เรากับแฟนคบกันมานาน 8 ปี มีแผนจะแต่งงานกันปีหน้านี้ สาเหตุมาจากการเร่งรัดของผู้ใหญ่ฝ่ายแฟน พอมาถึงจุดนึงจู่ๆใจเราก็เกิดความกังวลอยู่หลายอย่างที่ทำให้ไม่อยากแต่งเพราะกลัวความไม่พร้อมทางการเงินของฝ่ายชาย จึงอยากขอคำปรึกษาเพื่อนๆที่มีประสบการณ์เเละไม่มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะให้เราหน่อยนะคะ
สถานการณ์ปัจจุบัน
1.การเงินของแฟน - ปัจจุบันแฟนเรามีภาระต้องผ่อนรถ ผ่อนประกันรถ และผ่อนบัตรเครดิต จึงทำให้ไม่เคยมีเงินเก็บเลย (ปัจจุบันเราทั้งคู่อายุ 30 ปีเเล้วค่ะ) ส่วนเราเองพอจะมีเงินเก็บก้อนนึง เพราะเราไม่มีภาระหนี้อะไรเเละเงินเดือนเรามากกว่าแฟนประมาณ 1 หมื่นค่ะ การใช้ชีวิตของเราเราคบกันเเบบเเฟร์ๆค่ะ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทุกอย่างหารครึ่ง หากเราอยากกินอะไรดีๆเรามักจะเป็นฝ่ายออกเกินๆให้หรือช่วยเค้าในค่าใช้จ่ายที่คิดว่าเเพง เเต่แฟนเราด้วยความที่มีภาระการเงิน จึงไม่สามารถพาเราไปเลี้ยงเมื่อถึงเวลาโอกาสพิเศษเราก็มีน้อยใจบ้างเพราะเเฟนเราไม่ค่อยมี
2.การเงินที่บ้านเเฟน - บ้านเเฟนมีปัญหาทางการเงินมีหนี้ก้อนใหญ่จากการผ่อนบ้าน และหนี้นอกระบบมูลค่า 7 หลัก ซึ่งที่บ้านเเฟนตอนนี้ฝั่งเเม่เกษียณเเล้ว เเต่พ่อกำลังจะเกษียณเช่นกัน จึงทำให้เงินที่ได้ภายหลังเกษียณอาจจะไม่มีเก็บเพราะต้องเอาไปโปะหนี้ทั้งหมดที่มี ส่วนน้องของเเฟน รวมถึงเเฟนก็ไม่มีกำลังช่วยแบ่งเบาหนี้นี้ได้เช่นกัน
3.การงานแฟน - แฟนเราประกอบอาชีพที่ดีเป็นอาชีพเฉพาะทาง สามารถมีทางเลือกที่ทำรายได้สูงได้ เเต่เเฟนเราเป็นคนมีอุดมการณ์เลือกทำงานที่บริษัทเล็กเเต่ได้ทักษะการทำงานรายได้จึงไม่สูงและมีความมั่นคงเหมือนทำบริษัทใหญ่ ซึ่งตรงนี้เราก็ทำใจไว้เเล้ว
4.พฤติกรรมการใช้จ่าย - เเฟนเราเป็นคนมีระเบียบวินัยสูงในเรื่องการบันทึกค่าใช้จ่าย ไม่มีประวัติการค้างชำระหนี้
5.ไลฟ์สไตล์ - เราสองคนเป็นคนชอบเที่ยวต่างประเทศมาก ทุกปีเราจะมีทริป 1 ทริป ซึ่งเเฟนเราจะนำเงินที่มาจากโบนัสเป็นค่าเที่ยวเพราะเงินเก็บไม่มี ในขณะที่เราใช้การออมจากเงินเดือน เราก็เลยไม่เดือดร้อนอะไร
6.ทรัพย์สินร่วมกัน - ตอนนี้สิ่งที่เป็นทรัพย์สินของเราสองคนคือคอนโดที่กู้ร่วมกันค่ะ ถ้าขายจะมีกำไร 1 ล้าน
สิ่งที่ต้องการปรึกษา คือ
1. ควรเเต่งงานกันมั้ยคะ?
- จากสถานการณ์ที่เล่ามานะคะ เป็นสาเหตุหลักๆให้เราเกิดมีความไม่มั่นคงทางจิตใจว่าหากเเต่งงานกันไปเเล้วเรากลัวมากว่าเราต้องเเบกรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวแฟน เเละอาจทำให้เราพัวพันกับหนี้สินที่ทางบ้านเเฟนมีอยู่ ซึ่งยอมรับตรงๆว่าเราใจไม่กว้างพอที่จะไปเเบ่งเบาภาระของบ้านเเฟนได้ ตามความคิดของเราเราอาจจะเห็นเเก่ตัวเพราะเราคิดว่าแค่แฟนไม่ได้เป็นฝ่ายเลี้ยงดูเราแล้ว แต่ถ้าให้เราต้องมาร่วมลำบากแก้ไขปัญาที่เราไม่ได้ทำไว้เราคงรับไม่ได้เเน่ๆ เราอยากเอาเงินนั้นไปเลี้ยงดูพ่อเเม่ของเรามากกว่า ซึ่งตอนนี้พ่อเเม่เราเราเองก็เกษียณเเล้วค่ะ แต่พ่อเเม่เรามีการวางเเผนการเงินที่ดีจึงทำให้เราไม่ต้องรับภาระหนักมาก เรื่องนี้เราไม่เคยบอกให้พ่อเเม่เรารู้เลย
- บ้านฝ่ายชายกำลังจะมาสู่ขอค่ะ เเต่เรารับรู้เเต่เเรกเเล้วว่าเค้าไม่มีสินสอดมาให้ มีแต่ไปยืมเงินญาติมาจัดให้ไม่ต้องรบกวนบ้านเราเลยสักบาท ซึ่งตรงนี้พ่อเเม่เราไม่รู้เพราะเราไม่กล้าเล่า ที่บ้านเราเองถ้ามารู้วันสู่ขอกลัวเค้าจะช็อคมากๆค่ะ เพราะมุมผู้ใหญ่เค้าต้องคิดว่าไม่ให้เกียรติ เเต่ตัวเราเองเราพยายามโน้มน้าวพ่อเเม่ของเราให้เค้ายอมรับว่าที่บ้านเเฟนก็ตั้งใจจะจัดงานให้เกียรติบ้านเราไม่ให้อับอายใคร เเละก่อนหน้านี้พ่อเเม่เเฟนท่านก็กรุณาดาวน์คอนโดให้เราทั้งคู่ไปเเล้ว 2 เเสน เเละเค้าก็ต้อนรับเราดีมากมาตลอดค่ะ
- แฟนเราบอกกับเราว่าตัวเค้าก็ไม่ซีเรียสยังไม่ได้อยากเเต่งตอนนี้ ถ้าพ่อเเม่เรามีการพูดเรื่องสินสอด ก็คงต้องเลื่อนการเเต่งออกไปก่อน เพราะพ่อเเม่เเฟนเราไม่มีเงินเลยมีแต่หนี้ และเเฟนเราก็คิดว่าการแต่งงานกันเรื่องสินสอดเป็นเรื่องประเพณีที่น่าจะอลุ่มอล่วยให้เพราะเงินนั้นควรเอาไปเริ่มชีวิตใหม่ ไม่ควรต้องเอาเงินที่หามาอย่างลำบากมาให้บ้านเราไปเลยแบบไม่คืน เเฟนเราคิดว่าถ้าอย่างนั้นการเก็บเงินเพื่อสินสอดจึงควรจะไว้เป็นอย่างหลังเพราะเค้าจำเป็นต้องสร้างรากฐานก่อน ซึ่งเราประเมินว่าจากหนี้ผ่อนรถเเละหน้าที่การงานของเเฟนเรา กว่าเราจะพร้อมน่าจะเป็นอีก 5 ปีข้างหน้าเเน่นอน
2.หากเราเกิดกรณีที่ฝ่ายพ่อเเม่เเฟนเสียชีวิตไป แฟนเราซึ่งเป็นทายาทต้องร่วมรับผิดชอบหนี้สินนั้นด้วยหรือเปล่าคะ?
และทั้งหมดคือความไม่สบายใจที่อยากรบกวนขอคำเเนะนำหน่อยนะคะ ว่าเราควรจะตัดสินใจอย่างไรดีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เมื่อโปรโมชั่นการแต่งงานที่มาพร้อมหนี้ จะทำยังไง(ทุกข์ใจมากค่ะ)
สถานการณ์ปัจจุบัน
1.การเงินของแฟน - ปัจจุบันแฟนเรามีภาระต้องผ่อนรถ ผ่อนประกันรถ และผ่อนบัตรเครดิต จึงทำให้ไม่เคยมีเงินเก็บเลย (ปัจจุบันเราทั้งคู่อายุ 30 ปีเเล้วค่ะ) ส่วนเราเองพอจะมีเงินเก็บก้อนนึง เพราะเราไม่มีภาระหนี้อะไรเเละเงินเดือนเรามากกว่าแฟนประมาณ 1 หมื่นค่ะ การใช้ชีวิตของเราเราคบกันเเบบเเฟร์ๆค่ะ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทุกอย่างหารครึ่ง หากเราอยากกินอะไรดีๆเรามักจะเป็นฝ่ายออกเกินๆให้หรือช่วยเค้าในค่าใช้จ่ายที่คิดว่าเเพง เเต่แฟนเราด้วยความที่มีภาระการเงิน จึงไม่สามารถพาเราไปเลี้ยงเมื่อถึงเวลาโอกาสพิเศษเราก็มีน้อยใจบ้างเพราะเเฟนเราไม่ค่อยมี
2.การเงินที่บ้านเเฟน - บ้านเเฟนมีปัญหาทางการเงินมีหนี้ก้อนใหญ่จากการผ่อนบ้าน และหนี้นอกระบบมูลค่า 7 หลัก ซึ่งที่บ้านเเฟนตอนนี้ฝั่งเเม่เกษียณเเล้ว เเต่พ่อกำลังจะเกษียณเช่นกัน จึงทำให้เงินที่ได้ภายหลังเกษียณอาจจะไม่มีเก็บเพราะต้องเอาไปโปะหนี้ทั้งหมดที่มี ส่วนน้องของเเฟน รวมถึงเเฟนก็ไม่มีกำลังช่วยแบ่งเบาหนี้นี้ได้เช่นกัน
3.การงานแฟน - แฟนเราประกอบอาชีพที่ดีเป็นอาชีพเฉพาะทาง สามารถมีทางเลือกที่ทำรายได้สูงได้ เเต่เเฟนเราเป็นคนมีอุดมการณ์เลือกทำงานที่บริษัทเล็กเเต่ได้ทักษะการทำงานรายได้จึงไม่สูงและมีความมั่นคงเหมือนทำบริษัทใหญ่ ซึ่งตรงนี้เราก็ทำใจไว้เเล้ว
4.พฤติกรรมการใช้จ่าย - เเฟนเราเป็นคนมีระเบียบวินัยสูงในเรื่องการบันทึกค่าใช้จ่าย ไม่มีประวัติการค้างชำระหนี้
5.ไลฟ์สไตล์ - เราสองคนเป็นคนชอบเที่ยวต่างประเทศมาก ทุกปีเราจะมีทริป 1 ทริป ซึ่งเเฟนเราจะนำเงินที่มาจากโบนัสเป็นค่าเที่ยวเพราะเงินเก็บไม่มี ในขณะที่เราใช้การออมจากเงินเดือน เราก็เลยไม่เดือดร้อนอะไร
6.ทรัพย์สินร่วมกัน - ตอนนี้สิ่งที่เป็นทรัพย์สินของเราสองคนคือคอนโดที่กู้ร่วมกันค่ะ ถ้าขายจะมีกำไร 1 ล้าน
สิ่งที่ต้องการปรึกษา คือ
1. ควรเเต่งงานกันมั้ยคะ?
- จากสถานการณ์ที่เล่ามานะคะ เป็นสาเหตุหลักๆให้เราเกิดมีความไม่มั่นคงทางจิตใจว่าหากเเต่งงานกันไปเเล้วเรากลัวมากว่าเราต้องเเบกรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวแฟน เเละอาจทำให้เราพัวพันกับหนี้สินที่ทางบ้านเเฟนมีอยู่ ซึ่งยอมรับตรงๆว่าเราใจไม่กว้างพอที่จะไปเเบ่งเบาภาระของบ้านเเฟนได้ ตามความคิดของเราเราอาจจะเห็นเเก่ตัวเพราะเราคิดว่าแค่แฟนไม่ได้เป็นฝ่ายเลี้ยงดูเราแล้ว แต่ถ้าให้เราต้องมาร่วมลำบากแก้ไขปัญาที่เราไม่ได้ทำไว้เราคงรับไม่ได้เเน่ๆ เราอยากเอาเงินนั้นไปเลี้ยงดูพ่อเเม่ของเรามากกว่า ซึ่งตอนนี้พ่อเเม่เราเราเองก็เกษียณเเล้วค่ะ แต่พ่อเเม่เรามีการวางเเผนการเงินที่ดีจึงทำให้เราไม่ต้องรับภาระหนักมาก เรื่องนี้เราไม่เคยบอกให้พ่อเเม่เรารู้เลย
- บ้านฝ่ายชายกำลังจะมาสู่ขอค่ะ เเต่เรารับรู้เเต่เเรกเเล้วว่าเค้าไม่มีสินสอดมาให้ มีแต่ไปยืมเงินญาติมาจัดให้ไม่ต้องรบกวนบ้านเราเลยสักบาท ซึ่งตรงนี้พ่อเเม่เราไม่รู้เพราะเราไม่กล้าเล่า ที่บ้านเราเองถ้ามารู้วันสู่ขอกลัวเค้าจะช็อคมากๆค่ะ เพราะมุมผู้ใหญ่เค้าต้องคิดว่าไม่ให้เกียรติ เเต่ตัวเราเองเราพยายามโน้มน้าวพ่อเเม่ของเราให้เค้ายอมรับว่าที่บ้านเเฟนก็ตั้งใจจะจัดงานให้เกียรติบ้านเราไม่ให้อับอายใคร เเละก่อนหน้านี้พ่อเเม่เเฟนท่านก็กรุณาดาวน์คอนโดให้เราทั้งคู่ไปเเล้ว 2 เเสน เเละเค้าก็ต้อนรับเราดีมากมาตลอดค่ะ
- แฟนเราบอกกับเราว่าตัวเค้าก็ไม่ซีเรียสยังไม่ได้อยากเเต่งตอนนี้ ถ้าพ่อเเม่เรามีการพูดเรื่องสินสอด ก็คงต้องเลื่อนการเเต่งออกไปก่อน เพราะพ่อเเม่เเฟนเราไม่มีเงินเลยมีแต่หนี้ และเเฟนเราก็คิดว่าการแต่งงานกันเรื่องสินสอดเป็นเรื่องประเพณีที่น่าจะอลุ่มอล่วยให้เพราะเงินนั้นควรเอาไปเริ่มชีวิตใหม่ ไม่ควรต้องเอาเงินที่หามาอย่างลำบากมาให้บ้านเราไปเลยแบบไม่คืน เเฟนเราคิดว่าถ้าอย่างนั้นการเก็บเงินเพื่อสินสอดจึงควรจะไว้เป็นอย่างหลังเพราะเค้าจำเป็นต้องสร้างรากฐานก่อน ซึ่งเราประเมินว่าจากหนี้ผ่อนรถเเละหน้าที่การงานของเเฟนเรา กว่าเราจะพร้อมน่าจะเป็นอีก 5 ปีข้างหน้าเเน่นอน
2.หากเราเกิดกรณีที่ฝ่ายพ่อเเม่เเฟนเสียชีวิตไป แฟนเราซึ่งเป็นทายาทต้องร่วมรับผิดชอบหนี้สินนั้นด้วยหรือเปล่าคะ?
และทั้งหมดคือความไม่สบายใจที่อยากรบกวนขอคำเเนะนำหน่อยนะคะ ว่าเราควรจะตัดสินใจอย่างไรดีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ