วันนี้เจ้าของกระทู้มีโปรแกรมจะเข้าพิพิธภัณฑ์วาติกัน
ถ้าเพื่อนๆมีโปรแกรมจะเข้าพิพิธภัณฑ์วาติกันอย่างแน่นอนแล้ว แนะนำให้ซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้าจากเว็บไซด์เลยค่ะ
และควรแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด หรือกระโปรงสั้นนะคะ เพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ
รถไฟใต้ดินสาย A ลงสถานี Ottaviano
จะมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ซื้อตั๋วออนไลน์มา
Print ใบยืนยันไปด้วยนะคะ
ถึงภาพจะไม่ชัด แต่ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจ
เมื่อผ่านเข้ามาด้านในแล้ว สามารถเลือกได้เลย ว่าจะเข้าห้องไหนก่อน
เจ้าของกระทู้เองเลือกเข้าห้องนี้ ( ก็พี่เค้าชี้มาทางนี้ ) 555
ไม่ต้องห่วงเรื่องเมื่อยขาเลยค่ะ ที่นั่งมีพร้อมบริการทุกจุด
ด้านหน้าเป็นห้องโถงแปดเหลี่ยม
อีกนึ้ดจะถึงแล้ว แต่ต้องไปอ้อมไปพิพิธภัณฑ์อียิปต์ก่อนค่ะ
ผ่านพิพิธภัณฑ์ Pio-Clementine
มี ประติมากรรม LAOCOON เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคโรมันโบราณ "
เป็นเรื่องราวของ Laocoon ที่เกิดในยุดสงครามทรอย เป็นนักบวชที่ขัดขวางการนำม้าไม้โทรจันของชาวกรีกกลับเข้ามาในเมือง จึงทำให้เทพีอะธีนาและเทพโพไซดอนที่เข้าข้างชาวกรีกโกรธ จนส่งงูยักษ์มาสังหารนักบวชและลูกชายทั้งสอง
"
และรูปสลัก ARNO รูปสลักเทพเจ้าแห่งแม่น้ำอาร์โนในท่านั่งเอนกาย
รอบๆห้องโถงแปดเหลี่ยมมีประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนรูปสัตว์ต่างๆเอาไว้ ให้ดูเหมือนสวนสัตว์
ถึงแล้วค่ะ ห้องโถงแปดเหลี่ยม เป็นส่วนที่เก็บรักษางานศิลปะชุดแรกๆ
รูปปั้นที่โดดเด่นคือรูปปั้นทองบรอนซ์ของเฮอร์คิวลิส
ทริปนี้ใช้กล้อง FUJI ; 2 ตัวนะคะ รูปที่ลงก็ไม่ได้แต่งเพิ่มเติมอะไร
เข้าสู่ระเบียงทางเดินหลัก (Corridors)
มี Gallery of the Tapestries : ผ้าปักนักทอผ้า เป็นเรื่องราวชีวิตของพระเยซู
และส่วนที่เจ้าของกระทู้ชอบอีกที่นึงค่ะ
เดินต่อไปเป็น Corridor of Maps สุดยอดแผนที่จำนวน 40 ชิ้น
ต่อไปเป็นห้องของราฟาเอล ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์วาติกันคือภาพวาดฝาผนังของห้องพักพระสันตะปาปา Julius II
Room of the Segnatura ถือว่าเป็นห้องแรกที่ราฟาเอลได้ตกแต่งและสร้างชื่อเสียงให้กับเขา
เติมพลังก่อนเข้าโบสถ์ซีสทีน
ทางเข้า
กฎก็คือกฎนะคะ ในโบสถ์ห้ามถ่ายรูปและส่งเสียงดังค่ะ
จบรีวิวพิพิธภัณฑ์วาติกันค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะรวมทั้งประติมากรรมยุคแรกๆ
สำหรับเจ้าของกระทู้เอง คิดว่าคุ้มกับค่าตั๋วราคา 20 ยูโรต่อท่าน ค่ะ
บันไดวน
ก็บอกแล้วว่าให้จองออนไลน์มา แถวยาวเชียว
โคลอสเซียม ( Colosseum ) : อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงโรม
สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 72 โดยคำสั่งของจักรพรรดิในราชวงศ์ฟลาเวียน นับว่าเป็นอัฒจันทร์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่กรุงโรมเคยมีมา
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Line B สถานี Colosseo
เจ้าของกระทู้มาช่วงบ่าย คนค่อนข้างเยอะหน่อยค่ะ สามารถใช้ตั๋วที่ใช้เข้า โรมัน ฟอรัมได้ ( ตั๋วอายุ 2 วัน )
ที่สำคัญมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ที่มีตั๋วแล้ว ย่นระยะเวลาได้มากเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเข้ามาด้านในโคลอสเซียมแล้ว อากาศเย็นสบายเลยค่ะ
เดินจากทางเข้าไม่ไกล ก็จะพบบันไดขึ้นค่ะ
ด้านบนมาจอฉายภาพ ยิงขึ้นเพดาน
โคลอสเซียมเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางนะคะ
ผู้ชมจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของแกลดิเอเตอร์ ถ้าต่อสู้ได้ดีผู้ชมจะยกนิ้วโป้งซึ่งเป็นสัญญานให้ไว้ชีวิตแก่นักสู้คนนั้น
แต่ถ้ายกนิ้วโป้งลงบ่งบอกให้ประหารชีวิตได้เลย
ไปกันที่มหาวิหารแพนธีออน ( Pantheon) นั่งรถบัสสาย 40,60,64,116 ต้องเดินจากถนนใหญ่เข้ามาที่จตุรัส Piazza della Rotonda อีกนิ้ดหน่อยค่ะ
มหาวิหารแพนธีออน นับว่าเป็นวิหารโรมันโบราณสมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากถูกเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นโบสถ์เลยรอดพ้นจากการถูกทำลาย
ด้านหน้า : มีเสาแกรนิต 16 ต้น
ผนังด้านนอก : ผนังหนา 6 เมตร เชื่อมระหว่างหน้าวิหารกับตัวโดม ช่วยรองรับรูปร่างโดมไว้
ช่องอากาศ : เป็นสัญลักษณ์ในการเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์กับวิหารนี้
ภายในวิหาร : ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่ส่วนใหญ่มาจากยุคโรมัน ภายในแบ่งเป็นซุ้มย่อยๆมีเก้าอี้ให้นั่งชมความงามหน้าแท่นบูชา
Piazza della Rotonda
ออกไปยังถนนใหญ่ Corso เลี้ยวขวาที่ถนน Delle Muratte เดินไปนิดเดียวก็จะพบกับน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ค่ะ
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) : จุดเด่นคือ รูปสลักของเทพเจ้าเนปจูน มีเทพไทรทัน 2 องค์ขี้ม้าทะเลขนาบข้าง
นักท่องเที่ยวนิยมมาโยนเหรียญกัน โดยจะหันหลังให้น้ำพุ แล้วกลั้นหายใจโยนเหรียญจากมือขวา ข้ามหัวใหล่ซ้ายลงไปในบ่อน้ำพุ ให้ครบ 3 เหรียญ พร้อมขอพร 3 ประการ
พรุ่งนี้เราจะไปปีนภูเขาไฟวิสุเวียส พร้อมทั้งเยี่ยมชมอาณาจักรปอมเปอี ค่ะ
[CR] เที่ยวอิตาลี เหนือจรดใต้ ( สงกรานต์ 2017 ) เที่ยวพิพิธภัณฑ์วาติกัน
ถ้าเพื่อนๆมีโปรแกรมจะเข้าพิพิธภัณฑ์วาติกันอย่างแน่นอนแล้ว แนะนำให้ซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้าจากเว็บไซด์เลยค่ะ
และควรแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด หรือกระโปรงสั้นนะคะ เพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ
รถไฟใต้ดินสาย A ลงสถานี Ottaviano
จะมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ซื้อตั๋วออนไลน์มา
Print ใบยืนยันไปด้วยนะคะ
ถึงภาพจะไม่ชัด แต่ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจ
เมื่อผ่านเข้ามาด้านในแล้ว สามารถเลือกได้เลย ว่าจะเข้าห้องไหนก่อน
เจ้าของกระทู้เองเลือกเข้าห้องนี้ ( ก็พี่เค้าชี้มาทางนี้ ) 555
ไม่ต้องห่วงเรื่องเมื่อยขาเลยค่ะ ที่นั่งมีพร้อมบริการทุกจุด
ด้านหน้าเป็นห้องโถงแปดเหลี่ยม
อีกนึ้ดจะถึงแล้ว แต่ต้องไปอ้อมไปพิพิธภัณฑ์อียิปต์ก่อนค่ะ
ผ่านพิพิธภัณฑ์ Pio-Clementine
มี ประติมากรรม LAOCOON เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคโรมันโบราณ "เป็นเรื่องราวของ Laocoon ที่เกิดในยุดสงครามทรอย เป็นนักบวชที่ขัดขวางการนำม้าไม้โทรจันของชาวกรีกกลับเข้ามาในเมือง จึงทำให้เทพีอะธีนาและเทพโพไซดอนที่เข้าข้างชาวกรีกโกรธ จนส่งงูยักษ์มาสังหารนักบวชและลูกชายทั้งสอง
"
และรูปสลัก ARNO รูปสลักเทพเจ้าแห่งแม่น้ำอาร์โนในท่านั่งเอนกาย
รอบๆห้องโถงแปดเหลี่ยมมีประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนรูปสัตว์ต่างๆเอาไว้ ให้ดูเหมือนสวนสัตว์
ถึงแล้วค่ะ ห้องโถงแปดเหลี่ยม เป็นส่วนที่เก็บรักษางานศิลปะชุดแรกๆ
รูปปั้นที่โดดเด่นคือรูปปั้นทองบรอนซ์ของเฮอร์คิวลิส
ทริปนี้ใช้กล้อง FUJI ; 2 ตัวนะคะ รูปที่ลงก็ไม่ได้แต่งเพิ่มเติมอะไร
เข้าสู่ระเบียงทางเดินหลัก (Corridors)
มี Gallery of the Tapestries : ผ้าปักนักทอผ้า เป็นเรื่องราวชีวิตของพระเยซู
และส่วนที่เจ้าของกระทู้ชอบอีกที่นึงค่ะ
เดินต่อไปเป็น Corridor of Maps สุดยอดแผนที่จำนวน 40 ชิ้น
ต่อไปเป็นห้องของราฟาเอล ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์วาติกันคือภาพวาดฝาผนังของห้องพักพระสันตะปาปา Julius II
Room of the Segnatura ถือว่าเป็นห้องแรกที่ราฟาเอลได้ตกแต่งและสร้างชื่อเสียงให้กับเขา
เติมพลังก่อนเข้าโบสถ์ซีสทีน
ทางเข้า
กฎก็คือกฎนะคะ ในโบสถ์ห้ามถ่ายรูปและส่งเสียงดังค่ะ
จบรีวิวพิพิธภัณฑ์วาติกันค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะรวมทั้งประติมากรรมยุคแรกๆ
สำหรับเจ้าของกระทู้เอง คิดว่าคุ้มกับค่าตั๋วราคา 20 ยูโรต่อท่าน ค่ะ
บันไดวน
ก็บอกแล้วว่าให้จองออนไลน์มา แถวยาวเชียว
โคลอสเซียม ( Colosseum ) : อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงโรม
สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 72 โดยคำสั่งของจักรพรรดิในราชวงศ์ฟลาเวียน นับว่าเป็นอัฒจันทร์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่กรุงโรมเคยมีมา
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Line B สถานี Colosseo
เจ้าของกระทู้มาช่วงบ่าย คนค่อนข้างเยอะหน่อยค่ะ สามารถใช้ตั๋วที่ใช้เข้า โรมัน ฟอรัมได้ ( ตั๋วอายุ 2 วัน )
ที่สำคัญมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ที่มีตั๋วแล้ว ย่นระยะเวลาได้มากเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเข้ามาด้านในโคลอสเซียมแล้ว อากาศเย็นสบายเลยค่ะ
เดินจากทางเข้าไม่ไกล ก็จะพบบันไดขึ้นค่ะ
ด้านบนมาจอฉายภาพ ยิงขึ้นเพดาน
โคลอสเซียมเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางนะคะ
ผู้ชมจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของแกลดิเอเตอร์ ถ้าต่อสู้ได้ดีผู้ชมจะยกนิ้วโป้งซึ่งเป็นสัญญานให้ไว้ชีวิตแก่นักสู้คนนั้น
แต่ถ้ายกนิ้วโป้งลงบ่งบอกให้ประหารชีวิตได้เลย
ไปกันที่มหาวิหารแพนธีออน ( Pantheon) นั่งรถบัสสาย 40,60,64,116 ต้องเดินจากถนนใหญ่เข้ามาที่จตุรัส Piazza della Rotonda อีกนิ้ดหน่อยค่ะ
มหาวิหารแพนธีออน นับว่าเป็นวิหารโรมันโบราณสมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากถูกเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นโบสถ์เลยรอดพ้นจากการถูกทำลาย
ด้านหน้า : มีเสาแกรนิต 16 ต้น
ผนังด้านนอก : ผนังหนา 6 เมตร เชื่อมระหว่างหน้าวิหารกับตัวโดม ช่วยรองรับรูปร่างโดมไว้
ช่องอากาศ : เป็นสัญลักษณ์ในการเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์กับวิหารนี้
ภายในวิหาร : ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่ส่วนใหญ่มาจากยุคโรมัน ภายในแบ่งเป็นซุ้มย่อยๆมีเก้าอี้ให้นั่งชมความงามหน้าแท่นบูชา
Piazza della Rotonda
ออกไปยังถนนใหญ่ Corso เลี้ยวขวาที่ถนน Delle Muratte เดินไปนิดเดียวก็จะพบกับน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ค่ะ
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) : จุดเด่นคือ รูปสลักของเทพเจ้าเนปจูน มีเทพไทรทัน 2 องค์ขี้ม้าทะเลขนาบข้าง
นักท่องเที่ยวนิยมมาโยนเหรียญกัน โดยจะหันหลังให้น้ำพุ แล้วกลั้นหายใจโยนเหรียญจากมือขวา ข้ามหัวใหล่ซ้ายลงไปในบ่อน้ำพุ ให้ครบ 3 เหรียญ พร้อมขอพร 3 ประการ
พรุ่งนี้เราจะไปปีนภูเขาไฟวิสุเวียส พร้อมทั้งเยี่ยมชมอาณาจักรปอมเปอี ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น