ตามหัวข้อเลยค่ะ เราขอเกริ่นนะคะ เรากับเเฟนคบกันปีนี้เข้าปีที 6 เเล้วค่าช่วงที่คบกันช่วงเเรก ตอนเราเรียนอยู่ ปวช.ค่ะ พอเราเรียนจบเราก็ไปเรียนต่อ ปวส. เเต่เเฟนเราไม่เรียนเเล้ว ขอเรียนจบเเค่ ปวช. พอ เราก็ไม่อะไร ช่วงเเรกนางทำงานเสริม เป็เหมือนคนดูเเลสถานที่ (การ์ด) อยู่พวกสถานบันเทิง เเละตลาด นางมีเงินนะช่วงนั้น พาไปกินนั่นกินนี่ นางก็ทำงานประจำด้วยคือเป็นช่างซ่อม (ซ่อมเเค่มอเตอร์ไซต์) คบกันได้ประมาณ 3 ปี พ่อเเม่เราก็บอกให้เเม่ฝั่งชายมาคุยเรื่องตบเเต่ง เเต่ทางเเฟนขอมั่นไว้ก่อน เราก็ไม่ได้อะไร เเต่กว่าจะมาหมั้นได้คือรอนานมาก โทรมาคุยกับพ่อเเม่เราก็ไม่โทร พ่อเเม่เราโมโหมาก ไม่ให้เกียรติกันเลย มาเกือบเข้าเข้าปีที่ 4 เลย พอมาททางครอบครัวเเฟนก็เอาสร้อยคอทองคำ 1 บาทมาหมั้น มีเเค่นั้นนะ เเล้วบอกจะเเต่ง เเต่พอเข้าปีที่ 4 พ่อเเม่ฝั่งชายบอกยังไม่พร้อม เเต่ไม่โทรมาคุยกับพ่อเเม่เราสักอย่าง เรื่องการเเต่งงานเพราะหมั้นอย่างน้อยต้องไม่เกินปี พ่อเเม่เราโกรธมาก เเต่เขาก็ยังไม่อยากพูดอะไรเยอะ เเค่บอกว่าทำไมดูครอบครัวเเฟนไม่คิดจะคุยอะไรเลย
หลังจากที่หมั้นได้ครึ่งปี เเฟนเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนงานบ่อย ทำงานได้เดือนสองเดือนก็ออก พอถามก็บอกว่าไม่ชอบคนร่วมงาน ไม่ชอบนั่นนี่ (สังคมการทำงานมันเป็นเเบบนั้นอยู่เเล้วปะ) เราเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่พูด ได้เเต่บอกว่าทนทำไปเถอะ งานมันก็เป็นเเบบนี้อยู่เเล้ว จนเราเรียนจบปริญญาตรี เขาเริ่มเเย่ กินนอน ไม่ทำงาน จนเราเหนื่อย ไปไหนมาไหนกินอะไรก็บอกให้เราออกไปก่อน เเต่ไม่จ่ายคืนให้ วันนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกนางไป เเละบอกกับเเม่นางว่าเราไม่ทนเเล้ว ขืนอยู่ด้วยกันไป เราต้องทำมาหาเลี้ยงเเน่นอน เเละทองที่หมั้นก็เอาไปขาย เเบ่งเงินกันคนละครึ่ง (เป็นข้อตกลงทั้งสองฝ่ายว่าถ้าเลิกกันจะต้องขายทองเอาเงินมาเเบ่งกัน) เราเลิกกันไปได้ 1 เดือน เขาก็มาตามง้อ เเละบอเขาซื้อรถเเล้วนะจะพาไปขายของ อย่างที่เราเคยฝันไว้ พาไปเที่ยว เเละก็ทำดีกับเราทุกอย่าง หางานทำ เออ เราก็ให้โอกาส เพราะเห็นว่าทำทุกอย่างได้เเล้ว เเต่พอกลับมาคบกันได้ 2 เดือนเขาก็กลับไปเป็นเเบบเดิม ไม่ทำอะไรสักอย่างเลยเริ่มออกจากงานที่ทำได้เเค่เดือนนิดๆ มีเงิน เงินก็หมด กินเเต่น้ำกระท่อมทุกวัน วันละ 1-2 ขวด (ขวดละ 180 บาท) เราเครียดมาก เพราะนางกินเเล้วขี้เกียจมากกว่าเดิม เราทะเลาะกับเเฟนบ่อยมากเรื่องน้ำกระท่อม จนเมื่อเราติดโควิด เราต้องไปนอนโรงเเรมที่ทางโรงพยาบาลหาให้ นางก็ยังมีพฤติกรรมเดิมคือสั่งซื้อน้ำกระท่อมทุกวัน เราสองคนกับเเฟนทะเลาะเรื่องนี้กันบ่อยมาก จนกระทั่งเราหายจากโควิด ก็กลับมาบ้าน นางมาหาที่บ้าน เเล้วนางลงไปเข้าห้องน้ำ เเล้วเอาโทรศัพท์ลงไปด้วย ในขณะนั้น เพื่อนเราที่เคยเรียนมาด้วย ก็ทักมาหาว่า เเฟนเธอทักมาหาเราในเเอปหาคู่นะ เราเลยขอดูข้อความ ประมาณทักไปจีบ เเละตอนนั้นนางกำลังเดินขึ้นมาเราเลยเอาโทรศัพท์นางโหลดเเอปที่เพื่อนบอกมา เข้าไปดูนางคุยกับผู้หญิงเเล้วลบเเชท เเละมีผู้หญิงตอบกลับมาว่า "ขอโทษนะที่ตอบช้า พอดีขายของอยู่" เราทะเลาะกันหนักมากถึงขั้นห่ากันไป นางก็ทักไปต่อว่าเพื่อนเราว่าไปบอกเราทำไม นางอ้างเหตุผลว่าที่ทักไปหาผู้หญิงเพราะอยากปรึกษาเรื่องเรา ที่เราทะเลาะกับนางบ่อยๆ (เหตุผลโครตเเย่)
เมื่อเป็นเเบบนี้นางก็หางานทำใหม่อยู่เรื่อยๆ เเต่ที่ทำนานสุดก็คือ 5-6 เดือน เเละวันนั้น วันที่เราเรียนจบ เราก็อยากมีรถเป็นของตัวเองเลยไปหาซื้อรถมือสองมา เเละก็ได้รถมา ด้วยความที่เรารักเเฟน ว่าเออ กลับมาครั้งนี้จะดีขึ้น นางบอกอยากได้รถเรา เเละให้เราไปออกรถใหม่มือ 1 ซึ่งเราก็โอเค พ่อเเม่ของนางไม่ว่าใช่ไหม นางบอก พ่อเเม่ไม่ว่าอะไร ละก็พากันไปออกรถ ซึ่งเราบอกว่าเงินดาวน์เราจะออกให้ก่อน เเล้วนางต้องผ่อนคืนเรา เเลกกับที่เราออกรถของเรามา นางบอกได้ไม่มีปัญหา เราลงเงินดาวน์ไป 10,000 บาท หลังจากวันนั้นเซลล์ก็เเจ้งว่าผ่านไฟเเนนซ์เเล้ว รอรับรถ เเละเย็นวันนั้น เเม่นางโทรมาต่อว่าเรา ทำไมไม่ไปออกรถไม่บอก ไม่ให้ไม่เอา ทำไมลูกเค้าได้รถมือสอง เราได้รถมือ 1 เราเลยบอกเเม่นางไปว่าก็เเม่คุยกับลูกเเม่เเล้วไม่ใช่หรอ เขาบอกไม่ ให้มาเอารถคืนไป เราเลยบอกว่าเราลงเงินไปเเล้ว 10,000 บาทเเล้ว ถ้ายกเลิกต้องโดนยึดเงินนะ เขาบอกไม่รู้ให้ไปเคลียร์เอาเอง (เราอึ้ง เงินเราหายไป 10,000) เเฟนบอกว่าจะใช้คืนให้ เราออกรถตอนมีนาคม 2565 เงินเเค่ 10,000 ณ ตอนนี้ มกราคา 2566 ยังใช้ไม่หมด เข้าออกงานไม่มีเงินสักที หลังจากที่คุยกับเเม่นางเรื่องรถ อาทิตย์ต่อมา เเม่นางพาไปออกรถกระบะมือ 2 ผ่อนเบ็ดเสร็จ 1 ล้านกว่า เราเเบบ เห้ย เเล้วเงินที่เราดาวน์ไปเเล้วโดนยึดอะไม่คิดรับผิดชอบเลยหรอ เเต่ตัวเองไปออกรถให้ลูกตัวเองใหม่ เเละหลังจากนั้นความรู้สึกเรากับเเม่นางครอบครัวนางเปลี่ยนไปเลย เราไม่เเฮปปี้ เราเสียความรู้สึก เเละรถที่เราออกมา นางก็เอาไปชน เเล้วไม่ซ่อมให้ บอกเเม่นางว่าซ่อมให้ด้วย เเม่นางบอกยังไม่มีเงิน เเต่รถกระบะของนาง เอาไปทำสีเปลี่ยนยางหมดไป 4-5 หมื่น เเต่สีรถเราไม่ทำให้ เราโครตรู้สึกเเย่เลย เเละหนี้ที่เาเอามาดาวน์รถ เราต้องใช้เองจนถึงตอนนี้
เเละล่าสุดเราเอาเสื้อผ้ามาขายที่ตลาดนัด เราบอกว่าเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันเรื่องที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป เเละเราก็ออกไปตลาดไปซื้อตั๋ว ตั้งร้าน ซึ่งเราบอกให้เเฟนเราไปช่วย โทรไปไม่รับสาย นอนตื่นสายมาก ตื่นบ่ายสองบ่ายสาม กว่านางจะตื่นเราจัดร้านเสร็จเเล้ว วันเเรกเรายังโอเค ปรับตัวยังไม่ได้ วันที่สอง เราก็โทรหานางหลายสายมาก เเบบว่าจะออกมาช่วยเราขายของไหม ยางบอกเดี๋ยวรีบออกไป เเต่ด้วยความที่เราต้องไปจองล็อคขายของ เราก็ต้องเอาของไปว่าตามล็อคขายของ ได้ที่เเล้วก็ตั้งราวเเขวนเสื้อผ้า จัดร้าน เราคนเดียว ยกราว ยกกระจก ยกกระสอบ ยกกล่องเสื้อผ้า รวมหุ่น เยอะเเยะมากมาย (โครตเหนื่อย) โทรไปนางบอกเดี๋ยวออกมา เเต่กว่านางจะออกมา เราจัดร้านเสร็จเเล้ว เพราะตลาดที่เราไปขายของ คนเดินตั้งเเต่หัววัน หลังจากนั้นนางทักมาในข้อความว่าขอเงินหน่อยจะเติมน้ำมัน ซึ่งเราเพิ่งตั้งร้านเสร็จ (จะว่าเราเห็นเเก่ตัวก็ได้ เเต่เราไม่ให้) เพราะนางไม่ได้ช่วยเราเลย นางบอกก็จะไปหาที่ร้านก็เอาเงินมาจะเติมน้ำมันขับรถไปหา เราคือเเบบ เห้ย คนรักกันต้องช่วยกันสิวะ นางบอกเเม่นางถามว่า มาช่วยเราขายของเราไม่มีค่าน้ำมันให้หรอ คือนางมา นางไม่ทำอะไรเลย เดินไปนั่นไปนี่ ไปสูบบุหรี่ เล่นโทรศัพท์ เราควรให้ไหม วันนั้นเราก็ทะเลาะกันหนักมาก จนเราตัดใจเเล้ว เพราะเราปรึกษาพี่สาว เขาบอกให้เลิกให้ตัดใจ งานการไม่ทำ ยังมาเเบมือขอเงิน คนรักกันจะเอาเเต่เงิน บอกเราพึ่งพาไม่ได้ เราเป็นผู้หญิงนะ เขาไม่เคยคิดช่วยเราเลยสักอย่าง พอคุยเรื่องอนาคตก็บอกเดี๋ยวมันก็มีเอง เรา งง เลย เเละอีกอย่างพ่อเเม่เราบอกให้เลิกกับนาง เเละหาเเฟนใหม่ เพราะพ่อเเม่บอกว่า ขืนเเต่งงานอยู่กินกัน เราจะต้องเลี้ยงดูเเน่นอน
เราควรทำตามพ่อเเม่ไหมคะ ที่เขาพูดเเบบนั้นเพราะพ่อเเม่หวังดีกับเรา เเต่ตอนนี้ครอบครัวฝั่งเเฟนเริ่มไม่โอเคกับเรา ขืนอยู่กันไปเราจะเเย่
พี่ๆเพื่อนๆมองว่าควรเลิกไหมคะ
เเฟนทำงานบ้างออกบ้าง นอนตื่นสาย ไม่คิดจะทำอะไรเลย
หลังจากที่หมั้นได้ครึ่งปี เเฟนเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนงานบ่อย ทำงานได้เดือนสองเดือนก็ออก พอถามก็บอกว่าไม่ชอบคนร่วมงาน ไม่ชอบนั่นนี่ (สังคมการทำงานมันเป็นเเบบนั้นอยู่เเล้วปะ) เราเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่พูด ได้เเต่บอกว่าทนทำไปเถอะ งานมันก็เป็นเเบบนี้อยู่เเล้ว จนเราเรียนจบปริญญาตรี เขาเริ่มเเย่ กินนอน ไม่ทำงาน จนเราเหนื่อย ไปไหนมาไหนกินอะไรก็บอกให้เราออกไปก่อน เเต่ไม่จ่ายคืนให้ วันนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกนางไป เเละบอกกับเเม่นางว่าเราไม่ทนเเล้ว ขืนอยู่ด้วยกันไป เราต้องทำมาหาเลี้ยงเเน่นอน เเละทองที่หมั้นก็เอาไปขาย เเบ่งเงินกันคนละครึ่ง (เป็นข้อตกลงทั้งสองฝ่ายว่าถ้าเลิกกันจะต้องขายทองเอาเงินมาเเบ่งกัน) เราเลิกกันไปได้ 1 เดือน เขาก็มาตามง้อ เเละบอเขาซื้อรถเเล้วนะจะพาไปขายของ อย่างที่เราเคยฝันไว้ พาไปเที่ยว เเละก็ทำดีกับเราทุกอย่าง หางานทำ เออ เราก็ให้โอกาส เพราะเห็นว่าทำทุกอย่างได้เเล้ว เเต่พอกลับมาคบกันได้ 2 เดือนเขาก็กลับไปเป็นเเบบเดิม ไม่ทำอะไรสักอย่างเลยเริ่มออกจากงานที่ทำได้เเค่เดือนนิดๆ มีเงิน เงินก็หมด กินเเต่น้ำกระท่อมทุกวัน วันละ 1-2 ขวด (ขวดละ 180 บาท) เราเครียดมาก เพราะนางกินเเล้วขี้เกียจมากกว่าเดิม เราทะเลาะกับเเฟนบ่อยมากเรื่องน้ำกระท่อม จนเมื่อเราติดโควิด เราต้องไปนอนโรงเเรมที่ทางโรงพยาบาลหาให้ นางก็ยังมีพฤติกรรมเดิมคือสั่งซื้อน้ำกระท่อมทุกวัน เราสองคนกับเเฟนทะเลาะเรื่องนี้กันบ่อยมาก จนกระทั่งเราหายจากโควิด ก็กลับมาบ้าน นางมาหาที่บ้าน เเล้วนางลงไปเข้าห้องน้ำ เเล้วเอาโทรศัพท์ลงไปด้วย ในขณะนั้น เพื่อนเราที่เคยเรียนมาด้วย ก็ทักมาหาว่า เเฟนเธอทักมาหาเราในเเอปหาคู่นะ เราเลยขอดูข้อความ ประมาณทักไปจีบ เเละตอนนั้นนางกำลังเดินขึ้นมาเราเลยเอาโทรศัพท์นางโหลดเเอปที่เพื่อนบอกมา เข้าไปดูนางคุยกับผู้หญิงเเล้วลบเเชท เเละมีผู้หญิงตอบกลับมาว่า "ขอโทษนะที่ตอบช้า พอดีขายของอยู่" เราทะเลาะกันหนักมากถึงขั้นห่ากันไป นางก็ทักไปต่อว่าเพื่อนเราว่าไปบอกเราทำไม นางอ้างเหตุผลว่าที่ทักไปหาผู้หญิงเพราะอยากปรึกษาเรื่องเรา ที่เราทะเลาะกับนางบ่อยๆ (เหตุผลโครตเเย่)
เมื่อเป็นเเบบนี้นางก็หางานทำใหม่อยู่เรื่อยๆ เเต่ที่ทำนานสุดก็คือ 5-6 เดือน เเละวันนั้น วันที่เราเรียนจบ เราก็อยากมีรถเป็นของตัวเองเลยไปหาซื้อรถมือสองมา เเละก็ได้รถมา ด้วยความที่เรารักเเฟน ว่าเออ กลับมาครั้งนี้จะดีขึ้น นางบอกอยากได้รถเรา เเละให้เราไปออกรถใหม่มือ 1 ซึ่งเราก็โอเค พ่อเเม่ของนางไม่ว่าใช่ไหม นางบอก พ่อเเม่ไม่ว่าอะไร ละก็พากันไปออกรถ ซึ่งเราบอกว่าเงินดาวน์เราจะออกให้ก่อน เเล้วนางต้องผ่อนคืนเรา เเลกกับที่เราออกรถของเรามา นางบอกได้ไม่มีปัญหา เราลงเงินดาวน์ไป 10,000 บาท หลังจากวันนั้นเซลล์ก็เเจ้งว่าผ่านไฟเเนนซ์เเล้ว รอรับรถ เเละเย็นวันนั้น เเม่นางโทรมาต่อว่าเรา ทำไมไม่ไปออกรถไม่บอก ไม่ให้ไม่เอา ทำไมลูกเค้าได้รถมือสอง เราได้รถมือ 1 เราเลยบอกเเม่นางไปว่าก็เเม่คุยกับลูกเเม่เเล้วไม่ใช่หรอ เขาบอกไม่ ให้มาเอารถคืนไป เราเลยบอกว่าเราลงเงินไปเเล้ว 10,000 บาทเเล้ว ถ้ายกเลิกต้องโดนยึดเงินนะ เขาบอกไม่รู้ให้ไปเคลียร์เอาเอง (เราอึ้ง เงินเราหายไป 10,000) เเฟนบอกว่าจะใช้คืนให้ เราออกรถตอนมีนาคม 2565 เงินเเค่ 10,000 ณ ตอนนี้ มกราคา 2566 ยังใช้ไม่หมด เข้าออกงานไม่มีเงินสักที หลังจากที่คุยกับเเม่นางเรื่องรถ อาทิตย์ต่อมา เเม่นางพาไปออกรถกระบะมือ 2 ผ่อนเบ็ดเสร็จ 1 ล้านกว่า เราเเบบ เห้ย เเล้วเงินที่เราดาวน์ไปเเล้วโดนยึดอะไม่คิดรับผิดชอบเลยหรอ เเต่ตัวเองไปออกรถให้ลูกตัวเองใหม่ เเละหลังจากนั้นความรู้สึกเรากับเเม่นางครอบครัวนางเปลี่ยนไปเลย เราไม่เเฮปปี้ เราเสียความรู้สึก เเละรถที่เราออกมา นางก็เอาไปชน เเล้วไม่ซ่อมให้ บอกเเม่นางว่าซ่อมให้ด้วย เเม่นางบอกยังไม่มีเงิน เเต่รถกระบะของนาง เอาไปทำสีเปลี่ยนยางหมดไป 4-5 หมื่น เเต่สีรถเราไม่ทำให้ เราโครตรู้สึกเเย่เลย เเละหนี้ที่เาเอามาดาวน์รถ เราต้องใช้เองจนถึงตอนนี้
เเละล่าสุดเราเอาเสื้อผ้ามาขายที่ตลาดนัด เราบอกว่าเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันเรื่องที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป เเละเราก็ออกไปตลาดไปซื้อตั๋ว ตั้งร้าน ซึ่งเราบอกให้เเฟนเราไปช่วย โทรไปไม่รับสาย นอนตื่นสายมาก ตื่นบ่ายสองบ่ายสาม กว่านางจะตื่นเราจัดร้านเสร็จเเล้ว วันเเรกเรายังโอเค ปรับตัวยังไม่ได้ วันที่สอง เราก็โทรหานางหลายสายมาก เเบบว่าจะออกมาช่วยเราขายของไหม ยางบอกเดี๋ยวรีบออกไป เเต่ด้วยความที่เราต้องไปจองล็อคขายของ เราก็ต้องเอาของไปว่าตามล็อคขายของ ได้ที่เเล้วก็ตั้งราวเเขวนเสื้อผ้า จัดร้าน เราคนเดียว ยกราว ยกกระจก ยกกระสอบ ยกกล่องเสื้อผ้า รวมหุ่น เยอะเเยะมากมาย (โครตเหนื่อย) โทรไปนางบอกเดี๋ยวออกมา เเต่กว่านางจะออกมา เราจัดร้านเสร็จเเล้ว เพราะตลาดที่เราไปขายของ คนเดินตั้งเเต่หัววัน หลังจากนั้นนางทักมาในข้อความว่าขอเงินหน่อยจะเติมน้ำมัน ซึ่งเราเพิ่งตั้งร้านเสร็จ (จะว่าเราเห็นเเก่ตัวก็ได้ เเต่เราไม่ให้) เพราะนางไม่ได้ช่วยเราเลย นางบอกก็จะไปหาที่ร้านก็เอาเงินมาจะเติมน้ำมันขับรถไปหา เราคือเเบบ เห้ย คนรักกันต้องช่วยกันสิวะ นางบอกเเม่นางถามว่า มาช่วยเราขายของเราไม่มีค่าน้ำมันให้หรอ คือนางมา นางไม่ทำอะไรเลย เดินไปนั่นไปนี่ ไปสูบบุหรี่ เล่นโทรศัพท์ เราควรให้ไหม วันนั้นเราก็ทะเลาะกันหนักมาก จนเราตัดใจเเล้ว เพราะเราปรึกษาพี่สาว เขาบอกให้เลิกให้ตัดใจ งานการไม่ทำ ยังมาเเบมือขอเงิน คนรักกันจะเอาเเต่เงิน บอกเราพึ่งพาไม่ได้ เราเป็นผู้หญิงนะ เขาไม่เคยคิดช่วยเราเลยสักอย่าง พอคุยเรื่องอนาคตก็บอกเดี๋ยวมันก็มีเอง เรา งง เลย เเละอีกอย่างพ่อเเม่เราบอกให้เลิกกับนาง เเละหาเเฟนใหม่ เพราะพ่อเเม่บอกว่า ขืนเเต่งงานอยู่กินกัน เราจะต้องเลี้ยงดูเเน่นอน
เราควรทำตามพ่อเเม่ไหมคะ ที่เขาพูดเเบบนั้นเพราะพ่อเเม่หวังดีกับเรา เเต่ตอนนี้ครอบครัวฝั่งเเฟนเริ่มไม่โอเคกับเรา ขืนอยู่กันไปเราจะเเย่
พี่ๆเพื่อนๆมองว่าควรเลิกไหมคะ