[CR] กรุงโรมไม่ได้ทำความสะอาดเสร็จในวันเดียว

เป็น ทิปที่ไปตอน ต้นเดือนมิถุนายน ๕๘

คำพูดนี้. กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว. ไม่รู้ว่าใครมันพูด.

แต่คำพูดต่อไปนี้. ยศเจไดดรากอนเป็นคนพูด. กรุงโรมไม่ได้ทำความสะอาดเสร็จในวันเดียว. เป็นสัจจะวาจาความจริงที่มองเห็นอยู่. โดยเฉพาะกลิ่น ฉี่ ที่มีอยู่ ทั่วท้องถนน





Spanish Step
บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลีได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีชื่อFrancesco de Sanctis เชื่อมระหว่างPiazza di Spagna
และPiazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สําหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่าน
บันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีซึ่งเต็มไปด้วย นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติจัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปนซึ่งตั้งอยู่ณ บริเวณนั้นเอง








Colosseum
โคลอสเซียม เป็น1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
โคลอสเซียมเป็นสนามประลองของเหล่านักสู้หรือเกลดิเอเตอร์และการต่อสู้อื่นที่ไม่ใช่แค่คนกับคน
แต่เดิม สัญลักษณ์ของกรุงโรมแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “ฟลาเวียน แอมพิเธียเตอร์”
ตามนามสกุลของจักรพรรดิผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้าง
โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาในสมัยอาณาจักรโรมัน
ครั้นเมื่อเสร็จสมบูรณ์โคลอสเซี่ยมได้ถูกใช้จัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์การประหาร
และการแสดงละครเกี่ยวกับทวยเทพเพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ปัจจุบัน
สนามกีฬาโคลอสเซียมได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านโทษประหารชีวิต
โดยโคลอสเซียมจะส่องสว่างด้วยสีเหลืองทุกครั้งที่มีการกลับคําตัดสินหรือยกเลิกโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะที่ใดในโลกในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อโคลิเซียม (Coliseum)







Vatican Museum. เดินกันขาลาก คิงยาวมากๆ

พิพิธภัณฑ์วาติกัน(Vatican Museums) ภาษาอิตาลีคือ Musei Vaticani เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในนครรัฐวาติกันในกรุงโรมในประเทศอิตาลี
พิพิธภัณฑ์วาติกันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงศิลปะที่สะสมโดยวัดโรมันคาทอริกมาเป็นเวลาหลายร้อยๆ ปีสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2
ทรงก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาเปลซิสตินและห้องราฟาเอล(Stanze della Segnatura) เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์จะได้เห็น























St Peter's Basilica

คนเยอะคิวยาว เลยตัดสินใจไม่เข้าด้าน ใน เลยอดดู Pieta

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (ภาษาอังกฤษ: Basilica of Saint Peter, ภาษาละติน: Basilica Sancti Petri) รู้จักกันโดยชาวอิตาลีว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือเรียกกันสั้นๆว่าเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา (Saint Peter's Basilica) มหาวิหารนี้เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม, ประเทศอิตาลี (อีกสามมหาวิหารคือ: มหาวิหารเซ็นต์จอห์นแลเตอร์รัน, มหาวิหารซานตามาเรียมายอเร และ มหาวิหารเซ็นต์พอลนอกกำแพง อยู่ในนครรัฐวาติกัน เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลีเป็นที่ประทับของpope ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์ นิกายRoman Catholic State of the Vatican City จัดว่าเป็นประเทศ ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ศูนย์กลางคือ มหาวิหารSt. Peter ที่ออกแบบโดยอัจฉริยะบุคคล Michelangelo





ปิเอตา (Pieta) ภาพนี้ยืมจาก Google นะเนื่องจาก ไม่ได้เข้าไปดู
ปิเอตา (Pieta) ผลงานของไมเคิล แองเจโล ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน
ในแง่ศาสนา สื่อถึงพระแม่มารีขณะโอบอุ้มพระศพของพระเยซูหลังถูกตรึงกางเขน ความโศกเศร้าครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาวคริสต์
ในแง่ศิลปะ เป็นความอัศจรรย์ที่ศิลปิน..สิงห์อีซ้าย..สามารถสลักเสลาหินแกร่ง จนมองเห็นเป็นผืนผ้าอ่อนช้อย ส่วนที่เป็นคนก็เหมือนจริงทั้งอารมณ์และกายวิภาค



Pantheon
น้องๆ พามา บอกว่าถึงแล้วพี่ ได้มาแล้วนะ ไม่เข้าไปนะ แค่มา Ok. เข้าใจครับ
คุณเข้าใจไหม เข้าใจนะ แค่นี้ละ

Rome: วิหารแพนธีออน (Pantheon) กับโอคูลุส ดวงตาแห่งสวรรค์
มหาวิหารแพนธีออน ที่มาอายุกว่า 2,000 ปี (แข็งแรงมาก) แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ของสถาปนิกสมัยโบราณกับเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ เป็นวิหารทรงกระบอก กว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุตเท่ากัน ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักทั้งที่มีขนาดใหญ่โต ทางเข้าด้านหน้าทำเป็นมุขที่มีหลังคาสามเหลี่ยมหน้าจั่วและมีเสาตั้งเรียงกันอยู่เหมือนวิหารกรีก และมีหลังเป็นคาโดมโค้งมนมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องนี้ว่า “โอคูลุส” (Oculus)
โอคูลุส แปลว่า ตา ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์ของตาจากสวรรค์ ช่องแสงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 ฟุตนี้มีความเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า แต่เมื่อเร็วๆ นี้ นักประวัติศาสตร์เสนอคำอธิบายที่น่าสนใจเกี่ยวกับรูรับแสงนี้ว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช่วยส่องแสงสว่างให้กษัตริย์ในอดีตในขณะที่เสด็จมาประกอบพิธีสำคัญๆ ภายในวิหาร โดยร่างของกษัตริย์จะถูกอาบด้วยลำแสงของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาผ่านช่องแสงนี้ (มโนแล้วเห็นภาพเลยว่าจะดูศักดิ์สิทธิ์มากกกกก)






นี้คือส่วนที่ไม่ได้ดู โอคูลุส แปลว่า ตา ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์ของตาจากสวรรค์  รูปจากนี้ จาก Google นะ


น้ำพุเทรวี่ (Trevi fountain)
คงจะไม่กลับมาที่นี้ เพราะไม่ได้โยนเหรียญ ลงไป
ตอนนี้น้ำพุปิดปรับปรุงอยู่ ที่นี้ขายมะพร้าวกัน แพงมาก ชิ้นละ 1 ยูโร กัดแค่คำเดียวที่เหลือทิ้งครับ

น้ำพุเทรวี่ (Trevi fountain) เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสตศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้นได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล”ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน






Piazza Navona
ป็นอีกหนึ่งจตุรัสในกรุงโรมที่ขึ้นชื่อด้านความสวยงาม บางคนถึงกับบอกว่าเป็นจตุรัสที่สวยที่สุดในกรุงโรมด้วยซ้ำ จตุรัสแห่งนี้มีความพิเศษคือรูปร่างที่เป็นรูปไข่ขนาดใหญ่ เนื่องจากเดิมที่แห่งนี้เคยเป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ Circus Agonalis ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าโคลอสเซียมอีกนะคะ ก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นจตุรัสอันงดงามแห่งนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 และชื่อที่ใช้เรียกก็เพี้ยนไปตามกาลเวลา จาก 'in agone' เป็น'navone' และสุดท้ายกลายเป็น 'navona' เช่นในปัจจุบัน

จุดเด่นของที่นี่คือมีน้ำพุที่สวยงาม 3 แห่งและโบสถ์สถาปัตยกรรมแบบบาโรก (baroque> อีกหนึ่งแห่ง

1.น้ำพุแห่งแรกกันเลย Fountain of Neptune อยู่ด้านในสุดทางทิศเหนือของจตุรัส
สร้างขึ้นในปี คศ 1576 โดย Giacomo della Porta นักสถาปัตกรรมและนักแกะสลักคนเดียวกับที่สร้าง St. Peter's Basilica

2. เดินมาชมน้ำพุถัดมา อยู่ตรงกลางของจตุรัสซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ว่าได้ นั่นคือ Fontana dei Quattro Fiumi ชื่ออ่านยากจัง มีชื่อที่เรียกง่ายกว่าคือ Fountain of the Four Rivers

3. น้ำพุแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีสของ Gian Lorenzo Bernini นักสถาปัตยกรรมและนักแกะสลักชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงด้านการแกะสลักหินอ่อนได้งดงามอ่อนช้อยและสมจริง ตรงกลางเป็นเสาโอบิริสที่นำมาจากอียิป



ต่อข้างล่างนะครับ
ชื่อสินค้า:   กรุงโรม อิตาลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่