สวัสดีครับ สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้วันอาทิตย์
MC WANG JIE (แอ๊ด) เข้าประจำการอีก 1 วันครับ
เมื่อวานนี้ เรื่องของ
บาสต์ วิฬารเทวี ยังค้างอยู่นิดหน่อย และเหลือเทพ/เทวีอื่นอีก มาว่ากันต่อวันนี้อีกวันหนึ่งครับ
เทศกาลเฉลิมฉลองเพื่อบูชาบาสต์วิฬารเทวี ซึ่งวิจิตรตระการตา เรียกกันว่า "ขบวนแห่เทพีบาสเต็ต" บ้าง "บาสเต็ตผู้พิทักษ์สองดินแดน" บ้าง "การก้าวไปข้างหน้าแห่งบาสเต็ตจากนครของพระนาง" บ้าง, "บาสเต็ตปรากฏพระองค์เฉพาะพระพักตรแห่งรา" บ้าง และ "เทศกาลเฉลิมฉลองแห่งฮาเธอร์ และบาสเต็ด" บ้าง, เทศกาลหลักจัดในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ในเมืองบูบาติส จะมีศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดในอียิปต์ร่วมด้วย เพราะว่าดนตรี นาฏศิลป์ และการดื่มไวน์ ทุกชนิดทุกรูปแบบคือสิ่งที่พระนางโปรดปราน คนมากกว่า 7 แสนคนจากทั่วอียิปต์ จะพากันมาร่วมเฉลิมฉลอง และโดยมากจะมาทางเรือ ล่องเรือมาตามลำน้ำไนล์ ชายและหญิงจะพายเรือร่วมกัน ขณะกำลังล่องเรือเดินทาง ก็จะปรบมือร้องเพลงกัน ผู้หญิงหลายๆคนจะเขย่า "แรทเทิ่ลส์" (rattles) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ให้จังหวะ ใช้มือถือเขย่า (เหมือนแทมโบลินในปัจจุบัน) ผู้ชายจะเปล่าฟลุ๊ต แต่ละครั้งที่พวกเขาล่องเรือผ่านเมืองและผู้คนไปตามลำน้ำไนล์ ทุกๆคนบนฝั่งก็จะเริ่มร้องเพลงกัน ส่งเสียงเชียร์ (โห่ร้อง/กรี๊ด) และปรบมือไปพร้อมกัน
"แรทเทิ่ลส์" เครื่องดนตรีให้จังหวะ
เปรียบเทียบกับ "แทมโบลิน" ที่ใช้ในวงดนตรีในปัจจุบัน
ในเมืองบูบาติส พิธีเฉลิมฉลองจะเริ่มโดยการทำพิธีบูชายัญต่อบาสต์เทวี วิหารของบาสต์อยู่ในใจกลางเมือง เพื่อให้ทุกคนสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพราะมันตั้งอยู่บนแผ่นดินที่ยกตัวขึ้นเป็นเนินสูง ข้างนอกกำแพงวิหารประดับประดาด้วยภาพวาดของสัตว์ต่างๆ ข้างในวิหารมีลานพื้นที่ปลูกดอกไม้และต้นไม้ป่าล้อมรอบแท่นบูชาพระนาง ผู้บูชาจะมาจากทั่วทั้งอียิปต์ และจะถวายเครื่องประดับ รูปปั้นเงิน ทองแดง เครื่องรางต่างๆ และแมวมัมมี่ไว้ในวิหารของพระนาง มัมมี่แมวเหล่านั้นนับพัน ถูกขุดพบในห้องใต้ดิน ณ ที่ซึ่งวิหารของพระนางเคยตั้งอยู่
มัมมี่แมวส่วนหนึ่งจากนับพัน จากวิหารพระนางบาสต์เทวี
ช่วงระหว่างวันเฉลิมฉลอง จะกินเวลาไปหลายวัน ซึ่งชาวอียิปต์จะพากันเล่นดนตรี เต้นรำ มีความสุขสนุกสนานบันเทิง คนที่จะบูชาเทวีก็พากันเข้าไปในวิหาร และเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ เช่นตีกลอง เขย่าแทมโบลีนหรือ ซิสตราส (ถือว่าเป็น "แรทเทิ่ลที่ศักดิ์สิทธิ์") ร้องเพลงเต้นรำกันไปตามท้องถนน และยังมีอีกพิธีหนึ่งที่จะมีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมาตอนกลางคืน ในเมืองแห่งความเงียบ และมืดมน จะมีแสงสว่างจุดขึ้นมาภายในวิหารของวิฬารเทวีบาสต์ และจากจุดนั้น แสงสว่างนั้นก็จะแผ่ออกไปจนทั่วทั้งเมือง นำพาไปโดยผู้ศรัทธาทั้งหลาย และจะมีการสวดมนต์ภาวนากันในคืนนั้น ผสมผสานด้วยเสียงดนตรีและกลิ่นธูป
วิฬารเทวีบาสเต็ตจึงเป็นเทวีองค์สำคัญ มีวิหารของพระนางเองสำหรับชนชาวอียิปต์ทำการบูชายัญด้วยของเผ็ดร้อน น้ำดื่ม ไวน์ น้ำนม ขนมปัง และเนื้อ และผู้คนก็ยังรอคอยบูชาพระนาง โดยการถวายเครื่องทอง เพชร เครื่องเงิน น้ำหอม และของอื่นๆอีกจากคนร่ำรวยทั้งหลาย แล้วร้องรำทำเพลงไปรอบๆพระนาง (รูปปั้น) เพราะพระนางคือเทพีแห่งดนตรีและเสียงเพลง และพากันฉลองดื่มกินในวิหารนั้น เพื่อถวายความสำคัญแด่พระนาง
(10) เบส ( BES ) เทพแห่งความบันเทิง และผู้พิทักษ์หญิงมีครรภ์ เด็กเกิดใหม่ และครอบครัว
เบส เป็นเทพผู้เป็นใบ้ สวมเสื้อผ้าทำจากหนังสิงโต ลักษณะของเบสดูไม่เหมือนคนอียิปต์ ดูเหมือนเทพที่มีคนพบในอาฟริกาเสียมากกว่า มีหน้าที่ปกป้องเด็กที่กำลังจะเกิด ป้องกันมิให้ปีศาจเข้ามาใกล้ เบสจะเต้นไปมารอบห้อง พร้อมเขย่า "แรทเทิ่ลส์" และกรีดร้องเพื่อข่มขู่พวกปีศาจที่อาจจะเอาคำสาบร้ายๆมาลงที่เด็กให้หนีไป และหลังจากเด็กโตขึ้น เบสก็จะยังคงอยู่เคียงข้าง เมื่อเด็กหัวเราะหรือยิ้มขึ้นมาเฉยๆโดยไม่ทราบเหตุผล ชาวอียิปต์โบราณก็เชื่อกันว่า เบส กำลังเล่นกับเด็ก โดยทำหน้าตาตลกๆให้เด็กดูอยู่
ชื่อของ เบส เกี่ยวข้องกับคำในภาษานูเบี้ยน (Nubian) ซึ่งแปลว่า แมว, และคำว่า "เบซ่า" (Besa) ซึ่งแปลว่า "ผู้ปกป้อง หรือผู้พิทักษ์" ชาวอียิปต์เลี้ยงแมวไว้เพื่อให้มันจัดการกับงูและสัตว์อื่นๆที่อาจจะมาทำให้โกดังเก็บของเสียหายเช่นหนูเป็นต้น และดังนั้น โดยธรรมชาติ เบสจึงเป็นเทพที่โดดเด่น ในลักษณะทั้งมีคุณค่าและน่าเลื่อมใสเคารพบูชาในดินแดนไอยคุปต์ ภาพของเทพหลายภาพ ถูกเก็บรักษาไว้ในบ้าน เพื่อป้องกันภูติผีปีศาจ ดังนั้นบาสจึงปรากฏในรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างจากเทพองค์อื่นๆ โดยปกติ เทพทั้งหลายมักจะมีใบหน้าส่วนหนึ่งเท่านั้นปรากฏ แต่เบสจะปรากฏเป็นรูปปั้นเต็มตัว และบางครั้งก็สวมชุดนักรบ เพื่อเตรียมพร้อมจะจู่โจมจัดการกับปีศาจผู้จะเข้ามาใกล้
ในยุคใหม่ รอยสักรูปเบสจะพบได้ทั่วไปในหมู่นักฟ้อนนาฏศิลป์และนักดนตรี รวมทั้งหญิงสาวใช้ทั้งหลาย
การเคารพบูชาเทพเบส เผยแผ่ไปในดินแดนโพ้นทะเล เหมือนเทพหลายองค์ และได้รับความนิยมในหมู่ชาวฟีนิเชี่ยนและไซปรัสโบราณ
เบสยังปกป้องอันตรายจากสัตว์มีพิษเช่นงูและแมลงป่องอีกด้วย เหมือน "ทาเวเร็ต" (Taweret) เทพฮิปโปฯ แถมยังปกป้องผู้หญิงที่กำลังจะคลอดอีกด้วย ชาวอียิปต์จะนำรูปปั้นหรือรูปแกะสลักของพระองค์ไปไว้ในห้องนอนหรือไม่ก็แกะสลักรูปพระองค์ไว้บนหัวเตียง เพื่อป้องกันมิให้ฝันร้าย และเชื่อว่าพระองค์จะนำโชคลาภ และสุขภาพที่ดีมาให้แก่ทุกคนที่บูชายกย่องพระองค์
ประวัติความเป็นมาของเบส เริ่มแรกเป็นปีศาจหลายรูปแบบ แล้วหลอมรวมกันกลายเป็นราชสีห์แบบที่ไม่ค่อยมีใครพบ พระองค์มีอิทธิพลมาตั้งแต่อาณาจักรยุคเก่าจนถึงยุคใหม่ โดยเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้พิทักษ์ฟาโรห์ ก่อนจะเลื่อนชั้นไปเป็นผู้ได้รับความเคารพนับถือจากปวงประชา ในยุคใหม่ เบส มีรูปฟอร์มเปลี่ยนจากเทพเป็นเทวีนามว่า เบเซ็ต (Beset) อีกด้วย แต่รูปลักษณ์ต่างๆ ก็ยังคงธรรมดาปกติ มีการเผยแผ่ความเชื่อความเคารพพระองค์ไปถึงบางส่วนของซาฮาร่า อาฟริกา,ตุรกียุคใหม่,ไซปรัส,ซีเรีย และแอสซีเรีย นี่เป็นสิ่งที่บอกให้รู้ว่า เบส ได้รับความนิยมอย่างสูงในตะวันออกกลาง และความจริงที่ว่า เบส ปรากฏให้เห็นเต็มหน้า (คือหันหน้ามาตรงๆไม่ใช่เห็นด้านใดด้านหนึ่ง) ก็เพราะว่า ดั้งเดิม พระองค์ถือกำเนิดมาจากอาฟริกา
(11) เก๊บ (GEB) เทพแห่งผืนธรณี
เทพองค์สำคัญอีกองค์หนึ่ง เป็นสวามีของ เทวีนัต และเป็นพระบิดาของ เซ็ต โอซิริส เนฟธีส ไอซิส และ ฮอรัส เรื่องราวการเกิดขึ้นของเทพเหล่านี้ได้เล่าไปแล้วในครั้งก่อน
(12) ฮาปี (HAPI) เทพแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์
ฮาปี เป็นเทพแห่งอุทกภัยประจำปีแห่งแม่น้ำไนล์ บางครั้งก็ถูกเรียกว่า "เจ้าแห่งมัจฉา และสกุณาประจำบึง" (Lord of the Fishes and Birds of the Marshes) หรือมิฉะนั้นก็เป็น "เจ้าแห่งลำน้ำผู้นำมาซึ่งพืชผัก" (Lord of the River Bringing Vegetation) รูปลักษณ์ของพระองค์มักจะปรากฏในงานศิลปะภาพวาดเป็นชายผมยาว อกใหญ่คล้ายผู้หญิง หน้าท้องใหญ่ สวมผ้าขาวม้า
(13) ฮาเธอร์ (HATHOR) เทพีแห่งความรัก
วิหารของเทวีฮาเธอร์ อยู่ที่เมือง เดนเดรา (Dendera) ซึ่งเป็นเมิองที่สร้างชื่อเสียงให้พระนาง ห่างจากเมืองลักซอร์ไป 37 ไมล์ มีห้องโถง 2 ห้องที่ออกแบบอย่างประณีต แกะสลักเศียรของพระนางไว้ในแต่ละห้อง นอกจากนั้น แท่นบูชาหลายที่ก็สร้างไว้บนหลังคาเรียบของวิหาร มีทะเลสายศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้ๆ เป็นที่ซึ่เหล่านักบวชและคนป่วยจะไปลงอาบน้ำกันเพื่อรักษาตัวเองแล้วจะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ ยังมีขุมทรัพย์สักดื์สิทธิ์ซ่อนไว้ใต้ห้องใต้ดินใกล้ๆกับวิหารศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย, ที่วิหารของพระนาง ผู้คนจะไปสวดอธิษฐานขอพรให้ร่ำรวย แต่เหนืออื่นใด ฮาเธอร์ เป็นเทพีที่ "งานยุ่งมาก" ยิ่งกว่าเทพและเทวีองค์ใดๆ ในอียิปต์ พระนางเป็นเทพแห่งความรัก ความสวยงาม นาฏศิลป์ ดนตรี และความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นเทวีองค์หลักองค์หนึ่ง
คำว่า "ฮาเธอร์" แปลว่า "พระตำหนักของฮอรัส" (House of Horus) ก่อนที่ฮาเธอร์จะได้เป็นเทวีผู้ประเสริฐ พระนางเคยเป็นเทวีผู้ทำลายล้างมาก่อน มีตำนานเล่าว่า สุริยเทพรา สั่งให้ฮาเธอร์ ซึ่งมีนามเดิมว่า "เซคเม็ต" ออกไปกินชาวโลก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป รากลับต้องการให้เลิกเสีย แต่เซคเม็ตได้เจี๊ยะมนุษย์เข้าไปบ้างแล้ว เลยติดใจ ไม่ยอมเลิก ราจึงย้อมเบียร์ให้เป็นสีแดงและเทกระจายราดรดท่วมไปทั่วแผ่นดิน พอเซคเม็ตเห็นเข้าก็นึกว่าเป็นเลือดมนุษย์ทั้งหลายที่นางได้ฆ่ากินไป นางจึงดื่มกิน "เลือดปลอม" คือเบียร์แดงเหล่านั้นจนหมดแผ่นดิน และเมามาย หลังจากนั้น นางก็หลับไปสามวันเต็มๆ และพอนางตื่นขึ้นมา ก็ได้ทำให้คนที่นางฆ่ากินทุกคนกลับฟื้นขึ้นมาใหม่
และแต่นั้นไปนางก็ไม่อยากกินมนุษย์อีกเลย ก็เลยได้กลายเป็นเทวีองค์ใหม่ นามว่า ฮาเธอร์
ฮาเธอร์ แปลงร่างได้ถึง 4 ร่างที่ต่างกัน ในร่างมนุษย์ พระนางมีศีรษะวัวพร้อมกับเขาแตรสองเขา เป็นสัญลักษณ์ของวัว เพราะวัวเป็นสัตว์มีค่ามากที่สุด นางสวม "
เมนาต" ซึ่งเป็นสร้อยคอชนิดพิเศษ เมนาตเป็นสร้อยคอลูกปัดที่หนักมาก เป็นรูปจันทรเสี้ยวตรงด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปเห็ดยาวชิ้นหนึ่ง ในร่างของสัตว์ นางจะเป็นแม่โคที่มี "
อังค์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตติดอยู่ด้วย
อังคห์ (ANKH) สัญลักษณ์แห่งชีวิต
อีกร่างหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์คือ นางสีหะผู้ดุร้าย และร่างสุดท้าย เป็นราชสีห์คำราม สัญลักษณ์ของฮาเธอร์ คือโคกับดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ ชาวไอยคุปต์โบราณจะวาดรูปพระนางเป็นเทพีแห่งท้องฟ้าและทางช้างเผือก ฮาเธอร์ยังหมายถึง สิ่งที่เป็นทอง,หญิงนักร้อง,สาวแม่หม้าย และหญิงชาวเมือง "ไซคามอร์" (Sycamore) พระนางเดินทางไปสู่กรีก และเถียงกันหนักว่าไปด้วยร่างเทพหรือเทวีกันแน่, พระนางถูกขับออกจากแผ่นดินและอับอาย,
สุดท้าย จึงได้กลายเป็นเทพีแห่งความรักและความงาม
เครดิตจาก วิกิพีเดีย =
https://simple.wikipedia.org/wiki/List_of_Egyptian_gods_and_goddesses
เป็นภาษาอังกฤษ MC แปลเองทั้งหมด ครับ
ยังมีเหลืออีก ถ้าไม่เบื่อกันเสียก่อน จะนำมาเล่าต่อวันข้างหน้า
พบกันใหม่ เสาร์อาทิตย์หน้าครับ
ห้องเพลง**คนรากหญ้า**พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม มีแต่เสียง 30/7/2560 - เทพและเทพีไอยคุปต์ (4)
สวัสดีครับ สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้วันอาทิตย์ MC WANG JIE (แอ๊ด) เข้าประจำการอีก 1 วันครับ
เมื่อวานนี้ เรื่องของ บาสต์ วิฬารเทวี ยังค้างอยู่นิดหน่อย และเหลือเทพ/เทวีอื่นอีก มาว่ากันต่อวันนี้อีกวันหนึ่งครับ
เทศกาลเฉลิมฉลองเพื่อบูชาบาสต์วิฬารเทวี ซึ่งวิจิตรตระการตา เรียกกันว่า "ขบวนแห่เทพีบาสเต็ต" บ้าง "บาสเต็ตผู้พิทักษ์สองดินแดน" บ้าง "การก้าวไปข้างหน้าแห่งบาสเต็ตจากนครของพระนาง" บ้าง, "บาสเต็ตปรากฏพระองค์เฉพาะพระพักตรแห่งรา" บ้าง และ "เทศกาลเฉลิมฉลองแห่งฮาเธอร์ และบาสเต็ด" บ้าง, เทศกาลหลักจัดในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ในเมืองบูบาติส จะมีศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดในอียิปต์ร่วมด้วย เพราะว่าดนตรี นาฏศิลป์ และการดื่มไวน์ ทุกชนิดทุกรูปแบบคือสิ่งที่พระนางโปรดปราน คนมากกว่า 7 แสนคนจากทั่วอียิปต์ จะพากันมาร่วมเฉลิมฉลอง และโดยมากจะมาทางเรือ ล่องเรือมาตามลำน้ำไนล์ ชายและหญิงจะพายเรือร่วมกัน ขณะกำลังล่องเรือเดินทาง ก็จะปรบมือร้องเพลงกัน ผู้หญิงหลายๆคนจะเขย่า "แรทเทิ่ลส์" (rattles) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ให้จังหวะ ใช้มือถือเขย่า (เหมือนแทมโบลินในปัจจุบัน) ผู้ชายจะเปล่าฟลุ๊ต แต่ละครั้งที่พวกเขาล่องเรือผ่านเมืองและผู้คนไปตามลำน้ำไนล์ ทุกๆคนบนฝั่งก็จะเริ่มร้องเพลงกัน ส่งเสียงเชียร์ (โห่ร้อง/กรี๊ด) และปรบมือไปพร้อมกัน
ในเมืองบูบาติส พิธีเฉลิมฉลองจะเริ่มโดยการทำพิธีบูชายัญต่อบาสต์เทวี วิหารของบาสต์อยู่ในใจกลางเมือง เพื่อให้ทุกคนสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพราะมันตั้งอยู่บนแผ่นดินที่ยกตัวขึ้นเป็นเนินสูง ข้างนอกกำแพงวิหารประดับประดาด้วยภาพวาดของสัตว์ต่างๆ ข้างในวิหารมีลานพื้นที่ปลูกดอกไม้และต้นไม้ป่าล้อมรอบแท่นบูชาพระนาง ผู้บูชาจะมาจากทั่วทั้งอียิปต์ และจะถวายเครื่องประดับ รูปปั้นเงิน ทองแดง เครื่องรางต่างๆ และแมวมัมมี่ไว้ในวิหารของพระนาง มัมมี่แมวเหล่านั้นนับพัน ถูกขุดพบในห้องใต้ดิน ณ ที่ซึ่งวิหารของพระนางเคยตั้งอยู่
ช่วงระหว่างวันเฉลิมฉลอง จะกินเวลาไปหลายวัน ซึ่งชาวอียิปต์จะพากันเล่นดนตรี เต้นรำ มีความสุขสนุกสนานบันเทิง คนที่จะบูชาเทวีก็พากันเข้าไปในวิหาร และเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ เช่นตีกลอง เขย่าแทมโบลีนหรือ ซิสตราส (ถือว่าเป็น "แรทเทิ่ลที่ศักดิ์สิทธิ์") ร้องเพลงเต้นรำกันไปตามท้องถนน และยังมีอีกพิธีหนึ่งที่จะมีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมาตอนกลางคืน ในเมืองแห่งความเงียบ และมืดมน จะมีแสงสว่างจุดขึ้นมาภายในวิหารของวิฬารเทวีบาสต์ และจากจุดนั้น แสงสว่างนั้นก็จะแผ่ออกไปจนทั่วทั้งเมือง นำพาไปโดยผู้ศรัทธาทั้งหลาย และจะมีการสวดมนต์ภาวนากันในคืนนั้น ผสมผสานด้วยเสียงดนตรีและกลิ่นธูป
วิฬารเทวีบาสเต็ตจึงเป็นเทวีองค์สำคัญ มีวิหารของพระนางเองสำหรับชนชาวอียิปต์ทำการบูชายัญด้วยของเผ็ดร้อน น้ำดื่ม ไวน์ น้ำนม ขนมปัง และเนื้อ และผู้คนก็ยังรอคอยบูชาพระนาง โดยการถวายเครื่องทอง เพชร เครื่องเงิน น้ำหอม และของอื่นๆอีกจากคนร่ำรวยทั้งหลาย แล้วร้องรำทำเพลงไปรอบๆพระนาง (รูปปั้น) เพราะพระนางคือเทพีแห่งดนตรีและเสียงเพลง และพากันฉลองดื่มกินในวิหารนั้น เพื่อถวายความสำคัญแด่พระนาง
(10) เบส ( BES ) เทพแห่งความบันเทิง และผู้พิทักษ์หญิงมีครรภ์ เด็กเกิดใหม่ และครอบครัว
เบส เป็นเทพผู้เป็นใบ้ สวมเสื้อผ้าทำจากหนังสิงโต ลักษณะของเบสดูไม่เหมือนคนอียิปต์ ดูเหมือนเทพที่มีคนพบในอาฟริกาเสียมากกว่า มีหน้าที่ปกป้องเด็กที่กำลังจะเกิด ป้องกันมิให้ปีศาจเข้ามาใกล้ เบสจะเต้นไปมารอบห้อง พร้อมเขย่า "แรทเทิ่ลส์" และกรีดร้องเพื่อข่มขู่พวกปีศาจที่อาจจะเอาคำสาบร้ายๆมาลงที่เด็กให้หนีไป และหลังจากเด็กโตขึ้น เบสก็จะยังคงอยู่เคียงข้าง เมื่อเด็กหัวเราะหรือยิ้มขึ้นมาเฉยๆโดยไม่ทราบเหตุผล ชาวอียิปต์โบราณก็เชื่อกันว่า เบส กำลังเล่นกับเด็ก โดยทำหน้าตาตลกๆให้เด็กดูอยู่
ชื่อของ เบส เกี่ยวข้องกับคำในภาษานูเบี้ยน (Nubian) ซึ่งแปลว่า แมว, และคำว่า "เบซ่า" (Besa) ซึ่งแปลว่า "ผู้ปกป้อง หรือผู้พิทักษ์" ชาวอียิปต์เลี้ยงแมวไว้เพื่อให้มันจัดการกับงูและสัตว์อื่นๆที่อาจจะมาทำให้โกดังเก็บของเสียหายเช่นหนูเป็นต้น และดังนั้น โดยธรรมชาติ เบสจึงเป็นเทพที่โดดเด่น ในลักษณะทั้งมีคุณค่าและน่าเลื่อมใสเคารพบูชาในดินแดนไอยคุปต์ ภาพของเทพหลายภาพ ถูกเก็บรักษาไว้ในบ้าน เพื่อป้องกันภูติผีปีศาจ ดังนั้นบาสจึงปรากฏในรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างจากเทพองค์อื่นๆ โดยปกติ เทพทั้งหลายมักจะมีใบหน้าส่วนหนึ่งเท่านั้นปรากฏ แต่เบสจะปรากฏเป็นรูปปั้นเต็มตัว และบางครั้งก็สวมชุดนักรบ เพื่อเตรียมพร้อมจะจู่โจมจัดการกับปีศาจผู้จะเข้ามาใกล้
ในยุคใหม่ รอยสักรูปเบสจะพบได้ทั่วไปในหมู่นักฟ้อนนาฏศิลป์และนักดนตรี รวมทั้งหญิงสาวใช้ทั้งหลาย
การเคารพบูชาเทพเบส เผยแผ่ไปในดินแดนโพ้นทะเล เหมือนเทพหลายองค์ และได้รับความนิยมในหมู่ชาวฟีนิเชี่ยนและไซปรัสโบราณ
เบสยังปกป้องอันตรายจากสัตว์มีพิษเช่นงูและแมลงป่องอีกด้วย เหมือน "ทาเวเร็ต" (Taweret) เทพฮิปโปฯ แถมยังปกป้องผู้หญิงที่กำลังจะคลอดอีกด้วย ชาวอียิปต์จะนำรูปปั้นหรือรูปแกะสลักของพระองค์ไปไว้ในห้องนอนหรือไม่ก็แกะสลักรูปพระองค์ไว้บนหัวเตียง เพื่อป้องกันมิให้ฝันร้าย และเชื่อว่าพระองค์จะนำโชคลาภ และสุขภาพที่ดีมาให้แก่ทุกคนที่บูชายกย่องพระองค์
ประวัติความเป็นมาของเบส เริ่มแรกเป็นปีศาจหลายรูปแบบ แล้วหลอมรวมกันกลายเป็นราชสีห์แบบที่ไม่ค่อยมีใครพบ พระองค์มีอิทธิพลมาตั้งแต่อาณาจักรยุคเก่าจนถึงยุคใหม่ โดยเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้พิทักษ์ฟาโรห์ ก่อนจะเลื่อนชั้นไปเป็นผู้ได้รับความเคารพนับถือจากปวงประชา ในยุคใหม่ เบส มีรูปฟอร์มเปลี่ยนจากเทพเป็นเทวีนามว่า เบเซ็ต (Beset) อีกด้วย แต่รูปลักษณ์ต่างๆ ก็ยังคงธรรมดาปกติ มีการเผยแผ่ความเชื่อความเคารพพระองค์ไปถึงบางส่วนของซาฮาร่า อาฟริกา,ตุรกียุคใหม่,ไซปรัส,ซีเรีย และแอสซีเรีย นี่เป็นสิ่งที่บอกให้รู้ว่า เบส ได้รับความนิยมอย่างสูงในตะวันออกกลาง และความจริงที่ว่า เบส ปรากฏให้เห็นเต็มหน้า (คือหันหน้ามาตรงๆไม่ใช่เห็นด้านใดด้านหนึ่ง) ก็เพราะว่า ดั้งเดิม พระองค์ถือกำเนิดมาจากอาฟริกา
(11) เก๊บ (GEB) เทพแห่งผืนธรณี
เทพองค์สำคัญอีกองค์หนึ่ง เป็นสวามีของ เทวีนัต และเป็นพระบิดาของ เซ็ต โอซิริส เนฟธีส ไอซิส และ ฮอรัส เรื่องราวการเกิดขึ้นของเทพเหล่านี้ได้เล่าไปแล้วในครั้งก่อน
(12) ฮาปี (HAPI) เทพแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์
ฮาปี เป็นเทพแห่งอุทกภัยประจำปีแห่งแม่น้ำไนล์ บางครั้งก็ถูกเรียกว่า "เจ้าแห่งมัจฉา และสกุณาประจำบึง" (Lord of the Fishes and Birds of the Marshes) หรือมิฉะนั้นก็เป็น "เจ้าแห่งลำน้ำผู้นำมาซึ่งพืชผัก" (Lord of the River Bringing Vegetation) รูปลักษณ์ของพระองค์มักจะปรากฏในงานศิลปะภาพวาดเป็นชายผมยาว อกใหญ่คล้ายผู้หญิง หน้าท้องใหญ่ สวมผ้าขาวม้า
(13) ฮาเธอร์ (HATHOR) เทพีแห่งความรัก
วิหารของเทวีฮาเธอร์ อยู่ที่เมือง เดนเดรา (Dendera) ซึ่งเป็นเมิองที่สร้างชื่อเสียงให้พระนาง ห่างจากเมืองลักซอร์ไป 37 ไมล์ มีห้องโถง 2 ห้องที่ออกแบบอย่างประณีต แกะสลักเศียรของพระนางไว้ในแต่ละห้อง นอกจากนั้น แท่นบูชาหลายที่ก็สร้างไว้บนหลังคาเรียบของวิหาร มีทะเลสายศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้ๆ เป็นที่ซึ่เหล่านักบวชและคนป่วยจะไปลงอาบน้ำกันเพื่อรักษาตัวเองแล้วจะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ ยังมีขุมทรัพย์สักดื์สิทธิ์ซ่อนไว้ใต้ห้องใต้ดินใกล้ๆกับวิหารศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย, ที่วิหารของพระนาง ผู้คนจะไปสวดอธิษฐานขอพรให้ร่ำรวย แต่เหนืออื่นใด ฮาเธอร์ เป็นเทพีที่ "งานยุ่งมาก" ยิ่งกว่าเทพและเทวีองค์ใดๆ ในอียิปต์ พระนางเป็นเทพแห่งความรัก ความสวยงาม นาฏศิลป์ ดนตรี และความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นเทวีองค์หลักองค์หนึ่ง
คำว่า "ฮาเธอร์" แปลว่า "พระตำหนักของฮอรัส" (House of Horus) ก่อนที่ฮาเธอร์จะได้เป็นเทวีผู้ประเสริฐ พระนางเคยเป็นเทวีผู้ทำลายล้างมาก่อน มีตำนานเล่าว่า สุริยเทพรา สั่งให้ฮาเธอร์ ซึ่งมีนามเดิมว่า "เซคเม็ต" ออกไปกินชาวโลก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป รากลับต้องการให้เลิกเสีย แต่เซคเม็ตได้เจี๊ยะมนุษย์เข้าไปบ้างแล้ว เลยติดใจ ไม่ยอมเลิก ราจึงย้อมเบียร์ให้เป็นสีแดงและเทกระจายราดรดท่วมไปทั่วแผ่นดิน พอเซคเม็ตเห็นเข้าก็นึกว่าเป็นเลือดมนุษย์ทั้งหลายที่นางได้ฆ่ากินไป นางจึงดื่มกิน "เลือดปลอม" คือเบียร์แดงเหล่านั้นจนหมดแผ่นดิน และเมามาย หลังจากนั้น นางก็หลับไปสามวันเต็มๆ และพอนางตื่นขึ้นมา ก็ได้ทำให้คนที่นางฆ่ากินทุกคนกลับฟื้นขึ้นมาใหม่ และแต่นั้นไปนางก็ไม่อยากกินมนุษย์อีกเลย ก็เลยได้กลายเป็นเทวีองค์ใหม่ นามว่า ฮาเธอร์
ฮาเธอร์ แปลงร่างได้ถึง 4 ร่างที่ต่างกัน ในร่างมนุษย์ พระนางมีศีรษะวัวพร้อมกับเขาแตรสองเขา เป็นสัญลักษณ์ของวัว เพราะวัวเป็นสัตว์มีค่ามากที่สุด นางสวม "เมนาต" ซึ่งเป็นสร้อยคอชนิดพิเศษ เมนาตเป็นสร้อยคอลูกปัดที่หนักมาก เป็นรูปจันทรเสี้ยวตรงด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปเห็ดยาวชิ้นหนึ่ง ในร่างของสัตว์ นางจะเป็นแม่โคที่มี "อังค์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตติดอยู่ด้วย
อีกร่างหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์คือ นางสีหะผู้ดุร้าย และร่างสุดท้าย เป็นราชสีห์คำราม สัญลักษณ์ของฮาเธอร์ คือโคกับดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ ชาวไอยคุปต์โบราณจะวาดรูปพระนางเป็นเทพีแห่งท้องฟ้าและทางช้างเผือก ฮาเธอร์ยังหมายถึง สิ่งที่เป็นทอง,หญิงนักร้อง,สาวแม่หม้าย และหญิงชาวเมือง "ไซคามอร์" (Sycamore) พระนางเดินทางไปสู่กรีก และเถียงกันหนักว่าไปด้วยร่างเทพหรือเทวีกันแน่, พระนางถูกขับออกจากแผ่นดินและอับอาย, สุดท้าย จึงได้กลายเป็นเทพีแห่งความรักและความงาม
เครดิตจาก วิกิพีเดีย = https://simple.wikipedia.org/wiki/List_of_Egyptian_gods_and_goddesses
เป็นภาษาอังกฤษ MC แปลเองทั้งหมด ครับ
ยังมีเหลืออีก ถ้าไม่เบื่อกันเสียก่อน จะนำมาเล่าต่อวันข้างหน้า
พบกันใหม่ เสาร์อาทิตย์หน้าครับ