**พิรุณแห่งรัก** ตอนที่ 1

กระทู้สนทนา
**พิรุณแห่งรัก**

“ความรักคือ อะไร ทำไมใครต่อใคร มักตั้งคำถามแบบนี้
ถ้าเปรียบความรักเหมือนดั่งฝน  บางคนเห็นฝนก็พลอยชุ่มฉ่ำใจดั่งผืนดินแห้งได้ซับสายน้ำ
หรือบางคนเห็นฝนทีไรก็อยากร้องไห้ทุกที เหมือนฟ้าจะร้องไห้ให้หัวใจที่ปวดช้ำ

แต่ไม่ว่าอย่างไร ... ฝนจะโปรยปรายมาอย่างไร ฉันก็ยังคงชอบสายฝนอยู่ดี....
ฉันต้องการความรัก ที่เปรียบดั่งหยาดฝนมาสู่หัวใจฉัน เวลานั้นอาจจะชุ่มฉ่ำ หรือ เวลานั้น ฉันอาจจะร้องไห้
ฉันก็ยังจะรักสายฝน ฤดูที่ฉันรัก.....


เสียงฝีเท้าวิ่งตามมาข้างหลัง ทำให้วรรษา หญิงสาวในวัยดรุณี ต้องเหลียวหลังกลับไปมอง และพบว่าเสียงฝีเท้านั้นเป็นเสียงของคนที่เธอรู้จัก เจ้านายเธอนั่นเอง

เขาวิ่งกางร่มมา พร้อมกับมีร่มอีกคันในมือ  วรรษา รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ทันได้เอ่ยทักอะไรไป ชายหนุ่มก็หยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมยื่นร่มให้

“เดินตากฝนมาทำไม”  น้ำเสียงค่อนข้างเข้มเล็กน้อยเชิงดุเบา ๆ

“ก็ฝนมันไม่ได้ตกมากนี่คะ  แบบนี้สบายมาก เดินแป๊บเดียวเองจากร้านก็ถึงที่พักแล้ว”

“ต้องรู้จักดูแลตัวเองนะ วรรษา  .... เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาช่วยที่ร้านไม่ได้”  ชายหนุ่มขยี้ศีรษะของเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดู

“เอ้า เอานี่ไป  ช่วงนี้ฤดูฝน พกร่มไปไหนมาไหนด้วยนะ”  ชายหนุ่มยื่นร่มให้วรรษา พร้อมกับถุงกระดาษที่บรรจุ แซนวิช 2 ชิ้น

“แล้วนี่ก็แซนวิช สำหรับพรุ่งนี้เช้า ไปก่อนนะ”  เขาแตะที่แขนของวรรษาเบา ๆ พร้อมส่งรอยยิ้มละมุนให้ ก่อนหันหลังกลับแล้วเดินกลับไปยังทางเดิม

วรรษายังยืนมองชายหนุ่มที่เดินหันหลังกลับไป เธอกางร่มที่ได้รับจากเขา แม้ฝนจะตกปรอยปรอยเท่านั้น แต่เขายังห่วงใย ยิ่งตามเอาร่มมาให้แบบนี้ ทำเอาวรรษาพลอยเคลิ้มเผลอมีรอยยิ้มระบายบนใบหน้า

ความบังเอิญที่ทำให้ทั้งคู่มาเจอกันโดยไม่บังเอิญ วรรษาได้หวนคิดถึงวันวานที่ ความวุ่นวาย ได้นำให้วรรษาได้มาเจอกับ ภูศิลป์ จนกระทั่งกลายเป็นเจ้านายลูกน้องที่เกื้อกูลกัน


เสียงของความวุ่นวายยามเช้า.... รถเมล์ที่จอดเทียบป้ายคันแล้วคันเล่าแล้วก็เร่งเครื่องออกไป มาอย่างเร็ว ไปอย่างรวดเร็ว จนชีวิตของคนในกรุงเทพฯ เหมือนจะต้องวิ่งแข่งกันอย่างนี้เรื่อยไป

พอรถเมล์สายประจำที่รอคอยมา คนที่รอคอยอยู่ป้ายรถเมลล์ ต่างตั้งท่าอย่างกับนักวิ่ง รอออกตัวกันทีเดียว เช่นเดียวกันกับเช้าวันนี้อย่างที่คุ้นเคย  วรรษา ในชุดนักศึกษาตื่นเช้าไปยืนคอยรถเมลล์เพื่อมุ่งหน้าไปเรียนมหาลัยเหมือนเช่นเคย ... ความเร่งรีบในยามเช้าเพื่อให้ทันเวลา ทำให้วรรษา ชอบที่จะใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงสบาย ๆ เพื่อหามุมสงบส่วนตัวในความวุ่นวายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ชีวิตในเมืองมันช่างแตกต่างกับบ้านเกิดของเธออย่างห่างไกลทีเดียว

“อีกหน่อยถ้าหารายได้พิเศษได้บ้างแล้วหล่ะก็ ฉันจะย้ายไปพักใกล้มหาลัยเลย”   วรรษาคิดวางแผนไว้  

การเข้าเรียน ชั้น ปี 1 ของมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทำให้วรรษาต้องปรับตัว และเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างประหยัด ตามแบบฉบับของเด็กที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี แต่ได้โอกาสที่จะมาเรียนต่อในเมืองหลวง

ขณะที่วรรษาครุ่นคิดเพลิน ๆ โดยไม่ทันระวัง  

“เอี๊ยด...” เสียงรถเมลล์เหยียบเบรคอย่างกระชั้นชิด ตามมาด้วยคนที่ยืนโหนอยู่ตรงกลางต่าง ๆ ถูกเทเอียงไปด้านหน้า วรรษา ร่างของเธอไปกระแทกกับชายหนุ่มที่ยืนโหนราวข้างหน้าเธออย่างไม่ตั้งใจ

เสียงของคนขับรถโวยวายอย่างหัวเสีย  “ไอ้มอเตอร์ไซด์บ้า ตัดหน้าอย่างนี้ได้ไงวะ”  

ผู้โดยสารโอดโอยกัน ในขณะที่วรรษาเองก็ละล่ำละลัก กล่าวขอโทษ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

เขาเพียงสะบัดศีรษะว่าไม่เป็นไร  แต่ก็ดูจะหัวเสียนิดหน่อยเช่นเดียวกัน

คนขับรถเมลล์ออกรถต่อ .. วรรษาเองไม่รู้ตัวเลยว่า หูฟังของเธอได้หลุดและสายหูฟังได้ไปพันกับสายกระเป๋าสะพานของชายหนุ่มข้างหน้า

“ป้ายหน้าเพ่ ป้ายหน้าเพ่” เสียงกระเป๋ารถเมลล์ตะโกนเพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมตัว

ชายหนุ่มรีบขยับเพื่อเตรียมตัวไปรอลงที่หน้าประตูรถ จังหวะนั้นเอง เขาก็รู้ตัวว่า มีบางอย่างดึงอยู่ที่สายกระเป๋าสะพายของเขา

สายหูฟังของวรรษานั่นเอง ที่ไปเกี่ยวกับกระเป๋าสะพายของชายหนุ่ม

“โอ๊ะ..” วรรษาร้องอย่างแปลกใจ  

รถเมลล์ตรงจอดเทียบป้าย

“โอ๊ะ..” ชายหนุ่มก็ร้องด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้คนกรูกันจากรถเมลล์ และในขณะเดียวกัน ผู้คนที่ยืนรอที่ป้ายรถเมลล์ก็กรูกันขึ้นมา
“ขอโทษค่ะ ..” วรรษา พยายามจะแก้หูฟังของเธอจากสายสะพายกระเป๋าของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มเริ่มสังเกตหญิงสาวตรงหน้า “เปิ่นเอ๊ย..” เขาคิดในใจ
“วันนี้วันอะไรวะ รถก็เสีย ฟ้าก็ยังครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตกอีก” เขาเองก็หงุดหงิดไม่น้อยแต่ไม่ได้กล่าวอะไรไป
เขาช่วยวรรษาแก้สายหูฟังที่พันกับกระเป๋าของเขา แต่ว่าก็ไม่ทันที่เขาจะลงป้ายนี่แล้ว เพราะรถได้เคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
“ขอโทษนะคะ”  วรรษารู้สึกเขินเล็กน้อย ที่สายหูฟังของเธอไปพันกับสายสะพายกระเป๋าของชายหนุ่มตรงหน้า ซึ่งน่าจะเกิดตรงช่วงที่รถเมลล์เบรคกระทันหันทำให้หูฟังของเธอหลุดไปและไปเกี่ยวกับกระเป๋าของเขา

เขาส่ายหน้าอย่างหัวเสียอีกครั้ง  “ไม่เป็นไรครับ”
“ก็เขาไม่ได้ตั้งใจนี่หน่า  ทำหน้าหงุดหงิดอยู่ได้”  วรรษาคิดในใจ
“ลงป้ายหน้าก็แล้วกัน..” ชายหนุ่มกล่าวกับตัวเอง

“ป้ายหน้าเพ่ ป้ายหน้าเพ่” เสียงกระเป๋ารถเมลล์เตือนอีกครั้ง  
ชายหนุ่มเตรียมตัวที่จะลงป้ายรถเมลล์นี้ ป้ายเดียวกันกับที่วรรษาจะลงเพื่อไปมหาวิทยาลัย

รถเมลล์เทียบจอดป้าย ประตูเปิด ผู้คนกรูกันลงไป หรือฟ้าจะกลั่นแกล้งอย่างไร ฝนเทลงมาอย่างหนักทีเดียว ณ เวลานี้ผู้คนต่างวิ่งเบียดเสียดกันหลบฝนที่ป้ายรถเมลล์ ซึ่งมีหลังคายื่นออกมาพอหลบฝนได้ แต่เนื่องจากเป็นจุดหน้ามหาวิทยาลัย ผู้คนจึงแน่นยัดเยียดกันหลบฝน

ชายหนุ่มเอง ก็ต้องหลบฝนเช่นกัน โดยไม่ตั้งใจวรรษาเองก็ยืนหลบฝนข้าง ๆ เขา

แม่กับเด็กน้อยประมาณ 7 ขวบ คู่หนึ่งวิ่งกางร่มมาเพื่อมาร่วมหลบฝนที่ป้ายรถเมลล์ ผู้คนต่างพากันขยับให้แม่ลูกคู่นี้เบียดเข้ามาหลบฝนได้  ฝนที่เทอย่างหนักลงมา ทำให้ผู้เป็นแม่เองเป็นห่วงลูกน้อย ว่าจะพากันเปียกปอนฝน จึงหาที่หลบ

วรรษาขยับตัวใกล้ชายหนุ่มมากขึ้น เพราะแม่ลูกมายืนอยู่ถัดจากเธอ ในจังหวะนั้นเอง ผู้เป็นแม่ชูร่มของเธอที่กางออกขึ้นแล้วหุบร่มที่มีน้ำฝนลงโดยไม่ทันระวังว่า หยดน้ำฝนได้ไหลกระเด็นลงใส่วรรษาที่อยู่ในชุดนักศึกษา

วรรษา สะดุ้ง เพราะหยาดน้ำฝนไหลลงใส่ศีรษะเธอ ดูเหมือนผู้เป็นแม่ไม่รู้ตัวเท่าไร แต่ชายหนุ่มที่ยืนข้าง ๆ หันมามอง  เขาหัวเราะเบา ๆ
เธอรู้สึกโกรธและรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นชายหนุ่มข้าง ๆ หัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ

จังหวะที่วรรษามองหน้าชายหนุ่มด้านข้าง เธอเริ่มสังเกตเห็นว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่สูงทีเดียว และแลดูดีมาก เมื่อเขายิ้ม ใบหน้าของเขาจะดูสดใส ซึ่งแตกต่างจากเมื่อสักครู่ ขณะที่อยู่บนรถเมลล์  ผมสีดำเข้มอาจจะดูยุ่งนิดหน่อยเพราะโดนฝน แต่ก็รู้ได้ทันทีเลยว่า เขาค่อนข้างเป็นชายหนุ่มที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ทรงผมอันเดอร์คัทอย่างกับถอดแบบนายแบบโมเดิร์นมาเชียว

แต่เธอจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าเขาจะไม่หัวเราะออกมาเมื่อเห็นเธอเปียกฝนแบบนี้

ชายหนุ่มเองเริ่มสังเกตหญิงสาวที่ยืนข้าง ๆ เด็กมหาลัย สะพายกระเป๋าเป้ ใส่กระโปรงดำเลยเข่า รวบผมทรงดังโงะหลวม ๆ ปอยผมหลุดหลุ่ยปกหน้าผากใบหน้าไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางค์อย่างเต็มที่อย่างที่เขาคุ้นเคยกับคนใกล้ที่ผ่านมา  มีเพียงลิปกลอสบาง ๆ ที่ระบายไว้บนริมฝีปาก แต่มันก็เผลอทำให้เขาเพ่งมองดูอย่างรู้สึกสนใจไม่ใช่น้อย

...เขาแอบยิ้มขำ ๆ ที่เห็นเธอสะดุ้งตอนที่ผู้เป็นแม่ของเด็กชายหุบร่มอย่างไม่ทันระวังคนข้าง ๆ

เขาเปิดกระเป๋าสะพาย หยิบผ้าเช็ดหน้าขนหนูสีขาวผืนเล็ก ที่เขามักติดตัวไปไหนเสมอ ส่งให้หญิงสาว ...
วรรษาแปลกใจ ยื่นมาให้ทำไม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่