เมื่อวานเป็นวันเกิดลูกชายคนโตค่ะ เด็กเลขเก้า 9.9.99 เป็นปกติที่แม่นันจะเตรียมอาหารใส่บาตรในวันพระ หรือวันที่มีผู้บอกบุญมาให้ทำอาหารไปถวายพระ เช้าวันเกิดลูกก็จะมีอะไรพิเศษขึ้นนิดนึง ยิ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์พอดี แม่นันไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปแน่ๆค่ะ บอกพี่ภูมิว่า "พรุ่งนี้มามี้จะทำอาหารให้ไปใส่บาตรวันเกิด ภูมิลุกขึ้นมาช่วยมามี้ทอดปลาสลิดด้วยนะ ทอดเยอะๆเลยจะได้แบ่งส่วนหนึ่งไปให้คุณปู่ด้วย คุณปู่ชอบ ดีมะ ตีห้านะ" พี่ภูมิรับคำ... "ได้ได้" แต่ "ตีห้าเลยเหรอมี้ เลทนิดได้มะ" ๕๕ ได้อยู่แล้ว (คิดในใจ) เพราะพระที่วัดธรรมมงคลมีจำนวนเยอะมาก พระท่านจะเดินออกบิณฑบาตรกันแต่มืด หากเราไปสายก็ก็สามารถเข้าไปถวายถึงหอฉันได้ อีกอย่างเด็กๆคุ้นกับพระวัดนี้มากค่ะ สนิทกับพระอาจารย์กันตั้งแต่เรียนเนอสเซอรี่ เพราะทุกวันพระที่โรงเรียนลูกจะนิมนต์พระท่านไปให้เด็กๆได้ใส่บาตรกัน แถมพระท่านยังมาสอนวิชาพุทธศาสนาให้ทุกอาทิตย์อีก
เสียงโทรศัพท์ปลุกเป็นสัญญาณปฏิบัติการยามเช้าค่ะ (เมื่อก่อนเราพึ่งนาฬิกา เดี๋ยวนี้ทุกอย่างพึ่งมือถืออันเดียว วิถึชีวิตเดิมๆหายหมดเลยค่ะ ว่ามั้ยคะ) เช้ามาก็บ่นเลย....
แม่นันเตรียมเครื่องที่จะทำแกงจืดหมูสับใส่วุ้นเส้นไว้ตั้งแต่กลางคืนแล้วค่ะ เช้านี้ก็ต้มได้เลย
ส่วนผสมมี: หมูสับ วุ้นเส้น เห็ดหูหนูแห้ง และเก๋ากี (ถ้ามีดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้กรอบ หรืออื่นๆ ก็ใส่ตามใจชอบเลยค่ะ)
หมูสับ หมูสับถ้าจะให้อร่อย.นุ่ม แนะนำให้ซื้อหมูติดมัน ให้แม่ค้าล้างและบดให้สองครั้ง ก่อนนำมาหมักด้วย เกลือ น้ำตาล พริกไทย น้ำมันงา และซี่อิ๊วขาว เข้าตุ้เย็นไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง หรือทำเยอะๆ แบ่งใส่ถุงฟรีสไว้เลย เวลาจะใช้ก็นำออกมาละลายในช่องธรรมดาข้ามคืนค่ะ
วุ้นเส้น แนะนำยี่ห้อต้นสนค่ะ แช่น้ำข้ามคืนได้เลยค่ะ เช้ามาใส่กระชอนสะเด็ดน้ำออก เวลาต้มใส่ในน้ำซุป เส้นจะไม่อืด ไม่อมน้ำซุปค่ะ
เห็ดหูหนูแห้ง ล้างแล้วแช่น้ำข้ามคืนเหมือนกันค่ะ เห็ดหูหนูแห้งจะอร่อยกว่าเห็ดหูหนูสด เก็บได้นาน ดอกสวยหลังแช่น้ำแล้ว แม่นันซื้อจากอาม่าในตลาด แกจะมีบูธเล๊กเล็กมุมนึงในตลาด ขายพวกอาหารแห้งนำมาจากเยาวราช หรือเมืองจีนบ้าง ถามหาอะไรได้เกือบทุกอย่าง แม่นันได้ฟองเต้าหูสำหรับห่อฮ่อยจ๊อจากอาม่าคนนี้ละ ของเค้าดีจริงๆ
เก๋ากี (สมุนไพร/พืชตระกูลเบอรี่ ยาอายุวัฒนะชั้นเลิศเลยค่ะ) ล้างและแช่น้ำข้ามคืนเช่นเดียวกันค่ะ
มาดูวิธีทำแกงจืดหมูสับใส่วุ้นเส้นกันค่ะ ง่ายๆกับอาหารสุขภาพเมนูนี้ค่ะ
๑.ตั้งหม้อใส่น้ำสต้อคเหยาะเกลือหน่อย (งวดนี้แม่นันได้น้ำสต้อคหมูสามชั้น พอดีเตรียมไว้ทำเมนูอื่นค่ะ) รอจนน้ำสต้อคเดือดจัด ปั้นหมูบดลงใส่จนหมด คอยช้อนฟองออกเมื่อเนื้อหมูเริ่มสุกจะทยอยลอยเด้งขึ้นมาบนผิวน้ำ ปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย และซี่อิ๊วขาว ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม
๒.ใส่เห็ดหูหนูและเมล็ดเก๋ากี และแบ่งคึ่นช่ายส่วนหนึ่งตามลงไป คนให้เข้ากัน รอน้ำซุปเดือดอีกครั้ง
๓.เมื่อน้ำซุปเดือดจัด ใส่วุ้นเส้น และโรยคึ่นช่ายส่วนที่เหลือ เพียงครู่เดียววุ้นเส้นก็สุกค่ะ ปิดเตา ตักใส่ภาชนะ โรยด้วยต้นหอม ผักชีซอย
ระหว่างที่แม่นันทำแกงจืด พี่ภูมิก็ง่วนอยู่ครัวหลังบ้านคนเดียว ทอดปลาสลิดค่ะ ทอดไปถามไป "มามี้..เตาเปิดยังไง" "มามี้..ใส่น้ำมันเลยมั้ย" "มามี้..น้ำมันร้อนพอยัง ใส่ปลาเลยมั้ย" "มามี้..มามี้..มามี้" ทอดไปสะดุ้งไป (น้ำมันกระเด็นใส่ ๕๕) แม่นันเห็นแล้วก็อดขำผู้ชายเข้าครัวไม่ได้ ต้องคอยเก็บภาพไว้
หลักฐานโดยบังเอิญค่ะ ปรุงแกงจืดไปพี่ภูมิถามไป
ส่วนเมนูนี้แม่นันจะทำไปฝากคุณย่าเด็กๆค่ะ เต้าหู้นึ่งซี่อิ๊ว ครั้งที่แล้วทำไปฝาก คุณแม่ชอบมาก.. เมื่อวานแม่นันเห็นเต้าหู้แสนอร่อยเจ้าประจำ ก็เลยไม่พลาดค่ะ (เต้าหู้ตราดาวจากเยาวราช นุ่มอร่อยมากๆค่ะ ก้อนเล็กๆก้อนละ ๑๘ บาท แพงหน่อยแต่อร่อยชัวร์ค่ะ)
นำวิธีทำมาฝากด้วยค่ะ
วิธีผสมซี่อิ๊วที่จะนำมาราดตัวเต้าหู้ค่ะ
น้ำสต็อคประมาณ ๒ ถ้วยตวง ปรุงด้วยน้ำมันงา ซี่อิ๊วขาว ๒ ชต. ซ้อสคิคุแมน ๑ ชต. พริกไทยเล็กน้อย (หรือแล้วแต่ชอบค่ะ ชอบเผ็ดใส่มากหน่อย) คนเครื่องปรุงให้เข้ากัน ชิมให้ออกเค็มกลมกล่อม
หมายเหตุ แม่นันใช้วิธีกะเอานะคะ ลองปรุงดูแล้วค่อยๆปรับค่ะ
๑. ล้างเต้าหู้ก้อน ใช้มีดคมๆ แบ่งเส้นทแยงมุมตัดกัน ค่อยๆใช้ปลายมีดบากด้านล่างของมุมเต้าหู้ออกเพื่อความสวยงาม (เป็นอุปนิสัยเรื่องเยอะส่วนตัวค่ะ ที่ชอบครีเอทนู่นนิดนี่หน่อยค่ะ ไม่ต้องทแยง ไม่ต้องใช้ปลายมีดบากก็รับประกันความอร่อยเหมือนกันค่ะ)
====ระหว่างเตรียมเต้าหู้ เราก็ตั้งซึ้งรอน้ำเดือดค่ะ ใส่น้ำเพียง ๑/๓ ของก้นซึ้งพอค่ะ========
๒. จัดเต้าหู้วางใส่บนจานก้นลึก จัดวางขิง เห็ดหอม เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน พริกชี้ฟ้าซอย คึ่นช่ายตามชอบเลยค่ะ
๓. เมื่อน้ำในซึ้งเดือดเต็มที่ เปิดฝาซึ้งแล้วนำภาชนะที่จัดวางเต้าหู้ไว้ลงไปนึ่งประมาณ ๑๐ นาที ขอเน้นว่าการจะนึ่งอาหารทุกครั้งต้องรอให้น้ำเดือดจัดๆ ก่อนนะคะ โดยการยกซึ้งชั้นบนขึ้นแล้วดูว่าน้ำก้นซึ้งเดือดปุดๆ หรือเปล่า หากไม่เดือดจัดอาหารจะไม่สุกเต็มที่ค่ะ
๔. สิบนาทีผ่านไป เปิดฝาซึ้งออก นำซ้อสซี่อิ๊วที่เตรียมไว้ราดลงไปเต้าหู้ ให้ซี่อิ๊วสูงประมาณกึ่งหนึ่งของเต้าหู้ค่ะ แล้วปิดฝานึ่งต่ออีกสิบนาที
น้ำซ้อสซี่อิ๊วเมื่อผ่านความร้อนแล้ว รสชาดจะชัดเจนขึ้น หากชิมดูแล้วขาดรสไหนก็สามารถเติมแล้วนึ่งต่ออีกเล็กน้อยค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูเต้าหู้นึ่งซี่อิ๊วแสนอร่อยค่ะ
พ่อตู่เดินเข้าครัวมาพอดี แม่นันหางานให้ทันทีค่ะ เพราะมีกุนเชียงเจ้าโปรดอยู่ในตู้เย็น เลยขอให้พ่อตู่ลวกแล้วทอดขึ้นมาใส่บาตร ส่วนหนึ่งจะนำไปให้คุณปู่คุณย่าด้วย ยิ่งผู้ช่วยเยอะยิ่งช้าค่ะ เพราะต้องคอยตอบคำถามผู้ช่วย ๕๕ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนมีใจช่วย ช้าๆย่อมได้พร้าเล่มงาม เช้านี้ได้ใส่บาตรพระทั้งในวัด และที่บ้านเลยค่ะ หลังจากใส่บาตรแล้ว พ่อตู่พาเด็กๆไปกราบขอพรวันเกิดจากคุณปู่คุณย่า แถมได้ล้อมวงทานข้าวกันด้วย หมดไปอีกหนึ่งวันดีๆค่ะ นำบุญมาฝากผู้อ่านด้วยนะคะ
คุณย่าช่วงนี้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง คุณหมอยังไม่ให้ลุกเดินไปไหน เพราะเดือนที่แล้วล้มในห้องครัว ทำเอากระดูกหลังที่เสื่อมอยู่แล้ว เลื่อนออกไปอีกค่ะ ได้แต่ภาวนาให้ท่านหายดีไวๆ พวกเราจะได้พาท่านเที่ยวอีก
ใส่บาตรพระที่วัด อย่าลืมพระที่บ้าน
เมื่อวานเป็นวันเกิดลูกชายคนโตค่ะ เด็กเลขเก้า 9.9.99 เป็นปกติที่แม่นันจะเตรียมอาหารใส่บาตรในวันพระ หรือวันที่มีผู้บอกบุญมาให้ทำอาหารไปถวายพระ เช้าวันเกิดลูกก็จะมีอะไรพิเศษขึ้นนิดนึง ยิ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์พอดี แม่นันไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปแน่ๆค่ะ บอกพี่ภูมิว่า "พรุ่งนี้มามี้จะทำอาหารให้ไปใส่บาตรวันเกิด ภูมิลุกขึ้นมาช่วยมามี้ทอดปลาสลิดด้วยนะ ทอดเยอะๆเลยจะได้แบ่งส่วนหนึ่งไปให้คุณปู่ด้วย คุณปู่ชอบ ดีมะ ตีห้านะ" พี่ภูมิรับคำ... "ได้ได้" แต่ "ตีห้าเลยเหรอมี้ เลทนิดได้มะ" ๕๕ ได้อยู่แล้ว (คิดในใจ) เพราะพระที่วัดธรรมมงคลมีจำนวนเยอะมาก พระท่านจะเดินออกบิณฑบาตรกันแต่มืด หากเราไปสายก็ก็สามารถเข้าไปถวายถึงหอฉันได้ อีกอย่างเด็กๆคุ้นกับพระวัดนี้มากค่ะ สนิทกับพระอาจารย์กันตั้งแต่เรียนเนอสเซอรี่ เพราะทุกวันพระที่โรงเรียนลูกจะนิมนต์พระท่านไปให้เด็กๆได้ใส่บาตรกัน แถมพระท่านยังมาสอนวิชาพุทธศาสนาให้ทุกอาทิตย์อีก
เสียงโทรศัพท์ปลุกเป็นสัญญาณปฏิบัติการยามเช้าค่ะ (เมื่อก่อนเราพึ่งนาฬิกา เดี๋ยวนี้ทุกอย่างพึ่งมือถืออันเดียว วิถึชีวิตเดิมๆหายหมดเลยค่ะ ว่ามั้ยคะ) เช้ามาก็บ่นเลย....
แม่นันเตรียมเครื่องที่จะทำแกงจืดหมูสับใส่วุ้นเส้นไว้ตั้งแต่กลางคืนแล้วค่ะ เช้านี้ก็ต้มได้เลย
ส่วนผสมมี: หมูสับ วุ้นเส้น เห็ดหูหนูแห้ง และเก๋ากี (ถ้ามีดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้กรอบ หรืออื่นๆ ก็ใส่ตามใจชอบเลยค่ะ)
หมูสับ หมูสับถ้าจะให้อร่อย.นุ่ม แนะนำให้ซื้อหมูติดมัน ให้แม่ค้าล้างและบดให้สองครั้ง ก่อนนำมาหมักด้วย เกลือ น้ำตาล พริกไทย น้ำมันงา และซี่อิ๊วขาว เข้าตุ้เย็นไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง หรือทำเยอะๆ แบ่งใส่ถุงฟรีสไว้เลย เวลาจะใช้ก็นำออกมาละลายในช่องธรรมดาข้ามคืนค่ะ
วุ้นเส้น แนะนำยี่ห้อต้นสนค่ะ แช่น้ำข้ามคืนได้เลยค่ะ เช้ามาใส่กระชอนสะเด็ดน้ำออก เวลาต้มใส่ในน้ำซุป เส้นจะไม่อืด ไม่อมน้ำซุปค่ะ
เห็ดหูหนูแห้ง ล้างแล้วแช่น้ำข้ามคืนเหมือนกันค่ะ เห็ดหูหนูแห้งจะอร่อยกว่าเห็ดหูหนูสด เก็บได้นาน ดอกสวยหลังแช่น้ำแล้ว แม่นันซื้อจากอาม่าในตลาด แกจะมีบูธเล๊กเล็กมุมนึงในตลาด ขายพวกอาหารแห้งนำมาจากเยาวราช หรือเมืองจีนบ้าง ถามหาอะไรได้เกือบทุกอย่าง แม่นันได้ฟองเต้าหูสำหรับห่อฮ่อยจ๊อจากอาม่าคนนี้ละ ของเค้าดีจริงๆ
เก๋ากี (สมุนไพร/พืชตระกูลเบอรี่ ยาอายุวัฒนะชั้นเลิศเลยค่ะ) ล้างและแช่น้ำข้ามคืนเช่นเดียวกันค่ะ
มาดูวิธีทำแกงจืดหมูสับใส่วุ้นเส้นกันค่ะ ง่ายๆกับอาหารสุขภาพเมนูนี้ค่ะ
๑.ตั้งหม้อใส่น้ำสต้อคเหยาะเกลือหน่อย (งวดนี้แม่นันได้น้ำสต้อคหมูสามชั้น พอดีเตรียมไว้ทำเมนูอื่นค่ะ) รอจนน้ำสต้อคเดือดจัด ปั้นหมูบดลงใส่จนหมด คอยช้อนฟองออกเมื่อเนื้อหมูเริ่มสุกจะทยอยลอยเด้งขึ้นมาบนผิวน้ำ ปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย และซี่อิ๊วขาว ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม
๒.ใส่เห็ดหูหนูและเมล็ดเก๋ากี และแบ่งคึ่นช่ายส่วนหนึ่งตามลงไป คนให้เข้ากัน รอน้ำซุปเดือดอีกครั้ง
๓.เมื่อน้ำซุปเดือดจัด ใส่วุ้นเส้น และโรยคึ่นช่ายส่วนที่เหลือ เพียงครู่เดียววุ้นเส้นก็สุกค่ะ ปิดเตา ตักใส่ภาชนะ โรยด้วยต้นหอม ผักชีซอย
ระหว่างที่แม่นันทำแกงจืด พี่ภูมิก็ง่วนอยู่ครัวหลังบ้านคนเดียว ทอดปลาสลิดค่ะ ทอดไปถามไป "มามี้..เตาเปิดยังไง" "มามี้..ใส่น้ำมันเลยมั้ย" "มามี้..น้ำมันร้อนพอยัง ใส่ปลาเลยมั้ย" "มามี้..มามี้..มามี้" ทอดไปสะดุ้งไป (น้ำมันกระเด็นใส่ ๕๕) แม่นันเห็นแล้วก็อดขำผู้ชายเข้าครัวไม่ได้ ต้องคอยเก็บภาพไว้
หลักฐานโดยบังเอิญค่ะ ปรุงแกงจืดไปพี่ภูมิถามไป
ส่วนเมนูนี้แม่นันจะทำไปฝากคุณย่าเด็กๆค่ะ เต้าหู้นึ่งซี่อิ๊ว ครั้งที่แล้วทำไปฝาก คุณแม่ชอบมาก.. เมื่อวานแม่นันเห็นเต้าหู้แสนอร่อยเจ้าประจำ ก็เลยไม่พลาดค่ะ (เต้าหู้ตราดาวจากเยาวราช นุ่มอร่อยมากๆค่ะ ก้อนเล็กๆก้อนละ ๑๘ บาท แพงหน่อยแต่อร่อยชัวร์ค่ะ)
นำวิธีทำมาฝากด้วยค่ะ
วิธีผสมซี่อิ๊วที่จะนำมาราดตัวเต้าหู้ค่ะ
น้ำสต็อคประมาณ ๒ ถ้วยตวง ปรุงด้วยน้ำมันงา ซี่อิ๊วขาว ๒ ชต. ซ้อสคิคุแมน ๑ ชต. พริกไทยเล็กน้อย (หรือแล้วแต่ชอบค่ะ ชอบเผ็ดใส่มากหน่อย) คนเครื่องปรุงให้เข้ากัน ชิมให้ออกเค็มกลมกล่อม
หมายเหตุ แม่นันใช้วิธีกะเอานะคะ ลองปรุงดูแล้วค่อยๆปรับค่ะ
๑. ล้างเต้าหู้ก้อน ใช้มีดคมๆ แบ่งเส้นทแยงมุมตัดกัน ค่อยๆใช้ปลายมีดบากด้านล่างของมุมเต้าหู้ออกเพื่อความสวยงาม (เป็นอุปนิสัยเรื่องเยอะส่วนตัวค่ะ ที่ชอบครีเอทนู่นนิดนี่หน่อยค่ะ ไม่ต้องทแยง ไม่ต้องใช้ปลายมีดบากก็รับประกันความอร่อยเหมือนกันค่ะ)
====ระหว่างเตรียมเต้าหู้ เราก็ตั้งซึ้งรอน้ำเดือดค่ะ ใส่น้ำเพียง ๑/๓ ของก้นซึ้งพอค่ะ========
๒. จัดเต้าหู้วางใส่บนจานก้นลึก จัดวางขิง เห็ดหอม เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน พริกชี้ฟ้าซอย คึ่นช่ายตามชอบเลยค่ะ
๓. เมื่อน้ำในซึ้งเดือดเต็มที่ เปิดฝาซึ้งแล้วนำภาชนะที่จัดวางเต้าหู้ไว้ลงไปนึ่งประมาณ ๑๐ นาที ขอเน้นว่าการจะนึ่งอาหารทุกครั้งต้องรอให้น้ำเดือดจัดๆ ก่อนนะคะ โดยการยกซึ้งชั้นบนขึ้นแล้วดูว่าน้ำก้นซึ้งเดือดปุดๆ หรือเปล่า หากไม่เดือดจัดอาหารจะไม่สุกเต็มที่ค่ะ
๔. สิบนาทีผ่านไป เปิดฝาซึ้งออก นำซ้อสซี่อิ๊วที่เตรียมไว้ราดลงไปเต้าหู้ ให้ซี่อิ๊วสูงประมาณกึ่งหนึ่งของเต้าหู้ค่ะ แล้วปิดฝานึ่งต่ออีกสิบนาที
น้ำซ้อสซี่อิ๊วเมื่อผ่านความร้อนแล้ว รสชาดจะชัดเจนขึ้น หากชิมดูแล้วขาดรสไหนก็สามารถเติมแล้วนึ่งต่ออีกเล็กน้อยค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูเต้าหู้นึ่งซี่อิ๊วแสนอร่อยค่ะ
พ่อตู่เดินเข้าครัวมาพอดี แม่นันหางานให้ทันทีค่ะ เพราะมีกุนเชียงเจ้าโปรดอยู่ในตู้เย็น เลยขอให้พ่อตู่ลวกแล้วทอดขึ้นมาใส่บาตร ส่วนหนึ่งจะนำไปให้คุณปู่คุณย่าด้วย ยิ่งผู้ช่วยเยอะยิ่งช้าค่ะ เพราะต้องคอยตอบคำถามผู้ช่วย ๕๕ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนมีใจช่วย ช้าๆย่อมได้พร้าเล่มงาม เช้านี้ได้ใส่บาตรพระทั้งในวัด และที่บ้านเลยค่ะ หลังจากใส่บาตรแล้ว พ่อตู่พาเด็กๆไปกราบขอพรวันเกิดจากคุณปู่คุณย่า แถมได้ล้อมวงทานข้าวกันด้วย หมดไปอีกหนึ่งวันดีๆค่ะ นำบุญมาฝากผู้อ่านด้วยนะคะ
คุณย่าช่วงนี้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง คุณหมอยังไม่ให้ลุกเดินไปไหน เพราะเดือนที่แล้วล้มในห้องครัว ทำเอากระดูกหลังที่เสื่อมอยู่แล้ว เลื่อนออกไปอีกค่ะ ได้แต่ภาวนาให้ท่านหายดีไวๆ พวกเราจะได้พาท่านเที่ยวอีก