(กระทู้แรก ผิดพลาดยังไง ต้องขออภัยค่ะ)
สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวซักเล็กน้อย จขกท เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ไม่ได้อยู่กับแม่นะคะ แต่ก็ติดต่อและไปมาหาสู่กันบ่อย(แม่จขกทอยู่ไม่ไกลจากกทม.ค่ะ)
ย้อนกลับไปเมื่อ3-4ปีที่แล้ว เราอยู่กับแม่ แม่ของเราก็ทำงานในบริษัทเล็กๆ แม่เล่าว่า วันนั้นในที่ทำงาน เขามีการไหว้ครูกัน และอยู่ดีๆแม่ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วร้องไห้ออกมา เหมือนแม่ทนอยู่ในพิธีนั้นต่อไม่ได้ เลยกลับบ้าน ต่อมาแม่ก็รู้สึกมีอีกคนอยู่ในร่าง คนๆนั้นเขาแสดงออกมาเหมือนเด็ก ไม่รู้ว่าของใช้รอบตัว ใช้ยังไง เวลามือถือสั่น เขาจะกลัวมาก เราเองก็กลัวไม่แพ้กัน(กลัวใครก็ไม่รู้ในตัวแม่นี่แหละ) ตกลงแม่ถูกผีสิงหรืออะไรซักอย่างหรือเปล่า จากนั้น เขาก็ค่อยๆปรับตัว เขาพูดออกมาเป็นเสียงเด็กผู้ชาย ทุกๆวัน ทั้งแม่และอีกคนจะสลับกันมา เวลาไปข้างนอก พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก ก็จะเป็นแม่ แต่พออยู่กับคนใกล้ชิด เขาจะเป็นเด็กผู้ชาย
แล้วเขาก็เล่าเรื่องราวออกมา ว่าผูกพันกับแม่อย่างไร เขาเล่าว่า ชาติก่อนทั้งแม่และเขา เป็นลูกกษัตริย์ ชาติก่อน แม่และเขายังเด็ก เป็นพี่น้องกัน แต่มีเหตุที่ทำให้เสียชีวิตด้วยกัน เลยตามมาถึงชาตินี้
ตอนนั้นยายและคนใกล้ชิด คิดว่าเป็นกุมาร(ยาย เป็นร่างทรงมาก่อน) แต่ก็ไม่มีใครแก้ไขอะไรได้
และสุดท้าย บริษัทนั้นก็ปิดตัวลง แม่ก็ทำงานบ้างค่ะ ทำงานในห้างแบบชั่วคราว แต่ช่วงนึงคือ2-3ปีได้มั้งคะ แม่ไม่ได้ทำงานเลย อยู่แต่ในห้อง(ตอนนั้นจขกทเรียนและทำงานparttime)จนเด็กผู้ชายคนที่อยู่ในตัวแม่ ก็กลายเป็นมีตัวตนขึ้นมา บางครั้งเขาก็ด่า และก้าวร้าว บางครั้งนะคะเวลาไม่พอใจ และเขาบอกว่า แม่เป็นคนดี เป็นคนเรียบร้อย ถ้าจะโกรธก็ให้โกรธเขา แต่เราเป็นลูก เรารู้ว่าแม่เราเป็นคนยังไง แม่ก็มีอารมณ์เหมือนคนทั่วไป บางครั้งก็ด่า ทำนองนั้น แต่ถ้าเจอคนข้างนอก แม่จะเป็นคนเงียบๆ และเขาก็ทำงาน แต่ทำไม่นาน จนถึงตอนนี้ แม่เราเช่าห้องอยู่กับน้อง เราคอยส่งตังให้แม่ตลอด จนแม่มีเงินเก็บและทองประมาณนึง แต่ตอนนี้เราส่งตังให้แม่ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน เพราะต้องจ่ายค่าเทอม และค่ากินค่าใช้ต่างๆ ไม่ได้ทำงานเต็มเวลาเหมือนเมื่อก่อน ตั้งแต่เราจบม.ต้น เราก็หาเงินเอง แม่ไม่ต้องลำบากหาเงินให้เราเท่าไหร่ แต่ตอนนี้แม่ไม่ค่อยมีเงิน เขาไม่ได้ทำงาน เขาไม่ได้ป่วย เขาอายุแค่40 แต่เหมือนเขาไม่ได้วางแผนที่จะทำอะไรให้ดีขึ้น ตอนมีเงิน เขาก็ว่าจะลงทุนขายของ แต่ก็ไม่ได้ทำ เวลาเราหางานให้ เขาจะมีเหตุผลบ่ายเบี่ยงเสมอ เขาก็อยากให้เราออกค่าเช่าห้องที่นั่นด้วย เขาบอกไม่งั้นจะคืนห้องที่เช่าอยู่และจะฝากของในห้องนั้นกับเรา เหมือนว่าถ้าไม่มีใครช่วย เขาก็ปล่อยไปแบบนั้น แม่เราเป็นคนชอบคิดอยากทำนู้นนี่ แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำ
เราอึดอัดใจมากจริงๆ แค่เราหาตังเรียนกับใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ลำบากแล้ว เราก็ให้เงินแม่บ้างนะ แต่ไม่ได้เยอะ
ตอนนี้ทั้งแม่และเขา(เด็กชายคนนั้น) เหมือนรักกันมาก ขาดกันไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ ที่คุยที่เจอ เราไม่เคยได้คุยกับแม่เราเลย ไม่ได้ยินน้ำเสียงของแม่ ได้ยินและคุยกับเด็กชายคนนั้นตลอด ซึ่งเขาบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือเขา ก็รับรู้เหมือนกัน เขาเคยบอกว่าก็เขาเป็นเด็ก ก็ไม่ค่อยอยากทำไร หลายครั้งเหมือนเขาดิ้นรนหางาน แต่ก็เหมือนเดิม
ที่ผ่านมา เราเชื่อที่แม่และเขาพูดมาโดยตลอด จนเราลองคิดแบบวิทยาศาสตร์ ว่า เขาอาจเป็นโรคหลายบุคลิกก็ได้ เพื่อนๆคิดว่าไง และเราควรทำไงดี
2คนในร่างเดียว เป็นความเชื่อ หรือเป็นคนโรคหลายบุคลิก
สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวซักเล็กน้อย จขกท เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ไม่ได้อยู่กับแม่นะคะ แต่ก็ติดต่อและไปมาหาสู่กันบ่อย(แม่จขกทอยู่ไม่ไกลจากกทม.ค่ะ)
ย้อนกลับไปเมื่อ3-4ปีที่แล้ว เราอยู่กับแม่ แม่ของเราก็ทำงานในบริษัทเล็กๆ แม่เล่าว่า วันนั้นในที่ทำงาน เขามีการไหว้ครูกัน และอยู่ดีๆแม่ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วร้องไห้ออกมา เหมือนแม่ทนอยู่ในพิธีนั้นต่อไม่ได้ เลยกลับบ้าน ต่อมาแม่ก็รู้สึกมีอีกคนอยู่ในร่าง คนๆนั้นเขาแสดงออกมาเหมือนเด็ก ไม่รู้ว่าของใช้รอบตัว ใช้ยังไง เวลามือถือสั่น เขาจะกลัวมาก เราเองก็กลัวไม่แพ้กัน(กลัวใครก็ไม่รู้ในตัวแม่นี่แหละ) ตกลงแม่ถูกผีสิงหรืออะไรซักอย่างหรือเปล่า จากนั้น เขาก็ค่อยๆปรับตัว เขาพูดออกมาเป็นเสียงเด็กผู้ชาย ทุกๆวัน ทั้งแม่และอีกคนจะสลับกันมา เวลาไปข้างนอก พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก ก็จะเป็นแม่ แต่พออยู่กับคนใกล้ชิด เขาจะเป็นเด็กผู้ชาย
แล้วเขาก็เล่าเรื่องราวออกมา ว่าผูกพันกับแม่อย่างไร เขาเล่าว่า ชาติก่อนทั้งแม่และเขา เป็นลูกกษัตริย์ ชาติก่อน แม่และเขายังเด็ก เป็นพี่น้องกัน แต่มีเหตุที่ทำให้เสียชีวิตด้วยกัน เลยตามมาถึงชาตินี้
ตอนนั้นยายและคนใกล้ชิด คิดว่าเป็นกุมาร(ยาย เป็นร่างทรงมาก่อน) แต่ก็ไม่มีใครแก้ไขอะไรได้
และสุดท้าย บริษัทนั้นก็ปิดตัวลง แม่ก็ทำงานบ้างค่ะ ทำงานในห้างแบบชั่วคราว แต่ช่วงนึงคือ2-3ปีได้มั้งคะ แม่ไม่ได้ทำงานเลย อยู่แต่ในห้อง(ตอนนั้นจขกทเรียนและทำงานparttime)จนเด็กผู้ชายคนที่อยู่ในตัวแม่ ก็กลายเป็นมีตัวตนขึ้นมา บางครั้งเขาก็ด่า และก้าวร้าว บางครั้งนะคะเวลาไม่พอใจ และเขาบอกว่า แม่เป็นคนดี เป็นคนเรียบร้อย ถ้าจะโกรธก็ให้โกรธเขา แต่เราเป็นลูก เรารู้ว่าแม่เราเป็นคนยังไง แม่ก็มีอารมณ์เหมือนคนทั่วไป บางครั้งก็ด่า ทำนองนั้น แต่ถ้าเจอคนข้างนอก แม่จะเป็นคนเงียบๆ และเขาก็ทำงาน แต่ทำไม่นาน จนถึงตอนนี้ แม่เราเช่าห้องอยู่กับน้อง เราคอยส่งตังให้แม่ตลอด จนแม่มีเงินเก็บและทองประมาณนึง แต่ตอนนี้เราส่งตังให้แม่ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน เพราะต้องจ่ายค่าเทอม และค่ากินค่าใช้ต่างๆ ไม่ได้ทำงานเต็มเวลาเหมือนเมื่อก่อน ตั้งแต่เราจบม.ต้น เราก็หาเงินเอง แม่ไม่ต้องลำบากหาเงินให้เราเท่าไหร่ แต่ตอนนี้แม่ไม่ค่อยมีเงิน เขาไม่ได้ทำงาน เขาไม่ได้ป่วย เขาอายุแค่40 แต่เหมือนเขาไม่ได้วางแผนที่จะทำอะไรให้ดีขึ้น ตอนมีเงิน เขาก็ว่าจะลงทุนขายของ แต่ก็ไม่ได้ทำ เวลาเราหางานให้ เขาจะมีเหตุผลบ่ายเบี่ยงเสมอ เขาก็อยากให้เราออกค่าเช่าห้องที่นั่นด้วย เขาบอกไม่งั้นจะคืนห้องที่เช่าอยู่และจะฝากของในห้องนั้นกับเรา เหมือนว่าถ้าไม่มีใครช่วย เขาก็ปล่อยไปแบบนั้น แม่เราเป็นคนชอบคิดอยากทำนู้นนี่ แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำ
เราอึดอัดใจมากจริงๆ แค่เราหาตังเรียนกับใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ลำบากแล้ว เราก็ให้เงินแม่บ้างนะ แต่ไม่ได้เยอะ
ตอนนี้ทั้งแม่และเขา(เด็กชายคนนั้น) เหมือนรักกันมาก ขาดกันไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ ที่คุยที่เจอ เราไม่เคยได้คุยกับแม่เราเลย ไม่ได้ยินน้ำเสียงของแม่ ได้ยินและคุยกับเด็กชายคนนั้นตลอด ซึ่งเขาบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือเขา ก็รับรู้เหมือนกัน เขาเคยบอกว่าก็เขาเป็นเด็ก ก็ไม่ค่อยอยากทำไร หลายครั้งเหมือนเขาดิ้นรนหางาน แต่ก็เหมือนเดิม
ที่ผ่านมา เราเชื่อที่แม่และเขาพูดมาโดยตลอด จนเราลองคิดแบบวิทยาศาสตร์ ว่า เขาอาจเป็นโรคหลายบุคลิกก็ได้ เพื่อนๆคิดว่าไง และเราควรทำไงดี