นครนิรมิต ตอนที่ ๒ ชายต้องห้าม
https://ppantip.com/topic/36652475
ตอนที่ ๓ นิมิตของระย้า
แสงสุริยาสาดมาทางทิศบูรพาเมื่อราตรีจรลาจากไป สกุณาสยายปีกจับกลุ่มกันบินออกจากรัง ประชาราษฎรของสุเรนทร์พิศาลรีบลุกมาจัดเตรียมเสื้อผ้าและของกำนัลมาถวายแด่ผู้สื่อสารแห่งสุเรนทร์พิศาล เสียงกลองตีกระหึ่มให้สัญญาณ ก่อนที่ประตูเมืองจะถูกเปิดออกให้แก่ชาวเมืองได้เข้ามาในเขตพระราชวังอันเป็นสถานที่ประดุจวิมานเทพ ในทุกหนทุกแห่งภายในพระราชวังถูกตกแต่งอย่างงดงาม ผ้าหลากสีผูกไว้ตามพระตำหนักและเสาริมทางเดิน ซึ่งทอดยาวตั้งแต่หน้าประตูพระราชวังสูปะลำพิธีศักดิ์สิทธิ์ ทหารที่เฝ้าอารักขาตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความปลอดภัยแด่องค์ราชาและเหล่าเชื้อพระวัง และการอารักขายิ่งเข้มข้นในเขตที่พำนักของเทวนาคาทั้งสี่
ธารานั่งมองตนเองอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน ภายหลังผู้พิทักษ์สองคนเข้ามาช่วยตนแต่งกายจนเสร็จเรียบร้อย ผมดำขลับหวีน้ำมันจนเรียบและเสยขึ้นไปเหนือหน้าผากมน บนศีรษะประดับด้วยมงกุฎทองสลักเสลาเป็นลวดลายพญานาค ตรงกลางมงกุฎมีมรกตสีเขียวเม็ดใหญ่ประดับติดไว้ทอแสงสว่างเรืองรอง อาภรณ์ที่สวมใส่เป็นเสื้อไหมและผ้านุ่งชั้นดีสีเขียวระยับ หากมีกำไลชิ้นนั้นมาประดับอยู่บนร่างตนนั้นก็คงจะสง่างามไม่น้อย
“พวกมันต้องยึดเอาสิ่งของที่แทนเทวนาคาจากพวกเราไป...” จู่ๆ สุ้มเสียงกังวานใสก็เอ่ยขึ้นที่หน้าประตูห้อง ร่างที่กำลังนั่งเหม่ออยู่เพียงลำพังสะดุ้งน้อยๆ เมื่อหันไปมองที่มาของเสียงนั้นจึงพบว่าเป็นหนึ่งในผู้สื่อสารที่ตนพบเมื่อคืนนี้
“เมื่อคืนนี้หลับสบายมั้ย...ธารา” ระย้าถามพร้อมกับยิ้มพราย ร่างงามสง่าในชุดสีรุ้งเลื่อมระยับ สวมมงกุฎไม่ต่างกับตน แต่จะต่างก็ตรงที่อีกฝ่ายมีใบหน้าที่งดงามดุจอิสตรีและดวงตากลมสวยที่สุกใสปานรุ้งมณีสูงค่า
“ข้าคงมิอาจข่มตาหลับได้อย่างสบายใจ เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของข้า...” จบคำพูดธารา คนที่เดินละลิ่วเข้ามาหาเมื่อครู่ก็หัวเราะเบาๆ ระย้าทรุดนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ยกมือขึ้นไปขยับเสื้อที่อีกฝ่ายสวมใส่ให้เข้ารูปมากขึ้น
“ว่าแต่...ที่ท่านพูดเมื่อครู่นี้ เหมือนรู้ใจว่าข้ากำลังคิดอะไร ทำไมพวกมันถึงต้องยึดกำไลของข้าไป...” ดวงตาสีดำขลับจ้องมองใบหน้าหวานละมุนตรงหน้าแน่วนิ่ง ระย้าเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาอีกฝ่ายตรงๆ ในแววตาทวีแสงแรงกล้า
“เจ้าถามข้าใช่หรือไม่ ว่าทำไมถึงรู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่...เมื่อคืนนี้เจ้าใช้ฤทธิ์ของเจ้ากับนางเฒ่ากุดั่นไปแล้วมิใช่หรือ พิษทางการสัมผัส แต่พิษนั้นมันจะสำแดงฤทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อเจ้าต้องสวมกำไลอันเป็นตัวแทนของเทวนาคาด้วย เพราะเหตุนี้พวกมันจึงต้องยึดเอากำไลจากเจ้าไป ส่วนฤทธิ์ของข้า...คือสิ่งที่เจ้ากำลังจ้องมองอยู่นี่ไง”
“ดวงตา...” ธาราทวนคำเสียงแผ่ว ก่อนที่คนตรงหน้าจะยิ้มน้อยๆ
นครนิรมิต ตอนที่ ๓ นิมิตของระย้า
https://ppantip.com/topic/36652475
แสงสุริยาสาดมาทางทิศบูรพาเมื่อราตรีจรลาจากไป สกุณาสยายปีกจับกลุ่มกันบินออกจากรัง ประชาราษฎรของสุเรนทร์พิศาลรีบลุกมาจัดเตรียมเสื้อผ้าและของกำนัลมาถวายแด่ผู้สื่อสารแห่งสุเรนทร์พิศาล เสียงกลองตีกระหึ่มให้สัญญาณ ก่อนที่ประตูเมืองจะถูกเปิดออกให้แก่ชาวเมืองได้เข้ามาในเขตพระราชวังอันเป็นสถานที่ประดุจวิมานเทพ ในทุกหนทุกแห่งภายในพระราชวังถูกตกแต่งอย่างงดงาม ผ้าหลากสีผูกไว้ตามพระตำหนักและเสาริมทางเดิน ซึ่งทอดยาวตั้งแต่หน้าประตูพระราชวังสูปะลำพิธีศักดิ์สิทธิ์ ทหารที่เฝ้าอารักขาตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความปลอดภัยแด่องค์ราชาและเหล่าเชื้อพระวัง และการอารักขายิ่งเข้มข้นในเขตที่พำนักของเทวนาคาทั้งสี่
ธารานั่งมองตนเองอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน ภายหลังผู้พิทักษ์สองคนเข้ามาช่วยตนแต่งกายจนเสร็จเรียบร้อย ผมดำขลับหวีน้ำมันจนเรียบและเสยขึ้นไปเหนือหน้าผากมน บนศีรษะประดับด้วยมงกุฎทองสลักเสลาเป็นลวดลายพญานาค ตรงกลางมงกุฎมีมรกตสีเขียวเม็ดใหญ่ประดับติดไว้ทอแสงสว่างเรืองรอง อาภรณ์ที่สวมใส่เป็นเสื้อไหมและผ้านุ่งชั้นดีสีเขียวระยับ หากมีกำไลชิ้นนั้นมาประดับอยู่บนร่างตนนั้นก็คงจะสง่างามไม่น้อย
“พวกมันต้องยึดเอาสิ่งของที่แทนเทวนาคาจากพวกเราไป...” จู่ๆ สุ้มเสียงกังวานใสก็เอ่ยขึ้นที่หน้าประตูห้อง ร่างที่กำลังนั่งเหม่ออยู่เพียงลำพังสะดุ้งน้อยๆ เมื่อหันไปมองที่มาของเสียงนั้นจึงพบว่าเป็นหนึ่งในผู้สื่อสารที่ตนพบเมื่อคืนนี้
“เมื่อคืนนี้หลับสบายมั้ย...ธารา” ระย้าถามพร้อมกับยิ้มพราย ร่างงามสง่าในชุดสีรุ้งเลื่อมระยับ สวมมงกุฎไม่ต่างกับตน แต่จะต่างก็ตรงที่อีกฝ่ายมีใบหน้าที่งดงามดุจอิสตรีและดวงตากลมสวยที่สุกใสปานรุ้งมณีสูงค่า
“ข้าคงมิอาจข่มตาหลับได้อย่างสบายใจ เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของข้า...” จบคำพูดธารา คนที่เดินละลิ่วเข้ามาหาเมื่อครู่ก็หัวเราะเบาๆ ระย้าทรุดนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ยกมือขึ้นไปขยับเสื้อที่อีกฝ่ายสวมใส่ให้เข้ารูปมากขึ้น
“ว่าแต่...ที่ท่านพูดเมื่อครู่นี้ เหมือนรู้ใจว่าข้ากำลังคิดอะไร ทำไมพวกมันถึงต้องยึดกำไลของข้าไป...” ดวงตาสีดำขลับจ้องมองใบหน้าหวานละมุนตรงหน้าแน่วนิ่ง ระย้าเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาอีกฝ่ายตรงๆ ในแววตาทวีแสงแรงกล้า
“เจ้าถามข้าใช่หรือไม่ ว่าทำไมถึงรู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่...เมื่อคืนนี้เจ้าใช้ฤทธิ์ของเจ้ากับนางเฒ่ากุดั่นไปแล้วมิใช่หรือ พิษทางการสัมผัส แต่พิษนั้นมันจะสำแดงฤทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อเจ้าต้องสวมกำไลอันเป็นตัวแทนของเทวนาคาด้วย เพราะเหตุนี้พวกมันจึงต้องยึดเอากำไลจากเจ้าไป ส่วนฤทธิ์ของข้า...คือสิ่งที่เจ้ากำลังจ้องมองอยู่นี่ไง”
“ดวงตา...” ธาราทวนคำเสียงแผ่ว ก่อนที่คนตรงหน้าจะยิ้มน้อยๆ