"ส่วยขิ่น" คุณตี๋ The Ghost Radio #เรื่องเล่าคืนนั้นผี

เรื่อง : ส่วยขิ่น
ความหลอนของสาวชาวไทยใหญ่ กับเจ้าของร้านโจ๊กชื่อดังจังหวัดทางภาคเหนือ
#เล่นของ #โดนของ #เมียน้อย #แรงแค้น #ไฟไหม้ #กูจะเอา 



เล่าโดย : คุณตี๋
รายการ : The Ghost Radio
ข้อมูลจาก : เพจ เรื่องเล่าคืนนั้น ผี


เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2533 เกิดขึ้นที่ร้านโจ๊กชื่อดังประจำจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือ ซึ่งในสมัยก่อนและปัจจุบัน หากเอ่ยถึงชื่อร้านนี้ใคร ๆ ก็รู้จักกันดี เพราะเป็นร้านโจ๊กตอนกลางคืนที่ใครไป ใครมาต้องมากินกัน

มีเจ้าของร้านชื่อเฮียปอ และเจ๊สอ ซึ่งลูกจ้างหรือคนงานในร้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทยใหญ่ โดยมีลูกน้องหนึ่งคนชื่อ “ส่วยขิ่น” เป็นผู้หญิงที่มีหน้าตา ค่อนข้างสวย ซึ่ง “ส่วยขิ่น” เป็นกิ๊กกับเฮียปอเจ้าของร้าน อยู่มาวันหนึ่ง เจ๊สอ จับได้ว่า “ส่วยขิ่น” กับ เฮียปอ เป็นกิ๊กหรือเป็นชู้กัน พอเจ๊สอจับได้ก็ทำร้ายร่างกาย ตบตีและลาก “ส่วยขิ่น” ออกมาตบที่หน้าตลาด พร้อมด่า ประจานให้ชาวบ้าน ชาวช่อง ร้านค้าต่าง ๆ ได้รู้ ด้วยความอับอายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ส่วยขิ่น” ก็ได้หนีไป

ในวันเดียวกัน ช่วงเวลาที่เฮียปอ กับเจ๊สอกำลังปิดร้านข้าวต้ม ช่วงเวลาประมาณ ตี 3 – ตี 4 แล้วก็เห็น “ส่วยขิ่น” มายืนอยู่ข้างหน้าร้าน โดย “ส่วยขิ่น” ได้ยืนผ้าขาว คล้าย ๆ ผ้าดิบหรือผ้าห่อศพ และมีอักขระ คล้าย ๆ ลงคาถาหรือทำคุณไสย์เขียนอยู่ ยื่นให้กับเจ๊สอ พร้อมกับพูดว่า “ เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา ” เหมือนปากกำลังท่องคาถาอะไรซักอย่างใส่เจ๊สอ ซึ่งคาถานั้น ถ้าแปลเป็นภาษาไทยประมาณว่า “ ตรูจะเอายิ้ม ตรูจะเอายิ้ม ตรูจะเอายิ้ม

ซึ่งทำให้เจ๊สอไม่พอใจ ด่า และปัดมือ “ส่วยขิ่น” ออกไป ส่วยขิ่นล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมกับชักดิ้นชักงออยู่ที่หน้าร้าน ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจ๊สอจึงรีบวิ่งไปหาเฮียปอ แล้วก็เรียกเฮียปอมาดู ปรากฏว่าพอเฮียปอมาดู “ส่วยขิ่น” ไม่อยู่ตรงนั้น หายไปแล้ว

จากนั้นอีกวันหนึ่งในช่วงเวลาปิดร้านเช่นเดิม เจ๊สอก็เห็น “ส่วยขิ่น” มาอีก แล้วก็มาทำแบบเดิมเหมือนที่เคยทำ ยืนผ้าขาวที่มีอักขระต่าง ๆ ให้กับ เจ๊สอ พร้อมกับพูดว่า “ เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา ” จากนั้น เจ๊สอ ก็กลับเข้าไปเรียกเฮียปอ พอเฮียปอออกมาจากในร้าน “ส่วยขิ่น” ก็ลงไปชักดิ้น ชักงอเหมือนเดิม  พร้อมกรีดร้อง โวยวายลั่นตลาด

เฮียปอกับเจ๊สอ เริ่มเห็นท่าไม่ดีแล้ว ก็เลยรีบวิ่งไปโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลซึ่งโทรศัพท์อยู่ชั้น 2 ของบ้าน พอโทรศัพท์ไปปั๊บ รถโรงพยาบาลก็มาแต่พอมาถึงก็ไม่เห็น “ส่วยขิ่น” แล้ว ทางโรงพยายาลก็โมโหคิดว่าทางเจ๊สอโทรไปหลอก โทรไปแกล้ง แต่เจ๊สอก็ยืนยันว่า “มีจริง ๆ แต่ไม่รู้ไปไหนแล้ว” หลังจากนั้นเจ๊สอก็ปิดร้าน ขึ้นไปพักผ่อน ดูหนัง นอนเล่นกับเฮียปอ ตามปกติที่ชั้น 2 อยู่ดี ๆ เจ๊สอ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งชนประตูร้าน เป็นประตูตึกแถวทั่วไปสมัยก่อน โดยลักษณะประตูจะเป็นประตูลูกกรงเหล็กแบบโบราณ เลื่อนจากด้านข้างมาเพื่อล๊อคแม่กุญแจตรงกลาง 

ซึ่งเสียงที่เจ๊สอ ได้ยิน เหมือนเสียงของคนกำลังวิ่งชนเข้ากับประตูดัง “ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง” ทางเฮียปอกับเจ๊สอ ก็เลยรีบลงมาดู แต่สิ่งที่เห็น ทั้งสองเห็นเป็น “ส่วยขิ่น” กำลังวิ่งชนประตู เมื่อส่วยขิ่นเห็นทั้งสองเลยยื่นกระดาษให้ โดยสภาพ “ส่วยขิ่น” ตอนนั้นเลือดทั่วไปทั้งตัว หัวแตก เลือดนองเต็มหน้าร้าน เจ๊สอเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงขึ้นไปโทรหาตำรวจกับเฮียปอเหมือนเดิมที่ชั้นสองของบ้าน แต่โทรศัพท์สัญญาณในตอนนั้นไม่สามารถโทรออกได้

สักพักเสียง “ส่วยขิ่น” ก็เงียบไป เฮียปอกับเจ๊สอก็ขึ้นไปนอน พอนอนไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงแบบเดิมอีกครั้ง เสียงของคนกำลังวิ่งชนประตูดัง “ปั้ง ปั้ง ปั้ง”  เฮียปอกับเจ๊สอก็ลงมาดู ปรากฏว่า เห็นเป็น “ส่วยขิ่น” เหมือนเดิม แต่มาในลักษณะของ “ไฟครอกลุกทั่วตัว” แล้วก็ยื่นกระดาษมาให้เฮียปอกับเจ๊สอ แล้วก็พูดแบบเดิมว่า “ เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา เก่าจะเฮ็ดเมา ” แล้วก็วิ่งชนประตูไปด้วย เฮียปอกับเจ๊สอเริ่มเห็นท่าไม่ดี ก็เลยหนีออกหลังร้านไปเลย

พอตอนเช้ามา ที่ร้านโจ๊กของเฮียปอและเจ๊สอ เกิดไฟไหม้ ทั้งร้าน โดยเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นหลังจากกองพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุจากเพลิงไหม้นี้แล้ว พบจุดต้องสงสัยแปลก ๆ “เป็นเขม่าไฟไหม้ที่เป็นรูปของคนนอนอยู่ โดยมีขีดอักขระและยันต์อยู่ในจุดเดียวกัน” (โดยคุณตี๋อธิบายเพิ่มเติมว่า เขม่าไฟไหม้ คล้าย ๆ สีสเปรย์ฉีดตามท้องถนนที่เป็นรูปคน เมื่อมีอุบัติเหตุคนตาย)


พอเฮียปอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็เลยออกไปตาม “ส่วยขิ่น” กับเพื่อนของ “ส่วยขิ่น” ว่าอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร แต่พอไปถึงเฮียปอก็ทราบข่าวจากเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านของ “ส่วยขิ่น” ว่า “ส่วยขิ่น” ท้องกับเฮียปอ แต่ก็ตามหา “ส่วยขิ่น” ไม่เจอ เมื่อเฮียปอรู้ข่าว เฮียปอก็ทำใจไม่ได้เลยหนีไปบวชแล้วก็เจ๊สอไปเลย  แล้วตอนหลังเฮียปอก็มาสืบทราบว่า เจ๊สอก็ท้องเหมือนกันแต่เจ๊สอเสียชีวิตไปแล้ว โดยตัวเจ๊สอกระอักเลือดและตาเบิกโพง ทั้งเจ๊สอและตัวลูกเอง หลังจากคลอดลูกได้ไม่นาน โดยแพทย์เจ้าของไข้วินิจฉัยออกมาว่า “หัวใจล้มเหลว”

หลังจากนั้นเฮียปอก็ไปตามหา “ส่วยขิ่น” ต่อ โดยสอบถามกับเพื่อนของ “ส่วยขิ่น” ในหมู่บ้าน แต่ก็กลับต้องผิดหวัง เพราะเพื่อนของ “ส่วยขิ่น” บอกว่า “ส่วยขิ่น” ตายแล้วเหมือนกัน แต่ลูกในท้องของ “ส่วยขิ่น” ตอนที่มีปอเต็กตึ๊งมารับศพ ไม่มี เหมือนกับว่า มีเพียงแค่ศพแม่แต่ในท้องเหมือนเด็กโดนเอาออกไปแล้ว โดยลูกน้องของเฮียปอ เลยบอกว่า “เขาทำของ ให้ลูกของซ่วยขิ่น ไปอยู่ในท้องเจ๊สอ เพราะว่า เจ๊สอเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้” สุดท้ายหลังจากเฮียปอรู้เรื่องราวทั้งหมด ก็ทำให้เฮียปอเลือกที่จะบวชตลอดชีวิต


โดยเรื่องเล่าเรื่องนี้เป็นตำนานของจังหวัดนั้นเลย และยังคงเป็นเรื่องที่ร่ำลือถึงความแค้น ความหลอน อาถรรพ์ การเล่นของ ที่คนในพื้นที่ ทั้งคนเก่า คนแก่ หรือคนในปัจจุบัน ก็ยังมีพูดถึง กล่าวถึงกันบ่อย ๆ โดยปัจจุบันร้านโจ๊กนี้ได้ปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งพิกัดสถานที่ หรือ จังหวัดที่เป็นตำนานของเรื่องนี้ ใครรู้ ใครทราบ หรือ มีรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถ InBox หรือแจ้งได้ผ่านเพจ เรื่องเล่าคืนนั้น ผี ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

#เรื่องเล่าคืนนั้นผี
#นับจากนี้ทุกผีที่มีแต่ผี
#ไปสู่ภพภูมิที่ดี


ขอบคุณรายการ The Ghost Radio ที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้เล่าและคนฟัง
คลิปเสียงประกอบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่