รวมลิงก์ทริปนี้จ้า
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 1 : หม่ำซูชิจานเวียนที่ร้าน Magurobito @Asakusa : https://ppantip.com/topic/36403426
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 2 : คาวากุจิโกะ ฟูจิซังอลังการ กับโฮโต @Houtoufudou : https://ppantip.com/topic/36413704
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 3 : Kawaguchiko Living Center - Kawaguchiko Herb Hall - Wind Cave - Sanrokuen : https://ppantip.com/topic/36463445/
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 5 : เที่ยวชิบะ หม่ำสตรอเบอร์รี่ @Dragon Farm ทานข้าวหน้าปลาไหล @Kawatoyo Honten : https://ppantip.com/topic/36520232
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 6 : ฟินกับซูชิที่แถวยาวสุดๆ Sushi Dai @Tsukiji Fish Market : https://ppantip.com/topic/36563978

เช้านี้ เตรียมตัวเดินทางจากคาวากุจิโกะกลับโตเกียวเพื่อเตรียมเที่ยวต่อกัน


เช้านี้ฟูจิซัง โดนเมฆบังมิดเลย


ก่อนกลับเราก็ขอลองซอฟท์ครีมที่พลาดเมื่อวานดูซะหน่อย
"Soft Cream Blue Rose" ตอนแรกสารภาพว่ามีแอบกังวลว่าจะไม่อร่อย แต่พอได้ชิมคำแรกก็หายห่วง กลิ่นกุหลาบไม่ได้แรงแบบหัวน้ำหอม แต่จะหอมกลิ่นกุหลาบแบบอ่อนๆ เนื้อครีมเนียน เหมาะกับการค่อยๆ ละเลียดชิมอย่างยิ่ง ราคาไม่แพงด้วยนะเออ


รอรถบัสขากลับจ้า จุดจอดรถกลับชินจูกุ อยู่หน้าทางออกสถานีคาวากุจิโกะฝั่งซ้ายเลย เตรียมตั๋วให้พร้อม แล้วเช็คคันรถดีๆ นะ เดี๋ยวขึ้นผิดคัน ทางที่ดีถามพี่หนักงานรถก่อนขึ้นเพื่อความชัวร์อีกทีก็ดีนะเออ


รถบัสขากลับของเราเป็นรถบัสลายรถไฟโทมัสด้วยอะ สีสันสดใสม๊าก มาก นั่งแปปเดียวรู้ตัวอีกทีก็ถึงสถานีรถบัสชินจูกุแล้ว


สวัสดีก็อตซิล่าคุง เจอกันอีกแล้วนะเออ หลังจากเราเอากระเป๋าไปฝากที่พักเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงซึ่งวันนี้เราจะพาไปลองดูบุฟเฟต์โรงแรมชื่อดังที่เคยออกรายการทีวีในญี่ปุ่นในฐานะร้านบุฟเฟต์ที่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นอยากจะมาทานมากที่สุดมาแล้ว เป็นบุฟเฟต์นานาชาติที่มีอาหารหลากหลาย ราคาไม่แพงมากอยู่ในช่วง 3,000-6,600 เยน แล้วแต่ช่วงวันและเวลา ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย


จากสถานีชินจูกุ ถ้าไม่อยากเดินไกล สามารถนั่งรถไฟสาย Toei-Oedo Line แค่หนึ่งสถานีไปลงสถานี Tochomae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร แต่ถ้าใครชิวๆ ก็เดินจากสถานีชินจูกุไปเลยก็ได้ ประมาณ 850 เมตร เดินสบายๆ แปปเดียวก็ถึงหน้าโรงแรมแล้ว


ร้าน Glass Court อยู่ชั้นแรก ใกล้ๆ กับประตูเลย ถ้ามาช่วงวันหยุด แนะนำให้โทรจองหรือมาเร็วหน่อยนะครับ เพราะเต็มเร็วพอสมควร


รายละเอียด
Name : Super Buffet Glasscourt @ Keio Plaza Hotel
Price : 3,000-6,600 yen (แล้วแต่วันและเวลาที่เราไป weekend ราคาจะแพงกว่า weekday และราคามื้อเย็นจะแพงที่สุด แต่อาหารก็เยอะที่สุดเช่นกัน)
Recommend Menu : International Buffet (Breakfast / Lunch / Dinner)
Location : ห่างจากสถานีชินจูกุประมาณ 850 เมตร ร้านอยู่ในโรงแรม Keio Plaza Hotel ชั้น 2F ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับประตูทางเข้าจากหน้าโรงแรมเลย
Opening Time : 6.00 - 22.00 น. (เปิดเป็นช่วงเวลา มื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น)
Tabelog Link : https://tabelog.com/en/tokyo/A1304/A130401/13000772/
ลิงก์คลิปในรายการโกโกริโกะ : https://www.youtube.com/watch?v=6HAb7bRaQTc (ร้านสุดท้ายเลย 1.30.30)
Comment : ห้องอาหารนานาชาติในโรงแรมหรูกลางกรุงโตเกียว มีอาหารหลากหลายหมุนเวียนไปตามฤดูกาล อาหารบางชนิดก็ไม่เคยเห็นมาก่อน บางอย่างรสชาติก็อร่อยเหลือเชื่อ แม้หน้าตาจะดูธรรมด๊า ธรรมดา แต่บางเมนูก็รสชาติประหลาดไปเลยก็มี แถมยังมี Live Kitchen คอยให้บริการเมนูพิเศษ เช่น เนื้ออบ พาสตาคลุกชีส และฟัวกราส์ ในบุฟเฟต์เครื่องดื่มจะมีแค่น้ำเปล่า แต่สามารถสั่งไวน์หรือเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มได้นะ มีเวลาในการทานอาหารได้เต็มที่ ไม่จำกัดเวลาตราบเท่าที่ยังอยู่ในช่วงบุฟเฟต์ ดีงาม


ราคาบุฟเฟต์แต่ละช่วงวันและเวลาจ้า ซึ่งในช่วงเวลาที่ผมมาคือ Weekday ช่วงมื้อเที่ยง ราคา 3,600 เยน


หลังจากรอคอยพักใหญ่เพราะมาสายไปหน่อยเลยต้องรอนิดนึง สุดท้ายก็ได้ทาน ลูกค้าในร้านมีทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ พนักงานบริการค่อนข้างโอเคเลย เอาล่ะ ไปลองดูไลน์อาหารกันเถอะ


เริ่มจาก Live Kitchen มาถึงก็ประเดิมด้วยเมนูเด็ด เนื้ออบที่ดูฉ่ำสุดๆ พร้อมซอสหลากหลาย ทานสลับกันได้ไม่เบื่อ เชฟจะเป็นคนแล่ใส่จานให้เราตามสั่งเลย ซึ่งหลังจากได้ลองชิมจานแรก ผมก็แวะกลับไปทุกครั้งที่ลุกไปตักอย่างอื่นเพิ่มเลยทีเดียว เนื้อมีความฉ่ำและนุ่มมาก ไม่เลี่ยนเลย


ต่อด้วยพาสต้าคลุกชีสราดด้วยซอสหัวหอมและหอยอาซาริ ตอนเชฟคลุกเส้นในไหชีสนี่ดูนัวมาก หลังจากลองชิม เส้นพาสต้าหอมชีสมาก ตัวซอสก็ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี


เมนูนี้หน้าตาธรรมดามากๆ เป็นมันฝรั่งหัวเล็กๆ หั่นครึ่งผัดกับไส้กรอก แต่ขอบอกว่าอร่อยเหลือเชื่อ มันฝรั่งหวานมาก หวานแบบไม่ได้มาจากน้ำตาล แต่เป็นความหวานจากมันฝรั่ง ทานกับไส้กรอกเนื้อแน่นหนังกรอบแล้วฟินสุดๆ ตักรัวๆ เลยจ้า


จานนี้หมูอบชีสกับมิโสะ เนื้อหมูนุ่มดี ชีสก็อร่อย แต่แอบเลี่ยนไปนิดนึง อาจจะเพราะผมไม่ทานผักด้วยแหละนะ


อันนี้เป็นหอยแมลงภู่หมัก รสชาติค่อนข้างเค็มไปนิด อันนี้ไม่ค่อยถูกปาก


จานนี้หน้าตาดูเละๆ แต่เป็นอีกจานที่อร่อย เป็นฟักทอง เบคอนและเมเปิลไซรัป ดูแล้วไร้ซึ่งความเข้ากันโดยสิ้นเชิง แต่รสชาติออกมาใช้ได้เลย เนื้อฟักทองนุ่มหวาน เบคอนเสริมรสเค็ม เมเปิลไซรัปก็ไม่ได้ใส่เยอะจนหวานเกินไป เป็นเหมือนของคาวกึ่งของหวานยังไงไม่รู้ แต่รสชาติจัดว่าดีเลยแหละ


จานด้านบนนี้เป็นอาหารสุขภาพทำจากธัญพืชที่เรียกว่า Spelt คลุกกับกุ้งจิ๋วและซอส Vinegar (Spelt คนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้น มันเป็นธัญพืชกลุ่มเดียวกับข้าวสาลีและมีประวัติค่อนข้างเก่าแก่ทีเดียว ในปัจจุบันนิยมนำแป้งจาก Spelt มาใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสุขภาพ เพราะมีสารอาหารสูงกว่าในแป้งข้าวสาลี) เนื้อสัมผัสของ Spelt ค่อนข้างแน่นหนึบเคี้ยวมัน ส่วนกุ้งแม้จะตัวจิ๋วแต่สดกรอบ น้ำส้มที่ผสมกกันมาก็ทำให้ทานง่าย นอกจากเป็นเมนูสุขภาพแล้ว ยังช่วยลดความเลี่ยนจากจานอื่นๆ ด้วย ทางด้านไข่ต้มด้านล่าง เป็นไข่ต้ม (แบบยางมะตูมหน่อยๆ) ด้านบนเป็นมูสจากพืชพวกถั่ว เรียกว่า Hummus เป็นอาหารพื้นเมืองอินเดีย นี่ก็เป็นอาหารสุขภาพอีกเช่นกัน สองเมนูนี้สาบานว่าไม่เคยกินจากที่ไหนมาก่อนเลยจริงๆ


ของทอด ดูธรรมดาๆ มีปลา กุ้ง ไก่ ไส้กรอก แต่ซอสให้จิ้มมีหลากหลายกว่าที่เคยเจอ พอลองชิมแล้ว แป้งกรอบใช้ได้ วัตถุดิบโอเค แต่มันก็ธรรมดาอยู่ดี เลยไม่ได้ตักมาเพิ่ม


ต่อด้วยเมนูแกงกะหรี่สูตรพิเศษของโรงแรม ซึ่งจากที่ลองทานแล้วผมนึกถึงแกงกะหรี่เจ้าดังแถวเยาวราช จะบอกว่ารสชาติคล้ายกันมาก ตัวแกงกะหรี่มีความจัดจ้าน ไม่เลี่ยนเหมือนแกงกะหรี่ทั่วไป แถมในแกงก็มีเนื้อชิ้นพอดีคำมากมาย ทานคู่กับแผ่นขนมปัง ฟินสุดบรรยาย : P


จานแล้ว จานเล่า ผ่านไป มีเมนูแปลกๆ อีกมากมายที่ผมไม่คุ้นเคย เช่น ปลาหมึกยักษ์นึ่งราดซอสสตรอเบอร์รี่ หรือ มูสมังสวิรัติที่ใช้ผักผสมกับธัญพืช เรียกได้ว่ามีความหลากหลายสูงมากจริงๆ


มีชีสให้ชิมด้วยนะ จะ Bries Cheese, Mozzarella Cheese, Blue Cheese มีทั้งนั้น โดยเฉพาะ Blue Cheese นี่กลิ่นแรงสะใจมาก XD


ผลไม้มีให้เลือกพอสมควร เป็นพวก ส้มโอ เกรปฟรุต กีวี สับปะรด และที่ผมชอบที่สุด เมลอน นั่นเองงงง


ขนมหวานเองก็มีไม่น้อยเลยเช่นกัน ขอสารภาพว่าถ่ายมาไม่ครบเพราะมัวแต่กินครับ > 3 <


ไอศกรีมที่นี่มีรสเห็ดด้วยนะ อีกอันเป็นรสนม แต่หวานเกิ๊นนนนน


อีกอันเป็น Kiwi Sorbet และ Strawberry Sherbet ( แอบบอกความต่างนิดนึง Sherbet จะต่างกับ Sorbet ตรงที่ Sherbet เป็นไอศกรีมที่ทำจากเนื้อ-น้ำผลไม้ผสมกับสวนผสมอื่นๆ เช่น นม ไข่ขาว หรือเจลาติน ขณะที่ Sorbet จะใช้ เนื้อหรือน้ำผลไม้ชนิดนั้นๆ 100% โดยไม่ผสมส่วนผสมอย่างอื่นเลย แต่เอาจริงๆ ผมก็แยกไม่ค่อยออกหรอกครับ = w ='')


ปิดท้ายก่อนกลับอีกจาน ฉ่ำสิมิหลาาาาาาา


ค่าเสียหายครับ ใครที่พักโรงแรม Keio Plaza ถ้ามาทานจะมีส่วนลดด้วยนะครับ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ เดี๋ยวขอเวลาอีกสักพักจะลงวันต่อไปอีกจนครบทริปนะครับ ; P