สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ (โดยเฉพาะสาวๆที่เป็นหวานใจเป็นหนุ่มด๊อยซ์ )
วันนี้จะมาแชร์การเตรียมเอกสารในการยื่นขอจดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวเยอรมัน (ขั้นตอนนี้ยังไม่ใช่การยื่นวีซ่านะคะ เป็นแค่การเริ่มต้นยื่นเอกสารเพื่อขอจดทะเบียนค่ะ) โดยเราเลือกยื่นจดทะเบียนที่เยอรมนี โดยมอบอำนาจให้แฟนเป็นผู้ยื่นเรื่องแทนเรา เพราะเราอยู่ไทย และครั้งนี้เราทำการเตรียมเอกสารด้วยตัวเองทุกอย่างค่ะ ซึ่งแหล่งข้อมูลต่างๆ ก็มาจากหลายๆเว็บไซต์ หลักๆคือเว็บสถานฑูตเยอรมัน ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสทั้งที่ไทยและที่เยอรมนีสำคัญมากนะคะเพื่อนๆ และอีกที่นึงคือพันทิปแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งก็ต้องขอบคุณข้อมูลจากทุกท่านที่เคยมาแชร์ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ และข้อมูลตลอดจนขั้นตอนต่างๆมากมายจนทำให้เราและหลายๆคนได้เตรียมตัวตามคำแนะนำของทุกท่านจนสามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่นค่ะ
หลังจากที่เราคุยกันกับแฟนถึงเรื่องในอนาคตว่าจะเอายังงัย จะแต่งที่ใหน อยู่ที่ใหน เมื่อคตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าแฟนจะให้เราย้ายไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน เราก็เลยตกลงกันว่า จะจดทะเบียนที่เยอรมันค่ะ ช่วงเวลาดำเนินการเอกสารอยู่ระหว่าเดือนมิถุนายน 2565 - สิงหาคม 2565 นะคะ เรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมขึ้นอยู่กับว่าแต่ละเมืองที่แฟนแต่ละคนอยู่ อาจจะร้องขอเอกสารแตกต่างกันออกไปนะคะ แต่เราคิดว่า 90 % เอกสารหลักๆเหมือนกันค่ะ ใครมีประสบการณ์ยื่นสดๆ ร้อนๆ ก็มาแชร์ข้อมูลเล่าสู่กันฟังได้นะคะ อารัมภบทมาก็เยอะแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
กรณีของเรา
สถานภาพทางการสมรส
- เรา สถานะ โสด ไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน
- แฟน สถานะหย่า (เคยแต่งงานมาแล้ว 1 ครั้ง)
***สำคัญมากๆนะคะ การเตรียมเอกสารต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานภาพทางการสมรสของทั้ง 2 ฝ่าย และต้องการจดทะเบียนที่ไทยหรือเยอรมนีนะคะ ดังนั้น แนะนำให้เพื่อนๆ เข้าไปอ่าน คำแนะนำในการจดทะเบียนสมรสกับคนเยอรมัน ที่หน้าเว็บไซต์สถานฑูตเยอรมนีให้เข้าใจนะคะ เผื่อมีข้อมูลอัพเดทในแต่ละช่วงเวลาค่ะ ที่ลิงค์นี้นะคะ
https://bangkok.diplo.de/th-th/service/eheschliessungen ***
ขั้นตอนที่ 1 ต้องการจดทะเบียนที่ใหน ไทย หรือ เยอรมนี
กรณีเรา --> เลือกจดที่ประเทศเยอรมนี
==> ให้แฟนสอบถาม หรือส่งเมลไปถามเจ้าหน้าที่ ที่สำนักทะเบียนของเมืองที่แฟนเราอาศัยอยู่ว่าถ้าจะจดทะเบียนสมรสกับคนไทยที่เยอรมัน จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง หลังจากที่สอบถามไป จนท ตอบกลับมาว่าเอกสารที่เราต้องใช้มีดังนี้
1 สูติบัตรตัวจริง หรือ หนังสือรับรองเกิด (กรณีเอกสารหายและไม่มีต้นขั้ว เก็บไว้ที่อำเภอแล้ว หรือเอกสารเก่ามากกก อ่านไม่ชัด)
2 หนังสือรับรองโสด
3 แบบรับรองทะเบียนราษฎร์
4 ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
5 สำเนาพาสปอร์ต
6 หนังสือมอบอำนาจให้แฟนดำเนินการแทนที่เยอรมัน (*แฟนเตรียมให้โดยดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของเมืองที่แฟนอยู่)
7 หนังสือรับรองรายได้จากที่ทำงาน
ขั้นตอนที่ 2 การขอเอกสารต่างๆ ของเราที่ไทย
2.1. สูติบัตรตัวจริง หรือ หนังสือรับรองเกิด (กรณีเอกสารหายและไม่มีต้นขั้ว เก็บไว้ที่อำเภอแล้ว หรือเอกสารเก่ามากกก อ่านไม่ชัด)
กรณีเรา : สูติบัตรเราไม่มี หาไม่เจอ และต้นขั้วสูติบัตรที่อยุ่ที่อำเภอไม่ชัด เวลาถ่ายเอกสารขาว-ดำออกมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง จึงทำเรื่องขอหนังสือรับรองเกิดมาใช้แทน
แนะนำ : ให้ไปขอที่อำเภอหรือเขตที่เราเกิดตั้งแต่แรก เพื่อลดความล่าช้า เวลาที่สถานฑูตส่งเรื่องไปตรวจสอบเอกสาร (ถ้าเราขอในเขตอำเภอที่เราอาศัยอยู่ แต่ไม่ใช่อำเภอที่เกิด อาจจะทำให้การตรวจสอบกินเวลานาน เพราะสถานฑูตจะส่งเอกสารไปที่อำเภอ/เขตที่ออกเอกสาร และอำเภอที่ออกเอกสารก็จะต้องไปเช็คที่อำเภอที่มีต้นขั้วเอกสารตอนที่เราเกิดตั้งแต่แรกอีกครั้ง)
2.2. หนังสือรับรองโสด : ต้องไปขอที่เขตหรืออำเภอที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่ เราอยู่เขตพระโขนง
แนะนำ : จะต้องนำพยานไปด้วย 2 คน เราใช้เวลาดำเนินการจนเสร็จประมาณ 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่จะให้เขียนคำร้อง เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูล คัดเอกสารลงฟอร์ม ให้เซ็นชื่อ แล้วไปยังฝ่ายทะเบียนราษฏร์ รอคิวเรียก เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากระบบคอมฯ เสร็จแล้วนำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายปกครอง จนท ทำเอกสารต่อ และปรินท์ออกมาให้เราตรวจความถูกต้อง เสร็จแล้ว นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมฯ และปริ้น เพื่อนำเอกสารต่างๆใส่แฟ้ม ส่งให้ ผอ เขตเซ็น เป็นอันเสร็จ
2.3. แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ และ
2.4. ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
ไปขอที่ สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง (วังไชยา) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อสำนักทะเบียนกลาง นางเลิ้ง
เข้าไปติดต่อที่ อาคารสำนักทะเบียนมาตรฐาน - Counter No. 6 แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาขอเอกสาร แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ และ ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
เจ้าหน้าที่จะขอเอกสารประจำตัวเรา สำเนาใบเกิด บัตรประชาชน แล้วให้เรากรอกใบคำร้อง กรอกเสร็จ นั่งรอประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีค่ะ ก่อนกลับก็เดินไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่รับเรื่องก็หยิบของที่ระลึก เป็นรูปหัวใจสีแดง 2 ชิ้น บรรจุในถุงซิปพลาสติกเล็กๆ ให้เรามาด้วย น่ารักมาก
**ที่สำคัญ ค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายไป เพียง 2 บาทถ้วน ย้ำนะคะ 2 บาทถ้วนค่ะ เรานี่อยากจะจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกซัก 100 เพราะเจ้าหน้าที่บริการดีมาก เสียดายที่เขาไม่มีตู้ให้หย่อน ก็เลยไม่ได้ให้เพิ่มไปค่ะ ส่วนค่ารถที่เราจ่ายในการเดินทางไปขอเอกสาร 200 บาทค่ะ
แนะนำ : เอกสารที่ควรนำติดตัวไปด้วย คือ สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาใบเกิด / บัตรประชาชน (แล้วแต่กรณี)
2.5. สำเนาพาสปอร์ต : ถ่ายเอกสารสำเนาพาสปอร์ตของเรา 1 ชุด ไว้สำหรับนำไปรับรองที่สถานฑูต
2.6. หนังสือมอบอำนาจให้แฟนดำเนินการแทนที่เยอรมัน
เอกสารใบมอบอำนาจ : แฟนเราเตรียมให้โดยดาวน์โหลดฟอร์มจากเว็บไซต์ของเมืองที่แฟนอยู่แล้วกรอกข้อมูลส่งเมล์มาให้เราค่ะ (กรอกเอกสารแล้ว ยังไม่ต้องลงชื่อ นะคะ จากนั้นจะต้องนำไปให้ล่ามที่ได้รับอนุญาตจากศาลในเยอรมันที่สถานทูตยอมรับเท่านั้น อ่านและแปลให้ฟังและประทับตรารับรองว่าได้อ่านให้เราฟังแล้วและเราเข้าใจแล้ว ให้มาลงชื่อต่อเจ้าหน้าที่สถานฑูต เซ็นให้เหมือนลายเซ็นในพาสปอร์ตเรา)
2.7. หนังสือรับรองรายได้จากที่ทำงาน : ขอจาก HR ของที่ทำงานได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 การแปลเอกสารไทย เป็น เยอรมัน
การแปลเอกสาร จะต้องแปลกับล่ามที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมันเท่านั้น สำหรับข้อมูลรายชื่อล่ามที่ได้รับการรับรองจะมีอยู่บนเว็บไซต์ของสถานฑูตเยอรมนี เอกสารที่แปลก็มี...
1) หนังสือรับรองเกิด
2) หนังสือรับรองโสด
3) แบบรับรองทะเบียนราษฎร์
4) ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
5) กรอกใบมอบอำนาจ แปลปากเปล่าและประทับตรารับรองจากสำนักแปล
ค่าใช้จ่าย 6,000 บาท *** แปลเอกสารหน้าละ 1,000THB / กรอกหนังสือมอบอำนาจพร้อมแปลปากเปล่าและรับรองการแปล 2,000 THB
เราใช้บริการแปลของ thailaendisch ค่ะ อยู่ใกล้ๆกับสถานฑูต เจ้าหน้าที่ให้บริการดีค่ะ แนะนำหลายอย่างเลย
ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการนำเอกสารรับรองไปรับรองที่สถานฑูตเยอรมนี (จะต้องทำนัดหมายก่อน)
การทำนัดหมายกับสถานทูต : ควรเข้าไปทำนัดหมายในเว็บสถานฑูตล่วงหน้าไว้เลย แพราะว่าคิวอาจจะยาว ทางที่ดีควรจองคิวไว้ก่อน
การทำนัดหมายแต่ละหัวข้อ จะต้องแยกทำเป็นครั้งละ 1 รายการ ไม่สามารถนัดรวมกันได้ ในครั้งเดียว เนื่องจากคนละส่วนงานกันนะคะ
สามารถเข้าไปทำนัดได้ที่ Web link :
https://service2.diplo.de/rktermin/extern/choose_categoryList.do?locationCode=bangk&realmId=1017
เลือกหัวข้อตามที่จะทำการรับรองนะคะ จากนั้น รอเมลตอบกลับนัดหมายจากสถานฑูต ได้รับเมลแล้วให้ปรินท์อีเมลนัดหมายไปด้วยทุกครั้ง
สำหรับเคสของเรา จะแยกเป็น 3 ส่วนดังนี้
- รับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง เลือก Legalisation
- การรับรองสำเนาเอกสาร Passport เลือก Notarization of Copies
- รับรองลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ เลือก Certifications Of Signatures ...
4.1 การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง มีเอกสารดังนี้
1) หนังสือรับรองเกิด 2) หนังสือรับรองโสด 3) แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ 4) ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
*ใช้ฉบับจริง ที่เราไปขอมาจากสำนักทะเบียนต่างๆ อย่างละ 1 ชุด และถ่ายสำเนาขาวดำ 2 ชุด
เราทำนัดยื่นรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงได้วันที่ 1/7/2022 ถึงวันนัด ก็ไปตามนัด โดยปรินท์ใบนัดไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตรงประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่จะเช็คข้อมูลการนัดหมายและกดบัตรคิวให้เรา และให้เราเข้าไปรอด้านใน เราได้ยื่นเอกสารที่ช่อง 6 โดยเจ้าหน้าที่จะถามว่ามาทำอะไร เราก็ตอบเจ้าหน้าที่ว่ามาทำเรื่องรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงเพื่อขอจดทะเบียนกับแฟนชาวเยอรมัน ที่เยอรมนี
เจ้าหน้าที่เช็คเอกสารและสอบถามข้อมูลอีกนิดหน่อย และแจ้ง ค่าใช้จ่ายในการรับรองเอกสาร เราจ่ายเงิน เจ้าหน้าที่จะให้ใบเสร็จมาให้เราเก็บไว้ เพราะวันที่มารับเอกสารเราจะต้องถือใบเสร็จนี้มาด้วย
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ระหว่างนี้ทางสถานฑูตขอสงวนสิทธ์ในการติดต่อสอบถาม และจะสามารถโทรสอบถามติดตามได้เมื่อพ้นเวลา 8 สัปดาห์แล้วไม่มีการติดต่อกลับจากสถานฑูต
เคสเรา ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ วันที่ 21/7/2022 จนท โทรมาแจ้งว่า เอกสารเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปรับเอกสารได้
**อัตราค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น EURO - ตอนจ่าย จ่ายเป็นเงินไทย 4,576 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละวันที่เราไปยื่น ควรนำเงินไปแบบพอดี **
4.2 การรับรองสำเนาพาสปอร์ต
* สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ พร้อมหนังสือเดืนทางตัวจริง
เมื่อถึงสถานฑูต ไปติดต่อด้านหน้าทางเข้าเพื่อรับบัตรคิวก่อนได้บัตรคิวแล้วเข้าไปด้านใน เคาท์เตอร์ที่ 14 อาคาร 3 เดินเลียบกำแพงขาวๆ ไปจนสุดทาง (ไม่ได้เข้าไปในห้องกระจก ด้านหน้านะคะ) - ค่าธรรมเนียม 24.59 EUR เราจ่ายเป็นเงินไทย 873 บาท เรท ณ วันที่ 1/8/2565
4.3 รับรองลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ
นำหนังสือมอบอำนาจที่กรอกแล้ว และสำนักแปลได้ทำการอ่านและแปลให้ฟังพร้อมประทับตรารับรองว่าได้อ่านให้เราฟังและเราเข้าใจแล้ว มาลงชื่อต่อเจ้าหน้าที่สถานฑูต ต้องเซ็นให้เหมือนลายเซ็นในพาสปอร์ตเรา
ตรงนี้ เมื่อถึงสถานฑูต ไปติดต่อด้านหน้าทางเข้า เจ้าหน้าที่จะเปิดประตูให้เราเข้าไปแล้วรอเรียกชื่อหน้าช่องที่ 1 (ตรงนี้เราไม่ได้รับบัตรคิว เท่าที่สังเกตุ จนท น่าจะเรียกชื่อตามเวลาที่เราลงทะเบียนทำนัดไว้ ซึ่งจะใช้เวลามากน้อยต่างกันไป ) - ค่าธรรมเนียม 56.43EUR เราจ่ายเป็นเงินไทย 1,999 บาท เรท ณ วันที่ 8/8/2565 เป็นอันจบขั้นตอนการเตรียมเอกสารค่ะ และสุดท้ายยย.....
ขั้นตอนที่ 5 สุดท้ายยย (แต่ยังไม่ท้ายสุด) ส่งเอกสารไปให้แฟนที่เยอรมัน
เอกสารต้นฉบับที่ได้รับการประทับตรารับรองจากสถานฑูตจะต้องส่งไปให้แฟนยื่นเรื่องที่เยอรมนีนะคะ เพราะฉะนั้น ให้ถ่ายสำเนาไว้ 2-3 ฉบับ หรือมากกว่า แล้วแต่สะดวกค่ะ เราส่งเอกสารกับ DHL ค่าส่ง 1,390 บาท
ส่งเอกสาร 8/8 เอกสารถึงเยอรมนี 11/8 พอแฟนได้รับเอกสาร ก็เอาเอกสารของเราทั้ง 2 คน ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งไปยังศาลเพื่อตรวจสอบ บอกว่าใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ถ้ามีเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติม จะโทรมาแจ้งที่แฟนอีกที
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 14,838 บาท
รวมระยะเวลาในการดำเนินการ 2 เดือน นิดๆ
ตอนนี้ เราก็รอมาได้เข้าอาทิตย์ที่ 2 แล้ว ก็ลุ้นกันต้อไปค่ะ ได้ข่าวว่าคิวขอวีซ่าเยอมันนั้น ยาวไปเดือนตุลาแล้ว เผลอๆอาจจะไปถึงพฤศจิกายนแล้ว อีกทั้งใบสอบ เอ1 เราจะครบ 1 ปี เดือน ธันวาคมนี้แล้ววว ไม่อยากไปสอบใหม่
สุดท้ายนี้ หวังว่าข้อมูลที่นำมาแชร์วันนี้จะพอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะทำเรื่องด้วยตนเองได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านจ้า....สู้ๆ จ้า
หากแท็กผิดห้องต้องขออภัยด้วยจ้า
แชร์ข้อมูลการเตรียมเอกสารยื่นขอจดทะเบียนสมรสที่เยอรมนี (ด้วยตนเอง) สิงหาคม 2565
วันนี้จะมาแชร์การเตรียมเอกสารในการยื่นขอจดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวเยอรมัน (ขั้นตอนนี้ยังไม่ใช่การยื่นวีซ่านะคะ เป็นแค่การเริ่มต้นยื่นเอกสารเพื่อขอจดทะเบียนค่ะ) โดยเราเลือกยื่นจดทะเบียนที่เยอรมนี โดยมอบอำนาจให้แฟนเป็นผู้ยื่นเรื่องแทนเรา เพราะเราอยู่ไทย และครั้งนี้เราทำการเตรียมเอกสารด้วยตัวเองทุกอย่างค่ะ ซึ่งแหล่งข้อมูลต่างๆ ก็มาจากหลายๆเว็บไซต์ หลักๆคือเว็บสถานฑูตเยอรมัน ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสทั้งที่ไทยและที่เยอรมนีสำคัญมากนะคะเพื่อนๆ และอีกที่นึงคือพันทิปแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งก็ต้องขอบคุณข้อมูลจากทุกท่านที่เคยมาแชร์ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ และข้อมูลตลอดจนขั้นตอนต่างๆมากมายจนทำให้เราและหลายๆคนได้เตรียมตัวตามคำแนะนำของทุกท่านจนสามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่นค่ะ
หลังจากที่เราคุยกันกับแฟนถึงเรื่องในอนาคตว่าจะเอายังงัย จะแต่งที่ใหน อยู่ที่ใหน เมื่อคตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าแฟนจะให้เราย้ายไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน เราก็เลยตกลงกันว่า จะจดทะเบียนที่เยอรมันค่ะ ช่วงเวลาดำเนินการเอกสารอยู่ระหว่าเดือนมิถุนายน 2565 - สิงหาคม 2565 นะคะ เรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมขึ้นอยู่กับว่าแต่ละเมืองที่แฟนแต่ละคนอยู่ อาจจะร้องขอเอกสารแตกต่างกันออกไปนะคะ แต่เราคิดว่า 90 % เอกสารหลักๆเหมือนกันค่ะ ใครมีประสบการณ์ยื่นสดๆ ร้อนๆ ก็มาแชร์ข้อมูลเล่าสู่กันฟังได้นะคะ อารัมภบทมาก็เยอะแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
กรณีของเรา
สถานภาพทางการสมรส
- เรา สถานะ โสด ไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน
- แฟน สถานะหย่า (เคยแต่งงานมาแล้ว 1 ครั้ง)
***สำคัญมากๆนะคะ การเตรียมเอกสารต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานภาพทางการสมรสของทั้ง 2 ฝ่าย และต้องการจดทะเบียนที่ไทยหรือเยอรมนีนะคะ ดังนั้น แนะนำให้เพื่อนๆ เข้าไปอ่าน คำแนะนำในการจดทะเบียนสมรสกับคนเยอรมัน ที่หน้าเว็บไซต์สถานฑูตเยอรมนีให้เข้าใจนะคะ เผื่อมีข้อมูลอัพเดทในแต่ละช่วงเวลาค่ะ ที่ลิงค์นี้นะคะ https://bangkok.diplo.de/th-th/service/eheschliessungen ***
ขั้นตอนที่ 1 ต้องการจดทะเบียนที่ใหน ไทย หรือ เยอรมนี
กรณีเรา --> เลือกจดที่ประเทศเยอรมนี
==> ให้แฟนสอบถาม หรือส่งเมลไปถามเจ้าหน้าที่ ที่สำนักทะเบียนของเมืองที่แฟนเราอาศัยอยู่ว่าถ้าจะจดทะเบียนสมรสกับคนไทยที่เยอรมัน จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง หลังจากที่สอบถามไป จนท ตอบกลับมาว่าเอกสารที่เราต้องใช้มีดังนี้
1 สูติบัตรตัวจริง หรือ หนังสือรับรองเกิด (กรณีเอกสารหายและไม่มีต้นขั้ว เก็บไว้ที่อำเภอแล้ว หรือเอกสารเก่ามากกก อ่านไม่ชัด)
2 หนังสือรับรองโสด
3 แบบรับรองทะเบียนราษฎร์
4 ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
5 สำเนาพาสปอร์ต
6 หนังสือมอบอำนาจให้แฟนดำเนินการแทนที่เยอรมัน (*แฟนเตรียมให้โดยดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของเมืองที่แฟนอยู่)
7 หนังสือรับรองรายได้จากที่ทำงาน
ขั้นตอนที่ 2 การขอเอกสารต่างๆ ของเราที่ไทย
2.1. สูติบัตรตัวจริง หรือ หนังสือรับรองเกิด (กรณีเอกสารหายและไม่มีต้นขั้ว เก็บไว้ที่อำเภอแล้ว หรือเอกสารเก่ามากกก อ่านไม่ชัด)
กรณีเรา : สูติบัตรเราไม่มี หาไม่เจอ และต้นขั้วสูติบัตรที่อยุ่ที่อำเภอไม่ชัด เวลาถ่ายเอกสารขาว-ดำออกมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง จึงทำเรื่องขอหนังสือรับรองเกิดมาใช้แทน
แนะนำ : ให้ไปขอที่อำเภอหรือเขตที่เราเกิดตั้งแต่แรก เพื่อลดความล่าช้า เวลาที่สถานฑูตส่งเรื่องไปตรวจสอบเอกสาร (ถ้าเราขอในเขตอำเภอที่เราอาศัยอยู่ แต่ไม่ใช่อำเภอที่เกิด อาจจะทำให้การตรวจสอบกินเวลานาน เพราะสถานฑูตจะส่งเอกสารไปที่อำเภอ/เขตที่ออกเอกสาร และอำเภอที่ออกเอกสารก็จะต้องไปเช็คที่อำเภอที่มีต้นขั้วเอกสารตอนที่เราเกิดตั้งแต่แรกอีกครั้ง)
2.2. หนังสือรับรองโสด : ต้องไปขอที่เขตหรืออำเภอที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่ เราอยู่เขตพระโขนง
แนะนำ : จะต้องนำพยานไปด้วย 2 คน เราใช้เวลาดำเนินการจนเสร็จประมาณ 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่จะให้เขียนคำร้อง เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูล คัดเอกสารลงฟอร์ม ให้เซ็นชื่อ แล้วไปยังฝ่ายทะเบียนราษฏร์ รอคิวเรียก เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากระบบคอมฯ เสร็จแล้วนำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายปกครอง จนท ทำเอกสารต่อ และปรินท์ออกมาให้เราตรวจความถูกต้อง เสร็จแล้ว นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมฯ และปริ้น เพื่อนำเอกสารต่างๆใส่แฟ้ม ส่งให้ ผอ เขตเซ็น เป็นอันเสร็จ
2.3. แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ และ
2.4. ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
ไปขอที่ สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง (วังไชยา) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อสำนักทะเบียนกลาง นางเลิ้ง
เข้าไปติดต่อที่ อาคารสำนักทะเบียนมาตรฐาน - Counter No. 6 แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาขอเอกสาร แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ และ ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
เจ้าหน้าที่จะขอเอกสารประจำตัวเรา สำเนาใบเกิด บัตรประชาชน แล้วให้เรากรอกใบคำร้อง กรอกเสร็จ นั่งรอประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีค่ะ ก่อนกลับก็เดินไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่รับเรื่องก็หยิบของที่ระลึก เป็นรูปหัวใจสีแดง 2 ชิ้น บรรจุในถุงซิปพลาสติกเล็กๆ ให้เรามาด้วย น่ารักมาก
**ที่สำคัญ ค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายไป เพียง 2 บาทถ้วน ย้ำนะคะ 2 บาทถ้วนค่ะ เรานี่อยากจะจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกซัก 100 เพราะเจ้าหน้าที่บริการดีมาก เสียดายที่เขาไม่มีตู้ให้หย่อน ก็เลยไม่ได้ให้เพิ่มไปค่ะ ส่วนค่ารถที่เราจ่ายในการเดินทางไปขอเอกสาร 200 บาทค่ะ
แนะนำ : เอกสารที่ควรนำติดตัวไปด้วย คือ สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาใบเกิด / บัตรประชาชน (แล้วแต่กรณี)
2.5. สำเนาพาสปอร์ต : ถ่ายเอกสารสำเนาพาสปอร์ตของเรา 1 ชุด ไว้สำหรับนำไปรับรองที่สถานฑูต
2.6. หนังสือมอบอำนาจให้แฟนดำเนินการแทนที่เยอรมัน
เอกสารใบมอบอำนาจ : แฟนเราเตรียมให้โดยดาวน์โหลดฟอร์มจากเว็บไซต์ของเมืองที่แฟนอยู่แล้วกรอกข้อมูลส่งเมล์มาให้เราค่ะ (กรอกเอกสารแล้ว ยังไม่ต้องลงชื่อ นะคะ จากนั้นจะต้องนำไปให้ล่ามที่ได้รับอนุญาตจากศาลในเยอรมันที่สถานทูตยอมรับเท่านั้น อ่านและแปลให้ฟังและประทับตรารับรองว่าได้อ่านให้เราฟังแล้วและเราเข้าใจแล้ว ให้มาลงชื่อต่อเจ้าหน้าที่สถานฑูต เซ็นให้เหมือนลายเซ็นในพาสปอร์ตเรา)
2.7. หนังสือรับรองรายได้จากที่ทำงาน : ขอจาก HR ของที่ทำงานได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 การแปลเอกสารไทย เป็น เยอรมัน
การแปลเอกสาร จะต้องแปลกับล่ามที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมันเท่านั้น สำหรับข้อมูลรายชื่อล่ามที่ได้รับการรับรองจะมีอยู่บนเว็บไซต์ของสถานฑูตเยอรมนี เอกสารที่แปลก็มี...
1) หนังสือรับรองเกิด
2) หนังสือรับรองโสด
3) แบบรับรองทะเบียนราษฎร์
4) ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
5) กรอกใบมอบอำนาจ แปลปากเปล่าและประทับตรารับรองจากสำนักแปล
ค่าใช้จ่าย 6,000 บาท *** แปลเอกสารหน้าละ 1,000THB / กรอกหนังสือมอบอำนาจพร้อมแปลปากเปล่าและรับรองการแปล 2,000 THB
เราใช้บริการแปลของ thailaendisch ค่ะ อยู่ใกล้ๆกับสถานฑูต เจ้าหน้าที่ให้บริการดีค่ะ แนะนำหลายอย่างเลย
ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการนำเอกสารรับรองไปรับรองที่สถานฑูตเยอรมนี (จะต้องทำนัดหมายก่อน)
การทำนัดหมายกับสถานทูต : ควรเข้าไปทำนัดหมายในเว็บสถานฑูตล่วงหน้าไว้เลย แพราะว่าคิวอาจจะยาว ทางที่ดีควรจองคิวไว้ก่อน
การทำนัดหมายแต่ละหัวข้อ จะต้องแยกทำเป็นครั้งละ 1 รายการ ไม่สามารถนัดรวมกันได้ ในครั้งเดียว เนื่องจากคนละส่วนงานกันนะคะ
สามารถเข้าไปทำนัดได้ที่ Web link : https://service2.diplo.de/rktermin/extern/choose_categoryList.do?locationCode=bangk&realmId=1017
เลือกหัวข้อตามที่จะทำการรับรองนะคะ จากนั้น รอเมลตอบกลับนัดหมายจากสถานฑูต ได้รับเมลแล้วให้ปรินท์อีเมลนัดหมายไปด้วยทุกครั้ง
สำหรับเคสของเรา จะแยกเป็น 3 ส่วนดังนี้
- รับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง เลือก Legalisation
- การรับรองสำเนาเอกสาร Passport เลือก Notarization of Copies
- รับรองลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ เลือก Certifications Of Signatures ...
4.1 การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง มีเอกสารดังนี้
1) หนังสือรับรองเกิด 2) หนังสือรับรองโสด 3) แบบรับรองทะเบียนราษฎร์ 4) ใบคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว
*ใช้ฉบับจริง ที่เราไปขอมาจากสำนักทะเบียนต่างๆ อย่างละ 1 ชุด และถ่ายสำเนาขาวดำ 2 ชุด
เราทำนัดยื่นรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงได้วันที่ 1/7/2022 ถึงวันนัด ก็ไปตามนัด โดยปรินท์ใบนัดไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตรงประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่จะเช็คข้อมูลการนัดหมายและกดบัตรคิวให้เรา และให้เราเข้าไปรอด้านใน เราได้ยื่นเอกสารที่ช่อง 6 โดยเจ้าหน้าที่จะถามว่ามาทำอะไร เราก็ตอบเจ้าหน้าที่ว่ามาทำเรื่องรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงเพื่อขอจดทะเบียนกับแฟนชาวเยอรมัน ที่เยอรมนี
เจ้าหน้าที่เช็คเอกสารและสอบถามข้อมูลอีกนิดหน่อย และแจ้ง ค่าใช้จ่ายในการรับรองเอกสาร เราจ่ายเงิน เจ้าหน้าที่จะให้ใบเสร็จมาให้เราเก็บไว้ เพราะวันที่มารับเอกสารเราจะต้องถือใบเสร็จนี้มาด้วย
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ระหว่างนี้ทางสถานฑูตขอสงวนสิทธ์ในการติดต่อสอบถาม และจะสามารถโทรสอบถามติดตามได้เมื่อพ้นเวลา 8 สัปดาห์แล้วไม่มีการติดต่อกลับจากสถานฑูต
เคสเรา ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ วันที่ 21/7/2022 จนท โทรมาแจ้งว่า เอกสารเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปรับเอกสารได้
**อัตราค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น EURO - ตอนจ่าย จ่ายเป็นเงินไทย 4,576 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละวันที่เราไปยื่น ควรนำเงินไปแบบพอดี **
4.2 การรับรองสำเนาพาสปอร์ต
* สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ พร้อมหนังสือเดืนทางตัวจริง
เมื่อถึงสถานฑูต ไปติดต่อด้านหน้าทางเข้าเพื่อรับบัตรคิวก่อนได้บัตรคิวแล้วเข้าไปด้านใน เคาท์เตอร์ที่ 14 อาคาร 3 เดินเลียบกำแพงขาวๆ ไปจนสุดทาง (ไม่ได้เข้าไปในห้องกระจก ด้านหน้านะคะ) - ค่าธรรมเนียม 24.59 EUR เราจ่ายเป็นเงินไทย 873 บาท เรท ณ วันที่ 1/8/2565
4.3 รับรองลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ
นำหนังสือมอบอำนาจที่กรอกแล้ว และสำนักแปลได้ทำการอ่านและแปลให้ฟังพร้อมประทับตรารับรองว่าได้อ่านให้เราฟังและเราเข้าใจแล้ว มาลงชื่อต่อเจ้าหน้าที่สถานฑูต ต้องเซ็นให้เหมือนลายเซ็นในพาสปอร์ตเรา
ตรงนี้ เมื่อถึงสถานฑูต ไปติดต่อด้านหน้าทางเข้า เจ้าหน้าที่จะเปิดประตูให้เราเข้าไปแล้วรอเรียกชื่อหน้าช่องที่ 1 (ตรงนี้เราไม่ได้รับบัตรคิว เท่าที่สังเกตุ จนท น่าจะเรียกชื่อตามเวลาที่เราลงทะเบียนทำนัดไว้ ซึ่งจะใช้เวลามากน้อยต่างกันไป ) - ค่าธรรมเนียม 56.43EUR เราจ่ายเป็นเงินไทย 1,999 บาท เรท ณ วันที่ 8/8/2565 เป็นอันจบขั้นตอนการเตรียมเอกสารค่ะ และสุดท้ายยย.....
ขั้นตอนที่ 5 สุดท้ายยย (แต่ยังไม่ท้ายสุด) ส่งเอกสารไปให้แฟนที่เยอรมัน
เอกสารต้นฉบับที่ได้รับการประทับตรารับรองจากสถานฑูตจะต้องส่งไปให้แฟนยื่นเรื่องที่เยอรมนีนะคะ เพราะฉะนั้น ให้ถ่ายสำเนาไว้ 2-3 ฉบับ หรือมากกว่า แล้วแต่สะดวกค่ะ เราส่งเอกสารกับ DHL ค่าส่ง 1,390 บาท
ส่งเอกสาร 8/8 เอกสารถึงเยอรมนี 11/8 พอแฟนได้รับเอกสาร ก็เอาเอกสารของเราทั้ง 2 คน ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งไปยังศาลเพื่อตรวจสอบ บอกว่าใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ถ้ามีเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติม จะโทรมาแจ้งที่แฟนอีกที
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 14,838 บาท
รวมระยะเวลาในการดำเนินการ 2 เดือน นิดๆ
ตอนนี้ เราก็รอมาได้เข้าอาทิตย์ที่ 2 แล้ว ก็ลุ้นกันต้อไปค่ะ ได้ข่าวว่าคิวขอวีซ่าเยอมันนั้น ยาวไปเดือนตุลาแล้ว เผลอๆอาจจะไปถึงพฤศจิกายนแล้ว อีกทั้งใบสอบ เอ1 เราจะครบ 1 ปี เดือน ธันวาคมนี้แล้ววว ไม่อยากไปสอบใหม่
สุดท้ายนี้ หวังว่าข้อมูลที่นำมาแชร์วันนี้จะพอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะทำเรื่องด้วยตนเองได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านจ้า....สู้ๆ จ้าหากแท็กผิดห้องต้องขออภัยด้วยจ้า