[CR] Hokkaido Cold Weather, Warm Heart - ตอนที่ 2 Otaru เมืองแห่งเวลา (โรแมนติก)

ตอนที่ 2  Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก)




หลังจากกินของหวานและเดินเที่ยวใน Shiroi Koibito Park เต็มที่แล้ว ก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับไปยังสถานีซัปโปโรเพื่อต่อรถไฟ JR ไปยังสถานีโอตารุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที วันนี้เริ่มการใช้เจอาร์พาสที่แลกไว้ตั้งแต่เมื่อวานเป็นครั้งแรก

โอตารุ เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ห่างจากซัปโปโรราว 40 กิโลเมตร เมื่อก่อนโอตารุเคยเป็นเมืองหลักทางการค้าและเมืองท่าที่สำคัญของฮอกไกโด แต่เนื่องจากความเจริญมุ่งไปที่ซัปโปโรมากว่า ทำให้ความสำคัญของเมืองโอตารุลดลง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้โอตารุน่าสนใจและมีความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวที่จะต้องมาเยือนสักครั้ง ก็คือศิลปะการทำเครื่องแก้ว เครื่องประดับ และกล่องดนตรี ที่ทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ สวยงามน่ารัก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกร้องให้นักเดินทางต้องมาจับจองเป็นเจ้าของเพื่อเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากที่มีคุณค่าและมีความหมายที่ดีสำหรับทั้งผู้ให้และผู้รับ

ระหว่างที่รถไฟวิ่งไปยังโอตารุ ก็สามารถชมวิวทะเลญี่ปุ่นตามทางที่รถไฟผ่านอีกด้วย เพราะรถไฟจะวิ่งเรียบทะเลไปเรื่อยๆ เมื่อมาถึงสถานีโอตารุ ก็เริ่มต้นออกเดินทางไปยังเป้าหมายของที่นี่ก็คือ Otaru Music Box Museum ตามแผนที่นี้ใช้เวลาประมาณ 22 นาที



แต่เนื่องจากอยากชมเมือง แล้วก็แอบส่องหาร้านอาหารสำหรับวันนี้ไปด้วย เพราะท้องเริ่มหิว หลังจากกินแต่ขนมเข้าไปอย่างเดียว ก็เลยใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง

ระหว่างทางอากาศก็เริ่มเย็นขึ้น ตลอดทางเดินจากหน้าสถานีไปจนถึงช่วงที่เดินเข้ามาในถนนที่มุ่งหน้าไปยัง Otaru Music Box Museum หิมะเริ่มโปรยปรายและได้ยินเสียงดนตรีดังเบาๆกังวานไปทั่ว รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกและมีความสุขมาก เหมือนอยู่ในเมืองในฝัน และแล้วก็ได้พบกับอาคารที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป มีนาฬิกาไอน้ำตั้งอยู่ด้านหน้าซึ่งจะพ่นไอน้ำและมีเสียงดนตรีดังทุกๆ 15 นาที



ภายในอาคารมีสินค้ามากมาย สามารถเลือกซื้อ เลือกชมได้อย่างอิสระ มีทั้งที่เป็นกล่องดนตรี หลากรูปแบบ หลายราคา ตุ๊กตาไขลานที่มีเสียงดนตรี ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก หรือจะเลือกเฉพาะตัวชิ้นส่วนของเครื่องที่สร้างเสียงดนตรีเพลงที่เราชอบและมาบรรจุในรูปทรงที่เราเลือกเองก็ได้



สามารถขึ้นไปยังชั้นบนของอาคารซึ่งมีงานศิลปะ หัตกรรมที่ทำจากไม้ เหล็กดัดเป็นลวดลายและเครื่องแก้วที่ทำเป็นรูปทรงต่างๆมีสีสันสวยงาม




นอกจากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีนี้แล้วยังมีร้านค้า เครื่องแก้ว เครื่องประดับต่างๆเรียงตามถนนเส้นนี้ด้วย



หลังจากเดินชมและเลือกซื้อกล่องดนตรีเป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาหาของกินแล้วจ้า ข้าวหน้าซูชิเป็นที่หมายอันดับหนึ่ง เล็งไว้แล้วว่าจะต้องกินให้ได้ เพราะโอตารุเป็นเมืองติดทะเล อาหารทะเลต้องสดมากๆแน่ แต่เนื่องจากเที่ยวเพลินจนเวลาล่วงเลย ฟ้าเริ่มมืด ร้านอาหารบางร้านก็เริ่มปิดตัวลง ในฤดูหนาวร้านที่ญี่ปุ่นปิดกันเร็วมากๆ เพราะสี่โมงเย็นฟ้าก็เริ่มครึ้ม หกโมงเย็นนี่ไม่ต้องพูดถึงร้านปิดไปกว่าครึ่ง จึงเหลือร้านเล็กน้อยให้เลือก อาจเป็นเพราะแถวนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยราคาอาหารเลยแพงกว่าตามตลาด ตามมาดูหน้าตาชิราชิซูชิที่สั่งกันค่ะ

ความแตกต่างระหว่างชิราชิซูชิกับไคเซนด้ง ก็คือ ชิราชิซูชิ คือข้าวผสมน้ำส้มสายชูญี่ปุ่นรสชาติแบบซูชิ แต่ใส่ลงในชามแล้วโปะหน้าด้วยปลาหรือของทะเล ส่วนไคเซนด้ง คือข้าวสวยนุ่มๆในชามแล้วโปะหน้าด้วยปลาหรืออาหารทะเลแล้วแตะด้วยวาซาบิเบาๆ

มีเมนูข้าวหน้าต่างๆให้เลือก




พร้อมด้วยปลาย่างซีอิ้วหอมๆ



อิ่มท้องกับของคาวแล้วก็มาเดินหาขนมกินกันต่อ บริเวณนี้มีร้านขึ้นชื่ออย่างร้าน Le TAO ที่มีชีสเค้กแสนอร่อย และลูกค้าเยอะมาก ถ้าใครมาเร็วหน่อยแวะชิมกันได้ค่ะ แต่เป็นคนไม่ค่อยชอบชีสเท่าไหร่ ก็เลยซื้อขนมจากร้านอื่นๆแทนและเวลาก็มีน้อยต้องเดินต่อไปเพื่อชมการประดับไฟในช่วงฤดูหนาว หรือ Snow Light Path Festival ที่คลองโอตารุค่ะ

จากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเดินต่อไปยังคลองโอตารุใช้เวลาประมาณ 15 นาทีตามแผนที่นี้ ขากลับก็เดินไปตามแผนที่ทางซ้ายจะเป็นสถานีโอตารุค่ะ



ช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 คลองโอตารุเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า ซึ่งจะขนส่งสินค้าจากเรือใหญ่ลงเรือลำเล็กล่องมาตามลำคลองเพื่อเก็บสินค้าในโกดังที่ตั้งเรียงรายข้างทาง

หลังจากการพัฒนาการขนส่งให้ทันสมัยขึ้น คลองโอตารุก็ถูกทิ้งร้าง และได้รับการบูรณะใหม่ให้กลับมาสวยงามอีกครั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 จากนั้นโกดังก็ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้าและร้านอาหารอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน



นอกจากมีการประดับไฟตามฝั่งคลองแล้วยังมีศิลปินนำงานของตัวเองมาขายแก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา อีกทั้งบริการล่องเรือในคลองโอตารุก็เป็นที่นิยมกับผู้ที่ต้องการชมความสวยงามในแบบวิธีดั้งเดิม



เพียงแค่ไฟดวงเล็กๆที่ตั้งเรียงรายตามฝั่งคลองในยามค่ำคืนของฤดูหนาว ก็สามารถเปลี่ยนคลองธรรมดา ธรรมดา ให้กลายเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศโรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ อย่าพลาดมาสัมผัสช่วงเวลาโรแมนติกกันที่เมืองโอตารุนะคะ

ตอนต่อไปเราจะไปชมแสงสียามค่ำคืนในมุมสูงกันที่ฮาโกดาเตะค่ะ

ติดตามการกินเที่ยวเพิ่มเติมกันได้ที่  https://www.facebook.com/Bear2Travel/

ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน  https://ppantip.com/topic/36807256
ตอนที่ 2  Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก)  https://ppantip.com/topic/36813897
ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า  https://ppantip.com/topic/36834512
ตอนที่ 4 Noboribetsu เมืองแห่งหุบเขานรก  https://ppantip.com/topic/36867555
ตอนที่ 5 Asahikawa สวนสัตว์สุดน่ารัก กะ เทศกาลหิมะแสนสนุก (จบ)  https://ppantip.com/topic/36898142
ชื่อสินค้า:   Hokkaido , Sapporo , Otaru , JR Pass , Snow Festival 2017
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่