ช่วงพฤศจิกา 2024 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเวนิส อิตาลี ขอลองนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ

1.การเดินทาง - เริ่มจากมิลาน ผมใช้บริการรถไฟความเร็วสูง ของ italo ขึ้นจาก Milano Centrale Railway Station ไปลง Stazione di Venezia Santa Lucia สถานีบนเกาะเลยครับ จองก่อนล่วงหน้า จะได้ราคาถูกกว่าซื้อหน้างาน ราคา ขาละ 24 euro เลือกแบบ Prima Business เขาจะส่งตั๋วมาทางเมล์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.ครึ่ง มีเเจก snack กับเครื่องดื่มเบาๆด้วย นั่งสบายเเต่มีประกาศว่าให้ระวัง pickpocket ตลอด แนะนำว่าเวลาเอากระเป๋าเดินทางไปวางน่าจะต้องคล้องโซ่ไว้ด้วย เเละก็ไม่เเนะนำให้วางเป้ไว้ข้างบนหัวครับ 

2.ตั๋วของสถานที่ท่องเที่ยว -  ผมใช้ Venice Visit Pass + ตั๋วเรือไม่จำกัด แบบ 72 hr คนละ 135 euro มีขายหลายเจ้า ลองเปรียบเทียบดูครับ ว่าเราชอบแบบไหน เขาจะส่ง barcode ให้ในเมล์แล้วเอาไปแลกบัตรเรือเองที่ตู้กับใช้สเเกนเข้าเเหล่งท่องเที่ยวบนเกาะ

3.ช่วงที่ไป - low season คนน้อยไม่เบียดเสียด ไม่เก็บค่าขึ้นเกาะ เเต่อากาศเย็นฉ่ำ ประมาณ 5-10 องศา เเถมกลางวันสั้นมาก สี่ห้าโมงก็เริ่มมืดเเล้วครับ

4.การเดินทางในเกาะ - เดินได้ครับ ที่เที่ยวอยู่ใกล้ๆระดับเดินได้ หรือจะนั่งเรือเมล์ก็ได้ครับ

มีท่าตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ  ดูไม่ยาก

ส่วนตัวชอบมากครับ มานั่งชมวิวในราคาย่อมเยา

หรือใครอยาก private ก็มีเรือ taxi boat เเต่ราคาก็ใช่ย่อยครับ

ส่วนกอนโดล่า ส่วนใหญ่จะเป็นนั่งชมวิว ราคาประมาณคนละ 80-100 euro ค่อ 30 นาที

5.ที่พัก - ที่พักบนเกาะเเพงมาก ใครอยากประหยัด นอนบนฝั่งเเล้วค่อยนั่งรถไฟ 1 ป้ายมาเที่ยวครับ รอบนี้โชคดีผมยังพอมีแต้มของ Marriott Bonvoy เหลือเลยเเลกมานอนฟรีที่ St.Regis Venice location ดีมาก ตรงข้ามมหาวิหาร Santa Maria della Salute ห่าง จัตุรัส San Marco แค่ 5 นาที
 
6.ที่เที่ยว
6.1 Doge's Palace - พระราชวังผู้ปกครองเมืองเวนิส ที่สร้างตั้งเเต่ศตวรรษที่ 14

6.1.1 Courtyard ด้านใน


6.1.2 Giants' Staircase

6.1.3 Golden Staircase

6.1.4 College Chamber - ห้องประชุมคณะบริหารสูงสุดของเมือง

6.1.5 Senate Chamber - ห้องประชุมของวุฒิสภา

6.1.6 Chamber of the Concil of Ten - ห้องประชุมขององค์กรที่มีอำนาจสูงสุดด้านการป้องกันภัยคุกคามความมั่นคงของเมือง

ภาพเทพีจูโนประทานความมั่นคงให้เวนิส ผลงานของเปาโล เวโรเนเซ

6.1.7 Palace Armory - ห้องเก็บอาวุธ

6.1.8 Chamber of the Great Council - ห้องประชุมของวังนี้ จุได้เป็นพันคน

ไฮไลต์ห้องนี้ คือ Canvas painting ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า Paradise ของตินโทเรตโต ขนาด 7x22 เมตร

6.1.9 Chamber of the Ballot - ห้องที่ใช้เลือกตั้งเจ้าเมือง

6.1.10  Bridge of Sighs - สะพานถอนหายใจของเหล่านักโทษที่เดินออกจากวังไปเข้าคุก พอนักโทษดูวิวเมืองจากหน้าต่างครั้งสุดท้ายก็ถอนหายใจที่จะหมดโอกาสชมความงามของเมืองอีกเเล้ว


วิวสุดท้ายของนักโทษ

ด้านในคุก นักโทษที่มีชื่อเสียงที่สามารถหนีจากคุกนี้ คือ คาสโนว่า ต้นตำรับฉายาเสือผู้หญิงที่หลายคนอาจคุ้นชื่อ

เก็บตกบรรยากาศอีกซักนิด

6.2 จัตุรัส San Macro

6.2.1 หอระฆัง Campanile di San Macro - สูง 98.6 เมตร สามารถขึ้นไปชมวิวได้

6.2.2 หอนาฬิกา (Torre dell'Orologio) 

6.2.3 Basilica di San Marco - ที่เก็บร่างนักบุญเซนต์มาร์ค สร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 10 เป็นวิหารที่เเสดงถึงศิลปะที่ผสมผสานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก สมกับที่สร้างที่เวนิสเมืองที่ทำการค้าจากทั่วทุกทิศ

6.2.4 Museo Correr - พิพิธภัณฑ์สะสมของงานศิลปะของ Teodoro Correr ก่อนยกให้เมืองจัดเเสดงต่อ

6.3 Teatro La Fenice - โรงละครโอเปร่าที่สำคัญของเมือง โดยชื่อหมายถึง นกฟีนิกซ์ ในอดีตเคยไฟไหม้ถึง 2 ครั้ง

..................................................................................................................................................................................................

ปล.เนื่องจากยังมีอีก 4 พิพิธภัณฑ์ 2 โบสถ์ ร้านน่าทาน ของฝาก ในเวนิส ที่อยากพาๆเพื่อนไปดูกัน แต่เพื่อไม่ให้กระทู้ยาวเกินไป ก็ยกไปกระทู้ถัดไปนะครับ ข้อมูลละเอียดจุใจเเน่นอน ใครไม่อยากพลาด ฝากกดติดตามได้นะครับ ^^
ขอปิดท้ายกระทู้นี้ ด้วยภาพยามเย็นกับพี่ฝีพายกอนโดล่าครับ

..........................................................................................................................................................................................................