กลลวงขายคอร์สเสริมความงาม กับความยุ่งยากในการเอาเงินคืน

คือเราเปิดมาเจอกระทู้ที่หลายๆคนถูกหลอกให้ซื้อคอร์สทำหน้าราคาหลายหมื่น....
เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ กระบวนการทั้งหมด ที่ต้องสู้...หรือจะต้องทำใจยอมรับ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย...เราไม่ได้จบกฎหมาย...อาศัยแค่อ่านละเอียด+ถามเยอะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
เล่าแบบย่อ...มีอธิบายด้านล่างค่ะ
...เมื่อ4ปีที่แล้ว เราไปห้างคนเดียว เดินผ่านหน้าบูทคลินิกชื่อไม่ดัง ถูกชวนทำแบบสอบถาม นั่งปุ๊บออกไม่ได้ โดนรุมล้อม จาก 1 คนเป็น 2-3 คนรอบตัว ขอดูบัตรเครดิตโดยอ้างว่าจะเอาไปเช็คส่วนลดบัตรให้ แล้วนางก็ยึดบัตรเครดิตไว้ แล้วยื่นข้อเสนอมาว่าผ่อน 0% 10เดือนได้ ช่วงนี้จัดโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่ แล้วก็หว่านล้อม ต่างๆนาๆ จนทำให้เรายอมให้รูดบัตร  ตอนจะเซ็นชวนคุยๆทำให้เราไว้ใจไม่ได้เช็คสลิปก่อนเซ็น
...จากนั้นก็เอาสัญญามาเขียนตรงหน้า เราอ่านสัญญาละเอียดแล้วบอกว่าข้อนี้ให้ขีดฆ่าทิ้งคำว่ายกเลิกไม่ได้กับไม่คืนเงินออกด้วยค่ะ คนขายเลยบอกว่า ไม่ต้องสนใจเปลี่ยนแปลงได้ เราเลยบอกไม่อะพี่ แล้วนางก็บอกว่ามีอะไร คุยกับพี่ได้เลยถ้าไม่พอใจ แก้ไขได้เสมอ เพราะความไว้ใจ ว่าคงไม่หลอกหรอกมั้ง เราเลยเซ็น พอเซ็นเสร็จแล้ว เอกสารเรียบร้อย นางก็ประทับ Not refund ย้ำให้อีกค่ะ  ฮึ้ม!!(สติยังไม่มา) แล้วก็เดินเอาเอกสารไปแล้วก็เฉยเมยใส่เรา  เราเลยเดินออกมาแบบมึนๆ พร้อมสัญญาในมือ
...ถึงห้องได้สติ... นึกได้ว่าเราจะไปเดินเล่นเฉยๆ ต้องมาเสียเงินอะไรกัน ความเครียดบังเกิด เลยโทรกลับไปหาคนขาย พี่ๆนู๋จะยกเลิกและขอเงินคืนค่ะ...นางก็ตอบชัดเจนค่ะ ไม่ได้หรอกน้อง พี่ปิดยอดเครียร์ค่าคอมแล้ว ส่งเอกสารให้ธนาคารแล้วค่ะ...อ้าว แล้วจะทำอะไรได้บ้างค่ะพี่...ก็ไปใช้บริการนะค่ะน้อง เดี๋ยวพี่จะโทรแจ้งให้ทราบค่ะ เมื่อร้านเปิด.... อ้าวร้านยังไม่เปิด เปิดเมื่อไหร่ เดือนหน้าค่ะ อ้าว แล้วเรียกเก็บเดือนนี้ได้ไง ทำไมไม่เก็บตอนที่เปิด น้องค่ะ...พี่ย้ำแล้วนะค่ะว่า โปรโมชั่นนี้จัดเพื่อฉลองเปิดสาขาใหม่ค่ะ พอร้านเปิดจะไม่ได้ราคานี้แล้วนะ(ทีหลังขอโบชัวส์ไว้ ดูว่าเปิดร้านแล้ว ยังลดอยู่ไหม ถ้ายังลดอันนี้ โฆษณาเกินจริงหรืออะไรสักอย่างลืมแระ ร้องเรียนได้นะอันนี้) แต่ว่าถ้าจะเลื่อนไปจ่ายเดือนหน้าเดี๋ยวพี่ทำให้ติดต่อกลับพี่มาพรุ่งนี้นะ แล้วพรุ่งนี้ที่ว่า...ก็ไม่มีใครรับสาย...
...ไม่กล้าบอกใคร เครียด รู้สึกโง่มาก
ได้รับ ใบแจ้งหนี้มาพร้อมดอกเบี้ย 0.89% แบ่ง ชำระ 3 เดือน & 10เดือน !!!!!!!! รูดทำรายการ2ครั้ง (เราถามธนาคารว่า ทำไมมีดอก เจ้าหน้าบอกว่าเราโทรไปแบ่งชำระ เราไม่ได้โทรอ่ะ เลยโทรไปถามกับคนที่ชวนเราทำแบบสอบถาม ก็หลุดสารภาพออกมาว่า พนักงานผู้หญิงเป็นที่เขียนสัญญาน่าจะเป็นคนโทรไปแบ่งชำระให้เรา เพราะเขาเป็นผู้ชายทำไม่ได้ เปิดสัญญาถึงบาง อ้อ เขียนไว้หมดเลย ก็อายัดบัตรไป)
……………………………………………………………………………………………………………….
ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก เปิดGoogle เจอกระทู้พันทิปเลย(คลินิกแจ้งลบไปนานแล้ว)
แนะนำให้ ยื่นเรื่องเข้าระบบ สคบ.ออนไลน์  http://www.ocpb.go.th/
จากนั้นรอการติดต่อกลับ : เงียบ .....
เราเลยเช็คในระบบดูรายชื่อผู้ที่รับเรื่อง แล้วก็ติดต่อหา เจ้าหน้าที่ สคบ. ได้คำแนะนำให้ทำคือ

1.ทำหนังสือยกเลิกสัญญา(จะต้องทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน ส่งให้ทางผู้ประกอบการภายใน45วันนับจากวันที่ในสัญญา)
2.ติดต่อธนาคารที่เราถือบัตรเครดิตเพื่อปฎิเสธการจ่ายเงินและขอเงินคืน  เขาจะส่งเมลล์แบบฟอร์มให้เราเพื่อกรอกเอกสารและส่งกลับ - ตามปกติ ธนาคารก็จะพักรายการให้เราประมาน2-3เดือน  แต่อย่าลืมแจ้งว่าเราจะต้องไม่ติดเครดิตบูโรนะค่ะ (มีรายละเอียดเพิ่มเติ่ม)
3.สคบ.แจ้งว่า ถ้าเราจะไม่ไปใช้บริการ เราต้องไม่เข้าไปใช้บริการเด็ดขาดนะ (จะบอกว่าอ้างในทางกฎหมายมันวัดได้ยาก  ว่าเราไม่ไปใช้บริการเพราะไม่เชื่อมั่นคลินิกค่ะ ไม่กล้าเสี่ยง เพราะเป็นคลินิคที่เปิดใหม่ ไม่มีใครรู้จัก) จะโดนแย้งจากทางทนาย ทางคุณตำรวจว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว เรายังไม่ได้ไปใช้เลยว่าดีหรือไม่ดี ใช้เป็นเหตุผลบอกเลิกสัญญาไม่ได้...

….จากนั้นเราก็พยายามเก็บข้อมูลทุกอย่าง  แล้วก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกับกลุ่มผู้เสียหายที่เกิดปัญหาในช่วงนั้น....แต่ละคนก็มีแนวทางของตัวเอง
ประมานเดือนธันวาคม สคบ. ส่วนกลางนัดให้เข้าไปคุยกับเจ้าของคลีนิค แต่เจ้าของคลีนิคไม่มา ทาง สคบ.ให้เอกสารมาอ่าน เกี่ยวกับแบงค์ชาติ เอากลับมาอ่านอย่างละเอียด ไม่เจออะไรเลย เจอแต่เบอร์โทร ก็ติดต่อขอความช่วยเหลือไป ติดต่อไปรอบแรก ไม่มีหนทางเอาผิด รอบ 2 เจ้าหน้าที่ธปท แนะนำให้เป็นการขอความอนุเคราะห์ประสานงานผู้อำนวยการสูงสุดแทนแต่ไม่รับปากว่าจะได้ไหม ก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีค่ะ พอดีธนาคารบัตรเรา นิสัยไม่ดี ต้องมีอะไรที่เป็นระเบียบกำหนดไว้เรื่องถึงจะเดิน(จะบอกว่า ตามประกาศ สคบ. ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่ปธท.จะเอาผิดได้ จะเอาผิดได้ต้องอยู่ภายในระเบียบ ธปท.นะค่ะ)
...................................................................................................................
ในระหว่างนั้นประมานเดือน มค. 2559 เราสงสัยเกี่ยวกับใบอนุญาตของคลีนิค เราเลยเดินทางไปสถานที่นั้นมองไปด้านบน พื้นขาวตัวหนังสือเขียว ไม่มีตัวเลขค่ะ แต่มองเห็นสติ๊กเกอร์เป็นเลขใบอนุญาตสาขาอื่น เลยมองๆไปด้านหน้าไม่มีชื่อคุณหมอติดอยู่ **พนักงานเดินมาถามพร้อมทำหน้าแบบจะตบเอา มาดูอะไร มีอะไร เราก็มองหน้าแล้วหันหลังเดินออกมา
คำถามในใจตอนนั้นคือ คลินิกเถื่อน หรือเปล่า ก็เลยหาข้อมูลได้ข้อมูลจากเฟสมือปราบคลีนิคเถื่อน ให้โทรเช็คข้อมูลกับทางสาธารณะสุขส่วนกลางเพื่อตรวจสอบได้คำตอบว่าน่าจะยังไม่ได้ขอใบอนุญาติ หรือกำลังขออยู่  เราเลยถามว่าแล้วเขามาขายคอร์สได้หรอค่ะ ทางสาธารณะสุขแจ้งว่าไม่สามารถเปิดให้บริการได้นะ ต้องเช็คกับสาธารณะสุขในพื้นที่เพื่อความแน่ใจอีกที เราก็โทรมาเช็คที่สาธารณะสุขพื้นที่ได้คำตอบว่ายังไม่ได้ขออนุญาติ เราบอกเรื่องลงในกลุ่มผู้เสียหาย25-30คน ที่รวมตัวกันตอนนั้นค่ะ

จากนั้น สมาชิกในกลุ่ม1-3คน ที่ไปใช้บริการค่ะ เดินทางไปสาธารณะสุขให้ตรวจสอบคลินิก ก็บิงโกค่ะ ตามที่คิด คลีนิคยังขออนุญาตไม่เรียบร้อยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทางสาธารณะสุขจังหวัดพาผู้เสียหายไปแจ้งความและนำตำรวจเข้าไปทำการล่อซื้อ เป็นผลให้ทางคลีนิคถูกจับกุมในข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได่รับอนุญาต จำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีหมอประจำ และก็ต้องปิดคลินิกชั่วคราวจนกว่าจะได้ใบอนุญาต... มีนักข่าวไปทำข่าวด้วยค่ะ ทำให้มีข้อความที่ยืนยันว่าคลีนิคทำผิดจริง ร่วมทั้งประกาศให้ผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความที่สน.ที่ตั้งของคลีนิคและนัดคืนเงิน

พอไปตามนัดข่าวเขาไม่จ่ายค่ะ ให้ลงชื่อไว้นัดจ่ายคืนอีกอาทิตย์
เราเลยเดินทางไปปรึกษาคุณตำรวจสน.พื้นที่ที่ซื้อคอร์ส ก็คุยๆจนทางคุณตำรวจบอกว่า ให้ไปตามนัดดู ถ้ารอบนี้ไม่จ่ายค่อยกลับมาแจ้งความ อันนี้แจ้งได้เลยเพราะเข้าข่ายเต็มๆ

นัดครั้งที่2ก็อ้างว่าถูกธนาคารอายัดเงินทำให้จ่ายไม่ได้ พร้อมยืนหนังสือให้ผู้เสียหาย อันนี้เข้าใจว่าถูกอายัดจริง
แต่มันแปลกตรงที่วันที่นัด คือนัดคนแค่ 13 รายชื่อ แต่ส่งชื่อไป 28 คน บวกกับตามเอกสาร ถึงจะปลดอายัดเงินก็ไม่พอจ่ายอยู่ดี เราก็ไม่เชื่อไง ก็กลับมาแจ้งความที่สน.พื้นที่ที่ซื้อคอร์ส จากนั้นเลยนำเอกสารแจ้งความในคดีฉ้อโกงยื่นเพิ่มเติ่มประกอบการปฎิเสธรายการ พร้อมทั้งหนังสืออายัดยอดที่มีรายชื่อเราอยู่ ว่าทางเขายินยอมจะคืนเงินให้แต่ยื่นผิดธนาคาร ทำให้ยื่นเรื่องเพื่อขอปฎิเสธการจ่ายเงินสำเร็จ รวมๆก็เสร็จในระยะเวลา 6 เดือน (เราไม่จ่ายดอกเบี้ย ไม่จ่ายบัตรตลอด 6 เดือน คือได้หนังสือยืนยันการพักรายการมานะ ตามรูป)
สิ่งที่ต้องระวัง
1. การยื่นเรื่องขอปฎิเสธการจ่ายเงินและขอเงินคืน ธนาคารจะพักรายการให้แค่ 3รอบบิล นับตั้งแต่ใบแจ้งหนี้ที่ได้รับใบแรก กรณีคืนเงินค่อนข้างได้ยาก และมักถูกบ่ายเบี่ยงยื้อเวลา ดังนั้นเราจะต้องได้หนังสือตอบกลับจากธนาคาร ที่ยืนยันว่าจะพักรายการให้จนกว่าคดีจะสิ้นสุดและไม่ติดเครดิตบูโร (ไม่จ่ายบัตร3เดือน ธนาคารเขาส่งเรื่องเข้าเครดิตบูโร ถ้าติดขึ้นมาทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้3ปีเลยนะคร้าบ)
2.ถ้าเราจะเอาผิดและได้เงินคืนต้องแจ้งความให้เป็นคดีอาญาเท่านั้น ถ้าไปลงบันทึกประจำวันเขาแค่ไกล่เกลี่ยก็จบ ไม่ได้เงิน ถึงได้เงินคืนก็แค่พอยอมรับได้เท่านั้น แง่วว
   -ถ้าแจ้งความไม่ถึง10คน ต่อพื้นที่ ก็แยกตามเคส ฟ้องแยก กรณีคลินิกไม่ถูกจับกุมอายุความ3เดือน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญา เกินจากนี้เอาผิดได้แต่เงินไม่จ่ายก็ได้ แต่ถ้าคลินิกถูกจับกุม อายุความ3เดือน นับจากวันที่ถูกจับกุม
   - ถ้าแจ้งความเกิน10 คนขึ้นไปเดินทางไปที่กองปราบเลยคร้าบ อายุความเป็นปี เลยจร้า เอานักข่าวไปด้วย ได้เงินช้าแต่ ก็มีโอกาสสูงค่ะ
3.ตอนที่เราเผลอให้บัตรเครดิตไป ถ้ารูดทำรายการแล้วเราไม่โอเคร ก็ไม่ต้องเซ็นเอกสารใดๆให้ คนขายไปvoidรายการคืน ถ้าคนขายไม่ทำ ก็ขอบัตรคืน ไม่คืนก็เดินออกมาค่ะ แล้วโทรอายัดบัตรแจ้งว่าทำบัตรหายค่ะ ถ้ามีรายการเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้เซ็น เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆค่ะ สลิปรูดแล้วไง เราไม่เซ็น เงินไม่ออกจร้า โอเครนะค่ะ
แต่...ถ้าเซ็นไปแล้ว เช็คข้อมูลหรือเดินทางไปสถานที่จริงค่ะ ว่าเปิดหรือยัง ถ้าร้านยังไม่มีสถานที่เปิดให้บริการ ก็ผิดกฎหมายนะค่ะ แจ้งตำรวจพื้นที่ที่เราซื้อคอร์สเข้าไปจับกุมค่ะ ทีนี้ได้เรียกคุยเรื่องใบขออนุญาต โดนปรับยาวๆไปค่ะ

4.เราสามารถขอยกเลิกสัญญาได้ค่ะ สัญญาที่ยกเลิกไม่ได้เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว หากเราใช้บริการแล้วไม่ได้ผลก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องขอเงินส่วนที่เหลือคืนได้แต่จะคุ้มไหมนี่แหละค่ะที่ต้องคิดดีๆ และหากเราได้รับความเสียหายจากการใช้บริการอันนี้ต้องพบแพทย์ตรวจและขอใบรับรองแพทย์ แล้วเดินทางไปที่สาธารณะสุขให้ทำการตรวจสอบ หากเป็นจริงทางสาธารณสุขมีทนายดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายพร้อมค่ะ
5.จริงๆเรามองความสะดวกค่ะคือการยื่นเรื่องออนไลน์ จริงๆเดินทางไปที่ศาลากลางประจำจังหวัดค่ะ จะมีสคบ.ประจำพื้นที่อยู่แล้ว รวดเร็วกว่าด้วยค่ะ เพราะส่วนกลางเคสเยอะ กว่าจะมีเวลาดู อายุความหมดก่อนคร้า เดินทางมาที่ศาลกลางจังหวัดเลยค่ะ เร็วกว่าเยอะ ดูแลได้ทั่วถึงกว่าค่ะ
สคบ.พื้นที่เคยบอกเราไว้ นาจา
***********************************************
ถ้าฟ้องสัญญาไปไม่ได้เงินคืน ก็ต้องให้ถูกจับค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่