JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ กาตาร์เอฟเฟกต์ลามกระทบส่งออกไทยแล้ว

กระทู้คำถาม
ชาติอาหรับตัดสัมพันธ์กาตาร์ลามถึงไทย ทูตพาณิชย์รายงานกระทบขนส่งสินค้าทางถนนผ่านแดนจากดูไบไปกาตาร์ไม่สามารถทำได้ 3 สินค้าไทยรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็นโดนเต็มๆ  ขณะบินตรงกรุงเทพฯ-โดฮายังไม่มีปัญหา ส่งสินค้าทางเรือต้องส่งตรงท่าเรือโดฮาแทนผ่านดูไบ จับตาเหตุการณ์ทุบศก.กาตาร์อ่วม 3 ด้าน ทำรายได้วูบ

จากกรณีความขัดแย้งของประเทศในตะวันออกกลางที่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิยิปต์ และบาห์เรน ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกาตาร์ รวมทั้งปิดพรมแดนทั้งทางบก ทางอากาศ และทางเรือเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 โดยกล่าวหาว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงและอิหร่านซึ่งกาตาร์ได้ปฏิเสธข้อหากล่าวดังกล่าว ความขัดแย้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปีของกลุ่มประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC)

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองดูไบถึงผลกระทบต่อการค้าของไทยเบื้องต้นคือ การขนส่งสินค้าทางถนนผ่านทางดูไบไปกาตาร์จะไม่สามารถดำเนินการได้ แต่การส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศไทยไปยังกาตาร์ยังทำได้โดยใช้สายการบิน Qatar Airways ซึ่งบินตรงระหว่างกรุงเทพฯและกรุงโดฮา หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การส่งออกของไทยมายังกาตาร์จะต้องส่งตรงเข้า Doha Port แทนการส่งผ่านดูไบ ในเบื้องต้นสินค้าไทยที่ส่งออกไปกาตาร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ได้แก่ อัญมณี และผักผลไม้สด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้การขนส่งทางอากาศเป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนรถยนต์ เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น อาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเพราะปัจจุบันใช้การขนส่งผ่านแดนจากดูไบ

สำหรับตัวเลขการค้าผ่านแดน (Transshipment) ระหว่างดูไบไปยังกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ(GCC)เป็นตัวเลขที่ไม่เปิดเผยทำให้เป็นการยากที่จะระบุมูลค่าที่แน่นอนของการส่งออกของไทยผ่านดูไบไปกาตาร์ซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับ 3 ของไทยใน GCCรองจากซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  แต่สำหรับการค้าระหว่างไทยกับกาตาร์นั้น ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งสินค้าตรงไปยังกาตาร์มีมูลค่า 102.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 21.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออก 5 อันดับแรกประกอบด้วย อัญมณีและเครื่องประกับ (มูลค่าส่งออก 4 เดือนแรก 27.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ), รถยนต์ (24.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ), เครื่องปรับอากาศ (16.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ), อาหารทะเลกระป๋อง (3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และตู้เย็น (3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงผลกระทบในภาพรวมเศรษฐกิจการค้าจากกรณีดังกล่าวว่า ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในระยะสั้นอาจจะมีไม่มากนัก แม้ว่าจะเพิ่มความกังวลในประเด็นความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) อยู่บ้าง แต่เนื่องจากกาตาร์มีสัดส่วนการผลิตน้ำมันประมาณเพียง 6.4 แสนบาร์เรล ต่อวัน หรือ 1.9% ของการผลิตน้ำมันรวมของ OPEC และตามข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันนั้น กาตาร์จะต้องปรับลดกำลังการผลิตประมาณ 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหากกาตาร์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็จะทำให้ปริมาณผลผลิตน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ถือว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสมดุลตลาดน้ำมันโลกอย่างรุนแรง ทั้งนี้ สนค. คาดว่ากาตาร์จะยังคงให้ความร่วมมือในการรักษาระดับการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงเดิม ซึ่งเทียบจากกรณีอิหร่านที่ยังคงให้ความร่วมมือกับ OPEC ในการปรับลดกำลังการผลิต แม้ว่าจะมีข้อขัดแย้งอย่างรุนแรงกับซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตาม สนค. ได้ติดตามภาวะตลาดน้ำมันดิบในตลาดโลก    อย่างใกล้ชิด พบว่า ปริมาณผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้ลดลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ช่วง 50-60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบในวันที่ 5 มิ.ย. 2560 อยู่ที่ 48.59 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยโดยตรง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่