เรื่องของคนขี้เกียจ

คนเราพอมันขี้เกียจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
ก็มักหาเหตุผลร้อยแปด มาเป็นข้ออ้าง
อย่าว่าแต่คนเลย
แม้แต่เทวดาก็ยังเป็น
อย่างเช่นกรณีของ "สุวีรเทวบุตร"
เทวดาองค์นี้ถือว่าเป็นเทวดาระดับนายทหาร
ครั้งหนึ่ง พระอินทร์รับสั่งให้เทวดาองค์นี้ไปสร้างแนวป้องกันเขตของเทวดากับพวกอสูร
เพื่อป้องกันการรุกล้ำเขตแดนซึ่งกันและกัน
เทวดาองค์นี้ก็รับพระบัญชามาอย่างดี
แต่ไม่ยอมลงมือทำ และไม่สั่งการให้บริวารทำอีกต่างหาก
เมื่อถึงคราวที่อสูรยกทัพเข้ามา ก็สามารถบุกถึงเมืองของเทวดาได้อย่างง่ายดาย
พอพระอินทร์รบทัพจับศึกเสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็เรียก "สุวีรเทวบุตร" เข้ามาถามว่าเป็นอะไรยังไง ทำไมอสูรถึงเข้ามาเขตแดนได้อย่างดาย
แล้วก็ให้โอวาทแก่สุวีรเทวบุตรว่า
"บุคคลไม่หมั่น ไม่พยายาม
จะประสบสุขได้ ณ ที่ใด ดูก่อนสุวีระ
เจ้าจงไป ณ ที่นั้น
และจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด"
เมื่อเจอพระอินทร์ซึ่งเป็นจอมเทพเอ็ดมาอย่างนี้
เป็นคนอื่นก็คงสงบเสงี่ยมเจียมตนไปแล้ว
แต่พ่อสุวีระไม่ใช่อย่างนั้นนะสิ
พ่อเล่นทะลึ่งไปถามพระอินทร์ว่า
"ผู้ที่เกียจคร้าน ไม่ขยันหมั่นเพียร ไม่ทำกิจที่ควรทำ และไม่ใช้ให้บุคคลอื่นไปทำกิจที่ควรทำ แต่ได้รับความสำเร็จทุกอย่างตามที่ปรารถนา มีไหมสถานที่หรือวิธีการที่จะเป็นแบบนั้น"
พระอินทร์ท่านก็ใจเย็นเหลือเกิน
พอได้ยินคำถามเช่นนั้นพระองค์ก็ทรงตรัสเพื่อให้พ่อสุวีรได้คิดว่า
"คนเกียจคร้านจะบรรลุถึงความสุขอย่างยิ่งในที่ใด ก็ให้ท่านจงไปในที่นั้นเอง และช่วยบอกให้ข้าพเจ้าได้ไปในที่นั้นด้วย"
ถึงกระนั้น สุวีรเทวบุตรก็ยังขอพรอีกว่า "ขอพระองค์ได้โปรด ประทานพรความสุขชนิดที่ไม่มีทุกข์โศก โดยไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยเถิดพระเจ้าข้า"
พระอินทร์ตรัสว่า "ถ้าจะมีใครดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ต้อง ทำอะไรในทิศทางไหน นั่นเป็นทางนิพพานแน่ ให้ท่านจงไปและช่วยบอกข้าพเจ้าให้ไปด้วย"
จากเรื่องราวในพระสูตรนี้
ก็พอจะทำให้เราได้เห็นอุปนิสัยของคนขี้เกียจ
เมื่อได้รับงานแล้วจะมีผลเป็นอย่างไร
และท่าทีในการแสดงออกของคนประเภทนี้
จะเป็นไปในลักษณะไหนก็พอจะเดาได้
ถ้าเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับคนประเภทนี้ จะต้องวางตัวเช่นไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่