ชีวิตที่หายไป…/คนอุบล

กระทู้คำถาม
หลายครั้งที่ได้ออกไปตามชนบทจะมีเรื่องเศร้าใจติดตามมาเสมอๆ…
ครั้งหนึ่งไปเห็นคุณยายนั่งน้ำตาไหลอยู่เลยเข้าไปถามว่า ยายเป็นไร…??
ท่านตอบว่าข้าวแห้งตายคานา…ทั้งๆที่อำเภอนั้นห่างจากแม่น้ำมูลไม่ถึง 20 กม.
อีกครั้งหนึ่งผ่านไปเห็นชาวนายืนมองดูน้ำท่วมเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา…
แน่นอนสิ่งที่เค้ายืนดูนั้นคือน้ำที่ท่วมนาจนมองไม่เห็นยอดต้นข้าว…
นั้นหมายถึงรายรับที่คาดว่าจะได้เพื่อนำมาใช้ทั้งปีต้องหมดสิ้นไป พร้อมกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้น…
ทุกวันนี้เวลาไปขนบทสิ่งที่เห็นชินตาคือทั้งหมู่บ้านมีแต่ปู่ย่าตายายเฝ้าบ้าน…
เพราะหนุ่มสาวต้องออกไปหางานทำหารายได้ที่กรุงเทพหรือต่างประเทศ…
มีเพียงไม่กี่ครั้งที่ไปหมู่บ้านแล้วเห็นชีวิตที่กลับมาสู่หมู่บ้าน…
ครั้งแรกคือยุคนายกทักษิณ ยุคนั้นทุกหมู่บ้านมีชีวิตชีวากันมาก…
เพราะนอกจากข้าวเป็นราคาแล้วสินค้าโอท๊อปเป็นที่นิยมมาก…
พ่อแม่ต้องเรียกลูกหลานกลับมาช่วยที่บ้าน หมู่บ้านจึงคับคั่งด้วยผู้คน…
แสงไฟเปิดทุกบ้านช่วยกันทำสินค้าเอาเงินเข้าบ้าน…
ค่ำมานั่งล้อมวงกินข้าวมีเสียงพิณเสียงแคนดังก้องหมู่บ้าน…
อีกครั้งหนึ่งคือยุคนายกปูที่พ่อแม่เรียกลูกหลานมาช่วยทำนาเพราะข้าวได้ราคา…
วันนี้โทษนายกปูทำชาติเสียหาย 500,000ล้าน…จริงๆผมไม่เชื่อว่าเสียหายขนาดนั้น…
แต่ที่สำคัญเราได้ชีวิตที่กลับมาสู่หมู่บ้านทำไมไม่มีคนพูดถึงตรงนี้…
หรือจะปล่อยให้แต่ละหมู่บ้านร้างแห้งเหี่ยวใกล้ตายเหมือนทุกวันนี้…
น่าเศร้าใจจริงๆครับ…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่