เราจะมาแชร์ประสบการณ์ขอทำเรื่องแต่งงานกับชาวเยอรมัน แบบไม่กลับไทย ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายอยู่เยอรมัน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามาอยู่เยอรมัน โดยไม่เคยมีวีซ่าเยี่ยมเยี่ยนและวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั้ย แห่ะๆ
เราอยู่เยอรมันครั้งแรกด้วยวีซ่า Au-Pair และได้เปลี่ยนเป็นวีซ่า FSJ (Freiwillig Soziale Jahr)
วีซ่า FSJ ของเราหมดวันที่ 14 ธันวา 2014 และเรามีแพลนจะแต่งงาน ดังนั้น เราเลยเริ่มภารกิจดังต่อไปนี้
- 28 สิงหา 14 : ไป Standesamt 2 คนกับแฟน ก่อนไป โทร. นัดเจ้าหน้าที่คะ ว่าว่างให้เข้าไปวันไหน
(เจ้าหน้าที่ที่เราไปพบ คือ Standesamt ในเขตที่เราอยู่ München-Pasing)
เราได้ใบสีฟ้าแข็งๆ ทรงกระดาษ F4 มา และใบ A4 สีขาวสอดไส้ ในนั้นระบุว่าต้องใช้อะไรประกอบในการแต่งงานบ้าง ซึ่งมีเอกสารที่ต้องใช้แต่งงานคือ
(ฝ่ายหญิง)
1). Geburtsurkunde
2). gültiger Reisepass, Personalausweis, Reiseausweis, gegebenenfalls mit gültigem Aufenthalthaltstitle
3). Hausregisterauszug
4). Eheunbedenklichkeitsbescheinigung
5). Bescheinigung des Familienstandes
6). Legalisation für Original-Dokumente aus Thailand
~~เอกสารแปลเป็นภาษาเยอรมัน~~
(ฝ่ายชาย)
1). Beglaubigte Abschrift aus dem Geburtseintrag
2). gültiger Reisepass, Personalausweis, Reiseausweis, gegebenenfalls mit gültigem Aufenthalthaltstitle
- 5 กันยา 2014 : เรากับแฟนขับรถไปสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต เพื่อไปขอใบมอบอำนาจให้พี่สาวและแม่ ในการเป็นธุระจัดการเรื่อง
(1). ขอหนังสือรับรองสถานภาพสมรส
(2). ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ
(3). รับรองเอกสารจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี ประจำประเทศไทย
**ค่าใช้จ่ายใบมอบอำนาจฉบับละ 15€ + ค่าจัดส่งเอกสารอีกนิดหน่อยประมาณ 4-5€
ทางสถานกงสุลใหญ่จะส่งเอกสารทั้งหมดมาทางไปรษณีย์ ภายใน 2 อาทิตย์ แต่เราได้เอกสารวันที่ 11 กันยา 2014 หลังจากได้รับจดหมายเสร็จ เราเปิดดูซองเพื่อตรวจสอบเอกสารและส่งไปรษณีย์ต่อไปที่เมืองไทยทันที
คือไปรับจดหมายที่ Edeka Neuaubing นะ เพราะวันนั้นไม่อยู่บ้าน และมันเอกสารที่ต้องใช้ลายเซนต์ รับตรงนั้น แกะซองดูแถวๆนั้น และซื้อซองใหม่ ส่งไปไทยทันที ค่าใช้จ่ายในการส่ง ประมาณ 16€ ส่งกับ Luftpost
พี่สาวได้เอกสารประมาณวันที่ 20 กันยา 2014 หลังจากนั้นพี่สาวต้องแบ่งเอกสารกับแม่
โดยให้แม่ไปขอใบรับรองโสดที่จังหวัดแพร่ (อ.เมืองแพร่ ให้ผู้ใหญ่บ้านและมารดาเซ็นรับรองและคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกับเรา ... ตอนแรกชื่อแม่อยู่ กรุงเทพฯ แต่เปลี่ยนย้ายปลายทาง และทางอำเภอเมืองแพร่บอกว่า ให้ชื่อแม่อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกับเราสักประมาณ 1 อาทิตย์แล้วค่อยไปขอใบรับรองโสดใหม่) ไปขอใบรับรองโสด ใช้เวลาแค่ 15-30 นาที (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ใบทะเบียนบ้าน ขอจากเขตที่มีชื่อในทะเบียนอยู่ ระยะเวลาในการขอ 5-10 นาที (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ส่วนพี่สาวต้องไปขอเอกสารดังนี้
- ใบสูติบัตรที่เขตปร้อมปราบ (เราเกิดที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เขตปร้อมปราบศัตรูพ่าย จ.กรุงเทพฯ เลยต้องขอที่เขตปร้อมปราบคะ) ระยะเวลาในการขอ 15-30 นาที
- ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ ระยะเวลาในการขอ 5-15 นาที
(ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราเสียค่าเดินทาง ค่าแรง ค่าน้ำมันรถให้พี่สาว - -")
หลังจากได้เอกสารทั้งหมดแล้ว ก้นำไปแปล คือแม่ได้เอกสาร 2 อย่างเสร็จปุ๊บ นางรีบส่ง EMS ให้พี่สาวทันที ทำกันเป็นขบวนการ
เอกสารของเราที่ต้องแปล
- ใบรับรองโสด
- ใบทะเบียนบ้าน
- สูติบัตร
- ใบเปลี่ยนนามสกุล (ใบนี้มีอยู่กับตัว เลยไม่ต้องไปวิ่งวุ่นหา)
- ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ
ค่าแปลเอกสาร 5000 บาท ใช้เวลา ในการแปล 3 วัน แปลเอกสารแถวรามคำแหงคะ มีแนะนำในเวปสถานทูต
พอแปลเอกสารเสร็จแล้วก้นำไปยื่นต่อที่สถานทูตเยอรมันในไทย ปกติใช้เวลา 6-8 สัปดาห์
เอกสารที่นำไปแปลสามารถเลือกได้ว่า จะเก็บเงินที่ไหน และ ส่งเอกสารไปที่ไหน โดยพี่เราเลือก เก็บเงินปลายทางและส่งเอกสารมาที่เยอรมัน ตอนแรกบอกพี่สาวว่าให้ไปเอาเอง เพราะเราโอนเงินค่าส่งเผื่อไปให้แล้วตั้ง 2500 บาท แต่โดนหักหลัง นางบอกอ้าวว หรอ เห็นมันสบายกว่า นางจะได้ไม่ต้องขับรถไปสถานทูตอีก
พี่สาวนำเอกสารไปรับรองวันที่ 28 ตุลา
เราได้เอกสารรับรองวันที่ 29 พฤศจิกา และค่าใช้จ่ายในการรับรองเอกสารทั้งหมด 195€ รวมค่าจัดส่ง
ในระหว่างที่เรารอเอกสาร เรารู้ว่าวีซ่าหมดก่อนเอกสารมาแน่ๆ เราเลยไปนัดกับ Standesamt ใหม่ ว่าขออะไรก้ได้เพื่อรับรองว่าจะจดทะเบียนกันจริง เพื่อนำไปยื่นเรื่องเพื่อต่อวีซ่าได้มั้ย ทาง Standesamt ก้โอเคคะ
วันพุธที่ 26 พฤศจิกา เราเลยไปจัดการทำเอกสารรับรองว่าจะแต่งงาน แล้วนำไปยื่นที่ Ausländerbehörde แต่ทางนั้นต้องการ Standment ของแฟน พอดีวันนั้นเราไม่มี เลยโอเคงั้นไม่เป็นไร เดี๋ยววันจันทร์มาใหม่
แต่โชคดีมากเลย วันเสาร์ที่ 29 เอกสารมาพอดี
วันจันทร์ที่ 1 ธันวา เราไปทำเรื่องขอต่อวีซ่า แล้วก้ได้วีซ่ามาถึง 1 มีนาคม โดยที่เราไม่ได้ยื่นเอกสารรับรองตัวจริง เรายื่นแค่
- Standment ของแฟน
- Passport ของเรา และของแฟน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่เยอรมัน
- ใบจาก Standesamt
ค่าใช้จ่าย 45€ สำหรับกระดาษใบเดียว คือมันเป็นแค่แผ่นกระดาษที่ไม่ได้ติดใน Passport
ส่วนวีซ่าที่ได้มาคือวีซ่าพำนักระยะสั้น คนในพันทิปนี่แหละบอกมา อิอิ
คือเอกสารของแฟนใช้เพื่อ รับรองว่า ถ้าเรามีปัญหา แฟนเราจะรับผิดชอบทุกกรณี
ส่วนทะเบียนบ้าน เพื่อให้รู้ว่าอยู่ด้วยกันจริงๆ ที่นี่(มั้ง)
วันพุธที่ 3 ธันวา แฟนเรานำเอกสารรับรองตัวจริงไปยื่นที่ Standesamt อีกครั้ง ทางนั้นแจ้งว่า ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ในการตรวจสอบเอกสาร
ถ้าเอกสารส่งกลับมาเมื่อไหร่จะเขียน E-Mail แจ้งให้ทราบอีกที เพราะ Standesamt ต้องส่งเอกสารต่อไปยังศาลเขต
วันศุกร์ที่ 12 ธันวา แฟนได้รับ E-Mail ตอบกลับจากทาง Standesamt ว่าเอกสารไม่มีปัญหา และต้องจ่ายเงินครั้งแรก 30€ เก็บหลักฐานการโอนด้วย
วันจันทร์ที่ 15 ธันวา เราและแฟนไป Standesamt ด้วยกันอีกรอบเพื่อนัดจดทะเบียนแต่งงาน
ได้คิววันที่ 8 มกรา และจ่ายเงินอีก 137,50€
วันอังคารที่ 16 ธันวา เราไล่โทร. หา Standesamt ที่อยู่ใกล้มิวนิค และมีคิวว่างสำหรับการจดทะเบียนในปีนี้ เราได้นัดใหม่ที่ Erding เราเลยโทร.ขอยกเลิกนัดแต่งงานที่ Pasing และได้เงิน 30€ ที่จ่ายไปครั้งแรกคืน
วันพุธที่ 17 เราไป Erding คนเดียวคะ มั่นหน้ามาก ไปเจรจาเรื่องเวลานัด ทาง Standesamt ที่ Erding ก้จะถามอะไรนิดหน่อย ว่าจะเอาอะไรบ้าง เสียเงินอีก 70€ ได้ที่จอดรถมา 1 ที่ และนัดจดทะเบียนวันที่ 29 ธันวาคม กรี้ดดดดดดดดด ขอกรี้ดนิดนึง แบบว่า เฮ้ยยยยย แก มันสำเร็จด้วยอ่ะ
และเจ้าหน้าที่พาเดินดูห้องที่จะใช้จดทะเบียน
เราเลยถามไปว่า ต้องใช้ล่ามแปลภาษามั้ย ? ในใจภาวนาขอให้ตอบ ไม่ นะ เพราะถ้าตอบต้องใช้นี่ต้องไปเสียเงินจ้างล่ามมาอีก ตายแน่ๆ และสุดท้ายคำตอบที่ได้มาคือ ไม่ต้องใช้ล่าม ฮี่ฮี่ๆ~... จะใช้ล่ามต่อเมื่อสื่อสารไม่ค่อยจะรู้เรื่องแค่นั้น
เป็นอันเสร็จพิธีการทำเรื่องแต่งงานโดยไม่ต้องกลับไทย ... ตอนนี้นับวันรอแต่งอย่างเดียว โฮะๆๆ
แชร์ประสบการณ์ขอทำเรื่องแต่งงานกับชาวเยอรมัน ที่เยอรมัน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามาอยู่เยอรมัน โดยไม่เคยมีวีซ่าเยี่ยมเยี่ยนและวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั้ย แห่ะๆ
เราอยู่เยอรมันครั้งแรกด้วยวีซ่า Au-Pair และได้เปลี่ยนเป็นวีซ่า FSJ (Freiwillig Soziale Jahr)
วีซ่า FSJ ของเราหมดวันที่ 14 ธันวา 2014 และเรามีแพลนจะแต่งงาน ดังนั้น เราเลยเริ่มภารกิจดังต่อไปนี้
- 28 สิงหา 14 : ไป Standesamt 2 คนกับแฟน ก่อนไป โทร. นัดเจ้าหน้าที่คะ ว่าว่างให้เข้าไปวันไหน
(เจ้าหน้าที่ที่เราไปพบ คือ Standesamt ในเขตที่เราอยู่ München-Pasing)
เราได้ใบสีฟ้าแข็งๆ ทรงกระดาษ F4 มา และใบ A4 สีขาวสอดไส้ ในนั้นระบุว่าต้องใช้อะไรประกอบในการแต่งงานบ้าง ซึ่งมีเอกสารที่ต้องใช้แต่งงานคือ
(ฝ่ายหญิง)
1). Geburtsurkunde
2). gültiger Reisepass, Personalausweis, Reiseausweis, gegebenenfalls mit gültigem Aufenthalthaltstitle
3). Hausregisterauszug
4). Eheunbedenklichkeitsbescheinigung
5). Bescheinigung des Familienstandes
6). Legalisation für Original-Dokumente aus Thailand
~~เอกสารแปลเป็นภาษาเยอรมัน~~
(ฝ่ายชาย)
1). Beglaubigte Abschrift aus dem Geburtseintrag
2). gültiger Reisepass, Personalausweis, Reiseausweis, gegebenenfalls mit gültigem Aufenthalthaltstitle
- 5 กันยา 2014 : เรากับแฟนขับรถไปสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต เพื่อไปขอใบมอบอำนาจให้พี่สาวและแม่ ในการเป็นธุระจัดการเรื่อง
(1). ขอหนังสือรับรองสถานภาพสมรส
(2). ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ
(3). รับรองเอกสารจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี ประจำประเทศไทย
**ค่าใช้จ่ายใบมอบอำนาจฉบับละ 15€ + ค่าจัดส่งเอกสารอีกนิดหน่อยประมาณ 4-5€
ทางสถานกงสุลใหญ่จะส่งเอกสารทั้งหมดมาทางไปรษณีย์ ภายใน 2 อาทิตย์ แต่เราได้เอกสารวันที่ 11 กันยา 2014 หลังจากได้รับจดหมายเสร็จ เราเปิดดูซองเพื่อตรวจสอบเอกสารและส่งไปรษณีย์ต่อไปที่เมืองไทยทันที
คือไปรับจดหมายที่ Edeka Neuaubing นะ เพราะวันนั้นไม่อยู่บ้าน และมันเอกสารที่ต้องใช้ลายเซนต์ รับตรงนั้น แกะซองดูแถวๆนั้น และซื้อซองใหม่ ส่งไปไทยทันที ค่าใช้จ่ายในการส่ง ประมาณ 16€ ส่งกับ Luftpost
พี่สาวได้เอกสารประมาณวันที่ 20 กันยา 2014 หลังจากนั้นพี่สาวต้องแบ่งเอกสารกับแม่
โดยให้แม่ไปขอใบรับรองโสดที่จังหวัดแพร่ (อ.เมืองแพร่ ให้ผู้ใหญ่บ้านและมารดาเซ็นรับรองและคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกับเรา ... ตอนแรกชื่อแม่อยู่ กรุงเทพฯ แต่เปลี่ยนย้ายปลายทาง และทางอำเภอเมืองแพร่บอกว่า ให้ชื่อแม่อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกับเราสักประมาณ 1 อาทิตย์แล้วค่อยไปขอใบรับรองโสดใหม่) ไปขอใบรับรองโสด ใช้เวลาแค่ 15-30 นาที (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ใบทะเบียนบ้าน ขอจากเขตที่มีชื่อในทะเบียนอยู่ ระยะเวลาในการขอ 5-10 นาที (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ส่วนพี่สาวต้องไปขอเอกสารดังนี้
- ใบสูติบัตรที่เขตปร้อมปราบ (เราเกิดที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เขตปร้อมปราบศัตรูพ่าย จ.กรุงเทพฯ เลยต้องขอที่เขตปร้อมปราบคะ) ระยะเวลาในการขอ 15-30 นาที
- ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ ระยะเวลาในการขอ 5-15 นาที
(ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราเสียค่าเดินทาง ค่าแรง ค่าน้ำมันรถให้พี่สาว - -")
หลังจากได้เอกสารทั้งหมดแล้ว ก้นำไปแปล คือแม่ได้เอกสาร 2 อย่างเสร็จปุ๊บ นางรีบส่ง EMS ให้พี่สาวทันที ทำกันเป็นขบวนการ
เอกสารของเราที่ต้องแปล
- ใบรับรองโสด
- ใบทะเบียนบ้าน
- สูติบัตร
- ใบเปลี่ยนนามสกุล (ใบนี้มีอยู่กับตัว เลยไม่ต้องไปวิ่งวุ่นหา)
- ใบรับรองจากสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครอง เขตดุสิต กรุงเทพฯ
ค่าแปลเอกสาร 5000 บาท ใช้เวลา ในการแปล 3 วัน แปลเอกสารแถวรามคำแหงคะ มีแนะนำในเวปสถานทูต
พอแปลเอกสารเสร็จแล้วก้นำไปยื่นต่อที่สถานทูตเยอรมันในไทย ปกติใช้เวลา 6-8 สัปดาห์
เอกสารที่นำไปแปลสามารถเลือกได้ว่า จะเก็บเงินที่ไหน และ ส่งเอกสารไปที่ไหน โดยพี่เราเลือก เก็บเงินปลายทางและส่งเอกสารมาที่เยอรมัน ตอนแรกบอกพี่สาวว่าให้ไปเอาเอง เพราะเราโอนเงินค่าส่งเผื่อไปให้แล้วตั้ง 2500 บาท แต่โดนหักหลัง นางบอกอ้าวว หรอ เห็นมันสบายกว่า นางจะได้ไม่ต้องขับรถไปสถานทูตอีก
พี่สาวนำเอกสารไปรับรองวันที่ 28 ตุลา
เราได้เอกสารรับรองวันที่ 29 พฤศจิกา และค่าใช้จ่ายในการรับรองเอกสารทั้งหมด 195€ รวมค่าจัดส่ง
ในระหว่างที่เรารอเอกสาร เรารู้ว่าวีซ่าหมดก่อนเอกสารมาแน่ๆ เราเลยไปนัดกับ Standesamt ใหม่ ว่าขออะไรก้ได้เพื่อรับรองว่าจะจดทะเบียนกันจริง เพื่อนำไปยื่นเรื่องเพื่อต่อวีซ่าได้มั้ย ทาง Standesamt ก้โอเคคะ
วันพุธที่ 26 พฤศจิกา เราเลยไปจัดการทำเอกสารรับรองว่าจะแต่งงาน แล้วนำไปยื่นที่ Ausländerbehörde แต่ทางนั้นต้องการ Standment ของแฟน พอดีวันนั้นเราไม่มี เลยโอเคงั้นไม่เป็นไร เดี๋ยววันจันทร์มาใหม่
แต่โชคดีมากเลย วันเสาร์ที่ 29 เอกสารมาพอดี
วันจันทร์ที่ 1 ธันวา เราไปทำเรื่องขอต่อวีซ่า แล้วก้ได้วีซ่ามาถึง 1 มีนาคม โดยที่เราไม่ได้ยื่นเอกสารรับรองตัวจริง เรายื่นแค่
- Standment ของแฟน
- Passport ของเรา และของแฟน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่เยอรมัน
- ใบจาก Standesamt
ค่าใช้จ่าย 45€ สำหรับกระดาษใบเดียว คือมันเป็นแค่แผ่นกระดาษที่ไม่ได้ติดใน Passport
ส่วนวีซ่าที่ได้มาคือวีซ่าพำนักระยะสั้น คนในพันทิปนี่แหละบอกมา อิอิ
คือเอกสารของแฟนใช้เพื่อ รับรองว่า ถ้าเรามีปัญหา แฟนเราจะรับผิดชอบทุกกรณี
ส่วนทะเบียนบ้าน เพื่อให้รู้ว่าอยู่ด้วยกันจริงๆ ที่นี่(มั้ง)
วันพุธที่ 3 ธันวา แฟนเรานำเอกสารรับรองตัวจริงไปยื่นที่ Standesamt อีกครั้ง ทางนั้นแจ้งว่า ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ในการตรวจสอบเอกสาร
ถ้าเอกสารส่งกลับมาเมื่อไหร่จะเขียน E-Mail แจ้งให้ทราบอีกที เพราะ Standesamt ต้องส่งเอกสารต่อไปยังศาลเขต
วันศุกร์ที่ 12 ธันวา แฟนได้รับ E-Mail ตอบกลับจากทาง Standesamt ว่าเอกสารไม่มีปัญหา และต้องจ่ายเงินครั้งแรก 30€ เก็บหลักฐานการโอนด้วย
วันจันทร์ที่ 15 ธันวา เราและแฟนไป Standesamt ด้วยกันอีกรอบเพื่อนัดจดทะเบียนแต่งงาน
ได้คิววันที่ 8 มกรา และจ่ายเงินอีก 137,50€
วันอังคารที่ 16 ธันวา เราไล่โทร. หา Standesamt ที่อยู่ใกล้มิวนิค และมีคิวว่างสำหรับการจดทะเบียนในปีนี้ เราได้นัดใหม่ที่ Erding เราเลยโทร.ขอยกเลิกนัดแต่งงานที่ Pasing และได้เงิน 30€ ที่จ่ายไปครั้งแรกคืน
วันพุธที่ 17 เราไป Erding คนเดียวคะ มั่นหน้ามาก ไปเจรจาเรื่องเวลานัด ทาง Standesamt ที่ Erding ก้จะถามอะไรนิดหน่อย ว่าจะเอาอะไรบ้าง เสียเงินอีก 70€ ได้ที่จอดรถมา 1 ที่ และนัดจดทะเบียนวันที่ 29 ธันวาคม กรี้ดดดดดดดดด ขอกรี้ดนิดนึง แบบว่า เฮ้ยยยยย แก มันสำเร็จด้วยอ่ะ
และเจ้าหน้าที่พาเดินดูห้องที่จะใช้จดทะเบียน
เราเลยถามไปว่า ต้องใช้ล่ามแปลภาษามั้ย ? ในใจภาวนาขอให้ตอบ ไม่ นะ เพราะถ้าตอบต้องใช้นี่ต้องไปเสียเงินจ้างล่ามมาอีก ตายแน่ๆ และสุดท้ายคำตอบที่ได้มาคือ ไม่ต้องใช้ล่าม ฮี่ฮี่ๆ~... จะใช้ล่ามต่อเมื่อสื่อสารไม่ค่อยจะรู้เรื่องแค่นั้น
เป็นอันเสร็จพิธีการทำเรื่องแต่งงานโดยไม่ต้องกลับไทย ... ตอนนี้นับวันรอแต่งอย่างเดียว โฮะๆๆ