ช่วงหยุดออกเรือในเดือนหงาย แถมยังมีฝนโปรยปราย อาหารการกินก็ไม่ค่อยสมบรูณ์เหมือนในช่วงปกติ
ความหนาวเย็นของชาวประมง ที่ต้องผจญกับ ลมเย็นที่พัดจากท้องทะเลมาพร้อมกับสายฝน
นั่นมันทำให้ร่างกายบางส่วนหนาวเหน็บ เย็นมือ เย็นเท้า อากาศแบบนี้ถ้าร่างกายอ่อนแอ พาลเป็นหวัดเอาได้
ต้องพึ่งอาหารที่อุ่นๆ กินแล้วลื่นปากลื่นคอ พอช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานความหนาวเย็นได้

ชาวจีน มีความเชื่อในเรื่องการบริโภค กระเพาะปลา โดยเฉพาะในสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆ
คนแก่เฒ่า  มักจะปรุงเมนู กระเพาะปลา ให้ลูกสาว หรือ ลูกสะใภ้ ไว้กินเพื่อให้มีเรี่ยวแรง ฟื้นตัวหลังคลอดลูก
เท็จจริงยังไง ตะโกไม่ขอยืนยัน เพราะเป็นเพียงเรื่องเล่าที่ได้ฟังจากปากคนจีนมา
แต่ที่ต้องมานั่งทบทวน คือ ราคากระเพราะปลาบางชนิด ที่มีราคาแพงเป็นที่ต้องการของตลาดจีน
นั่นก็คือ ปลาเมี้ยน หรือ ปลาจวดยักษ์ ที่มักจับได้ในแหล่งทะเลน่านน้ำพม่า  และแถบไหล่ทวีป
ปลาเมี้ยน จัดอยู่ในกลุ่ม ปลาจวดที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวตั้งแต่30 กก ขึ้นจะมีราคาที่แพงมาก
ราคาเนื้อปลาไม่แพงเท่าราคาของกระเพาะ เคยมีข่าวชาวประมงจีนจับได้ปลาชนิดนี้ ราคาขายเป็นแสนบาท

สำหรับ กระเพราะปลาที่จะปรุงในวันนี้ เป็นกระเพราะปลากระพงทะเล ที่มีขนาดใหญ่ ขนาดตัวละไม่ต่ำจาก15 กิโล
ผสม กับ ปลาเก๋าใหญ่เช่นกัน มีขนาดตั้งแต่ 20 กก ขึ้น ราคาขายตะโกไม่ทราบ เพราะได้มาฟรีๆ
ซึ่งอันที่จริงแล้ว อาหารทุกอย่างที่สะอาด ปรุงสุก มีโปรตีนและสารอาหารครบถ้วนที่ร่างกายสามารถนำไป
ใช้ประโยชน์ เพื่อแลกเปลื่ยนเป็นพลังงาน ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่มีราคาแพง เหมือนพวกหูฉลาม รังนก กระเพาะปลา
ลำพังแค่เพียง ไข่ต้มสักใบ คุณค่าทางอาหารก็ไม่แตกต่าง จากอาหารจานละพัน
ลองให้ตะโกไปซื้อ กระเพาะปลา โลละ500 เพื่อมาทำอาหาร รับรองได้ว่า ไม่กล้าซื้อเด็ดขาด
เสียดายเงิน เอาเงินไปซื้อนม ซื้อมหาหิงค์ ไกด์วอเต้อร์ ให้ตะโกน้อย ยังจะมีประโยชน์เสียกว่า
แต่นี่ ตะโก ได้มาฟรี จึงนำมาปรุงเป็นอาหาร ที่เชื่อกันว่า กินแล้ว เรียกพลังงานได้
เข้าครัวพร้อม ตะโกน้อย ปรุงเมนูนี้ เพื่อแม่คุณ เอ้ย คุณแม่ กันครับ