ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับขออณุญาตใช้อักษรตัว K แทนชื่อของเรานะ ปัจจุบันเราอายุ19ปี เราอาศัยอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้6ปีแล้ว)
ตกหลุมรัก
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อก่อนสมัยเรายังเด็กๆอะ คือตอนนั้นเด็กมากๆอะ 555 ย้อนไปตอนเรายังศึกษาอยู่ระดับชั้น ป.5 โอ้วววตกใจอะดิยังเด็กอยู่เลยเนอะ ตอนนั้นเราศึกษาอยู่ โรงเรียนวัดแห่งนึง ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านเราอะแหละขอไม่บอกชื่อโรงเรียนเนอะ 555 เรื่องมันเกิดขึ้นตอนช่วงเทอม2. คือตอนนั้นเราแอบชอบรุ่นน้องคนนึง อยู่ชั้น ป.4 ไม่รู้ดิว่าหลายคนจะว่ายังไงนะว่าเป็นรักของเด็กๆแบบไม่รู้เรื่องอะไรหรือยังไง ใช่แล้วครับ!! ตอนนั้นเรายังไม่รู้อะไรมากมาย แต่ผมมั่นใจว่า ความรู้สึกตอนนั้นจนถึงตอนนี้
เหมือนกันหวะผมมั่นใจเลยครับว่าผม รัก เด็กคนนี้เข้าแล้วไม่รู้หวะอถิบายยาก 555 ขออณุญาตใช้อักษรตัว Y แทนชื่อของเธอนะครับ เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ เรียนก็เก่ง ขยัน แถมเป็นหัวหน้าห้องด้วย 555 โรงเรียนของเรานั้นมีเด็กอยู่ร้อยกว่าคนเองครับตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึง ม.3 ซึ่งก็เหมือนกลับตัวของผม เรียนเก่งสุดในห้องทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกีฬา แต่ผมในตอนนั้นเป็นเด็กที่ ลักษณะภายนอกดู แย่มากๆ ก็ได้แต่แอบชอบ Y มาตลอด จนมีอยู่วันนึง ทางจังหวัดที่เราอาศัยอยู่ในตอนนั้นได้คัดเลือกเด็กนักเรียน ทุกโรงเรียนในจังหวัดเพื่อแข่งขันหลายๆอย่าง ผมจำไม่ได้แล้วครับว่ามีอะไรบ้าง แต่จะแบ่งแยกเป็นช่วงชั้นครับ ยกตัวอย่างเช่นการแข่งขันระดับช่วงชั้นที่2ตัวแทนจากโรงเรียน... (ช่วงชั้นที่2ก็จะมีตั้งแต่ ป.4-ป.6) ซึ่งคุณครูคนนึงได้คัดเลือกผมให้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดอ่านทำนองสเนาะระดับช่วงชั้นที่2คือจะเป็นการอ่านแบบผสานเสียงอะครับ และก็เป็นเรื่องที่ดีมากเลยก็เพราะว่า เด็กผู้หญิงที่ชื่อ Y นั้นก็ได้ถูกคุณครูคัดเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งของการประกวดอ่านทำนองสเนาะในช่วงชั้นที่2เช่นกัน ใช่แล้วครับเราถูกคุณครูส่งประกวดร่วมกัน ซึ่งก็มีการซ้อมช่วงพักกลางวันในห้องสมุดเป็นระยะเวลานาน ลืมบอกไปครับ ในกลุ่มที่คุณครูคัดเลือกมานั้นผมเป็นเด็กผู้ชายคนเดียวที่คุณครูได้คัดเลือกมาร่วมอ่านทำนองสเนาะ 555 ซ้อมกันไปได้ไม่กี่วัน คุณครูก็จับผมแยกไปประกวดอย่างอื่นก็คือหมวดศิลปะหรรตกรรมแบบจะเรียกว่าเป็นภาพ ตัดแป๊ะ อะไรอย่างงี้อ่า ในตอนนั้นคือเซงมากๆเลย เพราะเราจะไม่ได้อ่านร่วมกลับคนที่เราแอบชอบหรือนี่ แต่ก็เอาก็เอาวะอย่างน้อยเวลาซ้อมก็ซ้อมอยู่ที่ห้องเดียวกันเนอะ 555 ตอนผมซ้อมภาพตัดแป๊ะอยู่นั้นผมก็มองดูเธอยืนอ่านทำนองสนาะ ซึ่งทิศทางที่เธอยืนนั้น คือยืนหันหน้ามาทางที่ผมซ้อม คือตอนนั้นไม่มีสมาถิในการซ้อมเลยเรา เพราะมัวแต่มองหน้าของ Y จนก่อนหมดเวลาพักเที่ยงประมาน 10 นาทีได้ คุณครูก็สั่งเลิกซ้อมให้ไปพักผ่อนตามสบายได้ ในขณะนั้น ระหว่างที่ Y เดินกลับห้องเรียน (ห้องเรียนของเราทั้งคู่อยู่ติดกันครับ) ก็มีเด็กรุ่นเดียวกลับเธอมาแกล้งอะไรสักอย่างนี่แหละ ผมก็จำไม่ได้ 555 จนทำให้เธอร้องไห้ ตอนนั้นผมโมโหมาก พิมพ์ไปนี่หัวเราะไปเลยตอนนี้ ในตอนนั้นผมได้บอกเด็กผู้ชายที่มาแกล้ง Y ว่าอะไรสักอย่างนี่แหละแต่จำได้คร่าวๆว่าผมขู่เด็กผู้ชายคนนั้นว่าให้ไปขอโทษ Y ซะ แมนจริงๆเลยวุ้ย 555 แล้วสุดท้ายเด็กผู้ชายคนนั้นก็ไปขอโทษกลับ Y เท่านั้นแหละครับ ชีวิตวัยเรียนของผมบันเทิงหละถ้าถามว่าทำไมหลอ ก็โดนล้อสิครับ คือในตอนนั้นแบบรู้สึกไม่ดีเลยไม่รู้ว่าจะกลัวการโดนล้อทำไม 555เราโดนถูกล้อแบบว่า ไอ้K ชอบ อีY หยาบนิดนึงนะครับ โดนอย่างงี้มาเรื่อยๆ แต่ผมไม่คิดเลยว่าเหตุการในวันนั้น คือจุดกำเนิด เรื่องราวความรักในวัยใส ของผมและY ในวันต่อมาก็ยังโดนล้อมาเรื่อยๆ 555 คุณครูก็ได้เรียกซ้อมตามปกติ ผมก็เข้าไปที่ห้องสมุดและนั่งติดภาพตัดแป๊ะพรางแอบมองหน้าของYตอนอ่านทำนองสเนาะเป็นระยะๆ ผมมองไปและก็ยิ้มไป จนเธอเริ่มสังเกตุเห็นว่าผมแอบมองเธออยู่ แต่เธอก็ไม่ได้มองขวางอะไรนะครับกลับกันเลยคือเธอยิ้มให้ผมด้วยในตอนนั้นคือแบบ เฮ้ย!! Yยิ้มให้เราด้วยหวะเป็นอะไรที่แบบมีความสุขมากๆเลยในตอนนั้น 555 เลิกเรียนกลับบ้านไปนี่เรียกได้ว่ายิ้มน่าบานทั้งวันอะครับมีความสุขมากๆจนบอกไม่ถูกและเช้าวันต่อมา ณ สถานที่ โรงเรียนวัด.... ผมก็มาเรียนตามปกติและก็โดนล้อเหมือนเดิมครับ คือผมเป็นเด็กที่รูปร่างหน้าตาไม่ดีขี้เหร่ อะไรประมาณนี้อะครับ ก็เซงๆและโมโหเหมือนเดิมเวลาถูกล้อ 555นึกย้อนไปก็ยังงงว่าเราจะโมโหทำมัยก็ชอบจริงๆนี่หว่า พอถึงช่วงพักกลางวันหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็มาซ้อมอะไรตามปกติ ซึ่งวันนี้จะเป็นวันซ้อมวันสุดท้ายก่อนทำการประกวดแข่งขัน ผมก็นิ่งตัดแป๊ะไปส่วน Y ก็ยืนอ่านทำนองสเนาะไป เราสองคนส่งยิ้มกันไปมาจนแบบคนอื่นนี่เห็นแล้วแซวเลยครับแต่จำไม่ได้แล้วว่าแซวอะไร ก็เรื่องมันผ่านมานานแล้วนี่หว่า 555 อากาศในวันนั้นร้อนมากๆเลยคุณครูที่มีหน้าที่ฝึกสอนการอ่านทำนองสเราะก็ได้เปลี่ยนจุดซ้อมไปบริเวณอื่นเพื่อหลบแดด แต่ยังอยู่ในห้องสมุเหมือนเดิมนะแค่เปลี่ยนที่ยืน ตอนนั้นเราก็เซงนิดๆก็เพราะ จุดที่เธอยืนอ่านนั้นมันคนละทิศกลับจุดที่เราซ้อมอยู่แต่เรื่องแค่นี้ก็ทำอะไรผมไม่ได้หลอก 555 ผมพลิกแผ่นกระดาษหันไปตรงที่มีแผ่นกระจกเผ็นแผ่นเล็กๆ และผมก็แอบมองเธอทางกระจกไป (หมือนโรคจิตหวะ) 555 ถามว่าทำไมไม่หันไปทางที่ตรงข้ามกลับYเลยก็เพราะว่ากลัวคนอื่นสังเกตุเห็นครับและก็อายด้วย 555 มาๆต่อๆกันครับ ซึ่งตอนนั้นYเองก็เห็นผมแอบมองเธออยู่ด้วยกระจกแล้วYก็ขำแล้วก็แอบยิ้มให้เราแบบเขินๆ คือไม่คิดเลยจริงๆนะครับว่า รูปร่างน่าตาเราสองคนนี่ต่างกันมาก เธอนี่อย่างนางฟ้าผมนี่หมาชัดๆ 555 แต่ในตอนนั้นผมเริ่มรู้แล้วแหละว่าYเองก็แอบมีใจให้ผม ตัดภาพมาที่เช้าวันต่อมา ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งไม่ใช่โรงเรียนที่เราศึกษาอยู่นะ แต่เป็นอีกโรงเรียนซึ่งใช้เป็นสนามกลางในการแข่งขันต่างๆ ก่อนแข่งขันประกวด คุณครูได้บอกกลับพวกเราว่าถ้ามี การแข่งขันใดแข่งขันหนึ่งชนะ ได้เหรียญทองกลับมา คุณครูจะให้เงินรางวัลจำไม่ได้ว่าเท่าไร และจะพาไปเลี้ยงข้าวที่ห้างสรรพสินค้า ตอนนั้นพวกเราดีใจมากๆ เรียกได้ว่ามีอัดฉีดเลย 555 พอถึงช่วงเวลาประกวดทุกคนก็ทำตามหน้าที่กันตามปกติที่ได้ซ้อมกันมาอย่างเคร่งคัด และพอหมดเวลาเราก็มารวมตัวกันพร้อมกลับคุณครูและรอการประกาศผล และสิ่งที่ไม่อยากจะคิดเลย 555 ชิ้นงานการแข่งขันศิลปะหรรตกรรมของผมนั้นได้รับการโหวดจากคณะกรรมการว่าได้รับรางวัลที่1 ก็คือได้เหรียญทองอะครับ จำไม่ได้แล้วครับว่ากลุ่มไหนมีอะไรชนะได้รางวัลอะไรไปบ่างแต่ที่แน่ๆ เราก็คือ1ในฮีโร่ที่ช่วยให้ทุกคนได้เงินรางวัลจากคุณครูและพาพวกเราไปทานอาหารและเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า พอถึงห้างสรรพสินค้านั้นผมนี่ แอบเดินตามเธอไปพร้อมกลับเพื่อนๆเธอจนมาถึง โซนเกมส์และของเล่น ไม่รู้ว่าอะไรยังไงจำไม่ได้รู้แค่ว่าตอนนั้นผมได้เล่นเกมส์กลับY ยังจำเกมส์นั้นได้เลยครับ เป็นเกมส์ ทอมแอนด์เจอร์ลี่ เราแกล้งแพ้Yหลายรอบมาก 555 แล้วสักพักนึงเธอเดินไปไหนไม่รู้ผมเองก็จำไม่ได้บอกว่าประมาณแบบแปปนึงเดี๋ยวYมานะKรออยู่นี่แหละเดี๋ยวมาเล่นต่อ ตอนนั้นนี่ผมก็แผนสูงเลยเก้าอี้ที่เรานั่งเล่นเกมส์กันอยู่นั้นเป็นเก้าอี้ตัวเดียวกันครับ แต่เป็นเก้าอี้ขนาดยาวคงนึกออกนะครับ 555 ผมขยับตัวเพื่อกินพื้อนที่ในการนั่งของYแต่ไม่ใช่ให้Yไม่มีที่นั่งนะ กะไว้ให้พอดีเพื่อเวลาYกลับมา เรา2คนจะได้นิ่งติดกัน นี่พิมพ์ไปหัวเราะไปเลยนะนี่ 555 พอYกลับมาถึงก็เข้าแผนครับเรา2คนได้นั่งใกล้ชิดกันมากขึ้น (มันอาจจะดูไม่เหมาะสมเลย) แต่ก็ทำไปแล้วเนอะ เล่าต่อเลยนะครับเล่นเกมส์กันไปอีกสักพักมองนาฬิกาก็ไกล้เวลาที่คุณครูเรียกพบที่โซนอาหารแล้วครับประมาณแบบ มุมประหยัดตามโลตัสอ่า พอไปถึงพวกเราก็รับคูปองที่คุณครูแลกมาให้เพื่อนำไปซื้อ อาหารที่เราต้องการ นาทีนั้นไม่รู้โว้ยเราเดิมตามYอย่างเดียว ซึ่งสุดท้ายเราทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่ร้าน หอยกะทะร้อน อันนี้จำได้แม่นเลย 555 เราทั้งคู่ก็สั่งหอยกะทะร้อนมากินคนละ1ถาดมานั่งที่โต๊ะอาหาร พอรับทานเสร็จแล้ว คุณครูก็อนุญาตให้พวกเราเดินเล่นกันอีกสักพักได้ และแน่นแนครับผมก็เดินตามYอย่างเดียวเรียกได้ว่า เกาะเป็นปริงเลยว่างงั้น ถึงขั้นแบบ Y เดินเข้าไปในห้องน้ำเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเดินเข้าตามไปเฉยซะงั้น โอ้ยย!! นึกย้อนไปแล้วขำกรากกเลย จนตอนนั้นเราสังเกตุเอ๊ะทำไมมันมีแต่ ผู้หญิงวะจนเหลือบไปมองป้ายตานี่ว้าวเลยทีเดียว จำได้เลยตอนนั้นเราอุทานไปว่า เฮ้ย!! นี่มันห้องน้ำหญิงนี่หว่า แล้วเราวิ่งออกมาแบบอายๆ Yเองก็หัวเราะเรา 555 พอเสร็จสิ้นพาระกิจคุณครูก็พาพวกเราไปส่งที่บ้านตามปกติ
การสารภาพรัก
และเช้าวันต่อมา ณ สนามเด็กเล่นของโรงเรียนวัดที่เราทั้ง2คนนั้นศึกษาอยู่ เช้าวันนั้นอากาศดีมากๆลืมบอกไป โรงเรียนเรานั้นอยู่ติดกลับแม่น้ำสายหนึ่ง มาที่ สนามเด็กเล่นต่อ ผมก็เล่นเครื่องเล่นและวิ่งเล่นกับเพื่อนตามปกติ สักพักผมมองไปเห็น Yเดินมาพร้อมกลับถือกระดาษอะไรสักอย่างที่พับไว้แผ่นนึง เธอเดินมาแถวๆต้นกล้ามปูที่อยู่ติดกลับสนามเด็กเล่นและเดินมาถึงเครื่องเล่นชนิดนึงมันเป็นแบบอุโมงๆอะครับชื่อเครื่องเล่นนั้นเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้สะด้วย Yทิ้งกระดาษแผ่นนั้นในอุโมงพร้อมกลับเอานี้ชี้ทำนองว่าอยู่นี่นะให้มาเปิดอ่านอะไรยังงี้อะครับ ใช่แล้วครับกระดาษแผ่นนั้นคือจดหมายรัก ฉบับแรกของผมและY ตอนนั้นผมรีบหยิบกระดาษและวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อไปเปิดอ่านดูเลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆจำได้คร่าวๆว่าในตอนนั้น เธอเขียนมาว่ามีคนๆนึงเคยบอกกลับเราว่า ถ้ารักใครให้รีบบอกก่อนที่เค้าจพไม่อยู่ให้เราบอก YชอบKนะ KชอบYมั้ย ผมจำไม่ได้แบบละเอียดหลอกครับว่าจดหมายแผ่นนั้นYเขียนไว้ว่าอย่างไรบ้าง แต่จำได้ว่าYมาสารภาพรักกลับผม เขินนนมากก !!! ในตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยทั้งเขินและอาย 555 ผมก็รีบเข้าห้องไปเขียนจดหมายของผมมั่งครับ เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว มีทั้งกลอนทั้งความในใจสารพัด และผมก็หาโอกาศดีๆและส่งจดหมายนั้นให้เธอ 555 นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นของความรักในวัยเด็กของทักสองคน เรื่องราวต่อจากนั้นคือแบบรู้อะไรมั้ย กระเป๋านักเรียกของเราทั้งคู่เต็มไปด้วยกระดาษจดหมายรักเลยทีเดียว ความรักในตอนนั้นมันสนุกมากๆอยากบอกว่า มันเป็นอะไรที่ไร้เดียงสามากครับ เวลาเราอยู่โรงเรียนการสื่อสารของเราก็คือ กระดาษนี่แหละครับ พูดกันยังไม่ค่อยกล้าเลย เพราะผมเป็นคนขี้อายมากๆ และพอถึงช่วงปลายเทอมของการศึกษาในปีนั้น มีการจัดแข่งกีฬาสีต่างๆ ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมลงแข่งขัน ฟุตบอล วิ่ง ปิงปอง และYเท่าที่ผมจำได้ก็คือเธอลงแข่งวิ่งครับอาจจะมีอย่างอื่นด้วยแต่จำไม่ได้อะสิแย่ๆมากเลยเรา การแข่งขันในวันนั้น เอาของผมก่อนนะ ฟุตบอลแพ้ วิ่งชนะ ปิงปองชนะ ลืมบอกไป กีฬาสีของโรงเรียนเรานั้นมีทั้งหมด 2สีครับ คือ เหลืองและแดง ส่วนผมการแข่งขันของYนั้นผมจำไม่ค่อยได้ครับว่าชนะหรือว่าแพ้ ผมจำได้ว่แต่ว่าผมนั่งดูYแข่งวิ่งอยู่พอเธอวิ่งผ่านมาที่ผมก็ทำมือสัณลักษณ์แบบชูนิ้ว ก้อย ชี้ และนิ้วโปงมาเป็น สัญลักษรณ์แบบ I LOVE YOU อะไรประมาณนี้เรานี่เขินไปเลยครับ ความจริงรายละเอียดที่เล่ามานี้อาจจะดูยืดเยื้อไปนะครับ คือแบบผมไม่รู้จะเรียงเล่ายังไงก็เลยขนมาเกือบทั้งหมดเท่าที่จำได้เลยครับอะไรที่อยู่ในความทรงจำของผมในตอนนั้นคืออาจจะมีนิดมีน้อยแต่ผมอยากเล่ามาให้หมดครับ และพอกิจกรรมการแข่งขัน กีฬาสี ของโรงเรียนจบแล้วต่อไปก็คือ การสอบปลายภาคและก็ปิดเทอมตามปกติ วันสุดท้ายของการปิดเทอมในตอนนั้นผมจำได้แม่นเลยครับช่วงหลังเลิกเรียนผมยังอยู่ที่โรงเรียน เตะฟุตบอลเล่นกลับเพื่อนที่สนามหญ้า เพราะรอน้ายายและแม่มารับไปต่างจังหวัด ก่อนปิดเทอมประมาณ2วันได้ ที่บ้านบอกผมแล้วว่าช่วงปิดเทอมเราจะไปอยู่ที่บ้านของน้า จ.อยุธยา ผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ อืม OK. ตัดภาพมาที่สนามหญ้ากันต่อเล่นเตะฟุตบอลกันไปสักพัก ก็มีเสียงแตรของรถยนต์ดังขึ้น!! ในตอนนั้นผมรู้แล้วหละว่าเป็นรถที่บ้านมารับกันละ ผมก็วิ่งไปเตะลุกฟุตบอลก่อนจากไปหนึ่งที แล้วก็วิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้นักเรียนมาสพายหลัง และบอกกลับเพื่อนๆว่ากูไปละนะ
วัยเด็ก แค่อยากบอก รอ ความรัก กลับมาได้มั้ย
(ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้6ปีแล้ว)
ตกหลุมรัก
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อก่อนสมัยเรายังเด็กๆอะ คือตอนนั้นเด็กมากๆอะ 555 ย้อนไปตอนเรายังศึกษาอยู่ระดับชั้น ป.5 โอ้วววตกใจอะดิยังเด็กอยู่เลยเนอะ ตอนนั้นเราศึกษาอยู่ โรงเรียนวัดแห่งนึง ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านเราอะแหละขอไม่บอกชื่อโรงเรียนเนอะ 555 เรื่องมันเกิดขึ้นตอนช่วงเทอม2. คือตอนนั้นเราแอบชอบรุ่นน้องคนนึง อยู่ชั้น ป.4 ไม่รู้ดิว่าหลายคนจะว่ายังไงนะว่าเป็นรักของเด็กๆแบบไม่รู้เรื่องอะไรหรือยังไง ใช่แล้วครับ!! ตอนนั้นเรายังไม่รู้อะไรมากมาย แต่ผมมั่นใจว่า ความรู้สึกตอนนั้นจนถึงตอนนี้เหมือนกันหวะผมมั่นใจเลยครับว่าผม รัก เด็กคนนี้เข้าแล้วไม่รู้หวะอถิบายยาก 555 ขออณุญาตใช้อักษรตัว Y แทนชื่อของเธอนะครับ เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ เรียนก็เก่ง ขยัน แถมเป็นหัวหน้าห้องด้วย 555 โรงเรียนของเรานั้นมีเด็กอยู่ร้อยกว่าคนเองครับตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึง ม.3 ซึ่งก็เหมือนกลับตัวของผม เรียนเก่งสุดในห้องทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกีฬา แต่ผมในตอนนั้นเป็นเด็กที่ ลักษณะภายนอกดู แย่มากๆ ก็ได้แต่แอบชอบ Y มาตลอด จนมีอยู่วันนึง ทางจังหวัดที่เราอาศัยอยู่ในตอนนั้นได้คัดเลือกเด็กนักเรียน ทุกโรงเรียนในจังหวัดเพื่อแข่งขันหลายๆอย่าง ผมจำไม่ได้แล้วครับว่ามีอะไรบ้าง แต่จะแบ่งแยกเป็นช่วงชั้นครับ ยกตัวอย่างเช่นการแข่งขันระดับช่วงชั้นที่2ตัวแทนจากโรงเรียน... (ช่วงชั้นที่2ก็จะมีตั้งแต่ ป.4-ป.6) ซึ่งคุณครูคนนึงได้คัดเลือกผมให้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดอ่านทำนองสเนาะระดับช่วงชั้นที่2คือจะเป็นการอ่านแบบผสานเสียงอะครับ และก็เป็นเรื่องที่ดีมากเลยก็เพราะว่า เด็กผู้หญิงที่ชื่อ Y นั้นก็ได้ถูกคุณครูคัดเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งของการประกวดอ่านทำนองสเนาะในช่วงชั้นที่2เช่นกัน ใช่แล้วครับเราถูกคุณครูส่งประกวดร่วมกัน ซึ่งก็มีการซ้อมช่วงพักกลางวันในห้องสมุดเป็นระยะเวลานาน ลืมบอกไปครับ ในกลุ่มที่คุณครูคัดเลือกมานั้นผมเป็นเด็กผู้ชายคนเดียวที่คุณครูได้คัดเลือกมาร่วมอ่านทำนองสเนาะ 555 ซ้อมกันไปได้ไม่กี่วัน คุณครูก็จับผมแยกไปประกวดอย่างอื่นก็คือหมวดศิลปะหรรตกรรมแบบจะเรียกว่าเป็นภาพ ตัดแป๊ะ อะไรอย่างงี้อ่า ในตอนนั้นคือเซงมากๆเลย เพราะเราจะไม่ได้อ่านร่วมกลับคนที่เราแอบชอบหรือนี่ แต่ก็เอาก็เอาวะอย่างน้อยเวลาซ้อมก็ซ้อมอยู่ที่ห้องเดียวกันเนอะ 555 ตอนผมซ้อมภาพตัดแป๊ะอยู่นั้นผมก็มองดูเธอยืนอ่านทำนองสนาะ ซึ่งทิศทางที่เธอยืนนั้น คือยืนหันหน้ามาทางที่ผมซ้อม คือตอนนั้นไม่มีสมาถิในการซ้อมเลยเรา เพราะมัวแต่มองหน้าของ Y จนก่อนหมดเวลาพักเที่ยงประมาน 10 นาทีได้ คุณครูก็สั่งเลิกซ้อมให้ไปพักผ่อนตามสบายได้ ในขณะนั้น ระหว่างที่ Y เดินกลับห้องเรียน (ห้องเรียนของเราทั้งคู่อยู่ติดกันครับ) ก็มีเด็กรุ่นเดียวกลับเธอมาแกล้งอะไรสักอย่างนี่แหละ ผมก็จำไม่ได้ 555 จนทำให้เธอร้องไห้ ตอนนั้นผมโมโหมาก พิมพ์ไปนี่หัวเราะไปเลยตอนนี้ ในตอนนั้นผมได้บอกเด็กผู้ชายที่มาแกล้ง Y ว่าอะไรสักอย่างนี่แหละแต่จำได้คร่าวๆว่าผมขู่เด็กผู้ชายคนนั้นว่าให้ไปขอโทษ Y ซะ แมนจริงๆเลยวุ้ย 555 แล้วสุดท้ายเด็กผู้ชายคนนั้นก็ไปขอโทษกลับ Y เท่านั้นแหละครับ ชีวิตวัยเรียนของผมบันเทิงหละถ้าถามว่าทำไมหลอ ก็โดนล้อสิครับ คือในตอนนั้นแบบรู้สึกไม่ดีเลยไม่รู้ว่าจะกลัวการโดนล้อทำไม 555เราโดนถูกล้อแบบว่า ไอ้K ชอบ อีY หยาบนิดนึงนะครับ โดนอย่างงี้มาเรื่อยๆ แต่ผมไม่คิดเลยว่าเหตุการในวันนั้น คือจุดกำเนิด เรื่องราวความรักในวัยใส ของผมและY ในวันต่อมาก็ยังโดนล้อมาเรื่อยๆ 555 คุณครูก็ได้เรียกซ้อมตามปกติ ผมก็เข้าไปที่ห้องสมุดและนั่งติดภาพตัดแป๊ะพรางแอบมองหน้าของYตอนอ่านทำนองสเนาะเป็นระยะๆ ผมมองไปและก็ยิ้มไป จนเธอเริ่มสังเกตุเห็นว่าผมแอบมองเธออยู่ แต่เธอก็ไม่ได้มองขวางอะไรนะครับกลับกันเลยคือเธอยิ้มให้ผมด้วยในตอนนั้นคือแบบ เฮ้ย!! Yยิ้มให้เราด้วยหวะเป็นอะไรที่แบบมีความสุขมากๆเลยในตอนนั้น 555 เลิกเรียนกลับบ้านไปนี่เรียกได้ว่ายิ้มน่าบานทั้งวันอะครับมีความสุขมากๆจนบอกไม่ถูกและเช้าวันต่อมา ณ สถานที่ โรงเรียนวัด.... ผมก็มาเรียนตามปกติและก็โดนล้อเหมือนเดิมครับ คือผมเป็นเด็กที่รูปร่างหน้าตาไม่ดีขี้เหร่ อะไรประมาณนี้อะครับ ก็เซงๆและโมโหเหมือนเดิมเวลาถูกล้อ 555นึกย้อนไปก็ยังงงว่าเราจะโมโหทำมัยก็ชอบจริงๆนี่หว่า พอถึงช่วงพักกลางวันหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็มาซ้อมอะไรตามปกติ ซึ่งวันนี้จะเป็นวันซ้อมวันสุดท้ายก่อนทำการประกวดแข่งขัน ผมก็นิ่งตัดแป๊ะไปส่วน Y ก็ยืนอ่านทำนองสเนาะไป เราสองคนส่งยิ้มกันไปมาจนแบบคนอื่นนี่เห็นแล้วแซวเลยครับแต่จำไม่ได้แล้วว่าแซวอะไร ก็เรื่องมันผ่านมานานแล้วนี่หว่า 555 อากาศในวันนั้นร้อนมากๆเลยคุณครูที่มีหน้าที่ฝึกสอนการอ่านทำนองสเราะก็ได้เปลี่ยนจุดซ้อมไปบริเวณอื่นเพื่อหลบแดด แต่ยังอยู่ในห้องสมุเหมือนเดิมนะแค่เปลี่ยนที่ยืน ตอนนั้นเราก็เซงนิดๆก็เพราะ จุดที่เธอยืนอ่านนั้นมันคนละทิศกลับจุดที่เราซ้อมอยู่แต่เรื่องแค่นี้ก็ทำอะไรผมไม่ได้หลอก 555 ผมพลิกแผ่นกระดาษหันไปตรงที่มีแผ่นกระจกเผ็นแผ่นเล็กๆ และผมก็แอบมองเธอทางกระจกไป (หมือนโรคจิตหวะ) 555 ถามว่าทำไมไม่หันไปทางที่ตรงข้ามกลับYเลยก็เพราะว่ากลัวคนอื่นสังเกตุเห็นครับและก็อายด้วย 555 มาๆต่อๆกันครับ ซึ่งตอนนั้นYเองก็เห็นผมแอบมองเธออยู่ด้วยกระจกแล้วYก็ขำแล้วก็แอบยิ้มให้เราแบบเขินๆ คือไม่คิดเลยจริงๆนะครับว่า รูปร่างน่าตาเราสองคนนี่ต่างกันมาก เธอนี่อย่างนางฟ้าผมนี่หมาชัดๆ 555 แต่ในตอนนั้นผมเริ่มรู้แล้วแหละว่าYเองก็แอบมีใจให้ผม ตัดภาพมาที่เช้าวันต่อมา ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งไม่ใช่โรงเรียนที่เราศึกษาอยู่นะ แต่เป็นอีกโรงเรียนซึ่งใช้เป็นสนามกลางในการแข่งขันต่างๆ ก่อนแข่งขันประกวด คุณครูได้บอกกลับพวกเราว่าถ้ามี การแข่งขันใดแข่งขันหนึ่งชนะ ได้เหรียญทองกลับมา คุณครูจะให้เงินรางวัลจำไม่ได้ว่าเท่าไร และจะพาไปเลี้ยงข้าวที่ห้างสรรพสินค้า ตอนนั้นพวกเราดีใจมากๆ เรียกได้ว่ามีอัดฉีดเลย 555 พอถึงช่วงเวลาประกวดทุกคนก็ทำตามหน้าที่กันตามปกติที่ได้ซ้อมกันมาอย่างเคร่งคัด และพอหมดเวลาเราก็มารวมตัวกันพร้อมกลับคุณครูและรอการประกาศผล และสิ่งที่ไม่อยากจะคิดเลย 555 ชิ้นงานการแข่งขันศิลปะหรรตกรรมของผมนั้นได้รับการโหวดจากคณะกรรมการว่าได้รับรางวัลที่1 ก็คือได้เหรียญทองอะครับ จำไม่ได้แล้วครับว่ากลุ่มไหนมีอะไรชนะได้รางวัลอะไรไปบ่างแต่ที่แน่ๆ เราก็คือ1ในฮีโร่ที่ช่วยให้ทุกคนได้เงินรางวัลจากคุณครูและพาพวกเราไปทานอาหารและเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า พอถึงห้างสรรพสินค้านั้นผมนี่ แอบเดินตามเธอไปพร้อมกลับเพื่อนๆเธอจนมาถึง โซนเกมส์และของเล่น ไม่รู้ว่าอะไรยังไงจำไม่ได้รู้แค่ว่าตอนนั้นผมได้เล่นเกมส์กลับY ยังจำเกมส์นั้นได้เลยครับ เป็นเกมส์ ทอมแอนด์เจอร์ลี่ เราแกล้งแพ้Yหลายรอบมาก 555 แล้วสักพักนึงเธอเดินไปไหนไม่รู้ผมเองก็จำไม่ได้บอกว่าประมาณแบบแปปนึงเดี๋ยวYมานะKรออยู่นี่แหละเดี๋ยวมาเล่นต่อ ตอนนั้นนี่ผมก็แผนสูงเลยเก้าอี้ที่เรานั่งเล่นเกมส์กันอยู่นั้นเป็นเก้าอี้ตัวเดียวกันครับ แต่เป็นเก้าอี้ขนาดยาวคงนึกออกนะครับ 555 ผมขยับตัวเพื่อกินพื้อนที่ในการนั่งของYแต่ไม่ใช่ให้Yไม่มีที่นั่งนะ กะไว้ให้พอดีเพื่อเวลาYกลับมา เรา2คนจะได้นิ่งติดกัน นี่พิมพ์ไปหัวเราะไปเลยนะนี่ 555 พอYกลับมาถึงก็เข้าแผนครับเรา2คนได้นั่งใกล้ชิดกันมากขึ้น (มันอาจจะดูไม่เหมาะสมเลย) แต่ก็ทำไปแล้วเนอะ เล่าต่อเลยนะครับเล่นเกมส์กันไปอีกสักพักมองนาฬิกาก็ไกล้เวลาที่คุณครูเรียกพบที่โซนอาหารแล้วครับประมาณแบบ มุมประหยัดตามโลตัสอ่า พอไปถึงพวกเราก็รับคูปองที่คุณครูแลกมาให้เพื่อนำไปซื้อ อาหารที่เราต้องการ นาทีนั้นไม่รู้โว้ยเราเดิมตามYอย่างเดียว ซึ่งสุดท้ายเราทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่ร้าน หอยกะทะร้อน อันนี้จำได้แม่นเลย 555 เราทั้งคู่ก็สั่งหอยกะทะร้อนมากินคนละ1ถาดมานั่งที่โต๊ะอาหาร พอรับทานเสร็จแล้ว คุณครูก็อนุญาตให้พวกเราเดินเล่นกันอีกสักพักได้ และแน่นแนครับผมก็เดินตามYอย่างเดียวเรียกได้ว่า เกาะเป็นปริงเลยว่างงั้น ถึงขั้นแบบ Y เดินเข้าไปในห้องน้ำเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเดินเข้าตามไปเฉยซะงั้น โอ้ยย!! นึกย้อนไปแล้วขำกรากกเลย จนตอนนั้นเราสังเกตุเอ๊ะทำไมมันมีแต่ ผู้หญิงวะจนเหลือบไปมองป้ายตานี่ว้าวเลยทีเดียว จำได้เลยตอนนั้นเราอุทานไปว่า เฮ้ย!! นี่มันห้องน้ำหญิงนี่หว่า แล้วเราวิ่งออกมาแบบอายๆ Yเองก็หัวเราะเรา 555 พอเสร็จสิ้นพาระกิจคุณครูก็พาพวกเราไปส่งที่บ้านตามปกติ
การสารภาพรัก
และเช้าวันต่อมา ณ สนามเด็กเล่นของโรงเรียนวัดที่เราทั้ง2คนนั้นศึกษาอยู่ เช้าวันนั้นอากาศดีมากๆลืมบอกไป โรงเรียนเรานั้นอยู่ติดกลับแม่น้ำสายหนึ่ง มาที่ สนามเด็กเล่นต่อ ผมก็เล่นเครื่องเล่นและวิ่งเล่นกับเพื่อนตามปกติ สักพักผมมองไปเห็น Yเดินมาพร้อมกลับถือกระดาษอะไรสักอย่างที่พับไว้แผ่นนึง เธอเดินมาแถวๆต้นกล้ามปูที่อยู่ติดกลับสนามเด็กเล่นและเดินมาถึงเครื่องเล่นชนิดนึงมันเป็นแบบอุโมงๆอะครับชื่อเครื่องเล่นนั้นเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้สะด้วย Yทิ้งกระดาษแผ่นนั้นในอุโมงพร้อมกลับเอานี้ชี้ทำนองว่าอยู่นี่นะให้มาเปิดอ่านอะไรยังงี้อะครับ ใช่แล้วครับกระดาษแผ่นนั้นคือจดหมายรัก ฉบับแรกของผมและY ตอนนั้นผมรีบหยิบกระดาษและวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อไปเปิดอ่านดูเลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆจำได้คร่าวๆว่าในตอนนั้น เธอเขียนมาว่ามีคนๆนึงเคยบอกกลับเราว่า ถ้ารักใครให้รีบบอกก่อนที่เค้าจพไม่อยู่ให้เราบอก YชอบKนะ KชอบYมั้ย ผมจำไม่ได้แบบละเอียดหลอกครับว่าจดหมายแผ่นนั้นYเขียนไว้ว่าอย่างไรบ้าง แต่จำได้ว่าYมาสารภาพรักกลับผม เขินนนมากก !!! ในตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยทั้งเขินและอาย 555 ผมก็รีบเข้าห้องไปเขียนจดหมายของผมมั่งครับ เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว มีทั้งกลอนทั้งความในใจสารพัด และผมก็หาโอกาศดีๆและส่งจดหมายนั้นให้เธอ 555 นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นของความรักในวัยเด็กของทักสองคน เรื่องราวต่อจากนั้นคือแบบรู้อะไรมั้ย กระเป๋านักเรียกของเราทั้งคู่เต็มไปด้วยกระดาษจดหมายรักเลยทีเดียว ความรักในตอนนั้นมันสนุกมากๆอยากบอกว่า มันเป็นอะไรที่ไร้เดียงสามากครับ เวลาเราอยู่โรงเรียนการสื่อสารของเราก็คือ กระดาษนี่แหละครับ พูดกันยังไม่ค่อยกล้าเลย เพราะผมเป็นคนขี้อายมากๆ และพอถึงช่วงปลายเทอมของการศึกษาในปีนั้น มีการจัดแข่งกีฬาสีต่างๆ ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมลงแข่งขัน ฟุตบอล วิ่ง ปิงปอง และYเท่าที่ผมจำได้ก็คือเธอลงแข่งวิ่งครับอาจจะมีอย่างอื่นด้วยแต่จำไม่ได้อะสิแย่ๆมากเลยเรา การแข่งขันในวันนั้น เอาของผมก่อนนะ ฟุตบอลแพ้ วิ่งชนะ ปิงปองชนะ ลืมบอกไป กีฬาสีของโรงเรียนเรานั้นมีทั้งหมด 2สีครับ คือ เหลืองและแดง ส่วนผมการแข่งขันของYนั้นผมจำไม่ค่อยได้ครับว่าชนะหรือว่าแพ้ ผมจำได้ว่แต่ว่าผมนั่งดูYแข่งวิ่งอยู่พอเธอวิ่งผ่านมาที่ผมก็ทำมือสัณลักษณ์แบบชูนิ้ว ก้อย ชี้ และนิ้วโปงมาเป็น สัญลักษรณ์แบบ I LOVE YOU อะไรประมาณนี้เรานี่เขินไปเลยครับ ความจริงรายละเอียดที่เล่ามานี้อาจจะดูยืดเยื้อไปนะครับ คือแบบผมไม่รู้จะเรียงเล่ายังไงก็เลยขนมาเกือบทั้งหมดเท่าที่จำได้เลยครับอะไรที่อยู่ในความทรงจำของผมในตอนนั้นคืออาจจะมีนิดมีน้อยแต่ผมอยากเล่ามาให้หมดครับ และพอกิจกรรมการแข่งขัน กีฬาสี ของโรงเรียนจบแล้วต่อไปก็คือ การสอบปลายภาคและก็ปิดเทอมตามปกติ วันสุดท้ายของการปิดเทอมในตอนนั้นผมจำได้แม่นเลยครับช่วงหลังเลิกเรียนผมยังอยู่ที่โรงเรียน เตะฟุตบอลเล่นกลับเพื่อนที่สนามหญ้า เพราะรอน้ายายและแม่มารับไปต่างจังหวัด ก่อนปิดเทอมประมาณ2วันได้ ที่บ้านบอกผมแล้วว่าช่วงปิดเทอมเราจะไปอยู่ที่บ้านของน้า จ.อยุธยา ผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ อืม OK. ตัดภาพมาที่สนามหญ้ากันต่อเล่นเตะฟุตบอลกันไปสักพัก ก็มีเสียงแตรของรถยนต์ดังขึ้น!! ในตอนนั้นผมรู้แล้วหละว่าเป็นรถที่บ้านมารับกันละ ผมก็วิ่งไปเตะลุกฟุตบอลก่อนจากไปหนึ่งที แล้วก็วิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้นักเรียนมาสพายหลัง และบอกกลับเพื่อนๆว่ากูไปละนะ