รวมลิงก์ทริปนี้จ้า
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 1 : หม่ำซูชิจานเวียนที่ร้าน Magurobito @Asakusa :
https://ppantip.com/topic/36403426
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 2 : คาวากุจิโกะ ฟูจิซังอลังการ กับโฮโต @Houtoufudou :
https://ppantip.com/topic/36413704
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 3 : Kawaguchiko Living Center - Kawaguchiko Herb Hall - Wind Cave - Sanrokuen :
https://ppantip.com/topic/36463445/
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 4 : บุกบุฟเฟต์โรงแรมย่านชินจูกุกับ Super Buffet Glasscourt @ Keio Plaza Hotel :
https://ppantip.com/topic/36511684
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 5 : เที่ยวชิบะ หม่ำสตรอเบอร์รี่ @Dragon Farm ทานข้าวหน้าปลาไหล @Kawatoyo Honten :
https://ppantip.com/topic/36520232
ต่อจากโพสต์ที่แล้ว วันนี้ เราจะมาพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกร้านซูชิที่มีคิวยาวเฟื้อยที่ตลาดปลาสึกิจิกัน จะได้รู้ว่าเค้ามีอะไรดี คนถึงได้ไปรุมต่อคิวกันได้ทุกวัน ไม่เกี่ยงวันทำงาน ไม่เกี่ยงฤดูกาล ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย
รายละเอียด
Name : Sushi Dai
Price : 2,600-4,000 yen
Recommend Menu : Omakase Course 4,000 yen เพื่อความสะใจ
Location : Tsukiji Fish Market (ฝั่งตลาดด้านในติดท่าเรือ)
Opening Time : 05.00 - 14.00 น.
Website Link :
http://www.tsukijigourmet.or.jp/22_sushidai/index.htm
Tabelog Link :
https://tabelog.com/en/tokyo/A1313/A131301/13002388/
Comment : ร้านซูชิเจ้าดังในตลาดปลาสึกิจิ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรอคิวที่นานมาก บางคนรอคิวนาน 5 ชม. (OMG) เรามาดูกันว่าทำไมคนถึงขยันมากินกันได้ไม่มีหยุด ทั้งๆ ที่ต้องรอคิวนานขนาดนี้ >> เท่าที่สัมผัสมาเชฟและพนักงานในร้านมีความเป็นกันเอง พูดคุยกับลูกค้า รวมทั้งคอยเอนเตอร์เทนลูกค้าเต็มที่ จะได้ยินเสียงเฮฮาของทั้งเชฟและลูกค้าดังเรื่อยๆ และลูกค้าที่ออกไปมีร้อยยิ้มทุกคน แม้กระทั่งตัวผมเอง และคิดว่ายังไงก็อยากจะกลับมาทานอีกครั้งนะ เพราะรสชาติอร่อยในราคาที่ไม่แพง สนุกที่ได้คุยทั้งกับเชฟและลูกค้าด้วยกัน ก่อนจะกลับก็จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าถ่ายรูปด้วย แบบไม่มีการเร่งลูกค้าให้รู้สึกไม่ดีเลย (กว่าจะได้คิวเลยนานไง)
ต้องลุกขึ้นมาตั้งแต่ 04.30 อาบน้ำ แปรงฟันเรียบร้อยก็รีบไปต่อรถไฟ Tokyo Metro Line ไปลงที่สถานี Tsukijishijo Station (ใกล้กับร้านที่สุดแล้วจ้า)
มาถึงตอน 05.30 ปรากฏว่าคิวก็เริ่มทะลุมาฝั่งข้างตึกแล้ว เอาล่ะมาดูกันว่าเราจะต้องรอนานแค่ ผมมาวันอังคาร มีคนญี่ปุ่นมาต่อแถวทานบ้างเหมือนกันแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทั้งจีน ออสเตรเลีย อเมริกา (รู้จากตอนเชฟถามรายละเอียดลูกค้า)
ระหว่างรอคิวผมก็เล่นเกม Hearthstone ผ่านมือถือไป สักพักคนจัดคิวก็เดินไล่คิวมาถึงผมพร้อมใบเมนูยิ้มๆ แล้วบอกว่า "เล่น Hearthstone ด้วยเหรอ เค้าก็เล่นเหมือนกัน" อ้าว สวัสดี เกมเมอร์ 555
อะแฮ่ม !! เข้าเรื่องๆ ใบเมนูมีให้เราเลือกแค่ 2 แบบคือ
- Full Omakase Course 4,000 yen (เชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนั้นมาทำเป็นซูชิให้ 10 คำ มากิ 1 ที่ และให้เราเลือกซูชิเองเพิ่มอีก 1 คำ จากรายการทั้งหมด)
- Children's Set 2,600 yen (เชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนั้นมาทำเป็นซูชิให้ 7 คำ มากิ 1 ที่)
***หมายเหตุ : ใครไม่ทานปลาดิบ แพ้อาหาร มีอะไรที่ไม่อยากทานหรือทานไม่ได้ สามารถแจ้งล่วงหน้าที่เชฟได้นะเออ (รู้สึกได้รับความเอาใจใส่ >w<)
หลังจากผมแจ้งว่าจะทาน Omakase Set (รอมาเกือบ ชม.) กับท่านเกมเมอร์ผู้จัดคิวไป แกก้เดินกลับไป จากนั้นรออีกไม่นาน ผมก็มาถึงหัวโค้งซะที เค้าเว้นแบบนี้เพื่อไม่ให้บังหน้าร้านกัน แต่สังเกตว่าเช้าๆ ร้านรอบๆ แทบจะไม่มีคิวเลย มันจะมาหนักเอาช่วงสายๆ หน่อยนี่ล่ะ
ในที่สุดหลังจากรอไป เกือบ 2 ชม. ก็ได้เข้ามาซะที (คิดว่าเร็วแล้วเทียบกับหลากหลายประสบการณ์ที่เคยอ่านในพันทิปและจากเพื่อนๆ ที่เคยมาทาน)
ผมนั่งที่ด้านในสุดเลย เชฟที่เตรียมปลาให้เป็นพี่เชฟผู้หญิงครับ น่ารักมาก เค้าจะทักทายเราก่อน แล้วถามเราว่ามาจากประเทศไหน พอบอกมาจากไทย ก็ยกมือ "สวัสดีค่า" อ้ากก >< (คาวาอี้) ส่วนลูกค้าข้างๆ ผมมาจากออสเตรเลียเป็นแม่ลูก เชฟก็คุยได้ไม่มีติดขัด (เชฟคนอื่นๆ ในร้านก็เหมือนกัน เฮฮาปาจิงโกะกันมากๆ) ส่วนกระเป๋าสัมภาระทั้งหลายมีที่วางอยู่ด้านบนข้างหลังเก้าอี้ วางได้ตามสะดวกเลย
บรรยากาศในร้าน 13 ที่นั่งเล็กๆ ดูอบอุ่นมาก
มีประกาศณียบัตรร้านอาหารดีเด่นเยอะเลย
วัตถุดิบ พร้อมมม !!! ขิงดองพร้อม !!!
ชาร้อนพร้อม !!! ซุปพร้อม !!! โชยุพร้อม !!! (วาซาบิจะอยู่ที่ซูชิอยู่แล้วนะเออ)
1. โอโทโร่ (เนื้อส่วนท้องของมากุโร่ ความมันสูง) >> หน้าตาดูดีมาก พอเอาเข้าปากแล้วก็ไม่ผิดหวัง ความมัน ความนุ่ม ความหอม มาเต็ม สะใจดี เป็นคำแรกที่ดีงามจนต้องยกนิ้วให้
2. ทามาโกะยากิ >> ไข่หวานเนื้อเนียน (ร้อนนะจ๊ะระวังลวกปาก) หวานอ่อนๆ จานนี้ธรรมดาๆ
3. ปลาไท (กะพงแดง) >> ทานคู่กับเลมอน เนื้อปลามีกลิ่นเฉพาะ เข้ากับเลมอนที่ช่วยดับคาวและทำให้สดชื่นด้วย
4. ปลาอะจิ >> อันนี้นุ่มหนึบมาก ชิ้นโตเต็มคำ เนื้อปลาหอมอ่อนๆ เป็นอีกคำที่อร่อยมากๆ (หอมซอยน่าจะใส่มาชวยดับคาวเช่นกัน)
5. อูนิ (ไข่หอมเม่น) >> เชฟบอกว่าเป็นหอยเม่นพันธุ์บาฟุน เนื้อครีมมี่ รสชาติหวานละมุน และหอมกลิ่นทะเลสุดๆ ของดีจริงๆ ไม่ต้องไปไกลถึงฮอกไกโด
6. อะคามิ (มากุโระส่วนเนื้อแดง) >> เนื้อสีแดงสดใส มีความชุ่มฉ่ำและสดใหม่ ทานแล้วจะได้รสชาติเนื้อปลาแบบชัดเจนมาก แต่ด้านบนใส่วาซาบิมาช่วยดับคาวแบบพอดีๆ
7. หอยฮกกิ (หอยปีกนกดิบ) >> คำนี้มาแบบสดสุดๆ เพราะหอยยังไม่ตาย ตอนหั่นมายังดิ้นอยู่หน่อยๆ แอบสยิวนิดๆ ตัวหอยจะมีความคาวนิดหน่อย แต่สดและกรอบมาก ใครไม่ชอบอะไรหยึยๆ ก็บอกเชฟได้นะเออ
พักกันด้วยมากิเซ็ต เป็นไส้ผัก มากุโระสับ 2 คำ กับอะไรอีกอย่างไม่แน่ใจ แต่อรอ่ยดี ถึงตอนนี้เริ่มอิ่มละครับ
8. โฮตารุอิกะ (หมึกหิ่งหอย) >> เป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะช่วงนี้ เนื้อเด้ง ไม่เหนียวเลย ไอเหลืองๆ ข้างบนไม่แน่ใจว่าอะไร แต่มันดี เข้ากันมาก
9. ทาชิอุโอะ (ปลาดาบเงิน) >> เนื้อปลาหอมและมัน รสชาติเข้มข้นดี เคี้ยวสนุก
10. ปิดท้ายด้วยอานาโกะ (ปลาไหลทะเล) >> คำนี้ไม่เหมือนกับปลาไหลทะเลที่เคยทาน เนื้อมันออกจะยุ่ยๆ แต่มีความอร่อยมัน อัดแน่นอยู่ด้านใน ถือว่าอร่อยมาก ปิดท้ายได้ดีเลยทีเดียว
11. คำสุดท้ายให้เลือกเอง เชฟจะเอาแผ่นเมนูให้เราเลือกและบอกกับเชฟว่าอยากได้คำไหน ตอนแรกว่าจะเอาโอโทโร่อีกคำ แต่อยากลองอย่างอื่นบ้าง เลยสั่งโฮตาเตะมาแทน เนื้อเด้งมาก กลิ่นเฉพาะของโฮตาเตะหอม ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ครบ 11 คำ อิ่มสบาย ถ้าไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้นะครับ
อันนี้ผมเอาเมนูที่เค้าให้เลือกคำสุดท้ายมาให้ดู พร้อมพยายามแปลเป็นไทยให้ แต่ชื่อไทยบางอันอาจจะแปลกๆ ไปบ้าง ถ้าผิดพลาดยังไงก็ฝากแก้ และก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ
ออกมาแล้วคนก็ไม่ได้ลดลงไปเลย ยาวอย่างต่อเนื่อง
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับซูชิได เวลายังเหลือก่อนจะไปเดินเล่นแถบชิบูย่า เลยเดินหาขนมและของว่างกินต่อ (ไหนบอกอิ่ม ... 5555)
ใกล้ๆ กับซูชิได มีร้านชายไดฟุกุกับขนมถั่วปั้น เป็นรูปต่างๆ น่ารักและไม่แพงด้วย คุณยายคนขายก็น่ารัก ใจดี เลยซื้อไดฟุกุสตรอเบอร์รี่กับขนมถั่วปั้นมาอย่างละชิ้น ไดฟุกุอร่อยมากมีสามชั้น ชั้นนอกเป็นแป้งโมจินุ่มๆ ชั้นกลางเป็นถั่วแดงหวานบางๆ ชั้นในเป็นสตรอเบอร์รี่อามาโอ ลูกใหญ่เบิ้ม ส่วนขนมถั่วปั้น สวยมาก รสค่อนข้างหวาน ควรทานกับน้ำชาร้อนๆ เข้ากันสุดๆ
ต่อด้วยสตรอเบอร์รี่อามาโอและไวท์สตรอบเอร์รี่เสียบไม้จากร้านที่สำรวจแล้วพบว่าราคาค่อนข้างถูกและน่ากิน (อยู่ในตึกใหม่กลางตลาด)
ปิดท้ายด้วยโฮตาเตะย่างซอส อร่อยแล้มมมม ไม้ละ 200 เยนเองด้วยยยย
ใครมีโอกาสก็แวะไปทานซูชิไดดูสักครั้งนะครับ นานหน่อยแต่ผมว่าก็น่าลองดูซักครั้งนะ ส่วนใครรอไม่ไหว ร้านซูชิในตลาดสึกิจิมีเพียบเลือกดูเอาได้เลยครับ ความสด ความอร่อยก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ เดี๋ยวมีโอกาสครั้งหน้าผมจะลองไปร้านอื่นๆ ดูบ้าง ขอลาและขอขอบคุณที่ติดตามครับ
[CR] ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 6 : ฟินกับซูชิที่แถวยาวสุดๆ Sushi Dai @Tsukiji Fish Market
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 1 : หม่ำซูชิจานเวียนที่ร้าน Magurobito @Asakusa : https://ppantip.com/topic/36403426
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 2 : คาวากุจิโกะ ฟูจิซังอลังการ กับโฮโต @Houtoufudou : https://ppantip.com/topic/36413704
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 3 : Kawaguchiko Living Center - Kawaguchiko Herb Hall - Wind Cave - Sanrokuen : https://ppantip.com/topic/36463445/
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 4 : บุกบุฟเฟต์โรงแรมย่านชินจูกุกับ Super Buffet Glasscourt @ Keio Plaza Hotel : https://ppantip.com/topic/36511684
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 5 : เที่ยวชิบะ หม่ำสตรอเบอร์รี่ @Dragon Farm ทานข้าวหน้าปลาไหล @Kawatoyo Honten : https://ppantip.com/topic/36520232
ต่อจากโพสต์ที่แล้ว วันนี้ เราจะมาพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกร้านซูชิที่มีคิวยาวเฟื้อยที่ตลาดปลาสึกิจิกัน จะได้รู้ว่าเค้ามีอะไรดี คนถึงได้ไปรุมต่อคิวกันได้ทุกวัน ไม่เกี่ยงวันทำงาน ไม่เกี่ยงฤดูกาล ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย
รายละเอียด
Name : Sushi Dai
Price : 2,600-4,000 yen
Recommend Menu : Omakase Course 4,000 yen เพื่อความสะใจ
Location : Tsukiji Fish Market (ฝั่งตลาดด้านในติดท่าเรือ)
Opening Time : 05.00 - 14.00 น.
Website Link : http://www.tsukijigourmet.or.jp/22_sushidai/index.htm
Tabelog Link : https://tabelog.com/en/tokyo/A1313/A131301/13002388/
Comment : ร้านซูชิเจ้าดังในตลาดปลาสึกิจิ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรอคิวที่นานมาก บางคนรอคิวนาน 5 ชม. (OMG) เรามาดูกันว่าทำไมคนถึงขยันมากินกันได้ไม่มีหยุด ทั้งๆ ที่ต้องรอคิวนานขนาดนี้ >> เท่าที่สัมผัสมาเชฟและพนักงานในร้านมีความเป็นกันเอง พูดคุยกับลูกค้า รวมทั้งคอยเอนเตอร์เทนลูกค้าเต็มที่ จะได้ยินเสียงเฮฮาของทั้งเชฟและลูกค้าดังเรื่อยๆ และลูกค้าที่ออกไปมีร้อยยิ้มทุกคน แม้กระทั่งตัวผมเอง และคิดว่ายังไงก็อยากจะกลับมาทานอีกครั้งนะ เพราะรสชาติอร่อยในราคาที่ไม่แพง สนุกที่ได้คุยทั้งกับเชฟและลูกค้าด้วยกัน ก่อนจะกลับก็จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าถ่ายรูปด้วย แบบไม่มีการเร่งลูกค้าให้รู้สึกไม่ดีเลย (กว่าจะได้คิวเลยนานไง)
ต้องลุกขึ้นมาตั้งแต่ 04.30 อาบน้ำ แปรงฟันเรียบร้อยก็รีบไปต่อรถไฟ Tokyo Metro Line ไปลงที่สถานี Tsukijishijo Station (ใกล้กับร้านที่สุดแล้วจ้า)
มาถึงตอน 05.30 ปรากฏว่าคิวก็เริ่มทะลุมาฝั่งข้างตึกแล้ว เอาล่ะมาดูกันว่าเราจะต้องรอนานแค่ ผมมาวันอังคาร มีคนญี่ปุ่นมาต่อแถวทานบ้างเหมือนกันแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทั้งจีน ออสเตรเลีย อเมริกา (รู้จากตอนเชฟถามรายละเอียดลูกค้า)
ระหว่างรอคิวผมก็เล่นเกม Hearthstone ผ่านมือถือไป สักพักคนจัดคิวก็เดินไล่คิวมาถึงผมพร้อมใบเมนูยิ้มๆ แล้วบอกว่า "เล่น Hearthstone ด้วยเหรอ เค้าก็เล่นเหมือนกัน" อ้าว สวัสดี เกมเมอร์ 555
อะแฮ่ม !! เข้าเรื่องๆ ใบเมนูมีให้เราเลือกแค่ 2 แบบคือ
- Full Omakase Course 4,000 yen (เชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนั้นมาทำเป็นซูชิให้ 10 คำ มากิ 1 ที่ และให้เราเลือกซูชิเองเพิ่มอีก 1 คำ จากรายการทั้งหมด)
- Children's Set 2,600 yen (เชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนั้นมาทำเป็นซูชิให้ 7 คำ มากิ 1 ที่)
***หมายเหตุ : ใครไม่ทานปลาดิบ แพ้อาหาร มีอะไรที่ไม่อยากทานหรือทานไม่ได้ สามารถแจ้งล่วงหน้าที่เชฟได้นะเออ (รู้สึกได้รับความเอาใจใส่ >w<)
หลังจากผมแจ้งว่าจะทาน Omakase Set (รอมาเกือบ ชม.) กับท่านเกมเมอร์ผู้จัดคิวไป แกก้เดินกลับไป จากนั้นรออีกไม่นาน ผมก็มาถึงหัวโค้งซะที เค้าเว้นแบบนี้เพื่อไม่ให้บังหน้าร้านกัน แต่สังเกตว่าเช้าๆ ร้านรอบๆ แทบจะไม่มีคิวเลย มันจะมาหนักเอาช่วงสายๆ หน่อยนี่ล่ะ
ในที่สุดหลังจากรอไป เกือบ 2 ชม. ก็ได้เข้ามาซะที (คิดว่าเร็วแล้วเทียบกับหลากหลายประสบการณ์ที่เคยอ่านในพันทิปและจากเพื่อนๆ ที่เคยมาทาน)
ผมนั่งที่ด้านในสุดเลย เชฟที่เตรียมปลาให้เป็นพี่เชฟผู้หญิงครับ น่ารักมาก เค้าจะทักทายเราก่อน แล้วถามเราว่ามาจากประเทศไหน พอบอกมาจากไทย ก็ยกมือ "สวัสดีค่า" อ้ากก >< (คาวาอี้) ส่วนลูกค้าข้างๆ ผมมาจากออสเตรเลียเป็นแม่ลูก เชฟก็คุยได้ไม่มีติดขัด (เชฟคนอื่นๆ ในร้านก็เหมือนกัน เฮฮาปาจิงโกะกันมากๆ) ส่วนกระเป๋าสัมภาระทั้งหลายมีที่วางอยู่ด้านบนข้างหลังเก้าอี้ วางได้ตามสะดวกเลย
บรรยากาศในร้าน 13 ที่นั่งเล็กๆ ดูอบอุ่นมาก
มีประกาศณียบัตรร้านอาหารดีเด่นเยอะเลย
วัตถุดิบ พร้อมมม !!! ขิงดองพร้อม !!!
ชาร้อนพร้อม !!! ซุปพร้อม !!! โชยุพร้อม !!! (วาซาบิจะอยู่ที่ซูชิอยู่แล้วนะเออ)
1. โอโทโร่ (เนื้อส่วนท้องของมากุโร่ ความมันสูง) >> หน้าตาดูดีมาก พอเอาเข้าปากแล้วก็ไม่ผิดหวัง ความมัน ความนุ่ม ความหอม มาเต็ม สะใจดี เป็นคำแรกที่ดีงามจนต้องยกนิ้วให้
2. ทามาโกะยากิ >> ไข่หวานเนื้อเนียน (ร้อนนะจ๊ะระวังลวกปาก) หวานอ่อนๆ จานนี้ธรรมดาๆ
3. ปลาไท (กะพงแดง) >> ทานคู่กับเลมอน เนื้อปลามีกลิ่นเฉพาะ เข้ากับเลมอนที่ช่วยดับคาวและทำให้สดชื่นด้วย
4. ปลาอะจิ >> อันนี้นุ่มหนึบมาก ชิ้นโตเต็มคำ เนื้อปลาหอมอ่อนๆ เป็นอีกคำที่อร่อยมากๆ (หอมซอยน่าจะใส่มาชวยดับคาวเช่นกัน)
5. อูนิ (ไข่หอมเม่น) >> เชฟบอกว่าเป็นหอยเม่นพันธุ์บาฟุน เนื้อครีมมี่ รสชาติหวานละมุน และหอมกลิ่นทะเลสุดๆ ของดีจริงๆ ไม่ต้องไปไกลถึงฮอกไกโด
6. อะคามิ (มากุโระส่วนเนื้อแดง) >> เนื้อสีแดงสดใส มีความชุ่มฉ่ำและสดใหม่ ทานแล้วจะได้รสชาติเนื้อปลาแบบชัดเจนมาก แต่ด้านบนใส่วาซาบิมาช่วยดับคาวแบบพอดีๆ
7. หอยฮกกิ (หอยปีกนกดิบ) >> คำนี้มาแบบสดสุดๆ เพราะหอยยังไม่ตาย ตอนหั่นมายังดิ้นอยู่หน่อยๆ แอบสยิวนิดๆ ตัวหอยจะมีความคาวนิดหน่อย แต่สดและกรอบมาก ใครไม่ชอบอะไรหยึยๆ ก็บอกเชฟได้นะเออ
พักกันด้วยมากิเซ็ต เป็นไส้ผัก มากุโระสับ 2 คำ กับอะไรอีกอย่างไม่แน่ใจ แต่อรอ่ยดี ถึงตอนนี้เริ่มอิ่มละครับ
8. โฮตารุอิกะ (หมึกหิ่งหอย) >> เป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะช่วงนี้ เนื้อเด้ง ไม่เหนียวเลย ไอเหลืองๆ ข้างบนไม่แน่ใจว่าอะไร แต่มันดี เข้ากันมาก
9. ทาชิอุโอะ (ปลาดาบเงิน) >> เนื้อปลาหอมและมัน รสชาติเข้มข้นดี เคี้ยวสนุก
10. ปิดท้ายด้วยอานาโกะ (ปลาไหลทะเล) >> คำนี้ไม่เหมือนกับปลาไหลทะเลที่เคยทาน เนื้อมันออกจะยุ่ยๆ แต่มีความอร่อยมัน อัดแน่นอยู่ด้านใน ถือว่าอร่อยมาก ปิดท้ายได้ดีเลยทีเดียว
11. คำสุดท้ายให้เลือกเอง เชฟจะเอาแผ่นเมนูให้เราเลือกและบอกกับเชฟว่าอยากได้คำไหน ตอนแรกว่าจะเอาโอโทโร่อีกคำ แต่อยากลองอย่างอื่นบ้าง เลยสั่งโฮตาเตะมาแทน เนื้อเด้งมาก กลิ่นเฉพาะของโฮตาเตะหอม ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ครบ 11 คำ อิ่มสบาย ถ้าไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้นะครับ
อันนี้ผมเอาเมนูที่เค้าให้เลือกคำสุดท้ายมาให้ดู พร้อมพยายามแปลเป็นไทยให้ แต่ชื่อไทยบางอันอาจจะแปลกๆ ไปบ้าง ถ้าผิดพลาดยังไงก็ฝากแก้ และก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ
ออกมาแล้วคนก็ไม่ได้ลดลงไปเลย ยาวอย่างต่อเนื่อง
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับซูชิได เวลายังเหลือก่อนจะไปเดินเล่นแถบชิบูย่า เลยเดินหาขนมและของว่างกินต่อ (ไหนบอกอิ่ม ... 5555)
ใกล้ๆ กับซูชิได มีร้านชายไดฟุกุกับขนมถั่วปั้น เป็นรูปต่างๆ น่ารักและไม่แพงด้วย คุณยายคนขายก็น่ารัก ใจดี เลยซื้อไดฟุกุสตรอเบอร์รี่กับขนมถั่วปั้นมาอย่างละชิ้น ไดฟุกุอร่อยมากมีสามชั้น ชั้นนอกเป็นแป้งโมจินุ่มๆ ชั้นกลางเป็นถั่วแดงหวานบางๆ ชั้นในเป็นสตรอเบอร์รี่อามาโอ ลูกใหญ่เบิ้ม ส่วนขนมถั่วปั้น สวยมาก รสค่อนข้างหวาน ควรทานกับน้ำชาร้อนๆ เข้ากันสุดๆ
ต่อด้วยสตรอเบอร์รี่อามาโอและไวท์สตรอบเอร์รี่เสียบไม้จากร้านที่สำรวจแล้วพบว่าราคาค่อนข้างถูกและน่ากิน (อยู่ในตึกใหม่กลางตลาด)
ปิดท้ายด้วยโฮตาเตะย่างซอส อร่อยแล้มมมม ไม้ละ 200 เยนเองด้วยยยย
ใครมีโอกาสก็แวะไปทานซูชิไดดูสักครั้งนะครับ นานหน่อยแต่ผมว่าก็น่าลองดูซักครั้งนะ ส่วนใครรอไม่ไหว ร้านซูชิในตลาดสึกิจิมีเพียบเลือกดูเอาได้เลยครับ ความสด ความอร่อยก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ เดี๋ยวมีโอกาสครั้งหน้าผมจะลองไปร้านอื่นๆ ดูบ้าง ขอลาและขอขอบคุณที่ติดตามครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น