ประสบกรณ์การจดทะเบียนสมรสที่ไทย และทำวีซ่าติดตามสามี เยอรมัน

สวัสดีคะ วันนี้ขอแชร์การจดทะเบียนที่ไทย และทำวีซ่าติดตามสามี เยอรมันนะคะ ตั้งแต่เริ่มจนกะทั่งได้วีซ่า ประมาณ 8 เดือนคะ และคบกันมาได้เกือบ 4 ปีก่อนตัดสินใจแต่งงาน วันนี้ขอเล่าวิธีดำเนินการ และ รายละเอียดต่างเพื่อใครกำลังดำเนินการอยู่นะคะ

ตอนที่ 1 เตรียม เอกสาร

เมื่อตัดสินใจจะแต่งงานคะ ให้แฟน ไปถามที่ Stadtamt ที่แฟนอยู่ว่าถ้าต้องแต่งกับชาวต่างชาติ ต้องการเอกสารอะไรบ้าง Stadtamt จะให้รายการเอกสารมาคะ ซึ่งแต่ละคนจะแตกต่างกันตามสถานะ ซึ่งเรากับแฟน โสด และไม่เคยแต่งงานมีลูกมาก่อน ฝั่งฝ่ายชาย เราไม่แน่ใชว่าใช้ออะไรบ้าง แต่มันมีมาในรายการ ส่วนฝ่ายเราใช้เอกสาร 5 ตัว สำหรัฝั่งเรานะคะ

1 ใบเกิดสูติบัตร หรือ หนังสือรับรองสถานที่เกิด หรือ หนังสือรับรองการเกิด ของเราใบสูติบัตร ยังอยู่และอยู่ในสภาพดี  ข้อมูล ยังชัดเจน แม่เราเอาไปเคลือบไว้  ตอนแรกเรากลัวมีปัญหา เพราะเอกสารมีการเคลีอบ แต่เอกสารใช้ได้คะ ส่วนใครที่เอกสารหาย หรือชำรุด สามารถไปขอคัดใบสูติบัตร ตอนที่ 2 จากอำเภอที่เราเกิด เช่น เกิดที่โรงพยาบาลจุฬา ต้องไปขอที่เขตพญาไท เป็นต้น หรือไม่มีจริงๆ ให้ขอเป็นหนังสือรัรองการเกิด ทร 20/1 แต่ทางอำเภออาจไม่ออกให้ง่ายๆ และอาจต้องมีพยานยื่นยัน  
2 สำเนาทะเบียนบ้าน (สมุดเล่มสีน้ำเงิน) หรือแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร ท.ร. 14/1 แต่เราไปขอเป็น  ทร 14/1 แทน เพราะสะดวกว่า ขอให้เขาออกให้ได้ที่อำเภอ ค่าธรรมเนียม 20 บาท มีอายุ 6 เดือน
3 หนังสือรับรองโสด หรือหนังสือรับรองสถานภาพสมรส สามารถเข้าไปทำได้เลยที่อำเภอ พยานสองคน ค่าธรรมเนียม 100 บาท มีอายุ 6 เดือน
4 หนังสือรับรองทะเบียนครอบครัว จากสำนักทะเบียนกลาง (นางเลิ้ง) มีอายุ 6 เดือน
5 หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ หรือใบเปลี่ยนชื่อนั่นแหละ เราเคยเปลี่ยนชื่อ 1 ครั้ง
และเอกสารทั้งหมด เราต้องแปลเป็นภาษาเยอรมัน และ รับรอง จากสถานทูตเยอร์มัน 

หลังจากได้เอกสาร 1 2 3 5 เราก็เขาไปที่บริษัทรับแปลค่ะ ให้เขาแปลเป็นภาษาเยอร์ม โดยเรามอบอำนาจให้บริษัทที่แปล ไปคัดหนังสือรับรองทะเบียนครอบครัวที่นางเลิ้งให้ และมอบอำนาจให้เอาหนังสือไปรับรองจากสถานทูตให้เอาเข้าไปที่บริษัท 21 ธค. หลังจากนั้น สองอาทิตย์ เราก็โทรตามบริษัทเรี่อยๆว่า เอาเข้าไปรับรองหรือยัง ได้เอกสารคือหรือยังคะ ประมาณ 6 สัปดาห์ เอกสาร แปลรับรองเรียบร้อย  แล้วเราก็ไปรับเอกสารทั้งหมดกลับมาคะ

และเราต้องทำ Eidesstattliche Versicherung  หรือ บันทึกคำให้การแบบมีการสาบาน ซึ่งอาจไม่ได้ขอทุกเขตนะ บางเขตต้องทำ บางเขตไม่ต้อง ซึ่งใบนี้ ต้องทำใบขอนัดเข้าไปกับถานทูต ซึ่งสถานทูต ขอเอกสาร คือ หน้าพาสปอตร์  หนังสือรับรองโสด และ รายการที่เราได้มาจาก เขตของแฟน  หลังจากนั้นสถานทูต ให้วันเวลาที่เราสามารถเข้าไปทำได้ และบอกค่าใช้จ่าย ณ ตอนนั้น อยู่ที่ 3392 ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง 

ถึงเวลานัดให้ไปที่สถานทูต ติดต่อ ด้านหน้าและบอกเขาว่ามาทำบันทึกคำให้การ เค้าจะให้คิวช่องสามแล้วเข้าไปด้านในไปรอเรียกคะ ถึงคิว เจ้าหน้าที่จะขอสำเนาพาสปอตร์ และถามว่าชื่อสกุลสะกดแบนี้ถูกใหม และอธิบายเกี่ยวกับข้อความทั้งหมดให้ฟัง และถามว่าต้องการให้แปลเป็นเอกสารใหม บรรทัดละ 100 บาท หรือให้แปลแค่ปากเปล่า หลักจากนั้นให้เรานั่งรอ ถ้าคนเยอะบอกเลยรอพักใหญ่เลยคะ เค้าจะเรียกเข้าไปที่ช่องหนึ่ง และมีเจ้าหน้าเยอรมัน และเจ้าหน้าที่ช่องสาม ทำหน้าที่เป็นล่าม และแปลสิ่งที่เข้าเขียนในหนังสือให้ฟัง เข้าจะถามว่า เราไม่เคยแต่งงาน ไม่ว่าจะในทางกฏหาย หรือ แค่พิธีตามธรรมเนียนไทยใดๆ ใช่ใหม เราบอกว่าใช่ เค้าให้เราเซ็นรับทราบ และให้เรามาสองฉบับ ฉบับแรกมีลายเซ็น ให้เราเก็บ ไว้กับ ตัว และอันที่ไม่มีลายเซ็นให้ส่งไปให้แฟน พร้อมทั้งด้านหลัง เค้าจะเขียนระเบุไว้ว่าใช้สำหรับ เขตที่เราแต่งงาน และเราก็รับรองพาสสปอตร์ด้วย

หลังจากได้เอกสารทั้งหมด เราส่งให้แฟนเราทาง DHL ค่าส่ง 1350 บาท สามวันถึง มีข้อความแจ้งแฟน ว่ามีเอกสารส่งถึง  เมื่อแฟนเราได้รับเอกสาร เข้าเอาเอกสาร ของเรา และของเขา เข้าไปทำใบ Ehefähigkeitszeugnis หรือ เอกสารสำหรับขอหนังสือสำคัญที่แสดงว่าสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ซึ่ง เขตบ้านแฟน  ใช้เวลา 1 วัน เอกสารมีอายุ 6 เดือน สามารถเข้าไปรับได้ และรอแฟน มาไทย

ตอนที่ 2 จดทะเบียน

หลังจากที่แฟน ได้วันมาไทย เราก็หาวันเพื่อจดทะเบียนคะ เราเลือกจดที่บางรัก เพราะเอกาใบทะเบีนนสมรถไปรับรองใช้เวลาวันเดียว และแฟนเรามีเวลาแค่สองอาทิตย์ และเราจ้างล่ามเพื่อดำเนินการในเรื่องการนัดจดทะเบียน และเตรียมเอกสาร ก่อนมาไทย 1 อาทิตย์ เราให้แฟน เราส่งใบ Ehefähigkeitszeugnis  และพาสปอต์เขาไปที่สถานทูต เพื่อขอใบ Konsularbescheinigung หรือใบรับรองจากสถานทูต เพื่อยื่นต่อนายทะเบีนอำเภอ เพื่อจดทะเบีนสมรส ซึ่งใช้ เวลา 3-4 วันในการดำเนินการ ซึ่ง จะถือตัวจริง เข้าไปสถานทูตก็ได้ แต่ต้องรอ ซึ่ง การส่งอีเมล์ ไปแจ้งก่อน เพื่อการประหยัดเวลาคะ และทางสถานทูตจะตอบอีเมล์กลับมาว่าสามารถไปรับได้วันไหน 
 
เมื่อถึงวันนัด เอา Ehefähigkeitszeugnis กับพาสสปอต์แฟน ไปติดต่อด้านหน้า และรับคิวช่อง 3  ให้เราเตรียมสะกด ชื่อนามสกุลแฟน เป็นภาษไทยได้วยนะคะ เพราะ เค้าจะแปล Konsularbescheinigung เป็นภาษาไทย โดยเค้าจะถาม ว่าต้องการให้เขียนว่ายังไง รอสักพักหนึ่ง เขาจะเรียกเราให้เอาภาษาไทยมาให้เราอ่าน และถามว่ามีผิดตรงไหนไหม่ ตรวจ ชื่อ นามสกุล เลขที่พาสสปอต์ให้เรียบร้อยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแก้  หลังจากนั้น เข้าจะเรียกเข้าไปที่ช่องหนึ่งคะ ไปพบเจ้าหน้าที่เยอรมัน เขาจะคุยกับแฟนเราและอธิบาย ซึ่งเราไม่รู้ว่าอะไร เสร็จแล้วให้แฟนเราเซ็นขื่อ ให้ภาษาเยอรมัน กับ ภาษาไทยอย่างละฉบับ ค่าธรรม เนียม 75 ยูโร ตามอัตราแลกเปลี่ยนนะคะ ตอนนั้น 3315 บาท 

จากนั้นเราถือเอกสารที่ได้ไปพบล่ามคะ เข้าจะให้เราเซ็นเอกสารคำร้อง และขอสำเนาพาสปอตร์ ของแฟน เรื่อง อื่นๆ ที่เกี่ยวกับเขตบางรัก ทางล่ามจัดการ จากนั้น ล่ามให้เราเอาเอกสาร Konsularbescheinigung ไปรับรองจากกระทรวงต่างประเทศ ไปที่ MRT คลองเตย ไปรับรองคะ ค่ารับรอง ถ้าไม่ด่วน 600 บาท รอสามวันทำการ และด่วน 1200 บ่ายสองของวันนั้นไปรัได้ เราเลือกด่วน เพราะ มีเวลาน้อยมาก ถ้าใครไม่ด่วนก็ได้นะคะได้เอกสารมาเอาไปถ่ายสำเนา 2 ชุดนะคะ สำหรับเตรียมไปจดทะเบียน

วันไปจดทะเบียน นำพยานที่เป็นญาตินามสกุลเดียวกัน ไปด้วย 1 คน อีกคนใครก็ได้  เรานัดกับ ล่าม 7 โมงเช้า เพราะล่ามต้องเอาเอกสารไปรวบรวม และให้เราเซ็นใบคำร้อง และให้พยานเซ็นเอกสารต่างๆ พยานเราคือ แม่และป้าเราเองเราได้จดเป็นคู่ที่ 2 ใช้เวลาทั้งหมด 40 นาที่ สำหรับใครที่ไม่ใช้ล่าม ไปนัดคิวเอง วันเดียวกันมีคู่หนึ่งไป แต่ เที่ยงคืน ได้คู่ที่ 4 และกฏของสำนักงานเขตบางรักจะเปลี่ยนไปเรื่องๆ ต้องคอยเช็คให้ดี 

หลังจากนั้นล่ามจะเอา ใบ คร2 คร3 ไปแปลและรับรองคะ และไปรับที่บริษัท หลังจากนั้นประมาณ 3 -4 วัน ไปรับ ชุดหนึ่ง  เพื่อให้แฟน เอากลับมาแจ้งสถานะว่าแต่งงานแล้วที่เยอรมัน อีกชุดสำหรับเราไว้ยื่นวีซ๋า

เราเเปลี่ยนนามสกุลตามสามี เราก็ถือเอกสาร ที่บางรักออกให้ไปทำการเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนบัตรประชาชน และทำพาสปอตร์ใหม่

ตอนที่ 3 เรียนภาษา

การจะขอวีซ่าติดตามสามี คือคุณจะต้องเรียนภาษาและสอบให้ได้ในระดับ A1 ก่อนหน้าเราจะจดทะเบียน เราได้มีการศึกษาเอง มาสักระยะหนึ่ง และเลือกเป็นการติวสอบ ซึ่งใช้ระยะเวลา 1 เดือน  และลงสอบ กับ เกอเธ่อ  วันที่ 21 มิย  เรามีเวลาก่อนสอบ เดือนนิดๆ ทั้งท่อง ทั้งหัดฟัง หัดเขียน หัดพูด อยู่ในช่วงที่เครียดมากๆ กลัวสอบไม่ผ่าน และระหว่างนั้นเราทำการนัดเพื่อยื่นขอวีซ่า 2 กค. ซึ่งถ้าไม่ผ่านเราจะเสียเวลาไปอีก หลังจากสอบสามวัน เราก็ผ่านคะ ซึ่งเอาจริงๆนะ สอบผ่านก็จริง แต่เรายังไม่สามารถสื่อสารได้อยู่ดี ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไปเรียนใหม ให้ดีกว่านี แต่นี่เรารีบ ใจร้อนเกินไป  ถ้าใครมีเวลาเรียนมานะ เยอะ ๆ เอามาใช้ได้จริง มันดีต่อตัวเอง

ตอนที่4 ขอวีซ่า

หลังจากได้ผล สอบ A1 เรียบร้อย ก่อนถึงเวลานัดกับสถานทูต เราเตรียมเอกสาร คะ ตามรายการในเว็บสถานทูตเลยคะ ทำเป็นสำเนาสองชุด

1 ใบคำร้องของวีซ่า เรากรอกเอง ปริ้นเอง และติดรูปถ่ายไปเ ลยนะ ทั้งสองชุด
2 พลาสปอต์ และเราแนบพาสปอต์เดิมที่ และ หน้าที่ประทับตาเข้าออกเยอรมันไปด้วย
3 ใบคร.2 สำเนาให้ถ่ายด้านหนังที่เค้ารับรองมาด้วย
4. ใบคร.3 สำเนาให้ถ่ายด้านหนังที่เค้ารับรองมาด้วย
5. ผลสอบ  A1 
6 หน้าพาสปอต์ของสามี เราแนบ ตราประทับเข้าออกไทยไปด้วย
และเพิ่มเติม คือให้ ปริ้นรูป งานแต่งงาน ตอนจดทะเบียนสมรถ หรือภาพถ่ายคู่กัน มาด้วย สัก 5 -6 ใบแนบทั้งสองชุด และอาจมีสิ่งที่เราเคยพูดคุย กันต่างๆ เพื่อสร้างความนาเชื่อถือ  ตอนแรกเราไม่ได้แนบ แต่เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ถามหา เราเลยไปหามาเพิ่มคะ

ถึงวันนัดไปรับคิวด้านในบอกมาทำวีซ่าติดตาม เข้าจะให้คิวและไปรอช่อง 13 พยามไปก่อนสักหน่อยนะ พอถึงคิว เดินเข้าไปในห้องคะ ยืนเอกสารให้เขา เข้าจะทำการตรวจเอกสาร และคืนตัวจริงมาให้ และเริ่มสัมภาษณ์ บางคนโดนถามเป็นภาษาเยอรมัน บางคนให้เขียน ตอบคำถามภาษาเยอรมัน บางคนให้แนะนำตัวแบบที่สอบ  A1 แต่เราเจ้าหน้าที่ถามเป็นภาษาไทยทั้งหมด (อาจเพราะสุ่ม หรือ  A1  เราเพิ่งสอบมา อันนี้ หลายคนว่า แล้วแต่ดวง) ตัวอย่างคำถามคือ คุณเจอกันได้ยังไง, เจอครั้งแรกที่ไหน, สามีเคยมาหาที่เมืองไทยไหม กี่ครั้ง เมื่อไหร่บ้าง,เราเคยไปเยอรมันไหม กี่ครั้ง เมื่อไหร่บ้าง, เราและสามีเคยมีแต่งงานมาก่อนใหม เคยมีลูกใหม, ติดต่อกันทางไหน, คุยกันด้วยภาษาอะไร ประมาณนี้ เสร็จ ให้เราเซ็นเหมือนคำตอบที่เขาถาม เจ้าหน้าที่ จะติดกระดาษ เล็กๆ ด้านหนังพาสปอต์ เลขที่คำร้อง และระยะเวลาการ ดำเนินการ 6-10 สัปดาห์ เป็นอันเสร็จ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะ เราจดทะเบียนกับแฟนเรียบร้อยแล้ว 

จากนั้นรอ รอ รอ และก็รอ จนกระทั่งสามีได้จดหมายนัด และนัดไปที่ Ausländerbehörde หรือ ตม. ที่เขตที่สามีอยู่ สำหรับเขตเรา เจ้าหน้าที่ถามว่า คุณพร้อมให้ภรรยาของคุณมาอยู่ด้วยหรือยัง และให้เซ็นเอกสาร และบอกว่ารอเจ้าหน้าที่ อีกคนมาเซ็นเอกสาร วันอังคาร หรือวันพุธ เสร็จผ่าน ซึ่งบางเขต อาจของเอกสาร เช่าอาพาร์ทเม้น ใบเงินเดือนด้วย รอจนวันพุธ สถานทูต เยอรมัน ก็โทรให้นำพาสปอต์เข้าไปรับ วีซ่าโดยแจ้งวันเดินทางได้เลย ซึ่งเหมือนกัน บางเขต ต้องการใบจองตั๋วเครื่องบิน และประกันเดินทางด้วย  ระยะเวลา รอ วีซ่า 1 เดือน

ระยะเวลาของเราอยู่ที่ 8 เดือน และค่าใช้จ่าย อยู่ที่ประมาณ 35000 ถึง 40000 ดำเนินการเอง ผสมกับเอเจนซี่นิดหน่อย ไม่รวมค่าเรียนภาษา

ปล. ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายแต่ละคนไม่เท่ากันนะคะ และเอกสารแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นให้แฟนเช็คก่อนนะคะ  ส่วนคนที่เคยจดทะเบียน เคยหย่า หรือสามีเก่าเสียชีวิต เอกสารพวกใบสำคัญการหย่า ใบมรณะบัตร พวกนี้ต้องใช้นะคะ ตรวจสอบให้ดี หากแฟนเก่าคุณหลังหย่ามีการเปลี่ยนชื่อบางกรณีต้องใช้นะ (เพื่อนเราเคยโดนมาแล้ว) หากมีการส่งเอกสารการหย่าไปให้ศาลกลางเยอรมันตรวจสอบ ก็จะใช้เวลาเพิ่มไปอีกนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่