เครียดมากเป็นหนี้ 8.2 ล้าน

ก่อนอื่นขอเกริ่นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก่อนนะคะ

1. คุณแม่ เจ้าของหนี้ก้อนนี้ อายุ 53 ปี
2. พี่สาว อายุ 32 ปี ตอนนี้ทำกิจการต่อจากแม่
3. ตัวเรา อายุ 20 ปี ยังเรียนไม่จบค่ะ

หนี้ทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 8.2 ล้าน ทั้งหมดเป็นหนี้จากธนาคารเดียวกัน
แบ่งเป็นเงิน OD 8 ล้านบาท ใช้บ้านและที่ดินค้ำประกันไว้
สินเชื่อบ้านอีก 2 แสนบาท
ทั้งหมดนี้เรากล่าวถึงเฉพาะหนี้สินส่วนที่เป็นภาระซึ่งรับผิดชอบไม่ไหวแล้วนะคะ เนื่องจากรายจ่ายรายเดือนสูงมาก เทียบกับธุรกิจที่บ้านตอนนี้ซึ่งย่ำแย่

ซึ่งรายจ่ายต่อเดือนมีรายละเอียดดังนี้นะคะ
ดอกเบี้ย OD  (เฉพาะดอกเบี้ย) 58,000 บาท (ไม่เคยขาดชำระเกิน 30 วัน)
สินเชื่อบ้าน 30,000 บาท เหลืออีก 6 งวดจะปิดบัญชี (ไม่เคยขาดชำระเงิน 60 วัน และเคยทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วหนึ่งครั้ง)
ผ่อนรถ 17,000 บาท (ไม่เคยขาดชำระ)
เงินติดล้อ 11,000 บาท เหลืออีก  6 งวดจะปิดบัญชี
รวมหนึ่งเดือนเท่ากับ 116,000 บาท

ภาวะการเงินทางบ้านตอนนี้ ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ต่อได้แล้ว เนื่องจากเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่เป็นเงินที่ใช้ทำงาน
หากนำเงินก้อนหนี้มาชำระหนี้ธนาคารตอนนี้ เท่ากับที่บ้านจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย
หากถามถึงเรื่องขายทรัพย์ ทางเราก็ได้ดำเนินการไปแล้วแต่ไม่มีวี่แววว่าจะขายออกเลยค่ะ
ในส่วนของสินเชื่อบ้าน สามหมื่นบาท เราคิดว่ายังพอที่จะผ่อนจ่ายได้จนปิดบัญชีตามที่กำหนด
แต่ส่วนที่หนักใจคือเงิน OD ที่จ่ายอยู่เฉพาะดอกเบี้ยจำนวนมาก รู้สึกมืดมนว่าควรทำอย่างไรถึงจะได้จ่ายเงินต้นบ้าง

คำถามที่อยากถามคือ
1. เราควรเก็บเงินก้อนสุดท้ายนี้ไว้เพื่อทำงานให้มีรายได้เข้ามาไหมคะ

2. หากเราขาดผ่อนชำระธนาคารจะดำเนินการอย่างไรคะ เนื่องจากเราเคยคุยกับทางเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายให้คำตอบมาว่า ในส่วนของดอกเบี้ย OD หากเราขาดชำระทางธนาคารจะปรับดอกเบี้ยเป็น 15% จากปกติที่จ่ายอยู่ประมาณ 8.7% ต่อปี และเราได้ถามถึงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ ซึงก็ได้คำตอบมาว่า เงิน OD ไม่สามารถทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ได้

3.ใครพอจะมีประสบการณ์แนะนำได้บ้างคะว่าเราควรทำอย่างไรเริ่มจากตรงไหน เพราะคนที่กูเงินจำนวนนี้มาคือคุณแม่เราซึ่งตอนนี้อายุ 53 ปีแล้ว
ตัวเรากับพี่สาวเพิ่งมารับรู้ในหนี้ส่วนนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณแม่ทำงานกับคุณพ่ออยู่สองคน
แต่ในปีที่ผ่านมาพ่อเราได้ไปแต่งงานใหม่และไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้คุณแม่เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่สามารถรับภาระตรงนี้
เราจึงต้องหยุดเรียนและมาหาทางแก้กับพี่สาวว่าควรจะทำอย่างไรแต่เป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้กันทั้งคู่ จึงต้องมาขอคำปรึกษาจากทุกคน

หากใครมีประสบการณ์หรือทางแก้ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คำแนะนำที่มีให้คือ
ถ้าหนี้ที่มีอยู่ เป็นของพ่อ กับแม่ แค่นี้ ก็ต้องไม่ให้มันเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนอื่นต่อ อย่างมาก พ่อแม่ ก็ล้มละลาย โดนยึดทรัพย์ทั้งหมด (ถ้าไม่มีทรัพย์เหลือพอมาใช้หนี้)

ถ้าพี่สาวที่มาช่วยทำกิจการ ยังไม่ได้เอาตัวไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้ ก็อย่าให้มันเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนตัวคุณเองก็เช่นกัน ยังเรียนอยู่ก็เรียนไป มีเงินก็ใช้ให้ประหยัด เหลือก็เก็บเงินไว้ เรียนจบหางานทำ

อย่างน้อย พอเรียนจบ ก็หางานทำ เริ่มต้นใหม่ หนี้นั้นไม่ตกมาถึงคุณ คุณมีงาน ซื้อบ้านใหม่ได้ เลี้ยงดูแม่ได้

แต่ ถ้าทรัพย์โดยรวมที่มี มากกว่าหนี้มาก รีบหาทางขาย ปิดหนี้ให้หมด ก่อนที่หนี้มันจะเพิ่มจนทำให้ทรัพย์ไม่พอจ่าย
หรือถ้าหาคนซื้อไม่ได้ จำนอง ทรัพย์ กับญาติพี่น้อง ที่ไว้ใจได้
ความคิดเห็นที่ 7
ปัญหาคุณเล็กน้อยมาก อย่าเครียดไป
ลองดูสิ่งที่คุณมี อย่างทรัพย์สินสิบล้าน หนี้แปดล้าน
แสดงว่าคุณยังมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน
ดอกเบี้ยจ่ายแสนเดียว เครดิตคุณยังดี
ผมไม่รู้วิธีแก้ปัญหาหรอก เพราะไม่รู้โครงสร้างธุรกิจคุณ
ไม่รู้รายได้ ค่าใช้จ่าย ลูกหนี้การค้า
แต่แนะนำได้คร่าวๆๆคือ อย่าปล่อยให้ตัวเองไม่มีตังค์
ถ้าธุรกิจยังสร้างรายได้ ก็ยังควรเก็บไว้
ถ้าสร้างภาระควรปล่อยทิ้งอย่างได้เปรียบ
ตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่นรถ ถึงงวดจะเหลือไม่มาก
ถ้าขายเอาเงินมาใช้ได้ก็ตัดใจเสีย อะไรขายได้ ขาย
ผมเข้าใจว่าระยะสั้นคุณอาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง
ลองหยิบยืมญาติพี่น้อง มีลูกหนี้ก็ทวงลูกหนี้
อย่าเอาหนี้แม่มาเป็นหนี้คุณกะพี่ ถ้ามันจะล้ม ปล่อยล้มไป
แต่คุณและพี่ยังอยู่ สามารถเริ่มต้นเมื่อไหร่ก็ได้
สาม กินให้อิ่ม นอนให้หลับ สมองที่ปลอดโปร่ง มาจากร่ายกายที่แข็งแรง
สี่เฉพาะคุณ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร อย่าไม่เรียนให้จบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่