คำสารภาพความผิดความรุนแรงของเฟิสที่มีต่อแป้ง

ครั้งแรก เมื่อตอนอยู่ Blue bar เรามีความสุขกันมาก ๆ หรือว่าเรามีความสุขคนเดียวกันแน่ แป้งมากินเบียร์และเหล้ากับพี่อาร์ แต่พอจะเดินกลับ กลับโดนแป้ง บอกว่าหมั่นไส้ว่ะ *ในขณะที่เรามีความสุขและกำลังแฮปปี้* แป้งทุบตีเรา เราบอกว่าถ้าไม่หยุดจะสวนนะ ง้างไปหลายรอบ จนสวนกลับไปจริง ๆ น่าละอายที่สุดในชีวิตครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2 เมื่อตอนแป้งหนีเที่ยว ตอนนั้นแป้งพักอยู่ที่หอพัก Tree retro เขาหายไปกินเบียร์แบบทั้งคืน แบบติดต่อไม่ได้จริง ๆ ช่วงนั้นเรามีความเครียดจากงานที่ร้าน The sax ด้วย หายไปทั้งคืนแล้วกลับห้องมาแบบเมาไม่มีสติ เราก็ดันไปพยายามเรียกร้องความสนใจ เอาแมวแป้งใส่กระเป๋าวางไว้อยู่หน้าห้อง แป้งกลับมาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ได้แต่เงียบแล้วไม่ยอมรับผิดใด ๆ ทั้งสิ้น เราพยายามพูดทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง แต่สุดท้ายคำพูดก็ไม่ได้ผล เราเลยคิดว่าคนอย่างแป้งต้องใช้กำลังและคำพูดแรง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากทำที่สุดในชีวิตเลย น่าละอายมาก

ครั้งที่ 3 เมื่อจับได้ว่าแป้งมีคนอื่น แล้วกลับมาหา มันอัดอั้นอย่างรุนแรงบอกไม่ถูกเลยในชีวิตไม่เคยมีใครทำร้ายจิตใจเราขนาดนี้มาก่อน ได้แต่โมโห ละก็พยายามเหวี่ยงแป้งไปที่เตียง ไม่มีอีกแล้วเด็ดขาด ผู้หญิงประเภทนี้จะไม่มีทางเข้ามาในชีวิตผมอีกเด็ดขาด น่าสมเพชมาก

ครั้งที่ 4 วันสงกรานต์แป้งให้สัญญาว่าจะกินเบียร์แล้วกลับบ้านเที่ยงคืนที่ร้านแจ่มเจริญ แป้งอยู่ต่อกับเพื่อนจนถึงตี 3 ตอนนั้นโมโหมาก มาจากร้านเดอะแซกซึ่งเราก็เครียดและเหนื่อยมากอยู่แล้ว เพื่อนแกมาทำให้เราโกรธเป็นไฟเลย ที่บอกว่าให้แฟนมารับสิ แล้วพอแป้งบอกจะสั่งเบียร์ต่อ แล้วผมบอกว่าไม่ต่อแล้ว เพื่อนแกเปลี่ยนคำพูดทันทีว่า ไม่ต้องมารับแล้ว โกรธมาก ๆ เหมือนปั่นกัน คือเอาแต่ใจเค้าว่า พอรับขึ้นรถมาตีมึนและเมาจริง ๆ ไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม เราถามแล้วถามอีก ถามคำถามแบบสำคัญหลาย ๆ เรื่องเลย แป้งไม่พูดไม่จาแถมตีมึนใส่ เราไม่ไหวจริง ๆ เราเลยทำร้ายร่างกายแป้ง ขอโทษจริง ๆ มันผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เราโมโหมาก เป็นวันที่แป้งพังกระจกรถแตกร้าว รับไม่ไหวจริง ๆ น่าละลายใจอย่างยิ่ง

หลังจากเหตุการณ์นั้นผมไม่กล้าทำร้ายแป้งอีกเลยจนถึงครั้งสุดท้าย

ครั้งที่ 5 วันที่เลิกขาดต่อกัน แป้งมาระบายอะไรซักอย่าง หลังจากกินเบียร์กันมาจากร้าน Wingman อารมณ์ดีมาก ๆ แล้วพอขากลับ กลับเริ่มบ่น ๆ เราก็นั่งฟังอยู่ในรถ บ่นไปบ่นมาหงุดหงิดเอง เหมือนเราพูดจาไม่เข้าหูเค้าด้วย จำไม่ได้ว่าพูดเรื่องอะไรกัน เค้าดันมาบอกว่า เด่วไปซื่อเบียร์แล้วจะกลับบ้านเอง *ผมเริ่มเกิดอาการวิตกกังวล* เพราะแป้งมีพฤติกรรมชอบหนีแบบหนีจริง ๆ ไม่หนีให้ตามได้ ผมเลยขับรถผ่านร้านซื้อเบียร์ไป เค้าทุบตีผมอย่างหนักและรุนแรงมากเหมือนว่าทำไมไม่ซื้อเบียร์ให้เค้า ละก้เปิดประตูจะลงรถ เราพยายามขับรถให้ไวขึ้นเพื่อที่จะไม่ให้เค้าลง เพราะเราก็เมามากแล้วเหมือนกัน ให้มาจับรั้งเหมือนครั้งก่อน ๆ คงไม่ไหว เค้ากระโดดลงรถจริง ๆ ผมจอดรถพร้อมกับวิ่งมาหาแป้ง เห็นแป้งกำลัง กระทืบโทรศัพท์อันเป็นของสำคัญมาก ๆ ของเรา จนหน้าจอแตกโทรศัพท์เละ เราสุดขีดมากตอนนั้น แป้งดันเดินกลับจะไปซื้อเบียร์ คือมัน... คนปกติเค้าจะมีสติแล้ว แต่แป้งไม่ ผมวิ่งปรี่เข้าไป เอาส่วนแขนฟาดหัวแป้งไปเต็มแรงจากด้านหลัง เพราะมันอุกฉกรรก์เกินไป *คือเหนื่อยกับเค้าสุดขีด* หลังจากนั้นผมก็โดนสวนกลับอย่างหนักหน่วง ทั้ง ๆ ที่ผมหยุดทำร้ายเค้า ผมได้แต่ป้องกัน เค้าทำร้ายผมยันเช้าอีกวัน ขากลับผมก้แนะนำว่าไปคบกับเติ้ลเถอะ เค้าก้ทุบแสกหน้าผม เรื่อย ๆ คือไม่กลัวคนอื่นเจ็บเลย จนผมไม่ไหวแล้วเมาก้เมา ล้าก้ล้า เดินตามหาทั้งคืน เพื่อจะพาเค้ากลับบ้าน เลยปล่อยให้เค้าทุบหน้าเต็มๆ ไปด้วยอาการอิดโรย สุดท้ายคือเอารถไปแฉลบกับขอบถนนในหมู่บ้านแต่ไม่เป็นอะไรมาก คือไม่ไหวแล้วจริง ๆ พอส่งถึงบ้านเค้าลงรถไม่พูดซักคำ เรายังไปบอกให้เค้าโชคดีอีกนะ ผู้หญิงแบบนี้ผมขอลาขาดเลย ถ้าเจอคงได้แต่ หนีอะ เพราะเค้าเหมือนคนเลือดเย็นแบบสุด ๆ เกินไปสำหรับเรา แป้งบุคลิกหัวรุนแรง ซึ่งตรงกันข้ามกับเราเลย แป้งหลุดขาดสติ ใครพูดอะไรไม่ฟังเหมือนโรคจิตคุ้มคลั่งที่ไม่ว่าใครเตือนก็ไม่ฟัง ผมขอให้เค้าไปเจอคน Type เดียวกันกับเค้าที่เค้าเป็นละกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่