สวัสดีค่ะ หลังจากที่อ่านกระทู้Pantipมานาน ครั้งนี้จะขอมาเป็นคนเขียนเองบ้างนะคะ
เนื่องจากดิฉันพึ่งผ่านสมรภูมิการดำเนินเรื่องขอวีซ่ามาค่ะ เป็นวีซ่าไป “จดทะเบียนที่ประเทศเยอรมนี”
Die standesamtliche Trauung in Deutschland ค่ะ
ที่มาของการขอวีซ่า คือ แฟนของดิฉันเป็นคนเยอรมัน และเธอค่อนข้างเชื่อถือกฎหมายบ้านเมืองเธอมากกว่า เธอเลยอยากไปจดทะเบียนที่เยอรมันก่อนค่ะ
ขึ้นชื่อว่าวีซ่าเป็นอะไรที่ผู้ขอนี่ลุ้นไปตามๆกัน ยิ่งวีซ่าแต่งงานแล้วนั้น ต้องการกำลังใจและความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายนะคะ
เมื่อเราทั้งคู่ตงลงกันแล้วว่าจะแต่งงานกัน ต้องเผื่อเวลาไว้เผื่อการจดทะเบียนอย่างน้อยๆ 4-6เดือนกันเลยทีเดียว
ขึ้นอยู่กับว่าเขตที่แฟนอยู่ๆ ที่เมืองไหน คนแต่งงานเยอะไหม จะสอบผลวัดภาษาเยอรมันผ่านไหม etc.
1. อันดับแรกให้แฟนไปติดต่ออำเภอ [Standesamt] ที่จะไปจดทะเบียนกัน เตรียมส่งสำเนาพาสสปอร์ตของเราให้แฟนไปด้วยนะคะ อาจจะเป็นอำเภอที่แฟนอาศัยอยู่ หรือบางคนอยากจะไปจัดงานในปราสาทก็ให้ติดต่ออำเภอนั้นๆเลย ทางอำเภอก็จะบันทึกชื่อของดิฉันและกำหนดเอกสารว่าต้องการอะไรบ้าง แต่ละเมืองก็ขอเอกสารแตกต่างกันไป
บางที่อาจจะต้องขอทำนัดไปเลยเช่นเมืองที่ดิฉันไปอยู่เป็นต้น
ให้แฟนScan ใบขอเอกสารมาให้ด้วยนะคะบางเอกสาร สถานฑูตเยอรมันจะขอดูด้วยว่า มีระบุจริง
2. ระหว่างรอดิฉันก็เตรียมเอกสารของดิฉันที่อยู่เมืองไทยนะคะ เพราะเอกสารเหล่านี้จะต้องถูกแปลจากล่ามที่ได้รับการรับรองจากศาลเยอรมันแล้วเท่านั้น ค่าแปล เอกสารละ 1,000 บาท นะคะ
• สูติบัตร [Geburtsurkunde] – ต้องเป็นตัวจริงนะคะ ถ้าไม่มีต้องไปขอคัดสำเนาจากอำเภอค่ะ (ใบเกิด ทร.
19ตอน 2)
เขตที่ดิฉันแจ้งเกิดในกทม. ดันถูกไปรวมกับเขตใหม่ วันนั้นเลยต้องไป 2 เขตเลยคะ ด้วยความไม่รู้
• ใบรับรองสถานะครอบครัว [Ehefähigkeitszeugnis] -สำนักทะเบียนกลางนาง
เล้ง
• หนังสือรับรองโสด [Ledigkeitsbescheinigung] - อำเภอที่ดิฉันอาศัยอยู่
• ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล [Namensänderungsurkunde] – ตัวจริงเท่านั้น หากพ่อแม่เปลี่ยนชื่อก็ต้องไปเอามาด้วยนะคะ
• ทะเบียนบ้าน [Hausregisterauszug]
ใช้เวลา 1 วันเพื่อเตรียมเอกสารตัวจริงทั้งหมด
พอได้เอกสารการแปลแล้ว ระยะเวลาการแปลขึ้นอยู่กับผู้แปลนะคะ ดิฉันโชคดีมากพี่ที่แปลคือเก่งมาก และให้คำปรึกษาทุกอย่างดีมาก เมื่อดิฉันได้เอกสารทุกอย่างครบวันศุกร์ ดิฉันก็ส่งถ่ายรูปให้ก่อนทางไลน์ วันจันทร์ดิฉันสามารถนำเอกสารตามด้านบนไปยื่นสถานฑูตเพื่อขอให้สถานฑูติรับรองเอกสารได้เลยคะ
3. การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงโดยสถานฑูตเยอรมัน ถ. สาธร วันที่ไปรับรองเอกสารไม่ต้องทำนัดนะคะ แต่ควรไปเช้าๆจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน
จะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ
3.1 สำเนาหน้าพาสปอร์ตให้สถานฑูติรับรอง จะต้องติดตัวจริงไปด้วยนะคะ
3.2 ใบขอเอกสารจากอำเภอที่จะไปอยู่ ใบที่แฟนไปขอจากข้อ 1
3.3 ก็เตรียมทำใบมอบอำนาจ (Beitrittserklärung) ไว้เลย เพราะแฟนจะต้องเอาเอกสารทั้งหมดนี้ไปยื่นที่อำเภอของเค้าอีกทีนึงค่ะ
3.4 อำเภอของแฟนดิฉันต้องการใบสาบาญตนต่อหน้าทนาย Vollmacht zur Anmeldung der Eheschließung ว่าดิฉันให้เอกสารทั้งหมดจริงและดิฉันเข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่คือจะไปแต่งงานจริงๆ หากมีอะไรที่เป็นเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกม.เยอรมัน ซึ่งราคาสูงมาก
4. ทางแฟนดิฉันจะต้องไปขอใบรับรองการเกิดของเค้าค่ะ ซึ่งแฟนก็ไปทำมาเองเรียบร้อย
4.1 ระหว่างรอ ก็ไปเรียนภาษาเยอรมันรอค่ะ ดิฉันเริ่มเรียนภาษาก่อนมาแล้วที่ Goethe นี่แหละคะเรียนวันอาทิตย์เป็นเวลา 1 ปี ชิวๆ และก็ติวสอบ A1 ด้วยตัวเองและได้คะแนนดีด้วยนะคะ
แอบโม้ๆ
5. ดิฉันรออยู่ 6 สัปดาห์คะ มีบางอำเภอซึ่งตอบช้า แต่สถานฑูตเยอรมันทำงานดีมาก ดิฉันโทรไปตามหลังจาก 6 สัปดาห์ ที่รอมานานแสนนาน เจ้าหน้าที่ก็ตอบดิฉันดีว่าขาดการตอบรับจากอำเภอไหน ให้ดิฉันไปตามที่ไหน
6. เมื่อได้เอกสารทุกอย่างครบแล้วก็ส่งให้แฟน พร้อมกับเอกสารรับรองการทำงานของดิฉันว่าทำงานที่ไหน เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือค่ะ แฟนจะต้องทำนัดแล้วไปยื่นเอกสารที่อำเภอที่ทำเรื่องไว้ จากนั้นอำเภอจะใช้เวลาตรวจ ของดิฉันเอกสารดิฉันไม่มีปัญหาทุกอย่างครบถ้วน เอกสารก็จะถูกส่งต่อไปที่ ศาลของเยอรมัน เพราะเจ้าหน้าที่ถือว่าต้องได้รับการอนุมัติและยินยอมจากศาลค่ะ หลังจากนั้นก็รออีก 4-8 สัปดาห์ค่ะ
7. หลังจากวันที่เอกสารถูกส่งให้สาร รอไป แฟนก็ได้รับอีเมลล์ว่าถูกอย่างผ่านแล้ว ให้มารับใบยืนวันและนัดวันแต่งได้เลย
แฟนก็ไปติดต่อสถานที่ แฟนแอบฝันไว้ว่าอยากแต่งงานในปราสาทค่ะก็ไปขอวันที่สถานที่ว่าง และก็ไปเช็คกับตารางงานของเจ้าหน้าที่ๆอำเภอคะ ทางอำเภอก็จะออกไปยืนยันที่เรีบกว่า Anmeldung der Eheschliessung
ให้แฟนรีบถ่ายรูปส่งมาให้ดิฉันเลยคะ ดิฉันสามารถใช้ตัวนี้ไปยื่นวีซ่าได้เลย
8. ขั้นตอนการยื่นวีซ่าก็ต้องทำนัดไปเพื่อยื่น “National Visa” ค่ะ การยื่นวีซ่าใช้เวลา 2 สัปดาห์
เตรียมสำเนาเอกสารที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นไปให้พร้อม พร้อม พาสสปอร์ตตัวจริง เจ้าหน้าที่ก็จะสัมภาษณ์ดิฉันอย่างละเอียดเลยคะ ว่าเจอกันที่ไหน อย่างไร
ที่สำคัญ ใบสอบ A1 จากสถาบัน Goethe นะคะ
9. ผ่านไป 2 สัปดาห์ ดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากสถานทูต "สวัสดีค่ะ คุณ K..... ใช่มั้ยคะ? สถานทูตฯนะคะ จะโทรมาแจ้งผลวีซ่าของคุณ ว่าผ่านแล้วนะคะ"
จากนั้นมันก็มีความปลื้มปริ่มในใจมาก
10. วันที่ไปรับวีซ่าก็เตรียมใบจองตั๋งเครื่องบิน พร้อมประกัน 3 เดือนไปนะคะ
ทั้งหมดทุกขึ้นตอน ดิฉันลองคำนวนเป็นเงินไทยเกือบ 50,000 บาท หลักๆจะเป็นการแปลและรับรองใบเปลี่ยนชื่อค่ะ บ้านดิฉันขยันเปลี่ยนมาก
ใช้เวลารวม 20 สัปดาห์เลยคะ
กว่าจะได้แต่งงานนี่ รอทำเอกสารกันอยู่ครึ่งปี เป็นเวลาที่ทรมานมาก ดิฉันก็สวดขอพระเจ้าตามศาสนาของดิฉัน
ยิ่งเห็นว่าเยอรมันค่อนข้างเคี่ยวเลยจิตตกมาก แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
แฟนไม่ต้องไปสัมภาษณ์ด้วยเพราะเจ้าหน้าที่ทางเยอรมันแจ้งว่าเคสของเราเอกสารครบถ้วน ไม่มีอะไรน่าสงสัย
ตอนนี้เราก็กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้วค่ะ
คิดไว้อยู่ว่าถ้าทุกอย่างผ่านไปได้ก็อยากจะมาเขียนรีวิวไว้เพราะว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน ใครว่ามีแฟนฝรั่งแล้วง่ายค่ะ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ เมื่อรักกันแล้วก็ต้องผ่านมันไปด้วยกันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บคุณโต้งและคุณSirin มากๆด้วยนะคะ
www.thailaendisch.de
www.mausmoin.com
[CR] แบ่งปันประสบการณ์ ขอวีซ่า “จดทะเบียนสมรสที่ประเทศเยอรมนี” How to get Marriage Visa to Germany
เนื่องจากดิฉันพึ่งผ่านสมรภูมิการดำเนินเรื่องขอวีซ่ามาค่ะ เป็นวีซ่าไป “จดทะเบียนที่ประเทศเยอรมนี”
Die standesamtliche Trauung in Deutschland ค่ะ
ที่มาของการขอวีซ่า คือ แฟนของดิฉันเป็นคนเยอรมัน และเธอค่อนข้างเชื่อถือกฎหมายบ้านเมืองเธอมากกว่า เธอเลยอยากไปจดทะเบียนที่เยอรมันก่อนค่ะ
ขึ้นชื่อว่าวีซ่าเป็นอะไรที่ผู้ขอนี่ลุ้นไปตามๆกัน ยิ่งวีซ่าแต่งงานแล้วนั้น ต้องการกำลังใจและความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายนะคะ
เมื่อเราทั้งคู่ตงลงกันแล้วว่าจะแต่งงานกัน ต้องเผื่อเวลาไว้เผื่อการจดทะเบียนอย่างน้อยๆ 4-6เดือนกันเลยทีเดียว
ขึ้นอยู่กับว่าเขตที่แฟนอยู่ๆ ที่เมืองไหน คนแต่งงานเยอะไหม จะสอบผลวัดภาษาเยอรมันผ่านไหม etc.
1. อันดับแรกให้แฟนไปติดต่ออำเภอ [Standesamt] ที่จะไปจดทะเบียนกัน เตรียมส่งสำเนาพาสสปอร์ตของเราให้แฟนไปด้วยนะคะ อาจจะเป็นอำเภอที่แฟนอาศัยอยู่ หรือบางคนอยากจะไปจัดงานในปราสาทก็ให้ติดต่ออำเภอนั้นๆเลย ทางอำเภอก็จะบันทึกชื่อของดิฉันและกำหนดเอกสารว่าต้องการอะไรบ้าง แต่ละเมืองก็ขอเอกสารแตกต่างกันไป
บางที่อาจจะต้องขอทำนัดไปเลยเช่นเมืองที่ดิฉันไปอยู่เป็นต้น
ให้แฟนScan ใบขอเอกสารมาให้ด้วยนะคะบางเอกสาร สถานฑูตเยอรมันจะขอดูด้วยว่า มีระบุจริง
2. ระหว่างรอดิฉันก็เตรียมเอกสารของดิฉันที่อยู่เมืองไทยนะคะ เพราะเอกสารเหล่านี้จะต้องถูกแปลจากล่ามที่ได้รับการรับรองจากศาลเยอรมันแล้วเท่านั้น ค่าแปล เอกสารละ 1,000 บาท นะคะ
• สูติบัตร [Geburtsurkunde] – ต้องเป็นตัวจริงนะคะ ถ้าไม่มีต้องไปขอคัดสำเนาจากอำเภอค่ะ (ใบเกิด ทร.
19ตอน 2)
เขตที่ดิฉันแจ้งเกิดในกทม. ดันถูกไปรวมกับเขตใหม่ วันนั้นเลยต้องไป 2 เขตเลยคะ ด้วยความไม่รู้
• ใบรับรองสถานะครอบครัว [Ehefähigkeitszeugnis] -สำนักทะเบียนกลางนาง
เล้ง
• หนังสือรับรองโสด [Ledigkeitsbescheinigung] - อำเภอที่ดิฉันอาศัยอยู่
• ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล [Namensänderungsurkunde] – ตัวจริงเท่านั้น หากพ่อแม่เปลี่ยนชื่อก็ต้องไปเอามาด้วยนะคะ
• ทะเบียนบ้าน [Hausregisterauszug]
ใช้เวลา 1 วันเพื่อเตรียมเอกสารตัวจริงทั้งหมด
พอได้เอกสารการแปลแล้ว ระยะเวลาการแปลขึ้นอยู่กับผู้แปลนะคะ ดิฉันโชคดีมากพี่ที่แปลคือเก่งมาก และให้คำปรึกษาทุกอย่างดีมาก เมื่อดิฉันได้เอกสารทุกอย่างครบวันศุกร์ ดิฉันก็ส่งถ่ายรูปให้ก่อนทางไลน์ วันจันทร์ดิฉันสามารถนำเอกสารตามด้านบนไปยื่นสถานฑูตเพื่อขอให้สถานฑูติรับรองเอกสารได้เลยคะ
3. การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงโดยสถานฑูตเยอรมัน ถ. สาธร วันที่ไปรับรองเอกสารไม่ต้องทำนัดนะคะ แต่ควรไปเช้าๆจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน
จะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ
3.1 สำเนาหน้าพาสปอร์ตให้สถานฑูติรับรอง จะต้องติดตัวจริงไปด้วยนะคะ
3.2 ใบขอเอกสารจากอำเภอที่จะไปอยู่ ใบที่แฟนไปขอจากข้อ 1
3.3 ก็เตรียมทำใบมอบอำนาจ (Beitrittserklärung) ไว้เลย เพราะแฟนจะต้องเอาเอกสารทั้งหมดนี้ไปยื่นที่อำเภอของเค้าอีกทีนึงค่ะ
3.4 อำเภอของแฟนดิฉันต้องการใบสาบาญตนต่อหน้าทนาย Vollmacht zur Anmeldung der Eheschließung ว่าดิฉันให้เอกสารทั้งหมดจริงและดิฉันเข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่คือจะไปแต่งงานจริงๆ หากมีอะไรที่เป็นเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกม.เยอรมัน ซึ่งราคาสูงมาก
4. ทางแฟนดิฉันจะต้องไปขอใบรับรองการเกิดของเค้าค่ะ ซึ่งแฟนก็ไปทำมาเองเรียบร้อย
4.1 ระหว่างรอ ก็ไปเรียนภาษาเยอรมันรอค่ะ ดิฉันเริ่มเรียนภาษาก่อนมาแล้วที่ Goethe นี่แหละคะเรียนวันอาทิตย์เป็นเวลา 1 ปี ชิวๆ และก็ติวสอบ A1 ด้วยตัวเองและได้คะแนนดีด้วยนะคะ แอบโม้ๆ
5. ดิฉันรออยู่ 6 สัปดาห์คะ มีบางอำเภอซึ่งตอบช้า แต่สถานฑูตเยอรมันทำงานดีมาก ดิฉันโทรไปตามหลังจาก 6 สัปดาห์ ที่รอมานานแสนนาน เจ้าหน้าที่ก็ตอบดิฉันดีว่าขาดการตอบรับจากอำเภอไหน ให้ดิฉันไปตามที่ไหน
6. เมื่อได้เอกสารทุกอย่างครบแล้วก็ส่งให้แฟน พร้อมกับเอกสารรับรองการทำงานของดิฉันว่าทำงานที่ไหน เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือค่ะ แฟนจะต้องทำนัดแล้วไปยื่นเอกสารที่อำเภอที่ทำเรื่องไว้ จากนั้นอำเภอจะใช้เวลาตรวจ ของดิฉันเอกสารดิฉันไม่มีปัญหาทุกอย่างครบถ้วน เอกสารก็จะถูกส่งต่อไปที่ ศาลของเยอรมัน เพราะเจ้าหน้าที่ถือว่าต้องได้รับการอนุมัติและยินยอมจากศาลค่ะ หลังจากนั้นก็รออีก 4-8 สัปดาห์ค่ะ
7. หลังจากวันที่เอกสารถูกส่งให้สาร รอไป แฟนก็ได้รับอีเมลล์ว่าถูกอย่างผ่านแล้ว ให้มารับใบยืนวันและนัดวันแต่งได้เลย
แฟนก็ไปติดต่อสถานที่ แฟนแอบฝันไว้ว่าอยากแต่งงานในปราสาทค่ะก็ไปขอวันที่สถานที่ว่าง และก็ไปเช็คกับตารางงานของเจ้าหน้าที่ๆอำเภอคะ ทางอำเภอก็จะออกไปยืนยันที่เรีบกว่า Anmeldung der Eheschliessung
ให้แฟนรีบถ่ายรูปส่งมาให้ดิฉันเลยคะ ดิฉันสามารถใช้ตัวนี้ไปยื่นวีซ่าได้เลย
8. ขั้นตอนการยื่นวีซ่าก็ต้องทำนัดไปเพื่อยื่น “National Visa” ค่ะ การยื่นวีซ่าใช้เวลา 2 สัปดาห์
เตรียมสำเนาเอกสารที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นไปให้พร้อม พร้อม พาสสปอร์ตตัวจริง เจ้าหน้าที่ก็จะสัมภาษณ์ดิฉันอย่างละเอียดเลยคะ ว่าเจอกันที่ไหน อย่างไร
ที่สำคัญ ใบสอบ A1 จากสถาบัน Goethe นะคะ
9. ผ่านไป 2 สัปดาห์ ดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากสถานทูต "สวัสดีค่ะ คุณ K..... ใช่มั้ยคะ? สถานทูตฯนะคะ จะโทรมาแจ้งผลวีซ่าของคุณ ว่าผ่านแล้วนะคะ"
จากนั้นมันก็มีความปลื้มปริ่มในใจมาก
10. วันที่ไปรับวีซ่าก็เตรียมใบจองตั๋งเครื่องบิน พร้อมประกัน 3 เดือนไปนะคะ
ทั้งหมดทุกขึ้นตอน ดิฉันลองคำนวนเป็นเงินไทยเกือบ 50,000 บาท หลักๆจะเป็นการแปลและรับรองใบเปลี่ยนชื่อค่ะ บ้านดิฉันขยันเปลี่ยนมาก
ใช้เวลารวม 20 สัปดาห์เลยคะ
กว่าจะได้แต่งงานนี่ รอทำเอกสารกันอยู่ครึ่งปี เป็นเวลาที่ทรมานมาก ดิฉันก็สวดขอพระเจ้าตามศาสนาของดิฉัน
ยิ่งเห็นว่าเยอรมันค่อนข้างเคี่ยวเลยจิตตกมาก แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
แฟนไม่ต้องไปสัมภาษณ์ด้วยเพราะเจ้าหน้าที่ทางเยอรมันแจ้งว่าเคสของเราเอกสารครบถ้วน ไม่มีอะไรน่าสงสัย
ตอนนี้เราก็กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้วค่ะ
คิดไว้อยู่ว่าถ้าทุกอย่างผ่านไปได้ก็อยากจะมาเขียนรีวิวไว้เพราะว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน ใครว่ามีแฟนฝรั่งแล้วง่ายค่ะ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ เมื่อรักกันแล้วก็ต้องผ่านมันไปด้วยกันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บคุณโต้งและคุณSirin มากๆด้วยนะคะ
www.thailaendisch.de
www.mausmoin.com