ตอนที่ 0 สารบัญการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/36614026
ตอนที่ 1 Rio หนึ่งวันมันก็จะดูรีบๆ หน่อย
https://ppantip.com/topic/36616822
ตอนที่ 2 ลั่นล้าท้านละอองน้ำที่ Iguazu Falls (Brazil / Argentina)
https://ppantip.com/topic/36623531
ตอนที่ 3 Ushuaia วันแรกลุยฝน วันต่อมาผจญหิมะ
https://ppantip.com/topic/36633175
ตอนที่ 4 Glacier Perito Moreno ในวันฟ้าหม่น
https://ppantip.com/topic/36639881
ตอนที่ 5 Laguna Torre y Fitz Roy
https://ppantip.com/topic/36648556
ตอนที่ 6 Torres Del Paine ในวันที่ฟ้าไม่สดใสแต่ยังคงงดงาม
https://ppantip.com/topic/36662049
ตอนที่ 7 วันว่างๆ ที่ Punta Arenas & Santiago
https://ppantip.com/topic/36675611
ขอออกตัวก่อนเลยว่า ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบเขียน Diary เวลาไปท่องเที่ยว ลักษณะการเขียนจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่นนัก คือ จะเขียนแค่ 70%-80% ของทริป หลังจากนั้นคือ “ขี้เกียจ” “แค่เที่ยวก็เหนื่อยละ” “เขียนไปทำไม? หล่อนไม่กลับมาอ่านหรอก” (หาข้ออ้างให้ตัวเองไปเรื่อยๆ ) สุดท้ายก็เลิกเขียนไปกลางคัน
ทริปนี้ก็เช่นกัน เราเขียนไดอารี่แบบละเอียดๆ จนถึงแค่ Santiago นอกนั้นคือใช้จดค่าใช้จ่าย และระลึกความทรงจำจากภาพถ่าย มันอาจจะลางเลือนไปบ้างก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
หลังจากอามรัภบทจบแล้ว เรามาเริ่มตอนต่อไปของเราเลยดีกว่า
วันนี้เราไม่ต้องตื่นเช้ามาก เพราะไฟล์ทของเราที่จะบินไป Calama คือเที่ยงวัน เรา Check-out ออกจากที่พักแล้วเดินไปรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังสถานี University of Santiago พอถึงแล้วมันจะงงๆ ไม่รู้ว่ารถที่จะนั่งไปสนามบินมันคืออยู่ตรงไหน ตัวช่วยที่ดีที่สุดของเราคือ “ปาก” ถามทุกคนที่เดินสวนมา ใครที่ดูเป็นนักศึกษาน่าจะคุยกับเรารู้เรื่องก็ถามให้หมด จนได้ความว่าต้องเดินขึ้นไปชั้นบน แล้วจะเห็นรถบัสจอดเรียงรายเต็มไปหมด
เป้าหมายเราคือต้องหารถที่ไปสนามบิน ก็เดินถามไปเรื่อยๆ จนเดินมาเกือบสุดทางถึงจะถึงเคาเตอร์ขายตั๋ว พอได้ตั๋วมาแล้วคราวนี้ก็เดินสำรวจบริเวณนั้นชิวๆ รอเวลาที่รถจะมา พอรถมาปุ๊บเราก็ขึ้นรถ แล้วนอนไปยาวๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงสนามบินที่ Santiago
หลังจากผ่านพิธีการเสร็จเรียบร้อย ท้องก็ส่งเสียงประท้วงว่าสิบเอ็ดโมงกว่าแล้วชั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยนะเธอ เดินวนไปวนมาไม่รู้จะกินอะไรดี สุดท้ายเลยจัดขนมไป 1 ชิ้น
พอถึงที่ Calama เราก็ต้องหารถเพื่อไป Atacama ต่อ ตรงนี้ไม่ยากเพราะมีหลายบริษัทให้บริการเรียงรายอยู่ด้านนอก ถ้าถามว่าควรเลือกบริษัทไหน? อันนี้ไม่รู้ แต่เราเลือกอันที่คิวยาวๆ เข้าไว้ เพราะคิวยาว คนเยอะ รถออกเร็ว (ตรรกะส่วนตัว เลียนแบบได้ไม่ว่ากัน แต่ได้ผลหรือเปล่านี่ไม่รับประกันนะคะ)
หลังจากซื้อตั๋วเราก็ขึ้นรถ ไม่เกิน 5 นาทีรถก็มุ่งหน้าสู่ Atacama ระหว่างทางเราก็จะได้เห็น landform ที่ต่างไปจากทางใต้อย่าง Torres del Paine โดยสิ้นเชิง
รถมาส่งเราที่ Hostel ที่เราจองไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองระดับหนึ่ง ถึงแล้วก็ check-in เก็บของ แล้วต้องออกตามล่าหาทัวร์ Uyuni ที่เราติดต่ออย่างค้างคาเอาไว้ก่อน หลายคนที่ตั้งใจมาถึง Atacama ก็เพื่อจะไปทริปนี้ และส่วนใหญ่จะจองทัวร์ล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว แต่สำหรับเราความแน่นอน กับความไม่แน่นอน มันมีแค่เส้นบางๆ ที่เรียกว่า “อารมณ์ส่วนตัว” ขีดกั้นเอาไว้ ไม่แน่ใจว่ามาถึง South America แล้วยังอยากไป Uyuni อยู่มั๊ย หรือจะมีเวลาพอที่จะไปมั๊ย มาแน่ใจก็ตอนที่ได้วีซ่าเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ พอได้วีซ่าปุ๊บก็อีเมล์หาบริษัททัวร์ทันที (หนึ่งวันก่อนมาถึง Atacama) ซึ่งเค้ายังมีที่ว่างสำหรับเราอยู่ ค่าทัวร์ 130,000 Peso หรือ USD185 สำหรับ 3 วัน 2 คืน และเราต้องโอน 50% เพื่อเป็นค่ามัดจำ โดยโอนผ่าน Web link ที่เค้าให้มา พร้อมวิธีการเสร็จสรรพ พอเราทำตามจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มันขึ้นว่า Lo Sentimos. Su transaccion no se pudo llevar a cabo ตามรูป
ตอนนั้นคิดบวกค่ะว่ามันแปลว่าเราโอนเงินผ่านแล้ว แต่...เดี๋ยวนะ ทำไมมี “no” ด้วยล่ะ??? จัดการเปิด google translation ขึ้นมาในบัดดล แม่เจ้า!!! มันแปลว่าโอนไม่ผ่าน เรารีบเมล์กลับไปหาเค้ารัวๆ แต่...เงียบกริบ!!! ไม่ตอบอะไรชั้นกลับมาเลย เออช่างมัน!!! ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้
ด้วยเหตุนี้สิ่งแรกที่เราทำหลังจาก Check-in แล้วคือไปที่ออฟฟิศของ cordilleratraveller เดชะบุญ!!! ทริปนี้ยังมีที่เหลือสำหรับเรา เราเลยจัดการจ่ายเงินค่าทัวร์ทั้ง 100% สำหรับที่จะไปในอีก 2 วันข้างหน้า ทำไมเราไม่ไปพรุ่งนี้เลย? เพราะที่นี่มีทัวร์ให้เลือกสรรอีกมากมาย เราว่า Atacama ไม่ใช่เมืองผ่านสำหรับไป Uyuni อย่างเดียว เพราะที่นี่ก็มีอะไรให้ดูเยอะแยะ เริ่มจากคืนนี้เลย เราจะไปดูดาวกัน!!!
เค้าว่าที่ดีที่สุดคือ Spacelob ซึ่งก็หาไม่ยาก ถนนนั้นทั้งเส้นเป็น Agency ทัวร์ทั้งหมด มีทัวร์หลากหลายรูปแบบ และแน่นอนว่า ที่เค้าว่าดี เค้าว่าดัง มันมักจะเต็มเร็ว ตรงนี้เราไม่ซีเรียส เพราะส่วนตัวก็ดูดาวไม่เป็นอยู่แล้ว แค่รู้สึกว่าไหนๆ มาแล้วก็ทำให้มันครบๆ ทุกอย่างจะได้ไม่เสียใจทีหลัง พอไม่มีเราก็เดินกลับมาถามทัวร์ Uyuni ของเราเค้าก็แนะนำให้ไปอีกเจ้านึง ได้ทัวร์มาในราคา 20,000Peso พอเดินออกมาจากร้านขายทัวร์ก็มีชายเอเชียคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาถามว่ามาจากประเทศอะไร คุยไปคุยมาคือเค้ามาจากฟิลิปปินส์ เพิ่งมาถึงกำลังเดินหาทัวร์ เราเลยสาธยายไปว่าควรจะไปเที่ยวที่ไหนกับทัวร์ไหน แต่ถ้าไปดูดาววันนี้มันเต็มเกือบหมดแล้ว เหลือแค่เจ้านี้เจ้าเดียว คุยกันสักพักเค้าก็ชวนกินข้าว เราก็ไป (ดูใจง่ายไปหน่อย 555) ซึ่งร้านที่เค้าพาไปคือร้าน Barros Café อยู่หัวมุมถนน Tocopilla ตัดกับ Caracoles รสชาตถือว่าดีงาม (เราปลาบปลื้มกับอาหารที่ชิลีมากกว่าทุกประเทศในทริปนี้) ราคาก็ย่อมเยาว์น่าคบหา ทั้งหมดนี้แค่ 6,600 Peso
หลังจากกินเสร็จเราก็แยกย้ายกันไปเพราะเราต้องเตรียมตัวสำหรับดูดาวคืนนี้ ระหว่างทางก็ยังไม่วายหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอีกซะหน่อย
พอถึงที่พักเราก็จัดแจงอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกมารอทัวร์ก่อนเวลานัด ไหนๆ ก็มีเวลาเหลือเฟือ เลยเดินเล่นแถวนั้นอีกซะรอบ
พอถึงเวลานัดเราก็มานั่งรอค่ะ ทริปนี้จะมีคำว่า “รอ” เยอะมากๆๆๆ มันถึงเวลาอันควรที่เราต้องไปดูดาว แต่บริษัททัวร์ก็ยังคงให้เรารอต่อไป เพราะ “ฟ้าปิด” ถ้าเกิดว่าอีกครึ่งชั่วโมงฟ้ายังไม่เปิดก็จะคืนเงินแล้วแยกย้ายกันกลับไปนอน!!! ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รองั้นก็หาอะไรรองท้องหน่อยแล้วกัน
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ป่าวประกาศให้รวมตัวกัน เพราะเราต้องรีบไป ตอนนี้ฟ้าเปิดแล้วววววววววว เย้ๆๆๆๆ ทัวร์นี้ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง (รวมเวลาเดินทางด้วย) ก่อนที่จะเริ่มดูดาวกัน เราก็ต้องมาเรียนรู้เรื่องของจักรวาล (รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นนักเรียนอีกรอบ) แต่การเรียนหนังสือตอน 3 ทุ่มไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ฟังไปตาก็จะปิดไป 555 จนเค้าบอกว่าจบแล้วเราจะออกไปดูดาวกัน ตอนนั้นเรานี่ตาสว่างเลย เค้าแนะนำว่าใครกลัวหนาวให้เอาผ้าห่มติดไปด้วย ส่วนของอย่างอื่นทิ้งไว้ในห้องเรียนได้เลย
หลังจากภาคทฤษฎีเราก็มาลงมือที่ภาคปฎิบัติ ก่อนลงมือจริงมีการสำรวจด้วยว่าใครเคยไปดูดาวที่อื่นมาแล้วบ้าง หรือมีความรู้เกี่ยวกับดวงดาวยังไงบ้าง เรากะคนฟิลิปปินส์มองหน้ากันแล้วปิดปากเงียบ ส่วนฝรั่งนี่ดูมีความชำนาญกันสุดๆ เราเลยได้ข้อสรุปว่าวันนี้เราจะเป็นเด็กหลังห้องกันนะ!!!
ในส่วนของภาคปฏิบัติ เด็กหลังห้องก็คือเด็กหลังห้อง หาดาวอะไรไม่ค่อยจะเจอกับเค้า คุณครูต้องเข้ามาช่วยปรับให้ตลอด (คาดว่าเค้าคงระอากับอีสองคนนี้อยู่ไม่น้อย)
เราเองก็เริ่มเบื่อตัวเอง นี่ชั้นมานั่งทนหนาวทำในสิ่งที่ชั้นไม่มีความรู้ และไม่น่าจะเรียนรู้เรื่องทำไมเนี่ย!!! รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาทันที สุดท้ายคุณครูก็บอกให้ทุกคนเอามือถือส่งให้คุณครู แล้วเราก็ได้ภาพนี้มา
และของแถมอีกรูป ทายซิว่านี่คือดาวอะไร???
เฉลย....จำไม่ได้ 555 น่าจะดาวเสาร์มั๊ย? จำได้แค่ว่าเค้าให้ดูวงแหวงรอบๆ
โอเคค่ะ!! ได้สองรูปนี้คุ้มกับเงินที่เสียไปละ พอดูดาวเสร็จเตรียมตัวจะกลับกัน มองหันกลับไปดูท้องฟ้าอีกที เมฆลอยมาตรึมเลย ฟ้าเริ่มปิดอีกครั้ง นี่แหละนะ...ดวงคนมันจะต้องเสียตังดูดาว ฟากฟ้าก็ช่างเป็นใจให้ต้องเสียตังซะนี่
สุดท้ายเราก็ได้เวลากลับมาพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่เช้า (ตี 4 ) เพราะเราจะไปดูน้ำพุร้อน El Tatio แต่เช้า แต่พอกลับมาแทนที่จะได้นอน ดั๊นนนน...ดันเจอเพื่อนร่วมห้อง คราวนี้เป็นคนโปรตุเกส และเราก็มีแพลนไปโปรตุเกสหลังจากทริปนี้ เลยนั่งฟังว่าควรไปที่ไหนอะไรยังไง แต่ไม่จดไว้ (สุดท้ายก็ลืม) คุยกันได้พักใหญ่คราวนี้เราคงต้องนอนจริงจังซะที แต่.....กำลังจะนอนเพื่อนร่วมห้องมาอีกคน เราเลยป่าวประกาศขอโทษทุกคนล่วงหน้าเพราะเราต้องตั้งนาฬิกาปลุกตี 4 มันอาจทำให้หลายๆ คนตื่น เราก็รู้สึกเกรงใจ แต่ถ้าตกรถอันนี้จะเกรงใจเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่าอ่านะ
ในส่วนของ Atacama วันที่สองเราจะมาต่อใน comment นะคะ
[CR] ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “25 วันล่าฝันอเมริกาใต้” ตอนที่ 8 Atacama ผืนทราย สายลม ชมเดือน เยือนธรรมชาติ
ตอนที่ 0 สารบัญการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/36614026
ตอนที่ 1 Rio หนึ่งวันมันก็จะดูรีบๆ หน่อย
https://ppantip.com/topic/36616822
ตอนที่ 2 ลั่นล้าท้านละอองน้ำที่ Iguazu Falls (Brazil / Argentina)
https://ppantip.com/topic/36623531
ตอนที่ 3 Ushuaia วันแรกลุยฝน วันต่อมาผจญหิมะ
https://ppantip.com/topic/36633175
ตอนที่ 4 Glacier Perito Moreno ในวันฟ้าหม่น
https://ppantip.com/topic/36639881
ตอนที่ 5 Laguna Torre y Fitz Roy
https://ppantip.com/topic/36648556
ตอนที่ 6 Torres Del Paine ในวันที่ฟ้าไม่สดใสแต่ยังคงงดงาม
https://ppantip.com/topic/36662049
ตอนที่ 7 วันว่างๆ ที่ Punta Arenas & Santiago
https://ppantip.com/topic/36675611
ขอออกตัวก่อนเลยว่า ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบเขียน Diary เวลาไปท่องเที่ยว ลักษณะการเขียนจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่นนัก คือ จะเขียนแค่ 70%-80% ของทริป หลังจากนั้นคือ “ขี้เกียจ” “แค่เที่ยวก็เหนื่อยละ” “เขียนไปทำไม? หล่อนไม่กลับมาอ่านหรอก” (หาข้ออ้างให้ตัวเองไปเรื่อยๆ ) สุดท้ายก็เลิกเขียนไปกลางคัน
ทริปนี้ก็เช่นกัน เราเขียนไดอารี่แบบละเอียดๆ จนถึงแค่ Santiago นอกนั้นคือใช้จดค่าใช้จ่าย และระลึกความทรงจำจากภาพถ่าย มันอาจจะลางเลือนไปบ้างก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
หลังจากอามรัภบทจบแล้ว เรามาเริ่มตอนต่อไปของเราเลยดีกว่า
วันนี้เราไม่ต้องตื่นเช้ามาก เพราะไฟล์ทของเราที่จะบินไป Calama คือเที่ยงวัน เรา Check-out ออกจากที่พักแล้วเดินไปรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังสถานี University of Santiago พอถึงแล้วมันจะงงๆ ไม่รู้ว่ารถที่จะนั่งไปสนามบินมันคืออยู่ตรงไหน ตัวช่วยที่ดีที่สุดของเราคือ “ปาก” ถามทุกคนที่เดินสวนมา ใครที่ดูเป็นนักศึกษาน่าจะคุยกับเรารู้เรื่องก็ถามให้หมด จนได้ความว่าต้องเดินขึ้นไปชั้นบน แล้วจะเห็นรถบัสจอดเรียงรายเต็มไปหมด
เป้าหมายเราคือต้องหารถที่ไปสนามบิน ก็เดินถามไปเรื่อยๆ จนเดินมาเกือบสุดทางถึงจะถึงเคาเตอร์ขายตั๋ว พอได้ตั๋วมาแล้วคราวนี้ก็เดินสำรวจบริเวณนั้นชิวๆ รอเวลาที่รถจะมา พอรถมาปุ๊บเราก็ขึ้นรถ แล้วนอนไปยาวๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงสนามบินที่ Santiago
หลังจากผ่านพิธีการเสร็จเรียบร้อย ท้องก็ส่งเสียงประท้วงว่าสิบเอ็ดโมงกว่าแล้วชั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยนะเธอ เดินวนไปวนมาไม่รู้จะกินอะไรดี สุดท้ายเลยจัดขนมไป 1 ชิ้น
พอถึงที่ Calama เราก็ต้องหารถเพื่อไป Atacama ต่อ ตรงนี้ไม่ยากเพราะมีหลายบริษัทให้บริการเรียงรายอยู่ด้านนอก ถ้าถามว่าควรเลือกบริษัทไหน? อันนี้ไม่รู้ แต่เราเลือกอันที่คิวยาวๆ เข้าไว้ เพราะคิวยาว คนเยอะ รถออกเร็ว (ตรรกะส่วนตัว เลียนแบบได้ไม่ว่ากัน แต่ได้ผลหรือเปล่านี่ไม่รับประกันนะคะ)
หลังจากซื้อตั๋วเราก็ขึ้นรถ ไม่เกิน 5 นาทีรถก็มุ่งหน้าสู่ Atacama ระหว่างทางเราก็จะได้เห็น landform ที่ต่างไปจากทางใต้อย่าง Torres del Paine โดยสิ้นเชิง
รถมาส่งเราที่ Hostel ที่เราจองไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองระดับหนึ่ง ถึงแล้วก็ check-in เก็บของ แล้วต้องออกตามล่าหาทัวร์ Uyuni ที่เราติดต่ออย่างค้างคาเอาไว้ก่อน หลายคนที่ตั้งใจมาถึง Atacama ก็เพื่อจะไปทริปนี้ และส่วนใหญ่จะจองทัวร์ล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว แต่สำหรับเราความแน่นอน กับความไม่แน่นอน มันมีแค่เส้นบางๆ ที่เรียกว่า “อารมณ์ส่วนตัว” ขีดกั้นเอาไว้ ไม่แน่ใจว่ามาถึง South America แล้วยังอยากไป Uyuni อยู่มั๊ย หรือจะมีเวลาพอที่จะไปมั๊ย มาแน่ใจก็ตอนที่ได้วีซ่าเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ พอได้วีซ่าปุ๊บก็อีเมล์หาบริษัททัวร์ทันที (หนึ่งวันก่อนมาถึง Atacama) ซึ่งเค้ายังมีที่ว่างสำหรับเราอยู่ ค่าทัวร์ 130,000 Peso หรือ USD185 สำหรับ 3 วัน 2 คืน และเราต้องโอน 50% เพื่อเป็นค่ามัดจำ โดยโอนผ่าน Web link ที่เค้าให้มา พร้อมวิธีการเสร็จสรรพ พอเราทำตามจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มันขึ้นว่า Lo Sentimos. Su transaccion no se pudo llevar a cabo ตามรูป
ตอนนั้นคิดบวกค่ะว่ามันแปลว่าเราโอนเงินผ่านแล้ว แต่...เดี๋ยวนะ ทำไมมี “no” ด้วยล่ะ??? จัดการเปิด google translation ขึ้นมาในบัดดล แม่เจ้า!!! มันแปลว่าโอนไม่ผ่าน เรารีบเมล์กลับไปหาเค้ารัวๆ แต่...เงียบกริบ!!! ไม่ตอบอะไรชั้นกลับมาเลย เออช่างมัน!!! ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้
ด้วยเหตุนี้สิ่งแรกที่เราทำหลังจาก Check-in แล้วคือไปที่ออฟฟิศของ cordilleratraveller เดชะบุญ!!! ทริปนี้ยังมีที่เหลือสำหรับเรา เราเลยจัดการจ่ายเงินค่าทัวร์ทั้ง 100% สำหรับที่จะไปในอีก 2 วันข้างหน้า ทำไมเราไม่ไปพรุ่งนี้เลย? เพราะที่นี่มีทัวร์ให้เลือกสรรอีกมากมาย เราว่า Atacama ไม่ใช่เมืองผ่านสำหรับไป Uyuni อย่างเดียว เพราะที่นี่ก็มีอะไรให้ดูเยอะแยะ เริ่มจากคืนนี้เลย เราจะไปดูดาวกัน!!!
เค้าว่าที่ดีที่สุดคือ Spacelob ซึ่งก็หาไม่ยาก ถนนนั้นทั้งเส้นเป็น Agency ทัวร์ทั้งหมด มีทัวร์หลากหลายรูปแบบ และแน่นอนว่า ที่เค้าว่าดี เค้าว่าดัง มันมักจะเต็มเร็ว ตรงนี้เราไม่ซีเรียส เพราะส่วนตัวก็ดูดาวไม่เป็นอยู่แล้ว แค่รู้สึกว่าไหนๆ มาแล้วก็ทำให้มันครบๆ ทุกอย่างจะได้ไม่เสียใจทีหลัง พอไม่มีเราก็เดินกลับมาถามทัวร์ Uyuni ของเราเค้าก็แนะนำให้ไปอีกเจ้านึง ได้ทัวร์มาในราคา 20,000Peso พอเดินออกมาจากร้านขายทัวร์ก็มีชายเอเชียคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาถามว่ามาจากประเทศอะไร คุยไปคุยมาคือเค้ามาจากฟิลิปปินส์ เพิ่งมาถึงกำลังเดินหาทัวร์ เราเลยสาธยายไปว่าควรจะไปเที่ยวที่ไหนกับทัวร์ไหน แต่ถ้าไปดูดาววันนี้มันเต็มเกือบหมดแล้ว เหลือแค่เจ้านี้เจ้าเดียว คุยกันสักพักเค้าก็ชวนกินข้าว เราก็ไป (ดูใจง่ายไปหน่อย 555) ซึ่งร้านที่เค้าพาไปคือร้าน Barros Café อยู่หัวมุมถนน Tocopilla ตัดกับ Caracoles รสชาตถือว่าดีงาม (เราปลาบปลื้มกับอาหารที่ชิลีมากกว่าทุกประเทศในทริปนี้) ราคาก็ย่อมเยาว์น่าคบหา ทั้งหมดนี้แค่ 6,600 Peso
หลังจากกินเสร็จเราก็แยกย้ายกันไปเพราะเราต้องเตรียมตัวสำหรับดูดาวคืนนี้ ระหว่างทางก็ยังไม่วายหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอีกซะหน่อย
พอถึงที่พักเราก็จัดแจงอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกมารอทัวร์ก่อนเวลานัด ไหนๆ ก็มีเวลาเหลือเฟือ เลยเดินเล่นแถวนั้นอีกซะรอบ
พอถึงเวลานัดเราก็มานั่งรอค่ะ ทริปนี้จะมีคำว่า “รอ” เยอะมากๆๆๆ มันถึงเวลาอันควรที่เราต้องไปดูดาว แต่บริษัททัวร์ก็ยังคงให้เรารอต่อไป เพราะ “ฟ้าปิด” ถ้าเกิดว่าอีกครึ่งชั่วโมงฟ้ายังไม่เปิดก็จะคืนเงินแล้วแยกย้ายกันกลับไปนอน!!! ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รองั้นก็หาอะไรรองท้องหน่อยแล้วกัน
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ป่าวประกาศให้รวมตัวกัน เพราะเราต้องรีบไป ตอนนี้ฟ้าเปิดแล้วววววววววว เย้ๆๆๆๆ ทัวร์นี้ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง (รวมเวลาเดินทางด้วย) ก่อนที่จะเริ่มดูดาวกัน เราก็ต้องมาเรียนรู้เรื่องของจักรวาล (รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นนักเรียนอีกรอบ) แต่การเรียนหนังสือตอน 3 ทุ่มไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ฟังไปตาก็จะปิดไป 555 จนเค้าบอกว่าจบแล้วเราจะออกไปดูดาวกัน ตอนนั้นเรานี่ตาสว่างเลย เค้าแนะนำว่าใครกลัวหนาวให้เอาผ้าห่มติดไปด้วย ส่วนของอย่างอื่นทิ้งไว้ในห้องเรียนได้เลย
หลังจากภาคทฤษฎีเราก็มาลงมือที่ภาคปฎิบัติ ก่อนลงมือจริงมีการสำรวจด้วยว่าใครเคยไปดูดาวที่อื่นมาแล้วบ้าง หรือมีความรู้เกี่ยวกับดวงดาวยังไงบ้าง เรากะคนฟิลิปปินส์มองหน้ากันแล้วปิดปากเงียบ ส่วนฝรั่งนี่ดูมีความชำนาญกันสุดๆ เราเลยได้ข้อสรุปว่าวันนี้เราจะเป็นเด็กหลังห้องกันนะ!!!
ในส่วนของภาคปฏิบัติ เด็กหลังห้องก็คือเด็กหลังห้อง หาดาวอะไรไม่ค่อยจะเจอกับเค้า คุณครูต้องเข้ามาช่วยปรับให้ตลอด (คาดว่าเค้าคงระอากับอีสองคนนี้อยู่ไม่น้อย)
เราเองก็เริ่มเบื่อตัวเอง นี่ชั้นมานั่งทนหนาวทำในสิ่งที่ชั้นไม่มีความรู้ และไม่น่าจะเรียนรู้เรื่องทำไมเนี่ย!!! รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาทันที สุดท้ายคุณครูก็บอกให้ทุกคนเอามือถือส่งให้คุณครู แล้วเราก็ได้ภาพนี้มา
และของแถมอีกรูป ทายซิว่านี่คือดาวอะไร???
เฉลย....จำไม่ได้ 555 น่าจะดาวเสาร์มั๊ย? จำได้แค่ว่าเค้าให้ดูวงแหวงรอบๆ
โอเคค่ะ!! ได้สองรูปนี้คุ้มกับเงินที่เสียไปละ พอดูดาวเสร็จเตรียมตัวจะกลับกัน มองหันกลับไปดูท้องฟ้าอีกที เมฆลอยมาตรึมเลย ฟ้าเริ่มปิดอีกครั้ง นี่แหละนะ...ดวงคนมันจะต้องเสียตังดูดาว ฟากฟ้าก็ช่างเป็นใจให้ต้องเสียตังซะนี่
สุดท้ายเราก็ได้เวลากลับมาพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่เช้า (ตี 4 ) เพราะเราจะไปดูน้ำพุร้อน El Tatio แต่เช้า แต่พอกลับมาแทนที่จะได้นอน ดั๊นนนน...ดันเจอเพื่อนร่วมห้อง คราวนี้เป็นคนโปรตุเกส และเราก็มีแพลนไปโปรตุเกสหลังจากทริปนี้ เลยนั่งฟังว่าควรไปที่ไหนอะไรยังไง แต่ไม่จดไว้ (สุดท้ายก็ลืม) คุยกันได้พักใหญ่คราวนี้เราคงต้องนอนจริงจังซะที แต่.....กำลังจะนอนเพื่อนร่วมห้องมาอีกคน เราเลยป่าวประกาศขอโทษทุกคนล่วงหน้าเพราะเราต้องตั้งนาฬิกาปลุกตี 4 มันอาจทำให้หลายๆ คนตื่น เราก็รู้สึกเกรงใจ แต่ถ้าตกรถอันนี้จะเกรงใจเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่าอ่านะ
ในส่วนของ Atacama วันที่สองเราจะมาต่อใน comment นะคะ