เราอายุ 22 ปีนะคะ จบม.6 ไม่ได้เรียนต่อมหาลัย
ชีวิตวัยเด็ก - ขอย้อนความตั้งแต่เราเด็กๆ ยายเราเป็นคนเลี้ยงเราค่ะ พ่อกับแม่เราเลิกกันด้วยปัญหายาเสพติด พ่อเราติดยาท ทำร้ายเราและแม่
จนเราอายุ 1 ขวบแม่ก็เลิกกับพ่อ แล้วฝากเราไว้กับยาย ตัวเองไปทำงานในกรุงเทพ ส่งเงินให้เรากับยายใช้ แม่เราไม่ได้ทิ้งเรานะคะ แม่ติดต่อได้ตลอดเวลา กลับบ้านตลอดเมื่อมีวันหยุด ส่งเงินไม่ขาด สร้างบ้านให้ตายาย ออกรถยนต์ให้ใช้ จ่ายค่ายาให้ยาย แม่เราทำงานเป็นกรรมกรค่ะ ค่าแรงวันละ 300 บาทไทย
ตา-ยาย  -  ตอนนี้ทั้งคู่แก่มากแล้ว มีลูกทั้งหมด 3 คน ลูกชายคนโต ลูกสาวคนกลาง แม่เราเป็นลูกสาวคนเล็กค่ะ ตาอายุ 70+ ติดเหล้าค่ะ ยายอายุ 60+ เป็นโรคพาร์กินสันค่ะ ทั้งคู่ในช่วงเวลาที่ทำงานไหวเป็นชาวนา ชาวไร่ค่ะ ยายมีเงินเก็บ 500000+ แต่ให้ลูกยืมเกือบหมดแล้วค่ะ ตาเงินเก็บ 200000+ กินเหล้าขาวทุกวัน เหลือไม่เกิน 100000 ค่ะ
ลุง ก - คือพี่ชายของแม่ แต่งงานกับป้า ก ครัวครอบอบอุ่น มีลูกชายอายุน้อยกว่าเรา 1 ปี ลูกเรียนมหาลัยอยู่ค่ะ น่าจะมีเงินมาที่สุดในบรรดาลูกๆของตายาย
ป้า ข - คือพี่สาวของแม่ แต่งงานกับลุง ข มีลูกชาย 1 คน อายุมากกว่าเรา 5ปีค่ะ เรียนมหาลัยไม่จบ ป้า ข เลิกกับลุง ข ตอนพี่ชายเราเราปวช.1 เพราะลุง ข มีเมียน้อยค่ะ ตอนทั้งคู่ยังอยู่ด้วยกัน มีธุรกิจของครอบครัวค่ะ หลังจากเลิกกับลุง ข ได้ 3-4 ปี มีหมายศาล เรื่องป้าเราไปเซนเอกสารกู้ยืมเงิน เกือบ 1 ล้านบาท (ป้า ข บอกว่าตอนที่เซน นั้นยังอยู่กับลุง ข อยู่ค่ะ  ซึ่งตอนเลิก ลุง ข บอกว่าจะใช้หนี้ส่วนนั้นเอง หนี้ในขณะนั้นไม่เกิน 3 แสนค่ะ แต่ลุงเราไปกู้เพิ่มอีก ทำให้เป๋นหนี้เกือบล้าน ให้ป้าเรารับผิดชอบหนี้ธนาคาร ) ซึ่งตอนที่มีหมายศาลมา ป้า ข ทำอาชีพชาวไร่ชาวนาค่ะ
สู้คดีเป็นเวลาทั้งหมดอยู่ 2-3 ปี ในช่วงแรกแพ้คดีค่ะ แต่ในส่วนของทรัพย์สินของป้า ข นั้น ได้โอนให้ลุง ก หมดแล้ว เพื่อหนีหนี้ หลังจากป้าเราแพ้คดี ป้าเราจะยอมติดคุกค่ะ แต่เจ้าหนี้ฟ้องศาลเรื่องลุงต่อ ว่าโยกย้ายทรัพย์สินหลบหนีกันประมาณนั้นค่ะ ป้า ก ภรรยาลุง ก กลัวโดนลูกหลงของคดีไปด้วย จึงขอให้ป้า ข ยอมใช้หนี้ค่ะ ซึ่งหนี้ที่ตกลงใช้นั้นเป็นเงิน 600,000 บาท โดยป้า ข แบ่งขายที่ให้ลุง ก เป็นเงิน 1,200,00 บาท แต่ช่วงนั้นลุง ก ไม่ได้มีเงินสดมากขนาดนั้น จึงให้แม่เราเอาที่ดินไปกู้มาปิดหนี้ให้ป้า ข 500,000 บาทค่ะ (ตอนนี้ ที่ดินก็ยังจำนองอยู่ค่ะ)
สรุป ลุง ก กับป้า ข เป็นหนี้สินกันเท่าไรเราก็ไม่ทราบนะคะ แต่ที่อธิบายเพราะมันโยงมาที่แม่เรา

เรา - เป็นลูกคนเดียวค่ะ ไม่ได้เรียนต่อ หลังจากจบ ม.6 ก็ทำงานทันทีค่ะ มีแฟนตอนอายุ 19 จนถึงตอนนี้ค่ะ แฟนอายุเท่ากันค่ะ ตอนที่เราทำงานเราอาศัยร่วมกับแฟนค่ะ เข้ากับบ้านแฟนได้ไม่มีปัญหาค่ะ สาเหตุที่เราไม่เรียนต่อเพราะเราเป็นเด็กเกเรค่ะ บ้านเราอยู่ตจว. เรียนที่บ้าน พอจบก็ไปทำงานที่กทม.นะคะ
จนเราทำงานได้ 4 ปี เราก็ลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านค่ะ กลับมาดูแลตาและยายแทนป้า ที่ไปหางานทำค่ะ เรากลับมาอยู่บ้านช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาค่ะ แม่เราจะลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านแทนเราปีหน้าช่วงสงกรานต์ค่ะ แม่อยากกลับบ้านใาเลี้ยงตากับยายเอง แต่ขอเวลาเก็บเงิน 1 ปี ค่ะ

ขอเข้าประเด็นนะคะ
เราและแฟนอยากมีลูกค่ะ แฟนทำงานอยู่ กทม. ค่ะ เราอยู่ตจว. (ยังไม่ได้แต่งงานนะคะ เรามองว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องจำเป็น แม่เราก็ไม่ได้อะไรกับการแต่งงานด้วยค่ะ)
คอนนี้เราเลี้ยงตาและยายอยู่บ้าน ถ้าเราท้อง เราประสิทธิภาพในการดูแลบ้านและคนก็จะลดลงไป เราจะดูแลตากับยายได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าเรารอกลับมาทำงานที่กทม. เราก็จะไม่ได้ทำงาน เพราะท้อง แล้วจะไม่มีเงินส่งให้ทางบ้าน( ตอนที่เราทำงานหลังเรียนจบ อราก็ส่งเงินให้ป้า ข และตายายค่ะ(พี่ชายลูกป้า ข มาทำงานที่เดียวกับเราค่ะ แต่ไม่ได้ส่งเสียป้า ข จึงทำให้ป้า ข ดิ้นรนไปทำงานค่ะ(ป้า ข มีสามีใหม่ด้วยค่ะ เลยไปทำงานที่เดียวกับสามมีใหม่)))

ปัญหาแรกนะคะ เราท้องตอนไหนดีคะ
ปัญหาที่สอง เรามีลูกดีมั้ยคะ เหมือนควรจะถามปัญหาสองก่อนเลยนะคะ บ้านเราปัญหาเยอะแบบนี้ มีลูกจะเป็นภาระอะไรอีกมั้ยคะ
ปัญหาที่สาม เลี้ยงลูกเองหรือให้แม่เราเลี้ยงให้ดีคะ ใจจริงเราอยากให้แม่เราเลี้ยงให้นะคะ(แม่เคยบอกว่าจะเลี้ยงให้ค่ะ) ทุกคนว่าสมควรมั้ยคะ เหตุผลเราเพราะว่าเราเป็นลูกคนเดียว เรากลัวเราแก่ไปไม่มีใครเลี้ยงแม่เราค่ะ เราอยากให้ลูกเราดูแลแม่เรา เหมือนที่เราดูแลยายค่ะ เราเห็นแก่ตัวจัง
อีกใจ เราก็อยากเลี้ยงลูกเองค่ะ เพราะอยากใกล้ชิดลูก อยากเห็นพัฒนาการเค้า อยากให้เค้าอบอุ่น

ไม่เข้าใจตรงไหน ถามเพิ่มได้นะคะ