ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า
เมืองฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ถูกขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ด้าน จึงเป็นเมืองท่าที่สำคัญเพื่อติดต่อค้าขายกับต่างประเทศตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นประตูสู่ฮอกไกโดซึ่งเชื่อมกับเกาะฮอนชูผ่านทางอุโมงค์เซคัง
เมื่อมองลงมาจากยอดเขาฮาโกดาเตะ จะสามารถเห็นวิวที่สวยงามในยามค่ำคืน ซึ่งถูกยกให้ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลก อีกทั้งเอกลักษณ์ของการผสมผสานสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันทำให้ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่น่าสนใจแก่การมาเยือนของเหล่านักท่องเที่ยว
วันนี้ออกเดินทางแต่เช้าด้วยรถไฟ Hokuto จากซัปโปโรมายังฮาโกดาเตะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า โรงแรมที่จองไว้คือโรงแรม New Ohte ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟและอยู่ตรงข้ามตลาดสดยามเช้า ถึงจะเป็นโรงแรมเล็กแค่ 2 ดาว แต่เดินทางสะดวกและราคาสบายกระเป๋า ห้องสำหรับสองคนอยู่ที่ประมาณพันกว่าบาท 18xx ต่อคืน
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็หามื้อแรกใกล้กับตลาดเช้า ส่วนของร้านที่เป็นห้องด้านในยังมีบางร้านเปิดอยู่ค่ะ มีตู้ของตัวอย่างให้ดูด้วยนะ ได้ไคเซนด้งของจริงมาเหมือนตัวอย่างไม่ผิดเพี้ยน ของทะเลสดที่ฮอกไกโด สดมากค่ะ กินกี่ทีก็ไม่ผิดหวัง
หลังจากทานอิ่มเรียบร้อยพักนิดหน่อยรอเวลาก็ออกเดินทางไปยังจุด Ropeway ที่ขึ้นไปยังยอดเขาฮาโกดาเตะซึ่งสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพื่อชมวิวและแสงสียามค่ำคืนของเมืองและอ่าวฮาโกดาเตะกัน ภายในเมืองนี้มีรถรางให้บริการตามป้ายต่างๆ แต่ดูจากแผนที่แล้วอยู่ห่างจากสถานีฮาโกดาเตะเพียงกิโลกว่าจึงตัดสินใจเดินเท้าตามรถรางไปเรื่อยๆแทนค่ะประหยัดงบได้หลายบาททีเดียว แถมยังได้เดินชมเมืองได้บรรยากาศไปอีกแบบ กลายเป็นว่าไม่ได้นั่งรถรางเลยใช้เดินทั้งสองวัน แต่ถ้าใครจะไปป้อมรูปดาวโกเรียวคาคุจะต้องนั่งรถรางเพราะห่างจากโรงแรมไปสามกิโลกว่าๆ
เมื่อมาถึงจุดขึ้น Ropeway ก็พบกับจำนวนคิวที่ต่อแถวกันยาวมากอ้อมมาด้าข้างของตึกเลยทีเดียว มีทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและคณะทัวร์ต่อแถวเพื่อขึ้นไปด้านบน ขอแนะนำนะคะ พอเข้าตัวกระเช้าให้ไปทางด้านหลังถ้าขาขึ้นยืนทางด้านหน้าจะเป็นเขาฮาโกดาเตะ ดังนั้นขาขึ้นต้องยืนด้านหลัง ขาลงยืนด้านหน้าค่ะ เพราะจะได้เห็นวิวเมืองที่เปิดไฟสว่างไสวติดขอบกระจกเลยทีเดียว (เพราะโดนเบียดจนติดกระจกนะ)
ต้องใช้ความอดทนสูงมากค่ะถ้าใครต้องการชมวิวนี้ คือรอขาขึ้นประมาณ ชั่วโมงกว่าท่ามกลางอากาศหนาว ขาลงยิ่งกว่าค่ะ สองชั่วโมงเศษๆ รอด้านนอกอาคารขณะที่หิมะก็ตกปรอยๆ แล้วยังมีพวกคนจีนที่คอยจะแซงคิวอีก ห้ามเผลอเด็ดขาด
หลังจากที่ลงมาแล้วอยากได้อะไรอุ่นๆให้ร่างกาย เหลือบไปเห็นร้านขายราเม็งข้างทางจึงไม่รอช้าแวะเลยค่ะ
รู้สึกว่าราเม็งทำเอาใจคนไทยมากค่ะ เพราะเป็นราเม็งรสเผ็ดที่เข้มข้น กินกับเกี๊ยวซ่าทอดกรอบนอกนุ่มใน ช่วยบรรเทาความหนาว ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาเลย
จบท้ายวันนี้เพลียมาก เดินไปกลับและยืนตลอดห้าชั่วโมงกว่า คืนนี้ต้องพักก่อน เพราะวันพรุ่งนี้ต้องตื่นไปเดินตลาดสดยามเช้าแห่งฮาโกดาเตะ
เช้านี้ตื่นสายนิดหน่อยแต่ก็ยังทันตลาดอยู่ค่ะ ของสดๆจากทะเลมาเรียงรายขายกันเพียบ บางชนิดมีบ่อพักชั่วคราวเพื่อให้ของทะเลยังเป็นๆอยู่จนกระทั่งถึงปากคนกินเลยทีเดียว
เห็นปูสดยังขยับแข้งขยับขากันเลย มีขายทั้งร้านของสด และร้านที่เลือกสั่งประกอบอาหารตามน้ำหนักได้เลยค่ะ ราคาก็สูงเอาการทีเดียว ถ้าไปกันเป็นกลุ่มน่าจะคุ้ม เลือกทานได้หลายอย่าง แต่เป็นนักเดินทางแค่สองคนคงต้องขอผ่าน กลับไปกินไคเซนด้งของโปรดดีกว่า แค่นี้ก็ฟินละ สดเว่อร์ หอยโฮตาเตะตัวโตๆกับขาปูหวานๆแตะวาซาบิโปะบนข้าวสวยหอมๆโรยสาหร่ายแห้ง กินได้โดยไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มเลยค่ะ ชอบมาก ไม่น่าเชื่อจากคนที่เคยไม่ชอบกินของสด แต่มาญี่ปุ่นแล้วต้องลองเพราะของเค้าดีจริง ยิ่งฮอกไกโดของเค้าสดจริงจังไม่มีคาวเหมือนกันทุกร้าน รอบนี้เลยกินเกือบทุกวันไม่เบื่อ
หลังจากเดินตลาดเช้าและกินข้าวเรียบร้อยพร้อมตบท้ายด้วยผลไม้อย่างเมลอนหวานฉ่ำแล้วก็ออกเดินเท้าอีกครั้งไปยังท่าเรือเก่าและโกดังอิฐแดง
ในอดีตโกดังเหล่านี้เคยเป็นโกดังเก็บสินค้าที่ขนส่งมาทางเรือ หลังจากมีท่าเรือแห่งใหม่ โกดังร้างจึงถูกปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์สรรพสินค้า ที่รวมร้านค้า ร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร และภัตตาคารชั้นดี
ภายในโกดังนี้มีขายกล่องดนตรีที่มาจากโอตารุด้วยค่ะ ถ้าใครยังซื้อไม่ครบหรือต้องการเพิ่มเติมสามารถเลือกซื้อที่นี่ได้เหมือนกัน
เลือกซื้อกันจนพอใจ ภายในโกดังก็มีร้านขนมน่ารัก น่ากิน ยั่วยวนใจ ให้มาลิ้มลองกันได้นะคะ
อันนี้คือซอฟครีมรสฟักทอง ชีสเค้กไส้พีชหอมหวาน และอัลมอนทาร์ต รสชาติกลมกล่อม แค่หน้าตาของขนมก็กินขาดละ
พอเริ่มของหวานแล้วก็อยากของคาวขึ้นมาค่ะ แถวนี้มีร้านฟาสฟู้ดชื่อดังของเมืองฮาโกดาเตะที่ทุกคนต่างต้องมาชิม นั่นก็คือ ร้าน Lucky Pierrot ในเมนูมีอาหารหลากหลายมาก ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด ผัดยากิโซบะ และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตัวคิดว่าอร่อยทีเดียวและให้ปริมาณคุ้มค่ามาก
รสชาติเบอร์เกอร์และเครื่องดื่มประจำร้านอร่อยสมคำร่ำลือค่ะ เบอร์เกอร์เนื้อไก่ทั้งชิ้นชุ่มฉ่ำน้ำซอส และเครื่องดื่มที่มีรสชาติแบบฉบับของตัวเอง ด้วยราคาที่เทียบกับอาหารในฮอกไกโดแล้วถือว่าถูกทีเดียว ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดจานโตอร่อยเบอร์ใหญ่มาก แถมรอบเย็นออกมาก็แวะซื้อยากิโซบะกลับไปกินอีก ราคาสามร้อยกว่าเยน แต่หมูมาเพียบ
เดินเลยร้าน Lucky Pierrot ไปจะมี supermarket ขายอาหารทะเลแช่แข็ง ใครสนใจซื้อกลับที่นี่น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะของเยอะจริงและเป็นแพคเก็จที่สามารถซื้อก่อนบินกลับได้
ทั้งกินทั้งช้อปจุใจแล้วต้องนำของไปเก็บที่โรงแรมก่อนที่จะออกมาตอนเย็นอีกครั้ง เพื่อไปชมวิวเนิน Motomachi และ โบสถ์เก่า วันนี้เดินไปเดินกลับทั้งวันค่ะ เปลี่ยนทางเดินอ้อมไปอ้อมมาบ้าง จะได้ชมบ้านเมืองและร้านรวงตามข้างทางไปด้วย ระหว่างทางเดินลองแวะเข้าไปแถบโซนที่มีร้านอาหาร สงสัยว่าจะเป็นโซนเบียร์ มีการนำถังเบียร์มาตั้งเรียงคล้ายน้ำพุ แต่เพราะอุณหภูมิน่าจะติดลบเลยกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด
ช่วงฤดูหนาวเนิน Motomachi มีการประดับไฟในตอนกลางคืนสวยงามทีเดียวค่ะ
แต่เพียงแค่เดินเลยมานิดเดียวคุณก็จะได้บรรยากาศวังเวง และน่าสะพรึงกลัว เหมือนดูหนังสยองขวัญ ในซอยแคบเนื่องจากหิมะทับถมจนเหลือทางเดินเล็กๆ ทอดพาไปสู่โบสถ์ซึ่งตั้งตระหง่านกลางแมกไม้
จริงๆถ่ายมาทั้งสามโบสถ์แต่ต้องลบรูปออกเพราะดูแล้วให้ความรู้สึกวังเวง แถมเป็นเวลามืดแล้วแค่เดินผ่านเงาก็ทาบทับตัวโบสถ์จนดูน่ากลัว ทำให้นึกถึงละครเรื่องปราสาทมืดเลย
แต่แอบเห็นคู่รักชาวญี่ปุ่นมาทำพิธีสวมแหวนกันสองคนพร้อมถ่ายวิดีโอทั้งที่มืดๆนี่แหละ เลยต้องปลีกตัวออกมาเพราะเกรงว่าจะรบกวนเวลาโรแมนติกของเค้า
หมดเวลาที่ฮาโกดาเตะกันเพียงเท่านี้ รุ่งขึ้นเราจะไปแช่น้ำแร่อุ่นๆกันที่โนโบริเบ็ทสึค่ะ
ติดตามการกินเที่ยวเพิ่มเติมกันได้ที่
https://www.facebook.com/Bear2Travel/
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน
https://ppantip.com/topic/36807256
ตอนที่ 2 Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก)
https://ppantip.com/topic/36813897
ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า
https://ppantip.com/topic/36834512
ตอนที่ 4 Noboribetsu เมืองแห่งหุบเขานรก
https://ppantip.com/topic/36867555
ตอนที่ 5 Asahikawa สวนสัตว์สุดน่ารัก กะ เทศกาลหิมะแสนสนุก (จบ)
https://ppantip.com/topic/36898142
[CR] Hokkaido Cold Weather, Warm Heart - ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า
เมืองฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ถูกขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ด้าน จึงเป็นเมืองท่าที่สำคัญเพื่อติดต่อค้าขายกับต่างประเทศตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นประตูสู่ฮอกไกโดซึ่งเชื่อมกับเกาะฮอนชูผ่านทางอุโมงค์เซคัง
เมื่อมองลงมาจากยอดเขาฮาโกดาเตะ จะสามารถเห็นวิวที่สวยงามในยามค่ำคืน ซึ่งถูกยกให้ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลก อีกทั้งเอกลักษณ์ของการผสมผสานสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันทำให้ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่น่าสนใจแก่การมาเยือนของเหล่านักท่องเที่ยว
วันนี้ออกเดินทางแต่เช้าด้วยรถไฟ Hokuto จากซัปโปโรมายังฮาโกดาเตะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า โรงแรมที่จองไว้คือโรงแรม New Ohte ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟและอยู่ตรงข้ามตลาดสดยามเช้า ถึงจะเป็นโรงแรมเล็กแค่ 2 ดาว แต่เดินทางสะดวกและราคาสบายกระเป๋า ห้องสำหรับสองคนอยู่ที่ประมาณพันกว่าบาท 18xx ต่อคืน
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็หามื้อแรกใกล้กับตลาดเช้า ส่วนของร้านที่เป็นห้องด้านในยังมีบางร้านเปิดอยู่ค่ะ มีตู้ของตัวอย่างให้ดูด้วยนะ ได้ไคเซนด้งของจริงมาเหมือนตัวอย่างไม่ผิดเพี้ยน ของทะเลสดที่ฮอกไกโด สดมากค่ะ กินกี่ทีก็ไม่ผิดหวัง
หลังจากทานอิ่มเรียบร้อยพักนิดหน่อยรอเวลาก็ออกเดินทางไปยังจุด Ropeway ที่ขึ้นไปยังยอดเขาฮาโกดาเตะซึ่งสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพื่อชมวิวและแสงสียามค่ำคืนของเมืองและอ่าวฮาโกดาเตะกัน ภายในเมืองนี้มีรถรางให้บริการตามป้ายต่างๆ แต่ดูจากแผนที่แล้วอยู่ห่างจากสถานีฮาโกดาเตะเพียงกิโลกว่าจึงตัดสินใจเดินเท้าตามรถรางไปเรื่อยๆแทนค่ะประหยัดงบได้หลายบาททีเดียว แถมยังได้เดินชมเมืองได้บรรยากาศไปอีกแบบ กลายเป็นว่าไม่ได้นั่งรถรางเลยใช้เดินทั้งสองวัน แต่ถ้าใครจะไปป้อมรูปดาวโกเรียวคาคุจะต้องนั่งรถรางเพราะห่างจากโรงแรมไปสามกิโลกว่าๆ
เมื่อมาถึงจุดขึ้น Ropeway ก็พบกับจำนวนคิวที่ต่อแถวกันยาวมากอ้อมมาด้าข้างของตึกเลยทีเดียว มีทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและคณะทัวร์ต่อแถวเพื่อขึ้นไปด้านบน ขอแนะนำนะคะ พอเข้าตัวกระเช้าให้ไปทางด้านหลังถ้าขาขึ้นยืนทางด้านหน้าจะเป็นเขาฮาโกดาเตะ ดังนั้นขาขึ้นต้องยืนด้านหลัง ขาลงยืนด้านหน้าค่ะ เพราะจะได้เห็นวิวเมืองที่เปิดไฟสว่างไสวติดขอบกระจกเลยทีเดียว (เพราะโดนเบียดจนติดกระจกนะ)
ต้องใช้ความอดทนสูงมากค่ะถ้าใครต้องการชมวิวนี้ คือรอขาขึ้นประมาณ ชั่วโมงกว่าท่ามกลางอากาศหนาว ขาลงยิ่งกว่าค่ะ สองชั่วโมงเศษๆ รอด้านนอกอาคารขณะที่หิมะก็ตกปรอยๆ แล้วยังมีพวกคนจีนที่คอยจะแซงคิวอีก ห้ามเผลอเด็ดขาด
หลังจากที่ลงมาแล้วอยากได้อะไรอุ่นๆให้ร่างกาย เหลือบไปเห็นร้านขายราเม็งข้างทางจึงไม่รอช้าแวะเลยค่ะ
รู้สึกว่าราเม็งทำเอาใจคนไทยมากค่ะ เพราะเป็นราเม็งรสเผ็ดที่เข้มข้น กินกับเกี๊ยวซ่าทอดกรอบนอกนุ่มใน ช่วยบรรเทาความหนาว ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาเลย
จบท้ายวันนี้เพลียมาก เดินไปกลับและยืนตลอดห้าชั่วโมงกว่า คืนนี้ต้องพักก่อน เพราะวันพรุ่งนี้ต้องตื่นไปเดินตลาดสดยามเช้าแห่งฮาโกดาเตะ
เช้านี้ตื่นสายนิดหน่อยแต่ก็ยังทันตลาดอยู่ค่ะ ของสดๆจากทะเลมาเรียงรายขายกันเพียบ บางชนิดมีบ่อพักชั่วคราวเพื่อให้ของทะเลยังเป็นๆอยู่จนกระทั่งถึงปากคนกินเลยทีเดียว
เห็นปูสดยังขยับแข้งขยับขากันเลย มีขายทั้งร้านของสด และร้านที่เลือกสั่งประกอบอาหารตามน้ำหนักได้เลยค่ะ ราคาก็สูงเอาการทีเดียว ถ้าไปกันเป็นกลุ่มน่าจะคุ้ม เลือกทานได้หลายอย่าง แต่เป็นนักเดินทางแค่สองคนคงต้องขอผ่าน กลับไปกินไคเซนด้งของโปรดดีกว่า แค่นี้ก็ฟินละ สดเว่อร์ หอยโฮตาเตะตัวโตๆกับขาปูหวานๆแตะวาซาบิโปะบนข้าวสวยหอมๆโรยสาหร่ายแห้ง กินได้โดยไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มเลยค่ะ ชอบมาก ไม่น่าเชื่อจากคนที่เคยไม่ชอบกินของสด แต่มาญี่ปุ่นแล้วต้องลองเพราะของเค้าดีจริง ยิ่งฮอกไกโดของเค้าสดจริงจังไม่มีคาวเหมือนกันทุกร้าน รอบนี้เลยกินเกือบทุกวันไม่เบื่อ
หลังจากเดินตลาดเช้าและกินข้าวเรียบร้อยพร้อมตบท้ายด้วยผลไม้อย่างเมลอนหวานฉ่ำแล้วก็ออกเดินเท้าอีกครั้งไปยังท่าเรือเก่าและโกดังอิฐแดง
ในอดีตโกดังเหล่านี้เคยเป็นโกดังเก็บสินค้าที่ขนส่งมาทางเรือ หลังจากมีท่าเรือแห่งใหม่ โกดังร้างจึงถูกปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์สรรพสินค้า ที่รวมร้านค้า ร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร และภัตตาคารชั้นดี
ภายในโกดังนี้มีขายกล่องดนตรีที่มาจากโอตารุด้วยค่ะ ถ้าใครยังซื้อไม่ครบหรือต้องการเพิ่มเติมสามารถเลือกซื้อที่นี่ได้เหมือนกัน
เลือกซื้อกันจนพอใจ ภายในโกดังก็มีร้านขนมน่ารัก น่ากิน ยั่วยวนใจ ให้มาลิ้มลองกันได้นะคะ
อันนี้คือซอฟครีมรสฟักทอง ชีสเค้กไส้พีชหอมหวาน และอัลมอนทาร์ต รสชาติกลมกล่อม แค่หน้าตาของขนมก็กินขาดละ
พอเริ่มของหวานแล้วก็อยากของคาวขึ้นมาค่ะ แถวนี้มีร้านฟาสฟู้ดชื่อดังของเมืองฮาโกดาเตะที่ทุกคนต่างต้องมาชิม นั่นก็คือ ร้าน Lucky Pierrot ในเมนูมีอาหารหลากหลายมาก ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด ผัดยากิโซบะ และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตัวคิดว่าอร่อยทีเดียวและให้ปริมาณคุ้มค่ามาก
รสชาติเบอร์เกอร์และเครื่องดื่มประจำร้านอร่อยสมคำร่ำลือค่ะ เบอร์เกอร์เนื้อไก่ทั้งชิ้นชุ่มฉ่ำน้ำซอส และเครื่องดื่มที่มีรสชาติแบบฉบับของตัวเอง ด้วยราคาที่เทียบกับอาหารในฮอกไกโดแล้วถือว่าถูกทีเดียว ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดจานโตอร่อยเบอร์ใหญ่มาก แถมรอบเย็นออกมาก็แวะซื้อยากิโซบะกลับไปกินอีก ราคาสามร้อยกว่าเยน แต่หมูมาเพียบ
เดินเลยร้าน Lucky Pierrot ไปจะมี supermarket ขายอาหารทะเลแช่แข็ง ใครสนใจซื้อกลับที่นี่น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะของเยอะจริงและเป็นแพคเก็จที่สามารถซื้อก่อนบินกลับได้
ทั้งกินทั้งช้อปจุใจแล้วต้องนำของไปเก็บที่โรงแรมก่อนที่จะออกมาตอนเย็นอีกครั้ง เพื่อไปชมวิวเนิน Motomachi และ โบสถ์เก่า วันนี้เดินไปเดินกลับทั้งวันค่ะ เปลี่ยนทางเดินอ้อมไปอ้อมมาบ้าง จะได้ชมบ้านเมืองและร้านรวงตามข้างทางไปด้วย ระหว่างทางเดินลองแวะเข้าไปแถบโซนที่มีร้านอาหาร สงสัยว่าจะเป็นโซนเบียร์ มีการนำถังเบียร์มาตั้งเรียงคล้ายน้ำพุ แต่เพราะอุณหภูมิน่าจะติดลบเลยกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด
ช่วงฤดูหนาวเนิน Motomachi มีการประดับไฟในตอนกลางคืนสวยงามทีเดียวค่ะ
แต่เพียงแค่เดินเลยมานิดเดียวคุณก็จะได้บรรยากาศวังเวง และน่าสะพรึงกลัว เหมือนดูหนังสยองขวัญ ในซอยแคบเนื่องจากหิมะทับถมจนเหลือทางเดินเล็กๆ ทอดพาไปสู่โบสถ์ซึ่งตั้งตระหง่านกลางแมกไม้
จริงๆถ่ายมาทั้งสามโบสถ์แต่ต้องลบรูปออกเพราะดูแล้วให้ความรู้สึกวังเวง แถมเป็นเวลามืดแล้วแค่เดินผ่านเงาก็ทาบทับตัวโบสถ์จนดูน่ากลัว ทำให้นึกถึงละครเรื่องปราสาทมืดเลย
แต่แอบเห็นคู่รักชาวญี่ปุ่นมาทำพิธีสวมแหวนกันสองคนพร้อมถ่ายวิดีโอทั้งที่มืดๆนี่แหละ เลยต้องปลีกตัวออกมาเพราะเกรงว่าจะรบกวนเวลาโรแมนติกของเค้า
หมดเวลาที่ฮาโกดาเตะกันเพียงเท่านี้ รุ่งขึ้นเราจะไปแช่น้ำแร่อุ่นๆกันที่โนโบริเบ็ทสึค่ะ
ติดตามการกินเที่ยวเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/Bear2Travel/
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน https://ppantip.com/topic/36807256
ตอนที่ 2 Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก) https://ppantip.com/topic/36813897
ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า https://ppantip.com/topic/36834512
ตอนที่ 4 Noboribetsu เมืองแห่งหุบเขานรก https://ppantip.com/topic/36867555
ตอนที่ 5 Asahikawa สวนสัตว์สุดน่ารัก กะ เทศกาลหิมะแสนสนุก (จบ) https://ppantip.com/topic/36898142