหมอให้ใส่หน้ากากอนามัยไปอีก 6 เดือนเวลาออกไปชุมชน เช่น โรงหนัง ห้าง ตลาด หรือที่ที่มีคนเยอะๆ และตัวเองก็พยายามทำตัวเป็นเด็กดีของคุณหมอตลอดโดยการใส่หน้ากากอนามัยทั้งที่ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าดูเป็นปกติแล้วก็ตาม
แต่สิ่งที่เราเองยังเจอคือคนช่วงนี้ป่วยกันเยอะและเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่ที่หน้าแปลกใจคือ ไม่มีใครใส่หน้ากากอนามัยเลย เดินไอ เดินจามกันเยอะ ในส่วนคนที่ไอ จามปิดปากปิดมือก็โอเคอยู่ แต่เท่าที่ดูก็น้อยมากนะ กลายเป็นจามไอกันเรี่ยราด เชื้อก็ลอยไปลอยมารอเจอผู้โชคดีคนต่อไป และมีเรื่องเล่าอีกเรื่องคือตัวเองหากเวลากลับบ้านปกติจะแฟนจะมารับแต่หากไม่มารับก็จะนั่งรถตู้กลับ เมื่อวานแฟนติดธุระเลยต้องกลับรถตู้เอง แต่เราก็ใส่หน้ากากอนามัยตลอดนะเพื่อป้องกันเชื้อตามหมอสั่ง แต่ที่น่าสนใจคือขณะที่รถออก เริ่มมีเสียงไอออกมาทีละคนสองคน และเพิ่มเป็นสาม เป็นสี่ และค่อยๆเพิ่มไปเกือบทั้งคันเหมือนนัดคนป่วยด้านการไอมาร่วมกันในรถคันนั้น เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาการนั่งรถกลับบ้านได้ยินเสียงไอทุกๆ1นาที จนได้ยินเสียงคนขับพูดว่า"ไอกันอย่างนี้ก็คงต้องป่วยอีกคนแน่ๆ" เพราะคนขับก็ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยปิดเนื่องจากไม่ได้เป็นอะไร
จากปัญหาที่เกิดขึ้นเราจะมีวิธีร่วมมือกันยังไงที่จะให้คนไทยมีจิตสำนึกในการใส่หน้ากากยามตัวเองป่วย เพราะไม่ใช่ตัวเองป่วยเท่านั้น แต่เท่ากับไปทำให้คนอื่นได้ป่วยเพิ่มจากพฤติกรรมที่มักง่ายเพราะคิดว่าจะใส่ทำไมรำคาญ อึดอัด บลาๆๆ แต่เอาจริง บางคนที่ได้รับเชื้ออาจจะต้องรักษาพยาบาลและติดเชื้อหนักและบางท่านอาจจะเสียชีวิตจากสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คิด ซึ่งอยากจะให้ทุกลองออกความเห็นดูว่าเราจะรณรงค์กันอย่างไรให้พวกเขาได้ตระหนักถึงปัญหานี้กัน
เมื่อไหร่คนไทยจะร่วมใจกันใส่หน้ากากอนามัยเวลาป่วย
แต่สิ่งที่เราเองยังเจอคือคนช่วงนี้ป่วยกันเยอะและเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่ที่หน้าแปลกใจคือ ไม่มีใครใส่หน้ากากอนามัยเลย เดินไอ เดินจามกันเยอะ ในส่วนคนที่ไอ จามปิดปากปิดมือก็โอเคอยู่ แต่เท่าที่ดูก็น้อยมากนะ กลายเป็นจามไอกันเรี่ยราด เชื้อก็ลอยไปลอยมารอเจอผู้โชคดีคนต่อไป และมีเรื่องเล่าอีกเรื่องคือตัวเองหากเวลากลับบ้านปกติจะแฟนจะมารับแต่หากไม่มารับก็จะนั่งรถตู้กลับ เมื่อวานแฟนติดธุระเลยต้องกลับรถตู้เอง แต่เราก็ใส่หน้ากากอนามัยตลอดนะเพื่อป้องกันเชื้อตามหมอสั่ง แต่ที่น่าสนใจคือขณะที่รถออก เริ่มมีเสียงไอออกมาทีละคนสองคน และเพิ่มเป็นสาม เป็นสี่ และค่อยๆเพิ่มไปเกือบทั้งคันเหมือนนัดคนป่วยด้านการไอมาร่วมกันในรถคันนั้น เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาการนั่งรถกลับบ้านได้ยินเสียงไอทุกๆ1นาที จนได้ยินเสียงคนขับพูดว่า"ไอกันอย่างนี้ก็คงต้องป่วยอีกคนแน่ๆ" เพราะคนขับก็ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยปิดเนื่องจากไม่ได้เป็นอะไร
จากปัญหาที่เกิดขึ้นเราจะมีวิธีร่วมมือกันยังไงที่จะให้คนไทยมีจิตสำนึกในการใส่หน้ากากยามตัวเองป่วย เพราะไม่ใช่ตัวเองป่วยเท่านั้น แต่เท่ากับไปทำให้คนอื่นได้ป่วยเพิ่มจากพฤติกรรมที่มักง่ายเพราะคิดว่าจะใส่ทำไมรำคาญ อึดอัด บลาๆๆ แต่เอาจริง บางคนที่ได้รับเชื้ออาจจะต้องรักษาพยาบาลและติดเชื้อหนักและบางท่านอาจจะเสียชีวิตจากสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คิด ซึ่งอยากจะให้ทุกลองออกความเห็นดูว่าเราจะรณรงค์กันอย่างไรให้พวกเขาได้ตระหนักถึงปัญหานี้กัน