รักษาศีลให้ดี
…………………

“ศีล เป็นพื้นฐาน
เป็นการควบคุมกายวาจาให้เรียบร้อย
กายวาจาไม่เรียบร้อย
ใจก็ฟุ้งซ่าน สมาธิก็เสื่อม

ศีล ละเอียดนะ
อย่างข้อ ๔ นี่ ละเอียด
อย่างเราบอกว่า เราไม่โกหก
มุสาวาท ไม่ใช่ "พูดโกหก" อย่างเดียว

"พูดส่อเสียด"
พูดส่อเสียด คือพูดให้เขาตีกัน
เป็นบ้างไหม ยังมีไหม
อย่างพูดกับคนนี้ หรือเขียนเฟสบุ๊ก
ชวนให้คนไปตีรัฐบาล สมมตินะ
ถ้าเราพรรคนี้ เราจะแกล้งฝ่ายโน้น
เสี้ยมให้ชาวบ้านเกลียดกลุ่มนี้
เชียร์กลุ่มเรา อะไรอย่างนี้
นี่ก็เข้าข่ายมุสาทั้งนั้น

"พูดคำหยาบ"
เดี๋ยวนี้คำหยาบ เป็นคำสุภาพไปแล้ว
โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง
พูดหยาบคาย พูดคำหยาบมาก

"พูดเพ้อเจ้อ"
ตัวนี้เป็นทั่ว ๆ กัน
พูดเพ้อเจ้อ อาจจะพูดด้วยนิ้ว
เล่นไลน์ทั้งวัน นี่ พูดเพ้อเจ้อนะ
ถ้าเล่นเฟส เล่นไลน์ เพื่อขายของ
ทำมาหากิน อันนั้นฉลาด ใช้ได้ ดี
หรือเหน็ดเหนื่อยขึ้นมา จะอ่านธรรมะ
เบรกตัวเองจากความวุ่นวาย อันนั้นดี
อ่านธรรมะทั้งวัน ไม่ดี ฟุ้งซ่าน

ถ้าเราปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านทั้งวันนะ
ถึงจะไม่ออกปาก ใช้นิ้วเขียนไปเรื่อย ๆ
มันก็เข้าข่ายมุสาเหมือนกัน
มุสาด้วยนิ้วมือ

ถ้าศีลเราไม่ดี บกพร่อง
แค่พูดเพ้อเจ้อทั้งวัน
เล่นเฟส เล่นไลน์ ทั้งวัน
จะเอาสมาธิที่ไหน สมาธิไม่เกิดหรอก
ใจมันกระฉอกไป กระฉอกมาตลอดเวลา

ฉะนั้น ถ้าเราอยากได้ดีนะ
เบื้องต้น รักษาศีลให้ดีก่อน
สำรวจตัวเอง อะไรยังบกพร่องอยู่
เราก็พัฒนาขึ้นมา
จนกระทั่งเราติเตียนตัวเองไม่ได้
ว่าศีลเราด่างพร้อย”

…………………
พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ถอดคำ: แต้ว
เรียบเรียง: สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา


https://www.facebook.com/1317977204900901/photos/a.1412754818756472.1073741828.1317977204900901/1622082887823663/?type=3&theater