สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
เหนื่อยใจครับ มาตรการมันดูดีนะ ประชาชนชื่นใจที่เห็นข่าว แต่พออ่าน ดันไม่ให้โอกาสคนที่จ่ายตรง จากดีใจกลายเป็นสมเภชชีวิตตัวเองเลยล่ะ ที่พยายามมาในส่วนของตนเองให้ดีมาตลอด ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะทุกภาระของคนแบบพวกเราก็จะต้องยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือรับความเห็นใจใด OK แหละ ถ้าไม่มีมาตรการออกมา ทุกอย่างมันก็ต้องดำเดินไป ก็อาจไม่ได้คิดมาเปรียบเทียบ ยังไงก็คงง้มหน้าง้มตาสู้ต่อไปอยู่แล้ว แต่ก็จะทำดีเช่นเดิมด้วย แต่ก็จะยินดีมากเช่นกันถ้าวันใดรัฐเล็งเห็น แล้วมีมาตรการออกมาช่วยเหลือ โดยไม่มองว่าใครจะยากดีมีจนแค่ไหน ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่ซับซ้อนเกินไป ทุกคนได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนจะได้ถูกผ่อนปรนความลำบากของตนเองลงไม่มากก็น้อยตามภาระที่มีของแต่ละคนไป ไม่ใช่มันเอื้อแค่บางกลุ่ม ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่แล้วละเลยคนที่ทำดี
คุณอาจมองว่าคนที่พยายามจ่ายตรงมาตลอดคงไม่สร้างปัญหา จึงเลือกช่วยคนที่มีความเสี่ยงจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่า จนลืมไปว่าคนที่จ่ายตรงเค้าไม่ได้สบายนักหรอกคุณ แค่เขามีวินัยและความรับผิดชอบ มีความอดทนกับภาระของตนเองที่สร้างมา หนี้น่ะก็สร้างกันมาด้วยกันทั้งนั้น ยกตัวอย่าง 4-5 ล้าน คุณคิดว่ามันน้อยหรอคนที่แย่มากๆจะสร้างหนี้กันแบบนี้หรอ ผมคิดว่าเขาไม่ได้แย่ไปกว่าเลยนะ เพียงแค่เขาไม่สามารถรับผิดชอบได้ก็เท่านั้นหลังจากสร้างหนี้ขึ้น กลับกัน คนที่จ่ายตรง ใช่ว่าเขาจะสร้างหนี้กันถึงขนาดนั้นด้วย หรืออาจจะสร้างภาระหนี้ใกล้เคียงกันก็ได้ แต่ว่าเขาแค่จ่ายตรง แต่เขาแค่ไม่มีสิทธิ์ มันน่าตลกดีไหมล่ะ (จริงๆฐานะทางการเงินของคนที่ได้รับสิทธิ์เพราะจ่ายไม่ตรงเนี่ย อาจดีกว่าพวกที่ได้สิทธิเยอะด้วยนะ สบายกว่าด้วยนะ ไม่ใช่คนจ่ายตรงการเงินเขาคร่องมือสะดวกสบายนะ) สำหรับคนที่ตกงานผมก็เข้าใจนะ มาตรการช่วยพวกเขาถ้ามีมันดีแน่นอนผมขอบคุณเลย แต่จะช่วยก็อย่าลืมนึกถึงกลุ่มอื่นด้วยล่ะ คนทำดีจะได้มีแรงจูงใจในการทำความดีต่อไปบ้าง
พูดไปก็เท่านั้นแหละครับ ไร้ประโยชน์อะไร ทำใจ เดินต่อไปตามสภาพ นี่แหลครับความเท่าเทียมในบ้านเรา
ท้ายนี้ผมขออภัยที่บางคำอาจพาดพิงคนที่ได้รับสิทธิ์นะครับ ไม่มีเจตนาไม่ดีเลย
ยินดีด้วยกับผู้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการนี้ครับ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกคุณครับนะ โชคดีครับ
คุณอาจมองว่าคนที่พยายามจ่ายตรงมาตลอดคงไม่สร้างปัญหา จึงเลือกช่วยคนที่มีความเสี่ยงจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่า จนลืมไปว่าคนที่จ่ายตรงเค้าไม่ได้สบายนักหรอกคุณ แค่เขามีวินัยและความรับผิดชอบ มีความอดทนกับภาระของตนเองที่สร้างมา หนี้น่ะก็สร้างกันมาด้วยกันทั้งนั้น ยกตัวอย่าง 4-5 ล้าน คุณคิดว่ามันน้อยหรอคนที่แย่มากๆจะสร้างหนี้กันแบบนี้หรอ ผมคิดว่าเขาไม่ได้แย่ไปกว่าเลยนะ เพียงแค่เขาไม่สามารถรับผิดชอบได้ก็เท่านั้นหลังจากสร้างหนี้ขึ้น กลับกัน คนที่จ่ายตรง ใช่ว่าเขาจะสร้างหนี้กันถึงขนาดนั้นด้วย หรืออาจจะสร้างภาระหนี้ใกล้เคียงกันก็ได้ แต่ว่าเขาแค่จ่ายตรง แต่เขาแค่ไม่มีสิทธิ์ มันน่าตลกดีไหมล่ะ (จริงๆฐานะทางการเงินของคนที่ได้รับสิทธิ์เพราะจ่ายไม่ตรงเนี่ย อาจดีกว่าพวกที่ได้สิทธิเยอะด้วยนะ สบายกว่าด้วยนะ ไม่ใช่คนจ่ายตรงการเงินเขาคร่องมือสะดวกสบายนะ) สำหรับคนที่ตกงานผมก็เข้าใจนะ มาตรการช่วยพวกเขาถ้ามีมันดีแน่นอนผมขอบคุณเลย แต่จะช่วยก็อย่าลืมนึกถึงกลุ่มอื่นด้วยล่ะ คนทำดีจะได้มีแรงจูงใจในการทำความดีต่อไปบ้าง
พูดไปก็เท่านั้นแหละครับ ไร้ประโยชน์อะไร ทำใจ เดินต่อไปตามสภาพ นี่แหลครับความเท่าเทียมในบ้านเรา
ท้ายนี้ผมขออภัยที่บางคำอาจพาดพิงคนที่ได้รับสิทธิ์นะครับ ไม่มีเจตนาไม่ดีเลย
ยินดีด้วยกับผู้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการนี้ครับ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกคุณครับนะ โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
คุณสู้ เราช่วย เราสู้ คุณไม่ช่วย
สรุปแบบเร่งรัด ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ได้รับการยกเว้นดอกเบี้ย 3 ปี / จ่ายค่างวด ปีแรก 50% ปีที่สอง 70% ปีที่สาม 90% น่าจะพอได้หายใจหายคอกันบ้าง
คุณสมบัติ
1. สินเชื่อบ้านไม่เกิน 5 ล้าน / รถยนต์ ไม่เกิน 8 แสน / มอเตอร์ไซค์ ไม่เกิน 5 หมื่น / SMEs ไม่เกิน 5 ล้าน
2. (ก่อน 31 ตุลาคม 2567) เป็นหนี้ค้างเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน หรือ เป็นหนี้ที่ไม่ค้างหรือค้างไม่เกิน 30 วัน แต่เคยมีประวัติการค้างเกิน 30 วัน และได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565
สมมติ ซื้อบ้าน 4 ล้าน ผ่อนอยู่เดือนละ 24,000 บาท ถ้าก่อน 31 ตุลาคม 2567 เคยค้างจ่ายเกิน 30 วัน คุณจะได้สิทธิ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี และ
ปีที่ 1 ผ่อน เหลือ 12,000 บาท ปีที่ 2 ผ่อนเหลือ 16,800 บาท ปีที่ 3 ผ่อน 21,600 บาท
เรียกว่า ประหยัดสุดๆ น่าจะประหยัดไปกว่า 700,000 บาท !!
ส่วนคนที่ จ่ายครบ จ่ายตรง ก็ สู้ต่อไปครับ เขายังไม่ช่วย ......