ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 2 : คาวากุจิโกะ ฟูจิซังอลังการ กับโฮโต อาหารพื้นเมืองยามานาชิ @Houtoufudou

รวมลิงก์ทริปนี้จ้า
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 1 : หม่ำซูชิจานเวียนที่ร้าน Magurobito @Asakusa : https://ppantip.com/topic/36403426
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 3 : Kawaguchiko Living Center - Kawaguchiko Herb Hall - Wind Cave - Sanrokuen : https://ppantip.com/topic/36463445/
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 4 : บุกบุฟเฟต์โรงแรมย่านชินจูกุกับ Super Buffet Glasscourt @ Keio Plaza Hotel : https://ppantip.com/topic/36511684
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 5 : เที่ยวชิบะ หม่ำสตรอเบอร์รี่ @Dragon Farm ทานข้าวหน้าปลาไหล @Kawatoyo Honten : https://ppantip.com/topic/36520232
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 6 : ฟินกับซูชิที่แถวยาวสุดๆ Sushi Dai @Tsukiji Fish Market : https://ppantip.com/topic/36563978

ตื่นแต่เช้าเพื่อเช็คเอาท์ เตรียมตัวเดินทางต่อไปที่คาวากุจิโกะในวันนี้ โดยก่อนอื่นก็ต้องท้องอิ่มก่อน จะหาร้านอาหารเวลานี้ ย่านนี้ก็คงมีแต่ร้านที่เปิดแบบ 24 ชม. เราเลยหนีมาฝากท้องกันที่ร้าน Matsuya ร้านข้าวหน้าเนื้อคู่แข่ง Yoshinoya นั่นเอง


มาแล้ววววว ราคา 380 เยน สั่งไข่ลวกแยก อีก 60 เยน ถูกประหยัด ประทับใจ เรื่องรสชาติส่วนตัว คิดว่ามันไม่ต่างกันมากนะ ถึงจะถูกแต่อร่อยนะเออ


เมื่อเวลาใกล้ 7.00 น. ผมก็มาถึงสถานี JR Shinjuku ตามแผนที่ผมต้องออกไป South Exit (ถ้าไปออกผิดประตูนี่เดินยาวเลยนะ) เพื่อไป Bus Station ที่อยู่ตึกตรงข้ามกับ JR Shinjuku กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 4

โดยผมจองตั๋วล่วงหน้ากับ Keio Bus ไว้แล้วตามเวปไซต์ http://highway-buses.jp/ พอเข้าไปถึงก็ส่งเอกสารการจองที่ปรินท์ไว้ให้กับพนักงานที่เคาท์เตอร์เลย เค้าก็จะออกตั๋วมาให้ตามวันเวลาที่เราจอง ทีนี้ก็แค่รอรอบรถบัสตามป้ายที่ประตูครับ


ตั๋วผมขาออกคือใบขวานะครับ รหัสเที่ยวรถคือ 1403 รถคันที่ 1 หมายเลขที่นั่ง 02B คือริมทางเดิน


มาดูที่ป้ายหน้าประตูทางออกไปขึ้นรถกันบ้าง จริงๆ พนักงานออกตั๋วจะแจ้งเราว่าให้รอที่ประตูไหน พอมาถึงก็ให้เราเช็ครหัสอีกที เที่ยวรถผมอยู่ประตู B6 แถวที่ 2 พอพ้นเจ็ดโมงไปนิดเดียว คนมาออกันเยอะมาก


การเดินทางใช้เวลาจริงๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าขับรถเองอาจจะแค่ประมาณ ชั่วโมงนิดๆ


และแล้วรถจองเราก็มาถึงงงงงงง พนักงานจะคอยประกาศเรียกผุ้โดยสารเรื่อยจนถึงเวลารถออก ล้ิก็จะหมุนทันที ตรงเวลายิ่งนัก


นี่คือตึก Bus Station จ้า


หลังจากชมวิวริมทางสักพัก กดมือถือหาร้านอาหารที่จะทานในแถบคาวากุจิโกะ ได้ยินเสียงวุ้ว ว้าวของคนที่นั่งด้านหลัง เงยหน้าขึ้นมาก็จ๊ะเอ๋กับฟูจิซังเลย เอาตรงๆ เลยนะ รู้สึกอลังการมาก สวยมากอะ
ปล. ขอออกตัวก่อนว่าผมถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งนะครับ แถมใช้กล้องไอโฟน SE ธรรมดาๆ นี่แหละถ่ายมา พึงพิจารณาได้เลย ว่าของจริงสวยกว่าในรูปมาก เค้าล้อเล่น


และแล้วก็มาถึงสถานี JR Kawaguchiko Station มีแบ็คกราวเป็นฟูจิซัง พอลงมาก็รู้เลยว่าต้องเตรียมรับศึกต่อคิวมหาโหดเข้าไปซื้อตั๋ว Retro Bus อีกต่อ พูดถึง Retro Bus ก็คือรถบัสที่จะวิ่งวนรอบทะเลสาบในแถบนี้และวนกลับมาที่สถานีคาวากุจิโกะ โดยจะแบ่งเป็น 3 สาย ตามแผนที่ด้านล่างเลยครับ

http://bus-en.fujikyu.co.jp/pdf/heritagetour/routemap_retro_omni.pdf
Credit : http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/

Red Line จะวิ่งแถบทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Lake) เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุดเพราะผ่านหลายจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายจุด เช่น Kachi Kachi Ropeway / จุดขึ้นเรือสำหรับชมรอบทะเลสาบ / จุดถ่ายรูปฟูจิซังสวยๆ / จุดชมดอกซากุระ / แหล่งช็อปปิ้งและร้านขนม จึงเป็นสายยอดฮิตที่คนรอขึ้นเพียบ

Green Line จะวิ่งผ่านทะเลสาบคาวากุจิโกะ เลยยาวไปถึงทะเลสาบไซโกะ (Saiko Lake) และแหล่งท่องเที่ยวรอบๆ เช่นถ้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Wind Cave / Bat Cave / Lava Cave รวมทั้งผ่านป่า Aokigahara Forest หรืออีกหลายๆ ชื่อ เช่นทะเลป่า ป่าอาถรรพ์ ป่าฆ่าตัวตาย ด้วยสาเหตุว่าป่าแห่งนี้เป็นป่าที่ในอดีตมีคนญี่ปุ่นคิดสั้นมาฆ่าตัวตายที่นี่กันเยอะจนต้องมีการปักป้ายรณรงค์ให้คนรักชีวิตในหลายๆ จุดในป่า แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวลดลงไปมากแล้ว

Blue Line จะวิ่งผ่านทะเลสาบคาวากุจิโกะ ผ่านทะเลสาบ โชจิโกะ (Shojiko) ไปสุดที่ทะเลสาบโมโตซูโกะ (Motosuko lake) ซึ่ง Retro Bus สายนี้ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่อยากไปทัศนาทะเลสาบโซนนั้นอยู่พอสมควร

ตอนผมไปถึงแถว Red Line คนท่วมมาก แต่ Green Line และ Blue Line นี่โล่งเลย


ผมหาข้อมูลมาคร่าวๆ แล้ว สำหรับผมที่มาครั้งแรกอยากลองขึ้นทั้งกระเช้าไปส่องวิวบนภูเขา Kachi Kachi แล้วก็อยากลองล่องเรือด้วยจะมีตั๋วพิเศษชนิดนึงที่เข้าทางพอดีคือ "R-Coupon" ซึ่งจะเป็นตั๋วสำหรับเดินทางด้วย Retro Bus Red Line และ Green Line ได้ภายในสองวัน พ่วงด้วยสิทธิ์การขึ้นกระเช้าและล่องเรืออย่างละหนึ่งครั้ง ในราคาที่ถูกกว่ากันนิดหน่อย แต่ประเด็นคือไม่ต้องรอคิวซื้อตั๋วที่หน้าทางขึ้นกระเช้าหรือจุดท่าเรือ ซึ่งในยามที่คนเยอๆ แล้วมันจะสะดวกมากราวกับมี Fast Pass ในสวนสนุกเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปซื้อกัน ราคาอยู่ที่ 2,360 yen จะได้ตั๋วมาสามใบ รักษาไว้ให้ดี ส่วนเพื่อนๆ ที่ไม่อยากขึ้นกระเช้า หรือมีแผนการเที่ยวแบบอื่น ค่อยๆ ลองศึกษาดูนะครับ เอาตามที่เราชอบและอยากไปเลย แต่กะเวลาดีๆ นา Retro Bus แต่ละคันไม่ได้มาถี่ๆ บางจุดรอครึ่ง ชม. เลยก็มี แล้วก็อย่าเที่ยวเพลินจนพลาดรถรอบสุดท้ายล่ะ เดี๋ยวงานงอก


และแล้วก็ได้ขึ้นรถ Retro Bus สาย Red Line ซะที คนแน่นใช้ได้ ก่อนลงค่อยแสดงตั๋วเบ่งของเรา ถ้าไม่ตั๋วก็ต้องจ่ายเป็นเงินเยนตามระยะทางซึ่งเสียเวลามาก และทำให้คนข้างหลังต้องรอด้วย ผมว่าซื้อบัตรวันสะดวกสุดละ


แพลนแรกผมตั้งใจจะไปชมเทศกาลชิบะซากุระ หรือดอก Pink Moss ซึ่งจะบานช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมพอดี แต่ผมดันมาเร็วไปดอกมันยังบานไม่เต็มที่ (เช็คข้อมูลได้ที่ Information Center เค้าจะมีภาพ ณ ปัจจุบันที่ทุ่งชิบะซากุระให้ดูแบบ Real time เลย) ผมเลยไม่ไป เพราะต้องเสียค่ารถรวมค่าเข้าไปกลับประมาณ 2,000 เยนด้วย ไว้โอกาสหน้าค่อยไปละกันนะ สำหรับใครที่สนใจข้อมูลดูตามลิงก์ด้านล่างเลยจ้า

http://www.shibazakura.jp/thai/

เอาล่ะ และแล้วก็ถึง Kachi kachi Ropeway ซะที บนรถบัสจะประกาศชื่อป้ายนี้ว่า Ropeway Iriguchi แปลว่า "ทางเข้า Ropeway" ซึ่งที่ป้ายนี้สามารถไปได้ทั้ง Ropeway และจุดล่องเรือ สำหรับผมไป Ropeway ก่อนดีกว่า กลัวคนเยอะ พอมาถึงปรากฏว่าคนไม่เยอะเท่าไหร่


รอไม่นานก็ได้ขึ้น วิวจากบนกระเช้าฝั่งนึงเป็นวิวภูเขา (จะเห็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มขึ้นกระเช้าสวนลงมาด้วย) อีกฝั่งเป็นฝั่งทะเลสาบวิวสวยมากกก


พอขึ้นมาถึงก็เจอทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือฟ้าเปิด ฟูจิซังสวยมาก ส่วนข่าวร้ายคือ คาเฟ่ข้างบนปิดปรับปรุงชั่วคราว เลยเห็นแต่ไซส์ก่อนสร้างกับพี่กระต่ายที่กำลังตึ้บทานูกิตามนิทานของภูเข้าคาชิคาชิแห่งนี้


เดินชมวิว ถ่ายภาพสักพักก็เริ่มหนาว ขนาดเดือน 4 แถมใส่เสื้อกันหนาวซะหนาแล้วนะ แต่ขอบอกเลยว่าวิวดีมากๆ ครับ ไว้มีโอกาสมาอีกแน่ๆ สวยมากจริงๆ


ข้างล่างมีดังโงะขาย มีซอสเค็มหวานราด แต่บอกเลยว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ แป้งมันก็เหนียวนุ่มดี แต่ซอสนี่เค็มหวานจัดเต็มมาก แถมผมไม่มีน้ำติดตัวมาด้วยเลยต้องบึ่งไป Minimart ใกล้ๆ เพราะที่ร้านเค้าก็ไม่มีน้ำขายเหมือนกัน เลยได้น้ำดื่มฟูจิซังมาซดแก้กระหาย แอบแพงนะ จริงๆ ซื้อตู้กดข้างนอกถูกกว่า


เดินชมวิวรอบทะเลสาบแปปนึงก่อน เดี๋ยวเราไปขึ้นเรือกันต่อใกล้ๆ กันนี่แล แต่แหม ถ้ามาเป็นคู่ เรือเป็ดนี่ก็น่าถีบไม่หยอกนะ ได้บรรยากาศสุดๆ แต่เสียใจเพราะไม่มีคู่ 5555


เอาล่ะ มาถึงท่าเรือสำหรับล่องทะเลสาบคาวากุจิโกะแล้ว มาแทบจะเป็นคนสุดท้ายของเที่ยวเลย คนเยอะมาก


แรกๆ ก็ปล่อยให้เรือแล่นไปรับลมเย็นๆ ดูน้ำใสๆ


แต่พอเรือเริ่มเลี้ยวปุป ก็จำเป็นต้องยกกล้องขึ้นถ่ายรูปฟูจิซังอีกแล้ว
คุณลุงที่ดูแลบนเรือเห็นผมถ่ายวิวรัวๆ แกเลยอาสาบอกเดี๋ยวแกช่วยถ่ายผมกับฟูจิซังให้ด้วย น่ารักอ่ะ


ชั้นบนของเรือก็มีที่นั่งนะครับ คนเยอะหน่อย บอกเลยว่าข้างบนอากาศดีมากกกกก

พอถ่ายรูปจนพอใจก็ถึงเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศครับ อากาศดีมาก เย็นสบายสุดๆ เดี๋ยวดึกๆ ผมมาลงครึ่งหลังที่ไป Kawaguchiko Music Forest กับ Houtoufudou ให้นะครับ ขอแวะไปหม่ำๆ ก่อน = w =
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่