เพิ่งกลับจากทริปสิงคโปร์ 31 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2560 รอบนี้ เป็นรอบที่ 3 ที่มาเที่ยวสิงคโปร์แล้ว ก็เลยอยากจะเล่าถึงร้านหลักซา ที่ศูนย์อาหารฮองลิม ชื่อร้านก็คือ Famous Sungei Road Trishaw Laksa ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับรางวัล มิชลิน บิบ กูร์มอง (Bib Gourmand) ปี 2016 ของสิงคโปร์
Famous Sungei Road Trishaw Laksa เป็นร้านขายหลักซา หลักซา ก็คือก๋วยเตี๋ยวแกง ตัวเส้นก็จะเป็นเส้นคล้าย ๆ สปาเก็ตตี้ หรือเส้นขนมจีนบ้านเรา กลม ๆ ลื่น ๆ ราดด้วยแกงกะทิ รสเผ็ดนิดหน่อย
นอกจากนี้ ก็ยังมีน้ำพริก (ที่เรียกว่าซัมบอล น่าจะผสมกะปิ เพราะกลิ่นกะปิ แรงเตะจมูกเลย) กับพริกแห้งคั่ว ให้มาเพิ่มความแซ่บ แต่รสชาดความเผ็ดไม่มาก
พอผสมเครื่องปรุงลับทั้ง 2 อย่างลงในชามหลักซาแล้ว กลิ่นจะหอมขึ้นมาก กลิ่นหอมรวม ๆ จากทั้งกะปิ พริก และเครื่องปรุงอื่น ๆ หอมเตะจมูกขึ้นมาทันที
เมนูแนะนำ Famous Sungei Road Trishaw Laksa
เมนูแนะนำจากมิชลิน มี 3 เมนูด้วยกัน ทั้ง 3 เมนู ตัวท็อป ทั้ง 3 เมนู ราคาอยู่ที่ 8 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 200 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ปี 2017) เมนูทั้ง 3 เมนูแนะนำ ได้แก่
1. Asia Delight Laksa (หลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเล ต้นตำรับดั้งเดิม)
2. Fruit Juice Mee Siam (เส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม)
3. Mee Rebus (เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง)
Asia Delight Laksa (หลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเล ต้นตำรับดั้งเดิม)
เมนูแรก เป็นหลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเลจัดเต็ม ชุดใหญ่ไฟกระพริบ (Asia Delight Laksa)
อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า หลักซา เป็นก๋วยเตี๋ยวแกง เส้นกลมสีขาว ราดน้ำซุปที่ทำจากน้ำกะทิ มาพร้อมเครื่องทะเลเป็นหลัก ทั้งกุ้งตัวโตสด ๆ เนื้อแน่น ที่ต้มมาได้ที่ จนเนื้อนุ่ม หอมอร่อย เข้ากันดีกับรสแกง ไม่เผ็ดมาก
นอกจากกุ้งตัวโตแล้ว ก็ยังอัดแน่นไปด้วยกุ้งตัวเล็ก ๆ ผ่าซีก หอยทะเลอบแห้ง และลูกชิ้นฮื่อก้วยหั่นเป็นเส้น บวกกับเต้าหู้ทอดหั่นเส้น และถั่วงอกอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุด คือตัวแกง
ตัวแกงของ Famous Sungei Road Trishaw Laksa เป็นแกงกะทิ ที่ไม่ได้ต้มกะทิจนแตกมัน ทำให้ซดได้คล่องคอ จนหมดชาม เกลี้ยงจนหยดสุดท้าย
นอกจากน้ำซุปที่อร่อย หอมกะทิ หวานและมันแล้ว ยังได้ความหอมจากน้ำพริกที่ให้มาเพิ่มความหอมทั้งกะปิ และพริกคั่วป่น กลิ่นหอมรุนแรง และรสชาดอร่อยรุนแรงมาก
เห็นพริกแบบนั้น ตอนแรกนึกว่าจะเผ็ด แต่ไม่เผ็ดเลย เพราะผมกินเผ็ดไม่ค่อยได้ เลเว่วเริ่มต้น ยังซดเกลี้ยงจนหมดขาม เหลือแต่เปลือกกุ้ง
เรียกว่า เป็นเมนูที่มาถึงร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa แล้ว ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
Fruit Juice Mee Siam (เส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม)
เมนูต่อมากันเลย เป็นเส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโตและสดมาก เนื้อแน่น ไม่เละ ต้มมาพอพอดีกิน เลยทำให้เนื้อนุ่ม หอมอร่อยมากมาก
เมนูเส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต ใส่เนื้อไก่ และไข่ต้ม เมนูนี้ ใช้เส้นหมี่ขาวบี๋ฮุ่น ราดน้ำซุปต้มยำออกหวาน ๆ คล้าย ๆ ต้มยำกุ้งบ้านเรา แต่ไม่แซ่บ ไม่เผ็ดจัดจ้านเท่าบ้านเรา พูดง่าย ๆ ออกหวานนำ เปรี้ยวตาม เค็มไม่มาก ไม่เผ็ดเลย
ส่วนเครื่องก็ยังคงเป็นกุ้งตัวโต เป็นพระเอกของเมนูนี้ มีเนื้อไก่ กับไข่ต้ม เป็นนางเอกช่วยเสริมรส และถั่วงอก เป็นตัวประกอบ อีกนิดหน่อย
นอกจากนี้ ยังให้มะนาวลูกเล็ก ที่คล้ายผลส้มมากกว่า กลิ่นออกส้ม ๆ รสเปรี้ยวทู่ ๆ ไม่ได้เปรี้ยวแหลม อย่างมะนาวบ้านเรา แถมเม็ดเยอะมากอีกต่างหาก มาให้ปรุงรสให้ออกรสเปรี้ยวตามชอบอีกด้วย
เมนูที่ 2 นี้จะแตกต่างจากเมนูแรก ที่จะให้เครื่องปรุงเป็นพริกป่น กับพริกเผาซัมบอล ที่มีกลิ่นกะปิแรง ๆ แต่สำหรับเมนูนี้ จะให้เครื่องปรุงเป็นน้ำพริกเผา รสไม่ได้เผ็ดมาก แต่มีกลิ่นถั่ว ๆ บดผสมอยู่ในน้ำพริก กลิ่นถั่วบดค่อนข้างแรงเตะจมูก
พอผสมลงในชามต้มยำ เลยทำให้นึกถึงต้มยำสุโขทัยขึ้นมาในใจทันที ที่ออกรสหวานนำ และมีกลิ่นถั่วบดผสมอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก
ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ที่ร้านจะมีเครื่องพริก ที่เป็นเครื่องปรุง อยู่ 3 อย่าง เป็นอาวุธลับ ที่เลือกใช้ให้เข้าและเหมาะกับแต่ละเมนู ที่แตกต่างกันไป โดนเต็ม ๆ
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่มาถึงแล้ว ไม่ควรพลาด
Mee Rebus (เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง)
มาถึงเมนูที่ 3 เมนูสุดท้าย ปิดท้ายกันด้วย เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง (Mee Rebus) เมนูนี้ แปลกและแตกต่างจาก 2 เมนูแรก
เป็นเส้นยากิโซบะราดหน้า โดยน้ำราดหน้าเหนียว ๆ ทำจากมันฝรั่ง ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กินบะหมี่ คือเป็นเส้นบะหมี่ ที่ใช้เอามาผัดหมี่เจ หรือทำยากิโซบะแบบนั้น แต่อารมณ์คล้าย ๆ ราดน้ำราดข้าวหมูแดง รสสัมผัสจะคล้าย ๆ แบบนั้น ไม่เหมือนกินราดหน้าบ้านเรา แต่ตัวน้ำราด จะมีความพิเศษตรงที่มีส่วนผสมของมันฝรั่ง
ตัวเครื่องก็ยังคงเป็นกุ้งตัวโต สดและเนื้อแน่น แต่ปรุงมาพอดีกิน ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ให้รสหอม หวาน อร่อย เข้ากับตัวเส้นหมี่เหลือง
แล้วก็ยังมีเนื้อไก่ ที่ขึ้นเนื้อจากเนื้อน่องที่ต้มมาอร่อย เนื้อนุ่มกำลังดี มีไข่ต้ม และมะนาวลูกเล็กที่คล้ายผลส้มลูกเล็ก ที่มีเม็ดเยอะมากเหมือนเมนูที่แล้ว
เมนูนี้ กิน ๆ ไป ก็แอบมีเลี่ยนอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นความชาญฉลาดของคนที่คิดเมนู ที่หั่นพริกแดง เม็ดโตมาให้กินคู่กัน แก้เลี่ยน รสเผ็ดนิดหน่อย ไม่มาก ผมเข้าใจว่า น่าจะดองในน้ำส้มมาแล้วนะ กินตัดรสเลี่ยนได้ดีและรสชาดเข้ากันมาก ๆ
แล้วก็ยังมีผักชี ที่หั่นมาให้เคี้ยวกินตามเข้าไป กลิ่นและรสหอม และเข้ากันไม่ขัดเขินเลย
เมนูสุดท้ายนี้ ก็ยังคงกินกับเครื่องพริกเผาที่กินกับต้มยำกุ้ง เมนูก่อนหน้า พอใส่พริกเผาที่ว่าลงไป ก็ทำให้ตัวราดหน้า มีกลิ่นถั่ว ๆ ขึ้นมาทันที
เรียกว่าผสมผสานกันลงตัวมาก ๆ ถ้าแวะมาแถวนี้ ก็ถือเป็นอีกเมนูที่แนะนำเหมือนกัน
การเดินทางมา Famous Sungei Road Trishaw Laksa
Famous Sungei Road Trishaw Laksa ตั้งอยู่ในตลาดและศูนย์อาหารฮองลิม (Hong Lim Market & Food Centre) เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ 11 โมงครึ่งถึงบ่าย 4 ครึ่ง แนะนำว่า ควรมาแต่เช้า เพราะร้านเปิด คนรอคิวยาวมาก ยิ่งเป็นช่วงเที่ยงวัน มีพนักงานตามบริษัทมาเข้าคิว รอกินยาวมากมาก
วิธีการก็มา MRT รถไฟฟ้า ขึ้นที่สถานี Chinatown ทางออก E เดินตามป้าย Hong Lim Complex ทางออก E
ขึ้นบันไดเลื่อนจนสุดบันไดเลื่อน เดินตามป้าย Hong Lim Complex Exit E ต่อไป จนเห็นทางเข้า MRT Downtown Line ให้เลี้ยวขวามือ เข้า MRT Donwtown Line
จากนั้นเลี้ยวซ้าย มองหาป้าย Chinatown Point ให้ขึ้นบันไดเลื่อนจนเข้าไปใน Shopping Centre ให้ขึ้นบันไดเลื่อนแรกไป คนจะเยอะมาก
สุดบันไดเลื่อน ให้เดินตรงไป จะมีบันไดเลื่อนแบบสายพานยาว ๆ อีกตัว เดินตามบันไดเลื่อนแบบสายพานตัวที่ 2 นี้ไปจนสุดสายพาน หันหลังกลับ มองหาทางออก
ออกจากทางออก ก็จะเจอตัวตึกที่เป็นตลาดและศูนย์อาหารฮองลิมแล้ว ตามหาความอร่อยได้ไม่ยาก
เจ้าของร้านอัธยาศัยดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง แนะนำอาหาร แล้วยังคุยอีกด้วยนะว่า ที่เมืองไทย แกดังเป็นพลุแตก ดังมากอีกด้วย (คือผมเข้าใจเองว่า รายการจากเมืองไทย คงมาถ่ายแกเยอะอยู่)
แถมยังเอาใจใส่ถามตลอดว่า กินเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินมาบอกผมด้วยนะ ว่ารสชาดเป็นยังไง ซึ่งผมเองพอกินแต่ละเมนูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องเดินไปรายงานผลว่า อร่อยมากกก พร้อมชูนิ้วกดไลค์ให้แก
สมกับที่ได้รับรางวัล อาหารอร่อยเลิศรส ในราคาสบายกระเป๋า สัมผัส เอื้อมถึงได้ไม่ยาก แถมเจ้าของร้านน่ารัก ใจดี เอาใจใส่ ดูแลลูกค้า และพูดคุยเป็นมิตรมาก ๆ อีกด้วย
มาสิงคโปร์ อย่าลืม แวะมาชิมกันนะครับ.
[CR] หลักซาสิงคโปร์ ที่ศูนย์อาหารฮองลิม
Famous Sungei Road Trishaw Laksa เป็นร้านขายหลักซา หลักซา ก็คือก๋วยเตี๋ยวแกง ตัวเส้นก็จะเป็นเส้นคล้าย ๆ สปาเก็ตตี้ หรือเส้นขนมจีนบ้านเรา กลม ๆ ลื่น ๆ ราดด้วยแกงกะทิ รสเผ็ดนิดหน่อย
นอกจากนี้ ก็ยังมีน้ำพริก (ที่เรียกว่าซัมบอล น่าจะผสมกะปิ เพราะกลิ่นกะปิ แรงเตะจมูกเลย) กับพริกแห้งคั่ว ให้มาเพิ่มความแซ่บ แต่รสชาดความเผ็ดไม่มาก
พอผสมเครื่องปรุงลับทั้ง 2 อย่างลงในชามหลักซาแล้ว กลิ่นจะหอมขึ้นมาก กลิ่นหอมรวม ๆ จากทั้งกะปิ พริก และเครื่องปรุงอื่น ๆ หอมเตะจมูกขึ้นมาทันที
เมนูแนะนำ Famous Sungei Road Trishaw Laksa
เมนูแนะนำจากมิชลิน มี 3 เมนูด้วยกัน ทั้ง 3 เมนู ตัวท็อป ทั้ง 3 เมนู ราคาอยู่ที่ 8 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 200 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ปี 2017) เมนูทั้ง 3 เมนูแนะนำ ได้แก่
1. Asia Delight Laksa (หลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเล ต้นตำรับดั้งเดิม)
2. Fruit Juice Mee Siam (เส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม)
3. Mee Rebus (เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง)
Asia Delight Laksa (หลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเล ต้นตำรับดั้งเดิม)
เมนูแรก เป็นหลักซากุ้งตัวโตและเครื่องทะเลจัดเต็ม ชุดใหญ่ไฟกระพริบ (Asia Delight Laksa)
อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า หลักซา เป็นก๋วยเตี๋ยวแกง เส้นกลมสีขาว ราดน้ำซุปที่ทำจากน้ำกะทิ มาพร้อมเครื่องทะเลเป็นหลัก ทั้งกุ้งตัวโตสด ๆ เนื้อแน่น ที่ต้มมาได้ที่ จนเนื้อนุ่ม หอมอร่อย เข้ากันดีกับรสแกง ไม่เผ็ดมาก
นอกจากกุ้งตัวโตแล้ว ก็ยังอัดแน่นไปด้วยกุ้งตัวเล็ก ๆ ผ่าซีก หอยทะเลอบแห้ง และลูกชิ้นฮื่อก้วยหั่นเป็นเส้น บวกกับเต้าหู้ทอดหั่นเส้น และถั่วงอกอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุด คือตัวแกง
ตัวแกงของ Famous Sungei Road Trishaw Laksa เป็นแกงกะทิ ที่ไม่ได้ต้มกะทิจนแตกมัน ทำให้ซดได้คล่องคอ จนหมดชาม เกลี้ยงจนหยดสุดท้าย
นอกจากน้ำซุปที่อร่อย หอมกะทิ หวานและมันแล้ว ยังได้ความหอมจากน้ำพริกที่ให้มาเพิ่มความหอมทั้งกะปิ และพริกคั่วป่น กลิ่นหอมรุนแรง และรสชาดอร่อยรุนแรงมาก
เห็นพริกแบบนั้น ตอนแรกนึกว่าจะเผ็ด แต่ไม่เผ็ดเลย เพราะผมกินเผ็ดไม่ค่อยได้ เลเว่วเริ่มต้น ยังซดเกลี้ยงจนหมดขาม เหลือแต่เปลือกกุ้ง
เรียกว่า เป็นเมนูที่มาถึงร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa แล้ว ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
Fruit Juice Mee Siam (เส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม)
เมนูต่อมากันเลย เป็นเส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโตและสดมาก เนื้อแน่น ไม่เละ ต้มมาพอพอดีกิน เลยทำให้เนื้อนุ่ม หอมอร่อยมากมาก
เมนูเส้นหมี่ต้มยำกุ้งตัวโต ใส่เนื้อไก่ และไข่ต้ม เมนูนี้ ใช้เส้นหมี่ขาวบี๋ฮุ่น ราดน้ำซุปต้มยำออกหวาน ๆ คล้าย ๆ ต้มยำกุ้งบ้านเรา แต่ไม่แซ่บ ไม่เผ็ดจัดจ้านเท่าบ้านเรา พูดง่าย ๆ ออกหวานนำ เปรี้ยวตาม เค็มไม่มาก ไม่เผ็ดเลย
ส่วนเครื่องก็ยังคงเป็นกุ้งตัวโต เป็นพระเอกของเมนูนี้ มีเนื้อไก่ กับไข่ต้ม เป็นนางเอกช่วยเสริมรส และถั่วงอก เป็นตัวประกอบ อีกนิดหน่อย
นอกจากนี้ ยังให้มะนาวลูกเล็ก ที่คล้ายผลส้มมากกว่า กลิ่นออกส้ม ๆ รสเปรี้ยวทู่ ๆ ไม่ได้เปรี้ยวแหลม อย่างมะนาวบ้านเรา แถมเม็ดเยอะมากอีกต่างหาก มาให้ปรุงรสให้ออกรสเปรี้ยวตามชอบอีกด้วย
เมนูที่ 2 นี้จะแตกต่างจากเมนูแรก ที่จะให้เครื่องปรุงเป็นพริกป่น กับพริกเผาซัมบอล ที่มีกลิ่นกะปิแรง ๆ แต่สำหรับเมนูนี้ จะให้เครื่องปรุงเป็นน้ำพริกเผา รสไม่ได้เผ็ดมาก แต่มีกลิ่นถั่ว ๆ บดผสมอยู่ในน้ำพริก กลิ่นถั่วบดค่อนข้างแรงเตะจมูก
พอผสมลงในชามต้มยำ เลยทำให้นึกถึงต้มยำสุโขทัยขึ้นมาในใจทันที ที่ออกรสหวานนำ และมีกลิ่นถั่วบดผสมอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก
ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ที่ร้านจะมีเครื่องพริก ที่เป็นเครื่องปรุง อยู่ 3 อย่าง เป็นอาวุธลับ ที่เลือกใช้ให้เข้าและเหมาะกับแต่ละเมนู ที่แตกต่างกันไป โดนเต็ม ๆ
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่มาถึงแล้ว ไม่ควรพลาด
Mee Rebus (เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง)
มาถึงเมนูที่ 3 เมนูสุดท้าย ปิดท้ายกันด้วย เส้นยากิโซบะราดหน้ากุ้งตัวโต เนื้อไก่ และไข่ต้ม น้ำราดทำจากมันฝรั่ง (Mee Rebus) เมนูนี้ แปลกและแตกต่างจาก 2 เมนูแรก
เป็นเส้นยากิโซบะราดหน้า โดยน้ำราดหน้าเหนียว ๆ ทำจากมันฝรั่ง ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กินบะหมี่ คือเป็นเส้นบะหมี่ ที่ใช้เอามาผัดหมี่เจ หรือทำยากิโซบะแบบนั้น แต่อารมณ์คล้าย ๆ ราดน้ำราดข้าวหมูแดง รสสัมผัสจะคล้าย ๆ แบบนั้น ไม่เหมือนกินราดหน้าบ้านเรา แต่ตัวน้ำราด จะมีความพิเศษตรงที่มีส่วนผสมของมันฝรั่ง
ตัวเครื่องก็ยังคงเป็นกุ้งตัวโต สดและเนื้อแน่น แต่ปรุงมาพอดีกิน ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ให้รสหอม หวาน อร่อย เข้ากับตัวเส้นหมี่เหลือง
แล้วก็ยังมีเนื้อไก่ ที่ขึ้นเนื้อจากเนื้อน่องที่ต้มมาอร่อย เนื้อนุ่มกำลังดี มีไข่ต้ม และมะนาวลูกเล็กที่คล้ายผลส้มลูกเล็ก ที่มีเม็ดเยอะมากเหมือนเมนูที่แล้ว
เมนูนี้ กิน ๆ ไป ก็แอบมีเลี่ยนอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นความชาญฉลาดของคนที่คิดเมนู ที่หั่นพริกแดง เม็ดโตมาให้กินคู่กัน แก้เลี่ยน รสเผ็ดนิดหน่อย ไม่มาก ผมเข้าใจว่า น่าจะดองในน้ำส้มมาแล้วนะ กินตัดรสเลี่ยนได้ดีและรสชาดเข้ากันมาก ๆ
แล้วก็ยังมีผักชี ที่หั่นมาให้เคี้ยวกินตามเข้าไป กลิ่นและรสหอม และเข้ากันไม่ขัดเขินเลย
เมนูสุดท้ายนี้ ก็ยังคงกินกับเครื่องพริกเผาที่กินกับต้มยำกุ้ง เมนูก่อนหน้า พอใส่พริกเผาที่ว่าลงไป ก็ทำให้ตัวราดหน้า มีกลิ่นถั่ว ๆ ขึ้นมาทันที
เรียกว่าผสมผสานกันลงตัวมาก ๆ ถ้าแวะมาแถวนี้ ก็ถือเป็นอีกเมนูที่แนะนำเหมือนกัน
การเดินทางมา Famous Sungei Road Trishaw Laksa
Famous Sungei Road Trishaw Laksa ตั้งอยู่ในตลาดและศูนย์อาหารฮองลิม (Hong Lim Market & Food Centre) เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ 11 โมงครึ่งถึงบ่าย 4 ครึ่ง แนะนำว่า ควรมาแต่เช้า เพราะร้านเปิด คนรอคิวยาวมาก ยิ่งเป็นช่วงเที่ยงวัน มีพนักงานตามบริษัทมาเข้าคิว รอกินยาวมากมาก
วิธีการก็มา MRT รถไฟฟ้า ขึ้นที่สถานี Chinatown ทางออก E เดินตามป้าย Hong Lim Complex ทางออก E
ขึ้นบันไดเลื่อนจนสุดบันไดเลื่อน เดินตามป้าย Hong Lim Complex Exit E ต่อไป จนเห็นทางเข้า MRT Downtown Line ให้เลี้ยวขวามือ เข้า MRT Donwtown Line
จากนั้นเลี้ยวซ้าย มองหาป้าย Chinatown Point ให้ขึ้นบันไดเลื่อนจนเข้าไปใน Shopping Centre ให้ขึ้นบันไดเลื่อนแรกไป คนจะเยอะมาก
สุดบันไดเลื่อน ให้เดินตรงไป จะมีบันไดเลื่อนแบบสายพานยาว ๆ อีกตัว เดินตามบันไดเลื่อนแบบสายพานตัวที่ 2 นี้ไปจนสุดสายพาน หันหลังกลับ มองหาทางออก
ออกจากทางออก ก็จะเจอตัวตึกที่เป็นตลาดและศูนย์อาหารฮองลิมแล้ว ตามหาความอร่อยได้ไม่ยาก
เจ้าของร้านอัธยาศัยดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง แนะนำอาหาร แล้วยังคุยอีกด้วยนะว่า ที่เมืองไทย แกดังเป็นพลุแตก ดังมากอีกด้วย (คือผมเข้าใจเองว่า รายการจากเมืองไทย คงมาถ่ายแกเยอะอยู่)
แถมยังเอาใจใส่ถามตลอดว่า กินเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินมาบอกผมด้วยนะ ว่ารสชาดเป็นยังไง ซึ่งผมเองพอกินแต่ละเมนูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องเดินไปรายงานผลว่า อร่อยมากกก พร้อมชูนิ้วกดไลค์ให้แก
สมกับที่ได้รับรางวัล อาหารอร่อยเลิศรส ในราคาสบายกระเป๋า สัมผัส เอื้อมถึงได้ไม่ยาก แถมเจ้าของร้านน่ารัก ใจดี เอาใจใส่ ดูแลลูกค้า และพูดคุยเป็นมิตรมาก ๆ อีกด้วย
มาสิงคโปร์ อย่าลืม แวะมาชิมกันนะครับ.