หน้าร้อนปีนี้ ร้อนจนลืมกินข้าวแช่ชาววัง ปีที่แล้วกินข้าวแช่ทั้งหมด 3 ร้าน
"เที่ยวไปกินไป by laser @ บ้านวรรณโกวิท"
https://ppantip.com/topic/34967582
"เที่ยวไปกินไป by laser @ หลายรส สุขุมวิท 49"
https://ppantip.com/topic/35056856
"เที่ยวไปกินไป by laser @ คิดถึงปอ คิดถึงสงวนศรี"
https://ppantip.com/topic/35097594
ปีนี้กินแค่ข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ ท่ายาง เพชรบุรี ที่มาออกร้านตามงานในกรุงเทพฯ
ตั้งใจลองร้านที่ลงโฆษณาในเฟซบุ้คให้เห็นทุกวัน คือ ห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
ดูที่อยู่แล้ว เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับสถานีสุรศักดิ์
วันศุกร์ที่ 19--5-17 ถึงสถานีสุรศักดิ์ออกทางด้านทางออกที่ 3 เพราะร้านอยู่ในซอยศรีเวียง
ซึ่งเป็นซอยแยกในซอยประมวญ หรือ ซอยโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ซอยประมวญยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารไทยอีก 2 ร้าน ซึ่งขายข้าวแช่ด้วย คือ ท่านหญิงและกัลปพฤกษ์
จองโต๊ะไว้หนึ่งทุ่ม มีฝนตกพรำ ๆ
จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสประมาณ 50 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประมวญ
ประมาณ 50 เมตร ถึงสามแยกหน้าทางเข้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีเวียง ซึ่งผ่านถนนสุรศักดิ์ตรงไปออกบางรัก
ซ้ายมือประมาณ 50 เมตร คือ ห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
ร้านเปิดทุกวัน ๆ ละสองรอบ เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.30-22.30 น.
ไม่มีโอกาสเก็บภาพภายนอกมากนัก เพราะฝนตกพรำ ๆ ตลอดเวลา
ตัวร้านเป็นบ้านสองชั้นดัดแปลงเป็นร้านอาหาร รายล้อมด้วยอาคารสูง
หลังประตูทางเข้า มีบันไดขึ้นชั้นสอง ที่เหมาะสำหรับการมาเป็นกลุ่มใหญ่
จองที่นั่งริมกระจก ร้านเปิดไฟสลัว เย็นวันศุกร์ แต่ชั้นล่างมีลูกค้าแค่สี่โต๊ะ
ส่วนชั้นบนมีเสียงเฮอามาเป็นระยะ เพราะมีนัดเลี้ยงเป็นกลุ่มใหญ่
เริ่มด้วยของว่างต้อนรับ คือ เมี่ยงคำ
เครื่องดื่มที่ถูกที่สุดในร้าน นอกเหนือจากน้ำเปล่า คือ น้ำสมุนไพร 50++ แต่วันนี้ไม่ทำ
เครื่องดื่มของตัวเองเป็นน้ำองุ่นสด บรรจุขวดเทใส่แก้วที่โต๊ะ 140++
ของแฟนเป็นน้ำมะนาว 130++ เครื่องดื่มน้ำผลไม้จะแยกน้ำเชื่อมมาให้ในโถเล็ก
เริ่มด้วยข้าวแช่ชุดหมู 290++ ถ้าเป็นชุดเนื้อ 320++ มีให้กินถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม
จัดชุดดูสวยงาม วางมาในพานทองเหลือง น้ำข้าวแช่ใส่มาในโอ่งดินปิดฝา
มาสองคนมีข้าวให้สองถ้วย มีส้อมเล็กให้หนึ่งคันต้องขอเพิ่ม
เครื่องข้าวแช่จัดวางแยกมาในพานกระเบื้องสีขาวใบเล็ก
เครื่องข้าวแช่ประกอบด้วย ลูกกะปิชุบแป้งทอด
เปลือกแข็งแรงใช้ส้อมจิ้มไม่ติด ต้องช้อนเอา
ลูกกะปิรสอ่อน อ่อนหอมกลิ่นกระชาย
ไช้โป๊วผัดหวาน กรุบกรอบหวานกำลังดี ไม่ใช่แบบเคลือบเกล็ดน้ำตาล
มองดูเหมือนแผ่นมะขามกวน แต่เป็นเนื้อปลายี่สกผัดหวาน
บางร้านใช้เนื้อปลายี่สนซึ่งเป็นปลากระเบนชนิดหนึ่ง บางร้านใช้เนื้อปลาช่อน
หมูฝอยหวาน
พริกหยวกยัดไส้ห่อหรุ่ม
วางเคียงคู่กับหอมแดงยัดไส้ชุปแป้งทอดสองลูก หอมแดงเป็นแบบไม่มีก้าน
ทั้งสองอย่างสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้งและเนื้อหมูสับรวมกันปรุงรสนุ่มนวล
เครื่องแนมข้าวแช่ ประกอบด้วยผักและผลไม้แกะสลักอย่างสวยงาม
เช่น กระชาย มะม่วง แตงกวา ต้นหอม พริกชี้ฟ้า โดยเฉพาะแตงกวา
ที่แกะสลักเป็นใบไม้ และแกะเป็นกลีบใบประกอบกับมะเขือเทศเป็นดอกกุหลาบ
ส่วนมะม่วงเหลืองใช้มะม่วงกึ่งสุกกึ่งดิบ ที่ยังมีความกรอบอมเปรี้ยว แกะสลักเป็นรูปใบไม้สีเหลือง
ข้าวสวยใส่น้ำแข็งบดมาด้วย
โดยรวมเป็นชุดข้าวแช่ที่สวยงาม และจัดมาอย่างพิถีพิถันน่ากินชุดหนึ่ง
น้ำข้าวแช่บรรจุอยู่ในหม้อดิน วางบนพานกระเบื้องสีขาว
กระบวยกะลามะพร้าวแบบโบราณ ด้ามไม้แกะเป็นรูปกิ่งไม้ติดใบ
ในหม้อดินมีน้ำใส่น้ำแข็ง มีดอกมะลิลอยหน้าสี่ดอก
ตัวข้าวขัดและหุงได้ดี มีความนุ่มเล็กน้อย แกนในไม่แข็งเป็นไต
น้ำข้าวแช่อ่อนความหอมของดอกมะลิ ไม่มีกลิ่นควันเทียนเหมือนบางสูตร
ความหอมของน้ำข้าวแช่ที่ลดลง อาจเพราะน้ำแข็งในข้าวที่ละลาย
อาหารว่างชุดบุษราคัมชาววัง 190 ++
ภาพในรายการอาหารจัดเป็นถาด 5 แถว ๆ ละ 4 ชิ้น
แต่พนักงานแจ้งก่อนว่าต่อหนึ่งคนได้แค่อย่างละชิ้น
เฉลี่ยชิ้นละ 38++
พนักแนะนำให้เริ่มกินจากช่อม่วงด้านซ้ายมือก่อน
เพราะรสชาติจะเบาสุด และค่อย ๆ เข้มขึ้นจนถึงชิ้นขวาสุด
ประกอบไปด้วย ช่อม่วง ตัวแป้งผสมน้ำอัญชันเป็นสีม่วงด้วยน้ำมะนาว
ปั้นแป้งใส่ไส้ไก่สับผสมถั่ว จับจีบด้วยแหนบเป็นกลีบดอกไม้
ต้องอาศัยฝีมือ ความปราณีต ความใจเย็น และเวลาในการทำทีละชิ้น
กระทงทองห่อเนื้อกุ้งและเนื้อหมูผัดปรุงรส
โรยหน้าด้วยเม็ดข้าวโพดต้ม แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงซอย
ถุงเงินยวง ไส้เนื้อกุ้งและเนื้อปูปรุงรสสับรวมกัน ห่อด้วยฟองเต้าหู้แล้วทอด
ใส่อยู่ในกระทงที่เย็บด้วยด้ายเขียว ถุงเงินยวงจุ่มอยู่ในกระทง ที่ใส่น้ำจิ้มรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย
ไส้ตีจนกึ่งกุ้งเด้ง
หรุ่ม ไส้เนื้อหมู เนื้อกุ้งและเนื้อปูสับปรุงรสผัดรวมกัน
จากนั้นห่อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ด้วยตาข่ายสีเหลืองสด ทำจากไข่เป็ดโรยสลับไปมาบนกระทะ
คำสุดสุดท้าย คือ กุ้งซ่อนกลิ่น มองดูคล้ายเมี่ยงลาวสด
ไส้ดูคล้ายเนื้อปู แต่เป็นเนื้อกุ้งสดสับ ทำให้ดูสุกด้วยน้ำมะนาว ใส่ขิงซอยและหอมแดง
ห่อเป็นลูกกลมด้วยใบผักคอส ยึดให้เป็นลูกด้วยไม้จิ้มฟันร้อยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นขวาง
วางบนแผ่นแตงกวาหั่นขวาง รสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อยคล้ายพล่ากุ้ง
รายการที่ 3 ยำถั่วพู 250++
ถั่วพูผัดกับเนื้อไก่และวางกุ้งสดสองตัวด้านบน ก่อนราดด้วยหัวกะทิ
รสเค็มนำตามด้วยเปรี้ยวน้ำมะขามเปียกทำให้ท้องเดิน เผ็ดด้วยน้ำพริกเผา
ไข่ต้มยางมะตูม ตัดแบ่งมาไม่สวย
รายการที่ 4 ร้านไหนมีชอบลอง ขนมเบื้องญวนแบบกรอบ
หรือ ที่ทางร้านตั้งชื่อว่า "ขนมเบื้องไกรลาศ" ราคา 180++
แผ่นแป้งเหลืองผสมขมิ้น พับห่อไส้ที่ดูอัดแน่น
วางบนแป้งกรอบด้วยถั่วงอกผัด ตามด้วยไช้โป๊วผัดกับเต้าหู้เหลือง
และไส้มะพร้าวผัดกุ้งสดที่หั่นเป็นชิ้น แดงด้วยมันกุ้ง
โรยถั่วลิสงบดและใบมะกรูดซอย แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าซอย
ทั้งหมดวางอยู่บนแผ่นใบตอง ที่ตัดแต่งเป็นรูปใบไม้ขอบหยัก
ราดอาจาดลงบนไส้ โดยรวมรสเข้มข้น
เปลือกกรอบเพราะผสมน้ำโซดา แต่ไม่ค่อยหอม
รายการสุดท้าย น้ำพริกกุ้งสด 280++ ข้าวสวยหนึ่งจาน 20++
เสิร์ฟมาบนถาดกระทงจับจีบซ้อนเรียงนอน ผักแนมวางบนแผ่นใบตองตัดกลม
ตรงกลางเป็นผอบฟักทอง ฝาผอบแกะสลักเป็นดอกรักเร่
รู้สึกกังวลว่าน้ำพริกจะใส่มาในผอบแล้วล้างเวียนใช้
แต่หายกังวลเมื่อเปิดฝาแล้วพบว่า น้ำพริกใส่อยู่ในถ้วยกระเบื้องอีกที
ดูเหมือนขี้เหนียว ที่วางด้านบนด้วยตัวกุ้งสดตัวเดียวแถมฝานแบ่งครึ่ง
แต่ในน้ำพริกมีเนื้อกุ้งหั่นชิ้นผสมอยู่ น้ำพริกหอมกลิ่นควันไฟ
จากการนำเครื่องน้ำพริกทั้งหมดไปเสียบไม้ย่างก่อนโขลกรวมกัน
รสหวานนำตามด้วยรสเปรี้ยว มีความเผ็ดน้อยมาก
กินกับข้าวสวย ผักแนมที่มีทั้งผักลวกสุกกำลังดี โดยเฉพาะมะระขี้นกที่ไม่ขมจัด
กินกับผักสด เช่น กระชายกรีดเป็นดอกจำปี พริกชี้ฟ้าแดงกรีดเป็นดอกไม้ และขมิ้นขาวแกะเป็นใบไม้
หลายคนอาจชอบกินกับไข่ต้มยางมะตูม แต่โดยส่วนตัวแล้ว ชอบกินกับไข่เค็มมากกว่า
ก่อนเก็บเงินพนักงานนำลูกอม ไม้จิ้มฟันและนามบัตรของร้านมาวางที่โต๊ะ
มื้อนี้สองคนอิ่มจนไม่ต่อด้วยกล้วยหอมทอด ++ แล้ว 1,742 บาท
ตอนโทรฯ มาจองโต๊ะสอบถามแล้ว
ทางร้านมีส่วนลด 10% ร่วมกับบัตรเครดิตทุกชนิดของธนาคารกรุงเทพ
โดยลดเฉพาะค่าอาหาร ยกเว้นชุดข้าวแช่ หักส่วนลดแล้ว คงเหลือ 1,644 บาท
อาหารออกไม่ช้าไม่ขาดตอน เสิร์ฟทีละจานเหมือนกินเป็นคอร์ส
จานแรกกินหมดค่อยเสิร์ฟจานถัดไป ไม่ยกออกมาวางกองเต็มโต๊ะพร้อมกัน
ราคานี้เมื่อเทียบกับค่าการลงทุนในเรื่องของสถานที่ ในย่านที่ดินแพงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
จัดว่าไม่แพง แต่คงนาน ๆ ครั้ง หรือ พาเพื่อนชาวต่างประเทศมาลองอาหารไทย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ "เที่ยวไปกินไป by laser"
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ ห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
"เที่ยวไปกินไป by laser @ บ้านวรรณโกวิท" https://ppantip.com/topic/34967582
"เที่ยวไปกินไป by laser @ หลายรส สุขุมวิท 49" https://ppantip.com/topic/35056856
"เที่ยวไปกินไป by laser @ คิดถึงปอ คิดถึงสงวนศรี" https://ppantip.com/topic/35097594
ปีนี้กินแค่ข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ ท่ายาง เพชรบุรี ที่มาออกร้านตามงานในกรุงเทพฯ
ตั้งใจลองร้านที่ลงโฆษณาในเฟซบุ้คให้เห็นทุกวัน คือ ห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
ดูที่อยู่แล้ว เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับสถานีสุรศักดิ์
วันศุกร์ที่ 19--5-17 ถึงสถานีสุรศักดิ์ออกทางด้านทางออกที่ 3 เพราะร้านอยู่ในซอยศรีเวียง
ซึ่งเป็นซอยแยกในซอยประมวญ หรือ ซอยโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ซอยประมวญยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารไทยอีก 2 ร้าน ซึ่งขายข้าวแช่ด้วย คือ ท่านหญิงและกัลปพฤกษ์
จองโต๊ะไว้หนึ่งทุ่ม มีฝนตกพรำ ๆ
จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสประมาณ 50 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประมวญ
ประมาณ 50 เมตร ถึงสามแยกหน้าทางเข้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีเวียง ซึ่งผ่านถนนสุรศักดิ์ตรงไปออกบางรัก
ซ้ายมือประมาณ 50 เมตร คือ ห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
ร้านเปิดทุกวัน ๆ ละสองรอบ เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.30-22.30 น.
ไม่มีโอกาสเก็บภาพภายนอกมากนัก เพราะฝนตกพรำ ๆ ตลอดเวลา
ตัวร้านเป็นบ้านสองชั้นดัดแปลงเป็นร้านอาหาร รายล้อมด้วยอาคารสูง
หลังประตูทางเข้า มีบันไดขึ้นชั้นสอง ที่เหมาะสำหรับการมาเป็นกลุ่มใหญ่
จองที่นั่งริมกระจก ร้านเปิดไฟสลัว เย็นวันศุกร์ แต่ชั้นล่างมีลูกค้าแค่สี่โต๊ะ
ส่วนชั้นบนมีเสียงเฮอามาเป็นระยะ เพราะมีนัดเลี้ยงเป็นกลุ่มใหญ่
เริ่มด้วยของว่างต้อนรับ คือ เมี่ยงคำ
เครื่องดื่มที่ถูกที่สุดในร้าน นอกเหนือจากน้ำเปล่า คือ น้ำสมุนไพร 50++ แต่วันนี้ไม่ทำ
เครื่องดื่มของตัวเองเป็นน้ำองุ่นสด บรรจุขวดเทใส่แก้วที่โต๊ะ 140++
ของแฟนเป็นน้ำมะนาว 130++ เครื่องดื่มน้ำผลไม้จะแยกน้ำเชื่อมมาให้ในโถเล็ก
เริ่มด้วยข้าวแช่ชุดหมู 290++ ถ้าเป็นชุดเนื้อ 320++ มีให้กินถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม
จัดชุดดูสวยงาม วางมาในพานทองเหลือง น้ำข้าวแช่ใส่มาในโอ่งดินปิดฝา
มาสองคนมีข้าวให้สองถ้วย มีส้อมเล็กให้หนึ่งคันต้องขอเพิ่ม
เครื่องข้าวแช่จัดวางแยกมาในพานกระเบื้องสีขาวใบเล็ก
เครื่องข้าวแช่ประกอบด้วย ลูกกะปิชุบแป้งทอด
เปลือกแข็งแรงใช้ส้อมจิ้มไม่ติด ต้องช้อนเอา
ลูกกะปิรสอ่อน อ่อนหอมกลิ่นกระชาย
ไช้โป๊วผัดหวาน กรุบกรอบหวานกำลังดี ไม่ใช่แบบเคลือบเกล็ดน้ำตาล
มองดูเหมือนแผ่นมะขามกวน แต่เป็นเนื้อปลายี่สกผัดหวาน
บางร้านใช้เนื้อปลายี่สนซึ่งเป็นปลากระเบนชนิดหนึ่ง บางร้านใช้เนื้อปลาช่อน
หมูฝอยหวาน
พริกหยวกยัดไส้ห่อหรุ่ม
วางเคียงคู่กับหอมแดงยัดไส้ชุปแป้งทอดสองลูก หอมแดงเป็นแบบไม่มีก้าน
ทั้งสองอย่างสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้งและเนื้อหมูสับรวมกันปรุงรสนุ่มนวล
เครื่องแนมข้าวแช่ ประกอบด้วยผักและผลไม้แกะสลักอย่างสวยงาม
เช่น กระชาย มะม่วง แตงกวา ต้นหอม พริกชี้ฟ้า โดยเฉพาะแตงกวา
ที่แกะสลักเป็นใบไม้ และแกะเป็นกลีบใบประกอบกับมะเขือเทศเป็นดอกกุหลาบ
ส่วนมะม่วงเหลืองใช้มะม่วงกึ่งสุกกึ่งดิบ ที่ยังมีความกรอบอมเปรี้ยว แกะสลักเป็นรูปใบไม้สีเหลือง
ข้าวสวยใส่น้ำแข็งบดมาด้วย
โดยรวมเป็นชุดข้าวแช่ที่สวยงาม และจัดมาอย่างพิถีพิถันน่ากินชุดหนึ่ง
น้ำข้าวแช่บรรจุอยู่ในหม้อดิน วางบนพานกระเบื้องสีขาว
กระบวยกะลามะพร้าวแบบโบราณ ด้ามไม้แกะเป็นรูปกิ่งไม้ติดใบ
ในหม้อดินมีน้ำใส่น้ำแข็ง มีดอกมะลิลอยหน้าสี่ดอก
ตัวข้าวขัดและหุงได้ดี มีความนุ่มเล็กน้อย แกนในไม่แข็งเป็นไต
น้ำข้าวแช่อ่อนความหอมของดอกมะลิ ไม่มีกลิ่นควันเทียนเหมือนบางสูตร
ความหอมของน้ำข้าวแช่ที่ลดลง อาจเพราะน้ำแข็งในข้าวที่ละลาย
อาหารว่างชุดบุษราคัมชาววัง 190 ++
ภาพในรายการอาหารจัดเป็นถาด 5 แถว ๆ ละ 4 ชิ้น
แต่พนักงานแจ้งก่อนว่าต่อหนึ่งคนได้แค่อย่างละชิ้น
เฉลี่ยชิ้นละ 38++
พนักแนะนำให้เริ่มกินจากช่อม่วงด้านซ้ายมือก่อน
เพราะรสชาติจะเบาสุด และค่อย ๆ เข้มขึ้นจนถึงชิ้นขวาสุด
ประกอบไปด้วย ช่อม่วง ตัวแป้งผสมน้ำอัญชันเป็นสีม่วงด้วยน้ำมะนาว
ปั้นแป้งใส่ไส้ไก่สับผสมถั่ว จับจีบด้วยแหนบเป็นกลีบดอกไม้
ต้องอาศัยฝีมือ ความปราณีต ความใจเย็น และเวลาในการทำทีละชิ้น
กระทงทองห่อเนื้อกุ้งและเนื้อหมูผัดปรุงรส
โรยหน้าด้วยเม็ดข้าวโพดต้ม แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงซอย
ถุงเงินยวง ไส้เนื้อกุ้งและเนื้อปูปรุงรสสับรวมกัน ห่อด้วยฟองเต้าหู้แล้วทอด
ใส่อยู่ในกระทงที่เย็บด้วยด้ายเขียว ถุงเงินยวงจุ่มอยู่ในกระทง ที่ใส่น้ำจิ้มรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย
ไส้ตีจนกึ่งกุ้งเด้ง
หรุ่ม ไส้เนื้อหมู เนื้อกุ้งและเนื้อปูสับปรุงรสผัดรวมกัน
จากนั้นห่อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ด้วยตาข่ายสีเหลืองสด ทำจากไข่เป็ดโรยสลับไปมาบนกระทะ
คำสุดสุดท้าย คือ กุ้งซ่อนกลิ่น มองดูคล้ายเมี่ยงลาวสด
ไส้ดูคล้ายเนื้อปู แต่เป็นเนื้อกุ้งสดสับ ทำให้ดูสุกด้วยน้ำมะนาว ใส่ขิงซอยและหอมแดง
ห่อเป็นลูกกลมด้วยใบผักคอส ยึดให้เป็นลูกด้วยไม้จิ้มฟันร้อยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นขวาง
วางบนแผ่นแตงกวาหั่นขวาง รสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อยคล้ายพล่ากุ้ง
รายการที่ 3 ยำถั่วพู 250++
ถั่วพูผัดกับเนื้อไก่และวางกุ้งสดสองตัวด้านบน ก่อนราดด้วยหัวกะทิ
รสเค็มนำตามด้วยเปรี้ยวน้ำมะขามเปียกทำให้ท้องเดิน เผ็ดด้วยน้ำพริกเผา
ไข่ต้มยางมะตูม ตัดแบ่งมาไม่สวย
รายการที่ 4 ร้านไหนมีชอบลอง ขนมเบื้องญวนแบบกรอบ
หรือ ที่ทางร้านตั้งชื่อว่า "ขนมเบื้องไกรลาศ" ราคา 180++
แผ่นแป้งเหลืองผสมขมิ้น พับห่อไส้ที่ดูอัดแน่น
วางบนแป้งกรอบด้วยถั่วงอกผัด ตามด้วยไช้โป๊วผัดกับเต้าหู้เหลือง
และไส้มะพร้าวผัดกุ้งสดที่หั่นเป็นชิ้น แดงด้วยมันกุ้ง
โรยถั่วลิสงบดและใบมะกรูดซอย แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าซอย
ทั้งหมดวางอยู่บนแผ่นใบตอง ที่ตัดแต่งเป็นรูปใบไม้ขอบหยัก
ราดอาจาดลงบนไส้ โดยรวมรสเข้มข้น
เปลือกกรอบเพราะผสมน้ำโซดา แต่ไม่ค่อยหอม
รายการสุดท้าย น้ำพริกกุ้งสด 280++ ข้าวสวยหนึ่งจาน 20++
เสิร์ฟมาบนถาดกระทงจับจีบซ้อนเรียงนอน ผักแนมวางบนแผ่นใบตองตัดกลม
ตรงกลางเป็นผอบฟักทอง ฝาผอบแกะสลักเป็นดอกรักเร่
รู้สึกกังวลว่าน้ำพริกจะใส่มาในผอบแล้วล้างเวียนใช้
แต่หายกังวลเมื่อเปิดฝาแล้วพบว่า น้ำพริกใส่อยู่ในถ้วยกระเบื้องอีกที
ดูเหมือนขี้เหนียว ที่วางด้านบนด้วยตัวกุ้งสดตัวเดียวแถมฝานแบ่งครึ่ง
แต่ในน้ำพริกมีเนื้อกุ้งหั่นชิ้นผสมอยู่ น้ำพริกหอมกลิ่นควันไฟ
จากการนำเครื่องน้ำพริกทั้งหมดไปเสียบไม้ย่างก่อนโขลกรวมกัน
รสหวานนำตามด้วยรสเปรี้ยว มีความเผ็ดน้อยมาก
กินกับข้าวสวย ผักแนมที่มีทั้งผักลวกสุกกำลังดี โดยเฉพาะมะระขี้นกที่ไม่ขมจัด
กินกับผักสด เช่น กระชายกรีดเป็นดอกจำปี พริกชี้ฟ้าแดงกรีดเป็นดอกไม้ และขมิ้นขาวแกะเป็นใบไม้
หลายคนอาจชอบกินกับไข่ต้มยางมะตูม แต่โดยส่วนตัวแล้ว ชอบกินกับไข่เค็มมากกว่า
ก่อนเก็บเงินพนักงานนำลูกอม ไม้จิ้มฟันและนามบัตรของร้านมาวางที่โต๊ะ
มื้อนี้สองคนอิ่มจนไม่ต่อด้วยกล้วยหอมทอด ++ แล้ว 1,742 บาท
ตอนโทรฯ มาจองโต๊ะสอบถามแล้ว
ทางร้านมีส่วนลด 10% ร่วมกับบัตรเครดิตทุกชนิดของธนาคารกรุงเทพ
โดยลดเฉพาะค่าอาหาร ยกเว้นชุดข้าวแช่ หักส่วนลดแล้ว คงเหลือ 1,644 บาท
อาหารออกไม่ช้าไม่ขาดตอน เสิร์ฟทีละจานเหมือนกินเป็นคอร์ส
จานแรกกินหมดค่อยเสิร์ฟจานถัดไป ไม่ยกออกมาวางกองเต็มโต๊ะพร้อมกัน
ราคานี้เมื่อเทียบกับค่าการลงทุนในเรื่องของสถานที่ ในย่านที่ดินแพงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
จัดว่าไม่แพง แต่คงนาน ๆ ครั้ง หรือ พาเพื่อนชาวต่างประเทศมาลองอาหารไทย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ "เที่ยวไปกินไป by laser"
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น