ผม ได้ทำการยื่นกู้เงิน ตามโครงการ บ้าน ธอส.- ธปท. เพื่อผู้ประสบภัย จำนวน 1 ล้านบาท ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาตรัง เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2555 (ดอกเบี้ย ร้อยละ 3 ต่อปี) ซึ่งในสัญญาระบุ ว่า ห้าม ปิดบัญชีก่อน 5 ปี ถ้าปิดก่อน จะถูกปรับ และ คิดดอกเบี้ย MLR (ดอกเบี้ยลอยตัวประมาณร้อยละ 7 ต่อปี) ย้อนหลัง ในวันที่ทำสัญญากู้ ต้องเซ็นต์เอกสารเยอะมาก และเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ก็จะชี้ให้เซ็นต์ชื่ออย่างเดียว ส่วนการอธิบายสัญญาผมจำไม่ได้จริง ๆ ว่ามีการอธิบายหรือไม่ และด้วยความสะเพร่าของผมเอง ที่กลับมาแล้วไม่อ่านสัญญาให้ดี ทำให้ลืมไปว่า ต้อง ผ่อนชำระขั้นต่ำ 5 ปี เมื่อผมได้เงินก้อนมาก็พยายาม ผ่อน เพื่อให้หมดภาระหนี้โดยไว มาถึงวันนี้ เงินต้นใกล้จะหมด มาผมมาชำระค่างวด เห็นว่ายอดเหลือน้อยจะปิดบัญชี ทางธนาคาร จึงแจ้งว่าการปิดบัญชี ต้อง ชำระ ค่าปรับ และดอกเบี้ย MLR ย้อนหลัง 3 ปี รวมเงินแล้ว ประมาณ 90,000 บาท ทำให้ผมเดือดร้อนมาก
ผมไม่ได้ปฏิเสธความผิด ที่ผมผิดสัญญา แต่ผมต้องการให้ทางธนาคาร ช่วยลดหย่อน เงินที่ต้องชำระลงบ้างบางส่วน เพราะเป็นเงินก้อนใหญ่ อยากให้ทางธนาคารอนุเคราะห์ ลดหย่อนให้บ้าง ผมเจรจากับทางหัวหน้าสินเชื่อ หัวหน้าสินเชื่อ บอกลดหย่อนไม่ได้ เจรจากับผู้จัดการสาขา ก็บอกว่าลดหย่อนไม่ได้ ผมพิมพ์ร้องเรียนเข้าไปที่หน้าเวปไซด์ ของทางธนาคาร ที่ช่องร้องเรียนถึงกรรมการผู้จัดการ ก็มีเจ้าหน้าที่ โทรติดต่อกลับมายืนยันว่าทางธนาคารต้องยืนยันตามสัญญา ไม่สามารถลดหย่อนให้ได้
ตอนนี้เครียดมาก ยอดเงินต้นก็เหลือ ให้ผ่อนได้อีกแค่ 2 - 3 เดือน ก็ต้องปิดยอด ผมสงสัยว่าทำไมทางสินเชื่อ จึง ไม่มีการ ทักท้วง ว่าคุณผ่อนเร็วเกินไปนะ เดี๋ยวจะ หมดเงินต้นก่อนสัญญา (จริง ๆอาจ ไม่ใช่หน้าที่ของเขา เขาตามเฉพาะลูกค้าขาดส่ง อันนี้ผมแค่คิดไปเอง) ไม่ทราบว่ามีใครพอจะมีทางออก หรือข้อแนะนำอะไร ให้ผมได้บ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
*** อัพเดตล่าสุดครับ วันนี้ ผมได้เข้าไปพบผู้จัดการอีกครั้ง พร้อมกับ หัวหน้างานบริหารหนี้ ได้ข้อตกลงว่า จะเอาเงินต้นที่เหลือ หารด้วยจำนวนงวดที่ต้องผ่อนจนกว่าจะครบ 5 ปี โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 13.5 (จากเงินต้นคงเหลือ) เท่ากับผมผ่อนเดือนละประมาณ 500 บาท จนครบ 5 ปี แล้วค่อย ไถ่ถอนจำนอง โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่ติดเครดิตบูโร 3 ปี ถือว่าจบลงด้วยดีครับ ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้กำลังใจและข้อแนะนำครับ
ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกค่าปรับของธนาคารอาคารสงเคราะห์
ตอนนี้เครียดมาก ยอดเงินต้นก็เหลือ ให้ผ่อนได้อีกแค่ 2 - 3 เดือน ก็ต้องปิดยอด ผมสงสัยว่าทำไมทางสินเชื่อ จึง ไม่มีการ ทักท้วง ว่าคุณผ่อนเร็วเกินไปนะ เดี๋ยวจะ หมดเงินต้นก่อนสัญญา (จริง ๆอาจ ไม่ใช่หน้าที่ของเขา เขาตามเฉพาะลูกค้าขาดส่ง อันนี้ผมแค่คิดไปเอง) ไม่ทราบว่ามีใครพอจะมีทางออก หรือข้อแนะนำอะไร ให้ผมได้บ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
*** อัพเดตล่าสุดครับ วันนี้ ผมได้เข้าไปพบผู้จัดการอีกครั้ง พร้อมกับ หัวหน้างานบริหารหนี้ ได้ข้อตกลงว่า จะเอาเงินต้นที่เหลือ หารด้วยจำนวนงวดที่ต้องผ่อนจนกว่าจะครบ 5 ปี โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 13.5 (จากเงินต้นคงเหลือ) เท่ากับผมผ่อนเดือนละประมาณ 500 บาท จนครบ 5 ปี แล้วค่อย ไถ่ถอนจำนอง โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่ติดเครดิตบูโร 3 ปี ถือว่าจบลงด้วยดีครับ ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้กำลังใจและข้อแนะนำครับ