.....ช่วงนี้ผม "นอนนา" ..../วัชรานนท์

กระทู้คำถาม
ชีวิตลูกชาวนา...สิ่งหนึ่งที่ผมชอบที่สุดคือการ “นอนนา”   เป็นเสมือนหนึ่งการปลีกวิเวกหลีกลี้และทิ้งความสับสนวุ่นวายไว้ในเมือง  มานอนกินลม  ชมดาวบนเถียงนาเล็กๆ  มีเพียงเสื่อใบ หมอนใบ กับผ้าห่มผืนเล็กๆ ที่บางคนอาจจะเรียกว่าผ้าขี้ริ้วก็ได้ไว้ห่ม     นั่นคือสิ่งที่ได้ขาดหายไปจากชีวิตผมเมื่อสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา   และคงย้อนกลับไปหามันไม่ได้อีกแล้ว    ทำได้อย่างมากก็แค่การได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศตรงนั้นให้ใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้   


“ธรรมะ” ของพระพุทธองค์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวหนังสือที่มาจากพระไตรปิฏก  จากการเทศน์ผ่านเครื่องกระจายเสียงของพระภิกษุ  หรือแม้แต่จากพระโอษฐ์ของพระองค์เพียงอย่างเดียว      หากแต่ยังมี “พุทธจริยวัตร” ที่พุทธศาสนิกชนพึงน้อมศึกษาเพื่อเดินตามรอยพระพุทธองค์    มีพุทธจริยวัตรหลายช่วงหลายเหตุการณ์ที่เราๆ ท่านๆ อ่านหรือรับทราบแล้วแต่มองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย   โดยไปใส่ใจหรือให้น้ำหนักที่พระไตรปิฏก   จากหนังสือของพระดังๆ  จากการเทศน์ของพระ/แม่ชี/นักปาฐกชื่อดัง  ฯลฯ มากกว่า


“ธรรมะ” จากพุทธจริยวัตรอันหนึ่งที่ผมพยายามน้อมมาใส่ใจและเตือนเองตัวเองอยู่บ่อยๆ เวลาโกรธใครคือการไม่ถือโทษโกรธเคืองพระเทวทัต   พระเทวทัตผู้ซึ่งหมายปลงชีวิตพระองค์  แน่ล่ะ..พระพุทธองค์ทรงเป็นอรหันต์   แต่การนำพุทธจริยวัตรตรงนั้นมาสะกิดใจตัวเองเวลาโกรธใคร  มันสามารถทำให้ความโกรธทุเลาลงได้ระดับหนึ่ง  (ประมาณว่าขนาดคนหมายจะคร่าเอาชีวิตพระองค์ๆ ก็ทรงไม่ถือสา   แล้วอย่างเราๆ ท่านๆ นี่...แค่กระทบกระทั่งกันนิดๆ หน่อยๆ ก็เป็นเรื่องมากมาย)   ที่ทำงาน  ผมมักจะหัวเสียหัวหน้าแผนกผมบ่อยครั้งมากเพราะเขาแกล้งผมต่างๆ นานา (คือผมทำงานในแผนกนานกว่าทุกคนและระดับเงินเดือนผมแตะเพดานสิบกว่าปีที่ผ่านมา  จึงสูงกว่าทุกคนรวมทั้งหัวหน้าแผนกด้วย และคุณวุฒิผมก็สูงกว่าทุกคนในแผนก)  ที่ผ่านมาผมมีหัวหน้าแผนกผ่านมาแล้วก็จากไปถึงแปดคน   ส่วนใหญ่ก็จะโอเค   แต่คนปัจจุบันนี้พึ่งเข้ามาเป็นหัวหน้าแผนกได้สองปีกว่าๆ ....เขากลั่นแกล้งผมมากมาย   ตอนแรกๆ ก็คิดจะหางานใหม่ทำ(ซึ่งคิดว่าคงพอจะหาได้ไม่ยาก)    แต่เมื่อคิดถึงบทสนทนาในครั้งพุทธกาลของพระพุทธองค์กับพระอานนท์ต่อกรณีที่มีปัญหาในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง   พระอานนท์กราบทูลพระพุทธองค์ให้เสด็จหนีไปที่หมู่บ้านอื่นเสีย   แล้วพระพุทธองค์ทรงถามกลับว่าแล้วถ้าหมู่บ้านแห่งนั้นมีปัญหาอีกล่ะ?  พระอานนท์ก็ตอบกลับว่าก็เสด็จไปหมู่บ้านอื่นต่อ...เช่นนี้ไปเรื่อยๆ   พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าอย่าเลยอานนท์....ไม่งั้นปัญหาก็คงไม่จบ    ผมตัดสินใจขอคุยแบบนอกรอบกับหัวหน้าแผนกเพื่อปรับความเข้าใจ   เขาก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง...แต่ถ้าหากเขายังย้อนกลับไปที่พฤติกรรมเดิม   ผมก็จะนำเรื่องไปสู่ฝ่ายบุคคลให้ไต่สวนพิจารณา  ??  แต่ตอนนี้...ผมคิดว่าผมได้เคลียร์ทุกอย่างกับเขาแล้ว  บอกความรู้สึกตัวเองกับเขาว่าเวลาเขาtreat ผมแบบไม่แฟร์  และถ้าเรื่องไม่จบ.....ก็คงต้องให้ทนายดำเนินการ

เช้านี้......พึ่งถ่ายสดๆ ร้อนๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ขอใช้โอกาสนี้แสดงความเห็นต่อกรณีขัดแย้งในห้องราชที่มีอยู่ตอนนี้นะครับ

ในฐานะที่ถูกเอ่ยถึงในกระทู้ภาคสองของคุณซ่ารา   ก็ขอออกมายืนยัน(ถือว่าเป็นหลักฐานก็ได้)ตามที่คุณซาร่าฯ บอกไว้ว่าผม(วัชรานนท์)เคยโดนหลังไมค์จากหมายเลขลึกลับในทำนองตำหนิการวางตัวของผมต่อกรณีวิวาทะของคุณแม่ไก่กับคุณซีเอ็นฯ (ขอโทษทั้งสองท่านด้วยที่ต้องเอ่ยชื่อตรงๆ หากไม่เอ่ย  คนอ่านก็จะสับสนคิดหรือมโนไปว่าเป็นคนนู้นคนไม่อยากให้คนให้ผิดฝาผิดคนเป็นยุ่งยากเปล่า)   ผมไม่รู้ว่านะว่าหมายเลขนั้นเป็นใครและไม่ติดใจตั้งนานแล้วล่ะ    ส่วนที่ผมอยากจะเลิกเล่นสักพักนั้น....เพราะช่วงนั้นกำลังมีปัญหากับหัวหน้าแผนกตามที่บอกไว้ข้างบนและเบื่อเรื่องราวที่ไม่รู้จบรู้สิ้นจากกลุ่มคนเสื้อแดงของพวกเราในห้องราชฯ  ก้อ...ไม่ได้ถึงกับน้อยอกน้อยใจถึงกับต้องเลิกเล่นหรอก (ผิดหวังน่ะมี)    ที่จริงก็มีทั้งคุณซาร่า  คุณชุนเทียน คุณมาริโอ้  และคุณหล่อขวัญหลังไมค์มาบอกให้กลับมาเล่นที่ห้องราชฯ ต่อ     และต้องบอกกันตรงนี้นะครับ....ผมไม่ค่อยตอบรับหลังไมค์ใครยาวเกินสามครั้ง  ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดว่าผมชอบหลังไมค์กับใครต่อใคร   คนที่ผมหลังไมค์ด้วยไม่เกินห้าครั้ง(เยอะที่สุด)คือคุณZodiac28ซึ่งไม่ใช่ขาประจำห้องราชฯ  แลกเปลี่ยนความรู้ด้านประวัติศาสตร์กันไม่มีมาม่าอะไร


เข้าสู่จุดโฟกัสล่ะกัน.....ผมเห็นด้วยกับคุณคิตตี้มากๆ เลยที่อยากจะประสานพี่ๆ น้องๆ เสื้อแดงต่อกรณีนี้    และเชื่อว่าคงจะประสานไม่สนิทหรอก  แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ผ่านๆ ไปเหมือนที่แล้วๆ มา   ที่ผมมักจะใช้สำนวนว่า "ไม่สะเด็ดน้ำ" นั่นแหละครับ     และเรื่องนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในห้องราชฯ ต้องทำในล่วงหน้าว่า   เป็นประเด็นหวานคอแร้งให้อีกฝ่ายได้ยกขึ้นมาล้อเลียน ตีกินได้อีกยาวอย่างที่รู้ๆ กัน


ต่างฝายต่างบอกว่า "เลยจุด" สมานมาแล้ว    ผมเห็นด้วยนะครับว่าขนาดนี้มันคงจะเลยจุดที่จะสมานมาแล้ว   แต่มันคงยังไม่เลยจุดที่ต้องแตกหักชนิดขาดสะบั้นนะ   อย่างน้อยๆ สมาชิกของแต่ละกลุ่มจะมีไมตรีที่ไขว้กันไปมาอยู่   อาจจะ "ใย" เล็กๆ ที่จะเชื่อมโยงได้อยู่ในอนาคตภายหน้า   


คุณนพผมเคยพบหน้าค่าตาและพูดคุยมาแล้ว   เธอน่ารักและอัธยาศัยดีมาก   ส่วนคุณอาร์ตผมชื่นชมในการวางตัวมาตลอด   และเชื่อว่าเรื่องชื่อตัวละครจีนเป็นเพียงดินประสิวหรือชนวนเท่านั้นไม่ใช่ประเด็นหลักอะไรเลยที่คุณอาร์ตต้องมาใส่ใจตรงนี้    มันต้องมีอะไรที่ "ลึก" กว่านี้ที่คนอย่างคุณอาร์ตระเบิดอารมณ์มาได้ขนาดนี้    ซึ่งคุณอาร์ตก็ทอดสะพานให้มานั่งคุยกัน     หมายถึงเอาตัวเป้งๆ มานั่งคุยกัน   จะเคลียร์หรือไม่เคลียร์ก็เป็นอีกเรื่อง   และควรอย่างยิ่งที่จะเป็นเช่นนั้น    ไม่งั้น....ผมว่าเรื่องไม่จบหรอกครับ


คุณคนอุบลบอกว่าไม่ติดเรื่องที่ผ่านมา   ผมก็ขอยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า  ผมก็ไม่ติดใจอะไรเลยต่อคนที่หลังไมค์มาตำหนิผมเลยจริง....ผมไม่รับซะแล้ว  มันก็กองวางอยู่ตรงนั้นตั้งแต่วันนั้นแหละ   


ผมไม่อยากให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ เหมือนที่แล้วมาเลยจริงๆ ครับ    เพราะมันจะ "มากความ" และสับสนหนักเข้าไปอีก   ตัวเป้งๆ หันหน้าเข้าคุยกัน   เลี่ยงที่จะคุย/เคลียร์กันหลังไมค์  (สัญญาหรือปฏิญาณหลังไมค์ถูกแฉมานักต่อนัก)  และไม่ควรวางกล้ามเป็นนักเลงโตหน้าไมค์ (เพราะใครๆ ก็พิมพ์ได้)  จะแตกหัก  หรือจะต่างคนต่างอยู่  อย่างไร แบบไหนก็ตกลงกันเอาเอง    มีแต่มาม่าบ่อยๆ ถี่ๆ ...ชาวบ้านเขาก็รำคาญเป็น   คุณภาพห้องราชฯ นับวันมีแต่เสื่อมลงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่