รู้ทั้งรู้ว่าจะโดนหลอกขายคอร์สเสริมความงาม แต่ก็ยังโง่ให้เค้าหลอก แค้นใจสุดๆ มาเป็นอีกเสียงขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ

เป็นการตั้งกระทู้กับทางพันทิปครั้งแรกนะคะ ปกติจะเป็นผู้อ่านซะมากกว่า ต้องขออภัยล่วงหน้าหากบกพร่องประการใดคร่า

เริ่ม!!! วันนั้นเมื่อซักประมาณปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีนัดรับเอกสารลูกค้าที่ห้างใหญ่แถวพระราม 9 เราก็เดินฆ่าเวลาในระหว่างรอลูกค้า แต่!! ดันเดินไปชนปังตอ คลินิก Q.... ตั้งบูธหน้า Food Republic มีกระเทยร่างใหญ่เข้ามาขอความเห็นใจจากเรา

"พี่คะ..น้องรบกวนขอชื่อและเบอร์โทรเฉยๆค่ะ น้องกำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน นู๋อยากผ่านโปรอ่ะค่ะ พี่ช่วยนู๋ทีนะคะ"

ด้วยอาชีพพนักงานขายเหมือนกัน เราก็เลยตอบตกลง คิดในใจลึกๆ ว่าโดนขายแน่ๆ แต่ถ้าของเค้าดีเราก็โอเค เพราะปกติก็ซื้อคอร์สของคลินิคต่างๆเป็นประจำอยู่แล้ว ปรากฎว่า "ขายจริงๆ" ตอนพูดขายของ แถมโน่นนี่นั่นบลาๆ คนที่ขายเป็น ผู้หญิงอีกคน การันตีเราว่า หน้าอย่างพี่ถ้าไม่หายมาขอเงินคืนได้เลยค่ะ รับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ ใช้ราคาหลอกล่อโดยการผ่อน 0% 10 เดือน ให้รู้สึกว่าราคาถูก และมีการขอดูบัตรเครดิต "ขอดูบัตรของคุณลูกค้าได้มั้ยคะ ว่าเข้าร่วมโปรแกรมนี้มั้ย" ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิง ดันควักบัตรมาให้นางดู แล้วนางก็ยื่นให้กระเทยร่างใหญ่ บอกให้ไปเช็คให้พี่เค้าที เราเองก็อ้ำๆอึ้งๆ ได้แต่บอกว่าพี่ยังไม่ได้จะซื้อเลยนะ เค้าก็หว่านล้อมสาระพัด จนเราใจอ่อน เลยตอบตกลงไปทั้งที่ในใจตอนแรกไม่อยากจะได้ แต่ก็คิดในแง่บวกไว้ก่อนว่า ถ้ารักษาผิวหน้าเราหายก็โอเค

จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้ก็มาถึง

อีก 2 อาทิตย์ผ่านมา เรานัดหมอขอทำหน้าที่ซื้อคอร์สไว้ พอถึงคลินิก นอนเตียงปุ๊ป มี ผช. หน้าหวานเปิดประตูเข้ามา "พี่คะๆๆ อย่าเพิ่งทำหน้าค่ะ ขอให้หมอดูผิวหน้าพี่อีกทีก่อนได้มั้ยคะ"

เราก็คิดในใจ เออบริการดีนะ มีตรวจสภาพผิวเรา บลาๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณขายของต่อคร่า "พี่คะ ผิวหน้าพี่ไม่เหมาะกับคอร์สที่พี่ซื้อนะคะ"

เอาแล้วไง!! ไม่เหมาะแล้วคุณขายทำไมคะ ==> พอดีเป็นคอร์สที่เซลล์ขายง่ายสุดอ่ะค่ะ เค้าเลยขายพี่ตัวนี้ไปก่อน

มีอย่างนี้ด้วยหรอ!!?? ขายไปก่อนแล้วไงคะ พี่เปลี่ยนได้หรอ ==> ได้ค่ะ แต่ต้องซื้อเป็นคอร์ส มาเด้ คอลลาเจนบ้าบอ ก่อนนะคะ โดยพี่เพิ่มเงินอีกเพียงเดือนละ 2,900 บาท (นางไม่พูดนะคะว่า 0% 10 เดือน สรุปคือ เพิ่มเงิน 29,000 บาท อ่อ ของเดิมที่ซื้อ 15,000 บาท แล้วค่ะ) แล้วนู๋จะเปลี่ยนคอร์สที่พี่ซื้อครั้งก่อนเป็น Treatment ให้ค่ะ ในระหว่างที่นางเสนอขาย ต่อรองสุดฤทธิ์ ลดราคาคอร์สอื่นลงเรื่อยๆ มีการบอกกับเราว่า "พี่ P (ผญ.ที่ขายคอร์สให้เราครั้งแรก) เค้ามากระซิบให้ผมขายโบท็อกซ์ให้พี่ด้วยซ้ำนะคะ แต่ผมเห็นว่าผิวหน้าพี่ไม่ได้มีปัญหาที่ต้องใช้โบท็อกซ์ เลยเสนอเป็นตัวนี้แทน"

เราอึ้งไปพักนึง  "ทำไมต้องเพิ่มเงิน ทำไมต้องซื้อใหม่ ทำไมไม่เปลี่ยนให้พี่แล้วหัก 15,000 ครั้งก่อนออก แล้วเพิ่มอีกนิดหน่อย ยังโอเคกว่าซื้อเพิ่มอีกคอร์ส..พี่ไม่โอเคค่ะ" เสียงแข็ง นางก็ต่อรอง ร่วมกับหมออีกคน รุมสุดๆ ที่ไม่ชอบที่สุดคือ คุณตำหนิแบรนด์อื่น คุณขายของทั้งๆที่ลูกค้ายังไม่ได้รับการบริการของคุณเลยสักครั้ง เข้ามาครั้งแรก ขายคอร์สสองต่อ คือจะเอาเงินในกระเป๋าลูกค้า ก็ควรให้ลูกค้าได้สัมผัสกับคุณภาพในสินค้าและการให้บริการของคุณบ้างนะคะ ไม่ใช่สักแต่ขาย ขนาดเราบอกว่าต้องขอเงินสามีมาจ่าย คุณหมอหน้าแบ๊ว ยังมาต่อว่าเราว่า "มีแฟน เหมือนมีพ่อเลยนะคะ" เราของขึ้นเลยค่ะ เสียงดังและเสียงแข็งทันที "ใช่ค่ะ เพราะพ่อทูนหัวของเราให้เงินเราเก็บ แต่เรากลับมาสุรุ่ยสุร่าย แบบนี้ คงไม่แฟร์..พี่ชัดเจนนะคะ ไม่ขอจ่ายเงินเพิ่มใดๆ และไม่ต้องมาขายของแบบนี้กับพี่ หากคุณยังไม่หยุด พี่ยอมทิ้งเงิน 15,000 และจะไม่กลับมาใช้บริการคุณอีก"

ทุกคนเงียบ หยุดหมด แต่....สรุปไม่ได้ทำหน้าตามคอร์สที่ซื้อนะคะ นางบอกให้ทำตัวแถมไปก่อน เผื่อพี่จะสนใจ เราก็เออออ ทำก็ได้วะ เสียเวลามา 2 ชั่วโมงเต็ม

อ้อ ในระหว่างสนทนา เราถามพวกนางไปว่า "ไม่เข้าใจว่าบูธพวกคลินิคอย่างเนี๊ย ทำไมชาร์จตัวเราทุกครั้งที่เดินผ่าน หมอหน้าแบ๊วตอบกลับมาว่า

"ก็ลุคพี่ดูแพง!!!!"  คือช้านอยากจะบอกว่า เสื้อผ้าที่ใส่เนี่ย ราคาไม่เกิน 500 บาท กระเป๋าก็ทั่วไปไม่ใช่แบรนด์แพงๆ คือพูดให้เรารู้สึก proud รึ จะได้ควักเงินอีก!!!

สุดท้ายก็ยังไม่ได้ใช้บริการ ถึงจะกลับไปใช้ก็กลัว เพราะหมอบอกว่าหน้าอย่างเราทำคอร์สนี้ หน้าจะสิวเห่อมาก ถ้าไม่เปลี่ยนคอร์ส

คำถามคือ...ควรจะทนทำหน้าคอร์สที่เราซื้อไปแล้ว หรือ ยอมเสียค่าโง่ (แต่แอบเสียดาย 15,000 ถ้าไปหาหมอที่เคยใช้บริการประจำ คงได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ค่ะ)

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ เจตนาของเราคือ แค่อยากแชร์ประสบการณ์และเตือนภัยสาวๆ ไม่อยากให้โดนกลยุทธ์แย่ๆจากร้านพวกนี้หลอกเอาเงินในกระเป๋าเราไปค่ะ

**ขออภัยหากแท็กผิดห้องนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่